ดาเนียกำลังรอคอย เธอคิดว่าตัวเองมองเห็นความลังเลในสายตาของเจเซน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองเห็นความรักที่มากล้นของเขาเช่นกัน ในเมื่อเธอชักนำเขาถึงเพียงนี้ ก็มีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่จะตัดสินใจเช่นไร
ท่ามกลางห้องนอนแสนหรูหราขององค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของจักรวรรดิ ความเงียบทำให้เจเซนเริ่มอึดอัดและเขารู้ดีว่าตัวเองไม่ควรจะก้าวข้ามเส้นนี้ไป..
ทว่าในขณะที่เจเซนกำลังจะผละออกจากร่างกายของดาเนีย ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกพร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนให้ขนหัวลุกขององค์รัชทายาท
ไคแลนจ้องมองใบหน้าของดยุคเอเมอร์ก่อนที่เขาจะเลิกคิ้วขึ้นมาราวกับว่าต้องการหาคำตอบของเรื่องราวชวนเข้าใจผิดเบื้องหน้านี้
“ยังไม่นอนอีกอย่างนั้นหรือดาเนีย..”
ไคแลนเดินเข้าไปหาดาเนีย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจเซนลุกขึ้นจากเตียง เขาก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพองค์รัชทายาท
“ดยุคเอเมอร์เองก็อยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นหรือ ข้ารู้ดีว่าน้องสาวของข้านั้นสนิทกับเจ้า แต่ทว่ากับเรื่องบางเรื่องอย่าล้ำเส้นเลยจะดีกว่า”
“เสด็จพี่..”
ไคแลนยกมือขึ้นมาห้ามดาเนียที่กำลังจะอธิบายเรื่องต่างๆ
“พี่ยังพูดไม่จบดาเนีย และพี่คิดว่าพี่มิได้ขอความเห็นของเจ้าในเรื่องนี้ด้วย”
เขาเดินเข้าไปหาดาเนียก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากขาวเนียน ไคแลนลูบผมของเธอเบาๆ อย่างทะนุถนอม เขายังคงส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้เธอเหมือนเช่นเดิม ถึงแม้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาจากทุ้มต่ำด้วยความโกรธเคืองก็ตาม
“ราตรีสวัสดิ์องค์หญิงของพี่ นอนเถอะนะ พรุ่งนี้จะต้องเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปยังงานล่าสัตว์..”
ดาเนียเม้มปากแน่น เธอมองหน้าเจเซนด้วยความเป็นห่วง แต่ดาเนียก็เลือกที่จะเชื่อฟังคำกล่าวของเสด็จพี่ไคแลน เพราะเธอรู้ว่ายิ่งเธอเข้าข้างเจเซนมากเท่าไหร่ เขาก็จะเดือดร้อนมากเท่านั้น
“ดยุค..ตามข้ามาคุยเป็นการส่วนตัวสักเดี๋ยวสิ ข้าอยากจะพูดคุยและทำความเข้าใจกับดยุคให้ตรงกันเสียหน่อย”
ดาเนียมองสบตาเจเซน เธอกำลังเป็นห่วงเขา..
ไคแลนแสยะยิ้มขึ้นมาเมื่อเขามองเห็นแววตาที่เศร้าสลดของดาเนีย เขากำลังพยายามเก็บข่มความโมโหอย่างถึงที่สุดต่อหน้าของเธอ ไม่อยากให้เธอมองเห็นเขาในห้วงอารมณ์ที่เดือดดาล อยากให้เธอมองเขาเป็นพี่ชายที่แสนดีเช่นเดิม
ไคแลนเดินออกจากพระราชวังดัลลิสของดาเนียมาเรื่อยๆ โดยมีเจเซนเดินตามหลังมา
“ข้ามิคิดว่าดยุคจะกล้าขนาดนั้น..”
“ทั้งหมดคือความผิดของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมไม่เจียมตัวและอาจหาญคิดล่วงเกินองค์หญิง”
ดยุคเอเมอร์ เด็กน้อยผู้มีความหลังฝังใจเรื่องชาติกำเนิดของตัวเอง และดูเหมือนว่าหมอนี่จะเป็นเพื่อนวัยเด็กที่สนิทที่สุดของดาเนียด้วย อาจจะเป็นเพราะว่าสนิทสนมที่เกินเหตุจึงทำให้ดาเนียหลงผิดคิดว่านางรักเขา เมื่อไม่นานมากนี้ก็มีเรื่องทำนองนี้เหมือนกัน..กับเคาน์เวสติน
น้องสาวผู้งดงามของเขา ช่างเอาใจยากยิ่งนัก นางขยันเล่นกับจิตใจของบุรุษที่มาหลงใหลนางเสียจริง..แต่นั่นมันคือเสน่ห์อันมากล้นที่ทำให้เขาชื่นชอบนางนี่นา
“ข้ามิได้กล่าวโทษหรือว่าคิดขัดขวางดยุคหรอกนะ เพียงแต่ในบรรดาเชื้อพระวงศ์ข้ารู้สึกเอ็นดูดาเนียมากที่สุดเลย”
ไคแลนยกยิ้มก่อนที่เขาจะตบไหล่ของเจเซนเบาๆ
“หากว่าเจ้ารักนาง ก็แสดงมันออกมาด้วยการภักดีต่อข้าสิดยุค ดาเนียคือสตรีเลอค่า..เจ้าจะต้องพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับนาง”
ในเมื่อโง่งมและไร้ซึ่งความคิดที่จะประมาณตน เช่นนั้นก็จงโง่งมต่อไปเถิดดยุคแห่งเอเมอร์ ข้าจะใช้เจ้า..ทำให้ดาเนียรู้จุดยืนของตัวเอง
ว่าในจักรวรรดิฮาญาแห่งนี้ ไม่มีใครอีกแล้วที่นางจะพึ่งพาได้ นอกเหนือจากข้าเพียงผู้เดียว
……….
