EP 5 : ขอให้ถอย

1432 คำ
เขามาหาปั้นหยาแล้ว​หลังจากนั้นเราสามคนก็ไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารในซอยใกล้ ๆ มหาลัยและเพราะโลกมันกลมหรือเพราะความบังเอิญก็ไม่รู้ถึงได้เห็นพี่กราฟกับริต้าเดินเข้ามาในร้าน ตอนแรกฉันก็แอบหวั่นว่าจะเกิดสงครามระหว่างผู้ชายสองคนนี้ที่เกี่ยวข้องกันทางไหนก็ไม่รู้ถึงได้จัดงานวันเกิดในบ้านหลังเดียวกัน รู้แค่ว่าเขาสองคนไม่กินเส้นกันแน่ ๆ แต่โชคดีที่เหมือนทั้งคู่จะทำเป็นไม่เห็นกัน ความจริงก็คงเห็นแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นมากกว่า ร้านมันไม่ได้ใหญ่โตเวอร์วังนี่คะไม่เห็นก็ตาบอดแล้ว หลังจากผ่านวันนั้นไปอยู่ดี ๆ พี่กราฟก็มาตามวอแวปั้นหยา เพื่อนรักคนสวยของยาหยีก็ดูจะหัวร้อน วีนใส่พี่เขาไม่หยุดหย่อน แต่ฉันเป็นเพื่อนแค่มองตาไม่ต้องรอให้ปั้นหยาพูดฉันก็รู้ว่าการมาของพี่กราฟสร้างความสุขให้กับปั้นหยามากกว่าการมาของพี่กันต์ และนั่นก็เลยทำให้ฉันตัดสินใจที่จะพูดกับเขาตรง ๆ ดีกว่าปล่อยให้เขามีความหวังในการตามจีบปั้นหยา แล้วก็ปล่อยให้ปั้นหยาอึดอัดใจอยู่อย่างนี้ และที่สำคัญเขาจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดถ้าความรู้สึกที่มีให้เพื่อนฉันถลำลึกไปมากกว่านี้ ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด ติ๊ด! (ครับยาหยี) “เย็นนี้พี่กันต์ว่างรึเปล่าคะหยีมีเรื่องอยากจะคุยด้วยค่ะ” ฉันรีบนัดเขาทันทีที่เขารับสาย รีบเคลียร์ให้มันจบดีกว่ายังไงซะเขาก็ต้องเข้าใจอยู่แล้วล่ะ เขาเป็นคนดีจะตาย “มีเรื่องจะคุยกับพี่? เรื่องอะไรเหรอครับ” เขาทำน้ำเสียงแปลกใจแต่ฉันไม่สะดวกที่จะคุยทางโทรศัพท์หรอกนะคะ เรื่องแบบนี้มันต้องพูดกันต่อหน้าจะได้เข้าใจตรงกัน “เดี๋ยวตอนเย็นหยีบอกนะคะ ว่าแต่พี่กันต์ว่างไหมคะถ้าไม่ว่างเป็นวันหลังก็ได้ค่ะ” “ว่างครับ เจอกันที่ไหนล่ะที่คณะยาหยีไหม” ที่คณะฉันเหรอ ขืนมาก็เจอพี่กราฟตอนมาลากตัวปั้นหยาเหมือนทุกเย็นน่ะสิ ไม่ดีกว่ามั้งคะ ไปเจอกันที่อื่นดีกว่า “เจอกันที่... / ยาหยีครับพอดีพี่มีธุระคุยกับอาจารย์ เดี๋ยวเย็น ๆ เจอกันที่คณะเรานะครับ” พอจะนัดไปที่อื่นเขาก็รีบพูดเหมือนกำลังรีบแล้วก็วางสายไปเลยท่าทางเขาคงกำลังยุ่ง ฉันจะทำอะไรได้ล่ะคะนอกจากลุ้นให้เย็นนี้เขากับพี่กราฟไม่ต้องปะทะกัน พอตกเย็นเลิกเรียนสิ่งที่ฉันกังวลก็ถูกยกออกไปจากอกเพราะพี่กราฟมารอรับเร็วมากไม่ใช่รอรับสิคะ เรียกว่ารอลากปั้นหยาเพื่อนรักของยาหยีขึ้นรถดีกว่า ถามว่ายาหยีห่วงเพื่อนไหมที่ไปกับพี่กราฟแบบนั้นก็ไม่นะคะไม่ห่วงเลยสักนิด ท่าทางปั้นหยาเหวี่ยงก็จริงแต่ฉันรู้ทันตับไตไส้พุงยัยเพื่อนคนสวยดี ปั้นหยาน่ะแอบมีความสุขจะตาย ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด เอาล่ะยาหยีพอปั้นหยาไปก็ถึงคราวแกต้องจบปัญหาหัวใจให้เพื่อนรักแล้วล่ะ รีบไปจัดการกับพี่กันต์ ผู้ชายแสนดีที่ไม่ได้หัวใจปั้นหยากันดีกว่า ฟู่ว์! เป่าปากเรียกพลังเยอะๆ แล้วก็พุ่งชนดีกว่ายาหยา ติ๊ด! “ค่ะพี่กันต์ มาถึงแล้วเหรอคะ” (ครับ พี่อยู่หน้าคณะ ยาหยีอยู่ตรงไหนเดี๋ยวพี่เดินไปหา) “เจอกันที่สวนข้างตึกก็ได้ค่ะพี่กันต์” ฉันจัดการนัดแนะตรงสวนเล็ก ๆ ที่ช่วงเย็นจะค่อนข้างเงียบเหมาะกับการพูดคุยธุระจะได้คุยกันสะดวกโดยที่ไม่มีคนพลุกพล่าน “ได้ครับ” พอวางสายฉันก็รีบเดินไปที่นัดหมายนั่งรอเขาไม่นานชนิดที่ว่าธูปไม่ทันไหม้ตดไม่ทันหายเหม็นผู้ชายหล่อ ๆ ที่ฉันจำเขาได้ขึ้นใจก็เดินเข้ามาหา “สวัสดีค่ะพี่กันต์” ฉันรีบยิ้มทักทายคนที่เดินเข้ามาหาฉันด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน “สวัสดีครับยาหยีแล้ว...ปั้นหยาล่ะครับ” ขนาดฉันบอกว่ามีธุระจะคุยกับเขา โทรไปนัดเขาเองพอมาเจอกันเขาก็ยังไม่วายถามหาปั้นหยาเลย พอเห็นแววตาที่มองหาผู้หญิงที่ตัวเองชอบของเขาความพร้อมเต็มร้อยของยาหยีก็ถูกลดทอนจนเหลือแค่ 49 เปอร์เซ็นต์ “หยากลับไปแล้วค่ะ” ฉันบอกเสียงเบาไม่รู้ว่าเขาจะรู้รึเปล่าว่ากลับไปกับพี่กราฟภาวนาให้เขาไม่รู้เถอะนะ “ไอ้กราฟมาบังคับให้ปั้นหยากลับไปกับมันอีกแล้วเหรอครับ” อ้าวรู้ว่ะ รู้เฉยเลย T_T “เอ่อ...ค่ะ” พอเขารู้ทันฉันก็เลยพยักหน้ายอมรับด้วยความจำยอม ส่วนเขาเองก็ยิ้มให้กับการยอมรับของฉันบาง ๆ “ครับ แล้วยาหยีนัดพี่มามีธุระอะไรครับ คุยเรื่องธุระของยาหยีดีกว่าเนอะ” แวบแรกฉันเห็นแววตาเขาฉายแววความโกรธแต่มันเหมือนจะแค่เสี้ยววินาทีแล้วเขาก็ยิ้มจนฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองเห็นจริง ๆ หรือตาฝาดกันแน่ ฉันว่าคงตาฝาดมากกว่ามั้งคะ “คือ...” โอย~ พอถึงเวลาก็เริ่มใจสั่น ตื่นเต้นอย่างกับว่าฉันกำลังจะปฏิเสธความรักจากพี่เขาเองซะงั้น “มีอะไรพูดกับพี่ตรง ๆ ได้นะครับ” เขาดูเหมือนจะรู้ว่าฉันกำลังอึดอัดลำบากใจก็เลยยิ้มแล้วก็พูดออกมา