บอลมีน #3
:: เลวแบบเขาคงหาไม่ได้จากที่ไหน ::
-MEEN TALK-
หลายวันผ่านไปหลังจากที่ฉันถูกพี่บอลทิ้งไว้ที่โรงแรมม่านรูด และปล่อยให้ฉันหาทางกลับเอง ดีที่ตอนนั้นคุณตำรวจสายตรวจใจดีมาเห็นฉันที่กำลังยืนงงๆ อยู่บนฟุตบาทก็เลยอาสาพาไปที่สถานีตำรวจ ดีที่ฉันพกมือถือติดตัวไปด้วย ทำให้ติดต่อกับคุณบุษบาได้ เอาความจริงฉันก็ไม่ได้รู้จักนามสกุลของพวกเขา เลยต่อสายให้คุยกับคุณตำรวจถึงได้พาไปส่งที่บ้านถูก แน่นอนว่าฉันถูกกระทำอย่างร้ายแรงอีกครั้งด้วยการโดนผัดพริกสาดเข้าที่ใบหน้าจนแสบไปหมด ฉันถึงได้ไม่ออกจากห้องเลยเพราะว่าหน้าเป็นผื่นแดงๆ แต่ตอนนี้ก็หายเป็นปกติดีแล้วเพราะป้านิ่มหายามาให้ทา ฉันกำลังยืนวาดรูปอยู่ตรงริมหน้าต่างห้อง ที่สามารถมองลงไปที่สระว่ายน้ำหลังบ้านเขาได้
ใช่ ฉันเห็น... เห็นร่างสูงของพี่บอลกำลังเล่นน้ำกับผู้หญิงของเขาอย่างสนุกสนาน จนแทบจะมีอะไรกันในน้ำด้วยซ้ำ ดีหน่อยที่ตรงห้องนี้มีต้นไม้ปกคลุมไม่มาก แต่ก็ทำให้เห็นว่าใครกำลังทำอะไรอยู่ ได้บรรยากาศแบบสุดๆ
ที่ช่วงนี้พี่บอลไม่ได้มาวุ่นวายกับฉัน คงเพราะเขากำลังสนใจผู้หญิงคนใหม่อยู่ รู้อะไรไหมถ้าต่างคนต่างอยู่มันก็จบแล้วไง แต่ฉันก็พูดออกไปไม่ได้ว่ามาอยู่ที่นี่แค่ไม่นาน พอแม่เขามาฉันก็จะไป สัญญาที่ให้ไว้กับคุณบุษบาคือห้ามบอกเรื่องนี้ให้พี่บอลรู้โดยเด็ดขาด ให้เขารู้อย่างเดียวว่าฉันคือว่าที่คู่หมั้นของเขาเท่านั้น
“คุณมีน หมกตัวอยู่ในห้องมาหลายวันแล้ว ไม่ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างเหรอคะ?”
“ไม่เป็นไรค่ะป้านิ่ม หนูอยู่ได้” ป้านิ่มเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมถาดข้าวต้มในตอนเช้า ขยับร่างมาหยุดข้างฉันและอมยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“วาดได้สวยมากเลยนะคะ ว่าแต่คนในภาพคือใครเหรอคะ?”
“พ่อกับแม่ของหนูเองค่ะ”
“...”
“ก่อนจะมาที่นี่หนูวาดรูปพวกท่านค้างไว้ ก็เลยอยากจะวาดให้เสร็จ” ฉันหันไปยิ้มให้กับป้านิ่มที่โอบเอวฉันราวกับให้กำลังใจ ในบ้านหลังนี้คงจะมีแต่ป้านิ่มและลุงดำเนี่ยล่ะ ที่ดีกับฉันเสมอส่วนพี่บอล ไม่ต้องพูดถึงเลย
“คุณมีนมีความสามารถนะคะ แบบนี้คงจะเรียนต่อด้านนี้แน่ๆ”
“ค่ะ มีนจะเรียนต่อด้านนี้หลังจาก...” เงียบทันที เพราะเรื่องนี้จะหลุดให้ใครฟังไม่ได้ ป้านิ่มมองสบตากับฉัน “หลังจากที่หนูแต่งงานกับพี่บอลแล้ว คงจะขออนุญาตคุณบุษบาไปเรียนต่อที่เมืองนอกน่ะค่ะ”
“อ๋อ คุณบุษบาท่านใจดีค่ะ ต้องอนุญาตแน่ๆ”
“ใช่ค่ะ คุณบุษบาใจดีมากค่ะ” ฉันยิ้มให้กับป้านิ่มก่อนจะกินข้าวต้ม และจะลงไปช่วยป้านิ่มทำขนมลอดช่องน้ำกะทิเพราะเห็นว่าพี่บอลชอบกิน เมื่อออกจากห้องมาฉันก็ปะทะเข้ากับร่างสูงที่มีผ้าเช็ดตัวสีขาวพันเอว พร้อมกับร่างของหญิงสาวที่กอดแขนเขาไม่ปล่อย พี่บอลจับจ้องฉันอย่างนิ่งเฉยก่อนที่ฉันจะเดินสวนเขาไป
หมับ
“พะ พี่บอล...”
“คิดว่าหลบหน้าฉัน แล้วจะมีอะไรดีขึ้นงั้นเหรอ?”
“หนูเปล่าหลบนะคะ” ฝ่ามือแกร่งบีบต้นแขนฉันแรงขึ้น จนเจ็บร้าวไปทั้งแขน แต่พี่บอลกลับไม่ปล่อยตามที่ฉันต้องการสักนิด
“อย่าคิดว่าที่ฉันหายไปไม่ได้แปลว่าฉันยอมแต่งงานกับเธอนะ”
“หนูก็ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะถึงยังไงคนอย่างพี่ก็ต้องหาวิธีมาไล่หนูอยู่ดี”
“หึ รู้ดีจริงๆ นะ” พูดจบก็ปล่อยแขนฉันจนเซไปหาป้านิ่มที่รอรับร่างไว้ พี่บอลแสยะยิ้มมุมปาก “ป้านิ่มลอดช่องของผมเสร็จหรือยัง?”
“กำลังจะลงไปทำกับคุณมีนค่ะ”
“ดี ถ้าผมเคี้ยวเสร็จแล้ว ก็เตรียมไว้ให้ด้วยล่ะ”
รอยยิ้มมุมปากของเขาส่งมาให้สุดท้ายก่อนจะประคองร่างของหญิงสาวเข้าไปในห้อง ฉันลงมาที่ครัวพร้อมกับป้านิ่มที่เตรียมของทุกอย่างครบแล้ว ถึงจะไม่เคยทำแต่ก็เรียนรู้ไปด้วย
“คุณมีนชอบทำอาหาร เก่งนะคะ”
“หนูชอบทำอาหารให้พ่อกับแม่ทานน่ะค่ะ”
“ถ้างั้นก็เรียนรู้อาหารไทยกับป้า และทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานนะคะ” ป้านิ่มยิ้มก่อนจะลงมือเคี่ยวกะทิกับน้ำตาลปึกเพื่อทำเป็นน้ำกะทิรสหวานราดกับลอดช่องที่ป้านิ่มทำเองกับมือ เห็นบอกว่าพี่บอลไม่ชอบที่จะกินลอดช่องที่ซื้อสำเร็จ ดังนั้นป้านิ่มเลยต้องตื่นมาทำแป้งลอดช่องตั้งแต่เช้ามืด จนตอนนี้เสร็จแล้วเรียบร้อยก็จะเหลือน้ำกะทิที่กำลังส่งกลิ่นหอมที่มีใบเตยเป็นส่วนผสม
“น่าทานมากเลยค่ะ”
“เดี๋ยวช่วยป้าเอาขึ้นไปให้คุณบอลหน่อยนะคะ” ฉันพยักหน้ารับ ถึงแม้จะไม่อยากขึ้นไปเผชิญหน้ากับเขา แต่ทำยังไงได้ล่ะ มาอยู่บ้านเขา มาคอยดูแลเขา นี่มันคือหน้าที่ของฉันไง
ป้านิ่มและฉันยกถ้วยลอดช่องมาจนเกือบจะถึงหน้าห้องของเขา หากแต่ว่าร่างสวยของผู้หญิงที่พี่บอลคงจะกินแล้วเรียบร้อยยืนกอดอกมองฉันที่ขมวดคิ้วอย่างมึนงง
“หล่อนสินะ เป็นว่าที่คู่หมั้นของบอล”
“ใช่ค่ะ”
“หึ แรดมาก อายุยังน้อยแต่ก็อยากได้บอลจนตัวสั่น” เธอยิ้มเยาะฉันยามที่พูดจาดูถูกเหยียดหยามกัน หากแต่ว่าฉันก็ถอนหายใจพลางสบตากับเธอด้วยความนิ่ง
“ก็คงเหมือนกับคุณ คงจะอยากได้พี่บอลจนตัวสั่นเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้”
“แก!”