ดาเนียล้มตัวนอนลงบนที่นอน เธอเหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าในคืนนี้มืดมิดยิ่งนักเหมือนกับเธอในยามนี้เลย มืดมนและไร้ทางออก
เธอมิใช่คนฉลาดอะไรมากขนาดนั้นเพราะเธอมิได้ตั้งใจเรียนเท่าที่ควร อีกทั้งเวลาว่างทั้งหมดก็หมดไปกับการเลือกซื้ออัญมณีและชุดเดรสมากมาย แต่ทว่าเธอนำหน้าผู้อื่นหนึ่งก้าวเพราะว่าตัวเองล่วงรู้อนาคต
จะต้องค่อยๆ หาทางออก การต่อสู้กับเสด็จพี่ไคแลนไม่ใช่เรื่องง่ายอีกทั้งการจะเข้าหาเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี หนีห่างก็จะถูกสงสัย..
ไม่รู้ว่าเสด็จพี่พูดอะไรกับเจเซนบ้าง คงไม่ใช่ว่าจะหลอกใช้เขาหรอกนะ!
รุ่งเช้าเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วจนเหมือนกับว่าเธอพึ่งจะนอนไปได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น
คาริเดินเข้ามาพร้อมกับพาองค์หญิงผู้งดงามของเธอไปยังห้องอาบน้ำ เธอจัดการถอดชุดนอนออกและพาองค์หญิงดาเนียลงไปนั่งยังอ่างอาบน้ำที่ใส่น้ำอุ่นเอาไว้เต็มถัง
“มีจดหมายเชิญไปร่วมงานน้ำชามากมายส่งมาเพคะ หม่อมฉันได้วางเอาไว้บนโต๊ะแล้ว..คราวนี้จะไปร่วมงานของพระสหายจากตระกูลไหนดีคะ”
คาริกล่าวด้วยรอยยิ้ม ตรงกันข้ามกับดาเนียอย่างสิ้นเชิง เธออยากจะบอกออกไปว่าปฏิเสธมันให้หมด แต่ทว่าเธอจะไม่เข้าสังคมมิได้ เพราะจะต้องสืบเรื่องอดีตคนรักของท่านพ่อและเลดี้จากแอชตันด้วย
“อืม..เข้าใจแล้ว”
“ตอนบ่ายจะต้องออกเดินทางไปยังเขตการล่าสัตว์ของพระราชวังนะเพคะ คราวนี้องค์หญิงจะต้องมีท่านชายทั้งหลายมาถวายสัตว์ป่าให้อย่างมากมายเหมือนปีที่แล้วแน่นอนเพคะ”
เมื่อชีวิตครั้งที่แล้วเป็นยังไงกันนะ ในงานล่าสัตว์ตอนอายุสิบเจ็ด เธอยังคงได้รับสัตว์ป่ามากมายถึงแม้ว่าจะมีประกาศข่าวการหมั้นกับนาธานไปแล้ว..
ดาเนียปรายตามองกระจกที่อยู่ในห้องอาบน้ำ มันกำลังสะท้อนภาพใบหน้าแสนงดงามที่ไม่ว่าใครก็จะต้องหลงใหลไปกับใบหน้านี้ ทว่าพอถึงช่วงเวลาที่เธอกำลังจะตายไม่มีใครสักคนที่ยื่นมือเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเธอเลย..
เธอตายอย่างน่าเวทนาทั้งที่ตัวเองมิได้ทำความผิดอันใด หรือบางทีเธอควรจะไปที่วิหารเพื่ออยู่ที่นั่นสักระยะ ให้สภาพจิตใจแข็งแรงมากกว่านี้ ดาเนียคิดว่าตัวเองกำลังสูญเสียความเป็นตัวเองไป..
แต่เดี๋ยวนะ..ครั้งนี้นักบุญจะมาที่ลานล่าสัตว์ด้วยเพื่อทำถวายคำอวยพรและคำทำนายให้แก่เสด็จพ่อและคำทำนายนั้นคือสาเหตุที่ทำให้เสด็จพ่อไม่ยอมมอบตำแหน่งองค์จักรพรรดิให้เสด็จพี่ไคแลนเสียที!
“คาริ รีบเตรียมตัวให้ข้า ข้าจะไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์!”
บางทีอาจจะควรเริ่มต้นจากตรงนี้ ในคำทำนายนั้นกล่าวว่าองค์รัชทายาทจะต้องเข้าไปอยู่ในวิหารเป็นเวลาสิบปีเพื่อทำการชำละล้างสิ่งขุ่นมัวที่ตามติดมาตั้งแต่เกิด
คำทำนายบ้าบออะไรนั่นจะต้องเป็นฝีมือของพระสนมอย่างแน่นอน แม่ของเสด็จพี่มาร์โคจะต้องใส่ร้ายเสด็จพี่ไคแลนเป็นแน่ และเธอจะต้องหยุดยั้งเรื่องนี้ อย่างน้อยหากว่าเสด็จพี่ไคแลนได้เป็นองค์จักรพรรดิ ชีวิตของเธอมันอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้!