เสียงเพลงครึกครื้นดังไปทั่วบริเวณเหล่าผีเสื้อราตรีต่างวาดลวดลายกันอย่างคึกคัก ทั้งเซ็กซี่เย้ายวนและสนุกสนานเฮฮาไม่ต่างจากแอลเลียตที่ตอนนี้นั่งดื่มกับเพื่อนสนิทและมีผู้หญิงสวยรูปร่างอวบอึ้มนั่งแนบชิดไม่ห่างกาย
"ไม่น่าเชื่อว่าแกจะมาเมืองไทย" ฟรานเซสมองเพื่อนสนิทที่อยู่ๆก็บินกลับมาเมืองไทยไม่บอกไม่กล่าวทั้งที่หนุ่มเพลย์บอยอย่างแอลเลียตน่าจะกำลังสนุกสุดเหวี่ยงอยู่ที่อังกฤษกับบรรดาคู่ขาเพราะนานๆจะว่างทั้งที
ว่างจากงานรองคือตรวจรักษาสัตว์หรืองานหลักคือมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่....
"ทำไมถึงคิดว่ากูจะมาไม่ได้..."
"ไม่รู้สิงานยุ่งมั้ง.." เขายักไหล่นิดๆก่อนจะชนแก้วกับคนตรงหน้าพาดแขนไปที่เอวบางของผู้หญิงที่นั่งซบอยู่ข้างๆ แอลลเลียตยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว ก่อนจะวางลงแล้วมองเพื่อนสนิทอีกครั้งด้วยสายตาจริงจัง
"แล้วยังไง ตกลงมึงจะรวมหุ้นกับกูมั้ย" แอลเลียตถามเพื่อนที่เอาแต่คลอเคลียผู้หญิงข้างกาย ถ้าไม่ติดว่ามีเขาอยู่ด้วยมันคงจับผู้หญิงคนนั้นแหกขาออกแล้วฟัดอย่างดุเดือดแน่นอน
"ถามจริง...มึงรวยขนาดนี้จะเปิดคลินิกสัตว์ไปอีกทำไมว่ะ?"
"กูเรียนมา...อ่า...." เขาตอบสั้นๆพลางก้มมองผู้หญิงรูปร่างสะบึ๊มที่คลานเข่ามาตรงหน้าเขาและกำลังรูดซิปกางเกงแล้วงัดเจ้าท่อนลำเขื่องของเขาออกมาจากกางเกงเนื้อดี เธอเงยหน้ามองเขาพร้อมอมยิ้มนิดๆก่อนจะก้มลงครอบครองเขาด้วยปากสีสดนั่นอย่างรู้งาน
"แต่มึงไม่จำเป็นต้องเปิดร้านไหม...งานการมึงก็มีออกจะเยอะแยะจนไม่รู้จะเก็บเงินไว้ที่ไหนแล้ว แค่มึงนั่งเฉยๆก็มีแต่คนคลานเข้าหาไม่ขาดโดยเฉพาะผู้หญิงหึ!" ฟรานเซสพูดพลางเลิกสนใจเพื่อนที่ไม่รู้ว่าไปโดนตัวไหนมาอยู่ดีๆถึงมาชวนเขาเปิดคลินิกรักษาสัตว์ทั้งที่ตัวเขาจบบริหารมาไม่ได้จบหมอควบบริหารมาเหมือนมัน
สมองมันคงกระทบกระเทือนจากการนั่งเครื่องบินมาแน่ๆ....
ร่างสูงใหญ่เดินเข้าบ้านหลังใหญ่ด้วยอาการมึนเล็กน้อย ถึงจะกินไปไม่น้อยก็เถอะแถมยังฟัดกับผู้หญิงมาตั้งหลายยก ไหนจะเหนื่อยจากการเดินทางอีก มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะมีอาการแบบนี้
ถึงแม้เขาจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนแต่พอถึงเวลากลับเขาก็มักจะกลับมานอนที่บ้านเสมอ เขาถือว่าตัวเองมาเยี่ยมเยียนคุณตาคุณยายตัวเขาก็ต้องกลับมาบ้านหลังนี้เท่านั้นจะไม่ไปนอนที่อื่นเด็ดขาด แอลเลียตหยุดเดินพลางเอ่ยสั่งเสียงเรียบ
"พวกนายไปพักเถอะ..."
"ครับ" ลูกน้องคนสนิทก้มหัวให้ก่อนจะแยกย้ายไปยังบ้านพักของตัวเองแต่ถึงกระนั้นก็ยังคงสั่งให้ลูกน้องคนอื่นเฝ้ายามกับแบบลับๆอยู่ดี
แกร็ก....
คิ้วหนาเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินเสียงปลดล็อกจากห้องตรงข้าม
ดึกดื่นป่านนี้ทำไมไม่นอน...
ชายหนุ่มคิดอย่างแปลกใจก่อนจะหลบเข้ามุมเสามองไปที่ต้นเสียงนั่น พลันปรากฎร่างบอบบางของต้นเหตุถือกระติ๊บข้าวขนาดกลางยื่นหน้าออกมาจากช่องประตูมองซ้ายมองขวาจนเขาต้องรีบหลบเพราะกลัวเจ้าหล่อนเห็น
"ทางสะดวก..." คำสร้อยกวาดสายตาไปรอบๆในความมืดที่มีเพียงแสงไฟสลัวๆ ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูแล้วแทรกตัวออกมาด้านนอกพร้อมกับมองไปรอบๆตัวอีกครั้ง มือบางจับกระติ๊บข้าวในมือแน่นขึ้นแล้วดึงประตูปิดก่อนจะวิ่งย่องเบาๆด้วยความว่องไวลงไปชั้นล่างทันที เธอหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่มองตามเจ้าตัวในเสื้อคอกระเช้ากางเกงขาสั้นจนสุดสายตา
'ดึกดื่นป่านนี้ยัยตัวแสบนั่นยังจะไปไหนอีก...'
ไม่ต้องคิดนานขาแกร่งก็ก้าวยาวๆตามไปติดๆด้วยความสงสัยในพฤติกรรมของเจ้าหล่อน
"ว้าว...ออกมาเยอะแยะเลยค่อยสมกับที่เฝ้ารอหน่อย" คำสร้อยใช้ไฟฉายส่องไปที่จอมปลวกน้อยๆ ที่เธอทำเครื่องหมายจับจองมันตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้แล้วและมันก็ไม่ทำให้เธอผิดหวังเสียด้วย คิดแล้วก็จัดการดึงสายรัดไฟฉายสวมรัดไปที่หัวทันทีด้วยความตื่นเต้น
"มามะ มาให้คำสร้อยคนสวยจับซะดีๆ หูย...ใหญ่ๆทั้งนั้นเลย"
อีกฝากหนึ่งของต้นไม้ใหญ่ แอลเลียตยืนมองคนตัวเล็กที่กำลังนั่งยองๆที่ศีรษะยังมีไฟฉายรัดอยู่ตรงหน้าผากส่องไปที่ก้อนดินตรงหน้าสองมือก็เก็บบางอย่างใส่กระติ๊บข้าวอย่างว่องไวและทำซ้ำๆ หลายรอบเหมือนเร่งรีบจะไปไหน
'หรือยัยเด็กนั่นกำลังขโมยของ!?' เร็วเท่าความคิดเขาสาวเท้าเร็วไปที่คนตัวเล็กทันที
"ทำอะไร!!"
"เห้ย!!!บ้าแก้วบ้าคำ!!!!" ร่างบอบบางสะดุ้งจนตัวโยนก่อนจะแข้งขาอ่อนหงายหลังก้นจ้ำเบ้ากับพื้นด้วยความตกใจแต่สองมือกับกำสิ่งที่อยู่ในมือเอาไว้แน่นไม่ยอมคลาย
"ฉันถามว่าเธอกำลังทำอะไร!" เสียงทุ่มลึกชวนเสียวสันหลังดังขึ้นอีกครั้ง เธอหันหน้าไปมองเจ้าของนั่นแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่เป็นคนไม่ใช่สิ่งเร้นลับอย่างที่คิดไว้
"โถ่...ขวัญเอ้ยขวัญมา...นี่คุณมาทำไมตรงนี้เนี่ยฉันตกใจหมดเลย หึ่ย!" เสียงเล็กใสถามออกไปด้วยความโมโหเพราะเธอนึกว่าตัวเองเจอดีเขาซะแล้ว ที่ไหนได้ไอ้ผีหน้าหล่อจอมลามกนี่เอง แอลเลียตยกมือขึ้นบังแสงจากไฟฉายของอีกคนพลางจ้องด้วยสายตาเคลือบแคลง
"ฉันถามเธอไม่ใช่ให้เธอมาย้อนถาม แล้วช่วยเอาไอ้แสงนี่ไปให้พ้นหน้าฉันด้วย!" แอลเลียตสั่งเสียงเข้ม
"ใครใช้ให้มองมันล่ะ" พูดอุบอิบเสียงเบาเบะปากใส่อีกคนแต่คนหูดีกลับได้ยินเฉย
"เธอว่าไงนะ?" คำสร้อยรีบลุกขึ้นแล้วดึงไฟออกจากหน้าผากทันทีเพราะเห็นว่าคนตัวโตทำท่าจะเขมือบหัวเธอเข้าไปอีกแล้ว
คนอะไรหล่อซะเปล่าแต่น่ากลัวชะมัด
เอะอะด่า เอะอะซักปืนขู่ อย่าให้ถึงที่เธอบ้างก็แล้วกันจะยิงให้ไส้แตกเลย!