“ถึงฉันจะแรดอย่างที่คุณพูด อยากได้พี่บอลจนตัวสั่น จะว่าอะไรก็ว่าไปเถอะค่ะ เพราะฉันก็ยังได้ชื่อว่าเป็นว่าที่คู่หมั้น... ว่าที่คู่หมั้นที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่หมากฝรั่งที่พี่บอลเคี้ยวเสร็จแล้วคายทิ้ง” ฉันเดินสวนหล่อนไป หากแต่ว่าเธอก็ขวางหน้าฉันไว้ โดยที่ป้านิ่มดึงต้นแขนฉันให้ถอยหลังออกห่าง
“ปากดีจริงๆ นะ ทั้งที่บอลเขารังเกียจหล่อนอย่างออกนอกหน้า ยังหวังว่าจะได้แต่งกับเขางั้นสิ”
“ฉันไม่ได้หวังหรอกค่ะ แต่ฉันมาที่นี่เพื่อดูแลพี่บอล”
“อ่อเหรอ งั้นดีเลยดูแลบอล ก็ต้องดูแลผู้หญิงของบอลด้วยนะ” หล่อนแสยะยิ้มก่อนจะโยนชั้นในและกางเกงในสีดำเป็นผ้าลูกไม้มาตรงหน้าฉัน
“เอาไปซักให้หน่อยสิ แม่ว่าที่คู่หมั้นของบอล”
“นี่คุณคะ จะมากไปแล้วนะ คุณมีนเป็นว่าที่คู่หมั้นของคุณบอล ไม่ใช่คนใช้!”
“เหอะ ป้าคะ ว่าที่เมียก็เหมือนคนใช้ค่ะ หยิบไปสิ เอาไปซักเพราะฉันต้องรีบใช้” ฉันถอนหายใจกลอกตาไปมา เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองโมโหเป็นก็วันนี้ล่ะ ฉันยื่นถ้วยลอดช่องให้ป้านิ่มถือและก้มลงเก็บชั้นในของผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา
“คุณมีนคะ อย่าเอาไปซักนะคะ”
ตุ้บ!
“ของใครก็ซักเอง ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อซักกางเกงในให้คุณ” หล่อนดูตกใจไม่น้อยที่ฉันหยิบชุดชั้นในของหล่อนเขวี้ยงใส่หน้า แน่นอนว่าหล่อนกัดปากตัวเองแน่นกระทั่งประตูห้องเปิดขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เสยผมตัวเองขึ้นไป หรี่สายตามองฉันและผู้หญิงของตัวเอง เลื่อนต่ำไปยังกองกางใน
เขาขมวดคิ้วเท้าเอวพลางถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ยามสบตากับฉัน ทำเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือฉันที่เป็นตัวปัญหา
“มีอะไรกัน?”
“บอลคะ กี้แค่จะให้ว่าที่คู่หมั้นของบอลซักชั้นในให้เพราะเย็นนี้กี้มีงานต้องไปทำต่อ แต่ว่าที่คู่หมั้นคุณปาชั้นในใส่หน้ากี้น่ะค่ะ” ได้ทีก็รีบฟ้องพี่บอลในทันที เขาหลับตาและชิ้นิ้วมาที่ฉัน เอ่ยปากพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าเขาจะพูดมันกับฉัน
“เอาไปซัก”
“หนูไม่ได้มีหน้าที่ซักชั้นในให้ผู้หญิงของพี่บอลนะคะ” เถียงเขาออกไปด้วยสีหน้าที่คิดว่าตัวเองโกรธได้มากที่สุด ทำไม... ทำไมจะต้องให้ฉันทำอะไรแบบนี้
“แต่ฉันสั่ง!”
“หนูมาที่นี่เพื่อดูแลพี่บอล ไม่ใช่มาดูแลผู้หญิงของพี่ ได้โปรดเข้าใจด้วยค่ะ” ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง ตอบออกไปก็ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องทำสักหน่อย
“งั้นเหรอ มาเพื่อดูแลฉันงั้นสิ?”
“ค่ะ” พี่บอลแสยะยิ้มมุมปาก ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขายิ้มทำไม หากแต่ว่าการกระทำของพี่บอลทำให้ฉันพอจะเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาโน้มตัวสอดมือเข้าไปใต้ผ้าขนหนูที่พันเอวอยู่ ก่อนจะดึงกางเกงในสีดำสนิทที่เขาสวมใส่ออกมาถือไว้ เดินตรงมาหาฉันและ...
ตุ้บ!
“งั้นเอากางเกงในของฉันไปซักสิ มาเพื่อดูแลฉันไม่ใช่”
“คุณบอล!”
“เงียบไปเลยป้านิ่ม แล้วก็เอาลอดช่องไปไว้ในห้องผมด้วย” เขาเขวี้ยงกางเกงในมาปะทะใบหน้าของฉัน จนตกมาอยู่ตรงปลายเท้า สองมือกำหมัดเข้าหากัน ยามสบตากับเขาที่แสยะยิ้มมุมปากราวกับสะใจไม่ต่างจากผู้หญิงข้างกายของเขา ริมฝีปากของฉันกัดเข้าหากันจนรับรู้ถึงคาวเลือด
“โมโหเหรอ? โกรธเหรอ ทนไม่ได้สินะมีน ไปสิ”