เอาวะ! ดีกว่าให้เขาโดนปั้นหยาปฏิเสธต่อหน้า สู้ฉันบอกเขาแล้วให้เขาถอยออกไปเองดีกว่า “หยีอยากคุยกับพี่กันต์เรื่องปั้นหยาค่ะ” เปิดแล้ว ยาหยีเปิดประเด็นแล้วค่ะ แต่แค่เริ่มก็ปากสั่น “ครับ?” “คือหยีว่าพี่กันต์น่าจะ...” “ยาหยีอยากให้พี่ตัดใจจากปั้นหยาใช่ไหม?” ในระหว่างที่ฉันกำลังอึกอักไม่กล้าพูดพี่กันต์กลับพูดมันออกมาแทนฉันซะงั้น อย่าบอกนะว่าเขารู้ว่าฉันนัดเขามาเพื่อคุยกันเรื่องนี้ “คือ...ค่ะ หยีอยากให้พี่กันต์ตัดใจจากปั้นหยา” ตอนแรกก็ไม่กล้าพูดแต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจพยักหน้ารับตรง ๆ “ทำไมครับ?” ตอนนี้เขาก็ยังยิ้มอยู่นะคะ หน้าตาไม่ได้ฉายแววเสียใจอย่างที่ฉันนึกกลัวเท่าไหร่จนนึกสงสัยอยู่นิดหน่อยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “หยีว่า...ปั้นหยายังชอบคน ๆ นั้นอยู่แล้วก็ไม่มีทางที่จะสนใจเอ่อ...หมายถึงปั้นหยาชอบคน ๆ นั้นมากจนไม่แบ่งใจให้ใครเลย หยีว่าพี่กันต์...” “จะให้พี่ถอยออกมาเพื่อให้ปั้นหยาไปคบกับไอ้กราฟสะดวกใช่ไหม?” เขาพูดสวนขึ้นมายิ้ม ๆ ยิ้มเหมือนเดิมไม่มีผิด เขารู้ทันจนฉันตกใจพูดอะไรต่อไปไม่ได้ แล้วก็รู้สึกว่าฉันประมาทความรู้สึกของพี่กันต์มากเกินไป “หยีไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะพี่กันต์ หยีมองแค่พี่กันต์กับปั้นหยา หยีแค่ไม่อยากให้อึดอัดทั้งสองฝ่ายไม่ได้คิดจะให้พี่กันต์ถอยเพื่อให้พี่กราฟเข้ามาเลย” ฉันรีบอธิบายความต้องการของตัวเองให้เขาฟังและหวังว่าเขาจะเข้าใจความหวังดีของฉัน หวังว่านะคะ “...” พอฉันพูดจบพี่กันต์ก็มองหน้าฉันนิ่ง เขานิ่งมากจนฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร “พี่กันต์... / ครับพี่เข้าใจ” ฉันเรียกชื่อเขาเบา ๆ พี่กันต์ก็เลยพูดแทรกขึ้นมา แต่ฉันไม่สบายใจเลยค่ะกลัวว่าความหวังดีของตัวเองจะทำให้พี่เขาเข้าใจมันผิดไป “พี่กันต์โอเคไหมคะ” “ครับ...โอเคสิทำไมพี่จะไม่โอเค พี่รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าปั้นหยาไม่ได้สนใจพี่ แต่ที่ไม่โอเคมีแค่เรื่องเดียว” พี่กันต์พูดไปยิ้มไปด้วย แต่ประโยคสุดท้ายเขาก็พูดช้า ๆ “คะ?” “ช่างมันเถอะครับ ค่ำนี้ยาหยีว่างไหม" "คะ? อ๋อว่างค่ะหยีเลิกเรียนแล้ว" "ถ้างั้น...วันนี้พี่อกหักช่วยไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม