ตอนที่ 6 พอดีกูไม่รู้

1807 คำ
แล้วสุดท้ายมันก็เดินไป ผมไม่รู้นะว่ามันเดินไปไหน และผมก็ไม่อยากรู้ด้วย แล้วนี่ผมควรเอาไงกับแม่มอเตอร์ไซค์ลูกรักต่อดีละครับ คือพยายามสตาร์ทแล้วนะ แต่มันก็ยังไม่ติด แถมตอนนี้ก็ตี 3 ผู้คนก็เงียบกริบ ส่วนร้านซ่อมนะเหรอ อย่าหวังเลยว่าจะได้เปิดตอนนี้ ผมเห็นแต่ป้าย เปิด 24 ชั่วโมง แต่แม่งปิดร้านเฉย กูละเซ็ง แล้ววิธีสุดท้ายที่ผมนึกได้ก็คือ ไสครับ ผมไสแม่มอเตอร์ไซค์คันงามกลับบ้าน เรียกได้ว่าโคตรจะยากลำบาก เพราะว่าบ้านผม กับเซเว่นมันห่างกัน ราวๆ 10 กิโลเห็นละได้ และกว่าผมจะเข็นถึงบ้านนะ เกือบเช้า โอ้ยยยย ตายผมตายแน่ แต่โชคยังดีนะที่วันนี้ผมมีเรียนบ่าย ถ้ามีเรียนเช้านะ อย่าให้พูดเลย คงไม่ได้ไปเรียนแน่นอน ผมเอารถไปทิ้งไว้ที่ร้านหน้าปากซอย ก่อนจะเดินเข้าบ้านด้วยอารมณ์ที่ง่วงนอนสุดๆ ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นตอนนี้ผมมุ่งตรงไปที่ห้องนอนอย่างเดียวเลย เรียกได้ว่าทิ้งตัวปุ๊บเฝ้าพระอินทร์ปั๊บเลย ผมมารู้สึกตัวอีกทีคือแม่มาปลุกครับ ทีแรกก็นึกว่าฝันนะ แต่คือเสียงแม่ที่เรียกเริ่มมีอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงค่อยๆลืมตาก็เห็นว่าแม่กำลังยืนเท้าเอวมองผมอยู่ “อ้าว แม่ มีอะไรอ่ะ”ความรู้สึกผมตอนนี้คืองัวเงียมาก โคตรง่วงอ่ะ “นี่มันเที่ยงกว่าแล้วนะร้าย ตกลงจะไปเรียนมั้ย” “เที่ยงเหรอครับ เที่ยง เที่ยงเหรอ” เฮ้ยเที่ยงแล้วตายห่า ผมจึงรีบลุกจากเตียงและตรงไปแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที น้ำไม่ต้องอาบครับเพราะมันไม่ทัน และอีกอย่างคนหล่อไม่จำเป็นต้องอาบน้ำก็ได้ แต่พอผมวิ่งลงมาที่หน้าบ้านผมก็ไม่เจอรถ ใช่ๆ รถผมอยู่ที่ร้านซ่อมนี่หว่า ตายเลยแบบนี้ แล้วจะไปเรียนทันได้ไง “ไปนะแม่ คืนนี้ผมไม่เข้าบ้านนะ ผมจะเลยไปผับเลย” ผมตะโกนบอกแม่ แต่เดี๋ยวนะ ป้ายแบ่งให้เช่าบ้านหายไปจากหน้าบ้านแล้ว แสดงว่าต้องมีคนมาเช่าแล้วแน่ๆเลย จะเป็นคนแบบไหนวะเนี้ย แต่ช่างเหอะ จะเป็นใครก็ช่าง แม่ผมคงสกรีนมาให้เรียบร้อยแล้วผมคงไม่ต้องห่วงอะไร แล้วผมก็รีบวิ่งไปที่ร้านซ่อมมอไซค์หน้าปากซอยเพื่อไปเอารถ วิ่งจนเกือบจะช้อคตายหอบแดกเลยเหนื่อยชิบเป๋ง และพอมาถึงหน้าร้านซ่อมผมก็ค่อยหยิบเงินออกมาดูให้ตายเหอะ เงินก็ไม่ค่อยจะมี ยังต้องเจียดมาจ่ายค่าซ่อมรถอีกเหรอวะเนี้ย ชีวิตไอ้ร้ายนี่มันบัดซบได้อีกนะ ขืนมีรายจ่ายเยอะแยะแบบนี้เงินไม่พอใช้แน่ๆ “พี่นึก รถผมเป็นไงบ้างครับ” ผมร้องถามพี่นึกที่กำลังซ่อมรถอยู่หน้าร้าน “อ้าวไอ้ร้ายมาแล้วเหรอ นึกว่าจะไม่เอาซะแล้วรถเนี้ย” “พอดีตื่นสายนะพี่ แล้วรถผมอ่ะ” “อยู่ข้างบ้าน น้ำหวานมันเอาไปล้างให้” “ล้าง ล้างทำไมอ่ะ” “มันบอกว่ามึงจะได้ชอบมันไง มึงนะมึงมาทำให้น้องกูหลง จนกูจะประสาทแดกตายอยู่ละ” ผมก็ได้แต่ยิ้ม คือน้ำหวานเป็นน้องสาวของพี่นึก แต่คือน้ำหวานเนี้ยยังเด็กมากเลยนะ อายุน่าจะเท่าๆไอ้แสบผมนั่นแหละ แต่น้ำหวานนี่แสบกว่าเพราะไม่ไปเรียน เห็นบอกว่าขี้เกียจ ออกมาอยู่เฉยๆดีกว่า เออไม่แปลกที่พี่นึกจะประสาทแดกนะ “อ้าวพี่ร้าย มาแล้วเหรอคะ”น้ำหวานเข้ามาเกาะแขนผม ซึ่งผมพยายามสะบัดออกแล้ว แต่มือน้ำหวานนี่อย่างกับปลาหมึกเลย เกาะติดดีจริงๆ “อืม” “น้ำหวานล้างให้แล้วน้า สะอาดมั้ยคะ” “ก็ดีนะ” “แล้วแบบนี้พี่ร้ายมีรางวัลให้น้ำหวานมั้ยอ่ะ” “ไม่มีอ่ะ” “หูยพี่ร้ายใจร้าย น้ำหวานอุตส่าห์ไม่ให้พี่นึกเก็บเงินค่าซ่อมรถนะเนี้ยยังมาใจร้ายใส่น้ำหวานอีก” แค่ได้ยินว่าของฟรีผมก็หูผึ่งเลย คือถ้าได้ซ่อมฟรีจริงๆ ผมก็จะไม่ต้องเสียเงินให้ช่างซ่อมรถ แบบนี้ใครจะไม่เอาละครับ “อะๆก็ได้ๆ ว่าแต่น้ำหวานจะเอาอะไร” “ก็ไม่อะไรหรอกค่ะ แค่พี่ร้ายหอมแก้มน้ำหวานซักที 2 ที แค่นี้น้ำหวานก็พอใจละ” แผนโคตรสูง แต่มันก็ดีสำหรับผมนะ เพราะผมไม่ต้องเสียอะไรเลย ผมจึงก้มไปหอมแก้มน้ำหวานทั้ง 2 ข้างอย่างไม่ได้มีความเขินอายอะไร เพราะว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับยายเด็กกะโปโลนี่นะซิครับ “พอใจยั้ง” “พอใจสุดๆไปเลยค่ะ” “ก็ดี งั้นเอากุญแจรถมาพี่รีบ” “โอเค” น้ำหวานยื่นกุญแจรถให้ผม ผมจึงรีบไปเอารถและเข็นออกมาหน้าร้านทันที “เออให้มันได้แบบนี้ น้องสาวกูดีจริงๆ ซ่อมรถให้ผู้ชายแต่ไม่เอาตัง เออๆ กูเจ๊งแน่นอน”พี่นึกบ่นใหญ่เลย ก็น่าบ่นหรอกครับ เพราะเวลาผมเอารถมาซ่อมพี่นึกไม่เคยได้เก็บเงินผมเลย มันก็เป็นเพราะน้ำหวานนี่แหละ “ไปแล้วพี่ ขอบคุณครับ” “เออ อย่าเสียบ่อยนะรถมึงอ่ะ กูเหนื่อย” “ครับพี่ไปละครับ” ผมรีบขับรถและตรงไปที่ ม. ทันที แล้วสุดท้ายผมก็สายอีกจนได้ แต่ไม่เป็นไร ผมรีบย่องเข้าไปในห้องแบบไม่ให้อาจารย์เห็น และผมก็มั่นใจด้วยว่าพวกเพื่อนผมมันต้องเช็คชื่อแทนผมแล้ว “มาสายอีกตามเคยนะมึงไอ้ร้าย”ไอ้ดราฟ มันเอ่ยด่าผมก่อนเลย ไอ้นี่มันจะดูเงียบๆครับ แต่เวลาอยู่กับมิ้นมันจะเป็นคนพูดเก่งขึ้นมาทันที และผมก็รู้ว่ามันชอบมิ้น แต่มันไม่ยอมบอกมันบอกผมว่ามันไม่อยากเสียเพื่อนถ้ามิ้นไม่ชอบมัน ถุย!!!!! พระเอกชิบหาย “เมื่อคืนกูกลับบ้านเช้าเลยอะดิ เลยตื่นสาย แล้วมึงเช็คชื่อให้กูยั้ง” “เช็คแล้ว ว่าแต่ร้ายเหอะ เป็นอะไรทำไมกลับเช้า” มิ้นหันมาถามผมทำให้ไอ้ดราฟรีบหันมามองทันที มองทำไม นี่ผมก็เพิ่งรู้นะว่าไอ้ดราฟก็ขี้เสือกเหมือนกัน “รถเสียอะดิ เลยต้องไสตั้งแต่เซเว่นใกล้ๆผับจนมาถึงบ้านเลย” “งั้นเอารถกูไปใช้เปล่า กูมี 2 คัน”ไอ้เอจ้องหน้าผมก่อนที่มันจะเอาอมยิ้มมาอย่างกวนๆ แล้วก็ไม่แปลกเลยครับที่มันจะให้ผมยืมรถใช้เพราะบ้านมันเปิดร้านประกอบรถมอไซค์ขาย แต่มันเสือกซ่อมไม่เป็นนั่นแหละครับประเด็น “ไม่เป็นไรขอบใจนะไอ้เอ คันนี้กูซ่อมมาละ” แล้วผมก็เรียนต่อไป และพอเรียนกันเสร็จพวกผมก็เดินออกมากินข้าวที่ใต้ตึก สภาพผมตอนนี้คือง่วงมากอ่ะนี่โชคดีนะที่เฮียทีไม่ให้ผมไปทำงานไม่งั้นมีหวังผมน็อคตายแน่ๆ “สภาพนี่ดูไม่ได้เลยนะร้าย ไปพักก่อนไปไม่ต้องไปเที่ยวกับพวกเราแล้ว” “ไม่เป็นไรมิ้น เราไหว แต่ของีบแปบนึง” ผมที่กำลังจะฟุบหน้ากับโต๊ะเพื่อนอนหลับก็ต้องสะดุ้ง เมื่อจู่ๆโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมกดรับโดยไม่ได้ดูเลยนะว่าใครโทรมา เพราะคงมีไม่กี่คนหรอกที่จะโทรหาผมเวลานี้ “ครับ” “มึงอยู่ไหนวะไอ้ร้าย” “อยู่ม.พี่ พี่จะเอาอะไร” “ก็วันนี้กูต้องไป ชลบุรีด่วนอะดิ กูอยากให้มึงมาเช็คร้านแทนกูก่อน” “อะไรนะพี่เบล โห ผมโคตรง่วงเลยนะตอนนี้” “เอาน่า เดี๋ยวกูให้เพิ่มอีก 300” “เนี้ยพี่ก็เอาเงินมาล่อผมทุกทีไป” “แล้วมึงจะเอามะ” “รอแปบ เดี๋ยวผมไป” “เออก็แค่เนี้ย มาให้ไวเลยมึง” เงิน ตั้ง 300 ใครไม่เอาก็โง่ละครับ ผมจึงบิดขี้เกียจเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่มันอ่อนล้า ทำเอาไอ้ 3 คนมองหน้าผมกันใหญ่ “มองอะไรกันเนี้ย” “มึงจะทำงานให้ตายเลยรึไงวะไอ้ร้าย”ไอ้เอมันจ้องหน้าผม คือคำถามนี้ไอ้เอมันถามผมบ่อยนะ และคำตอบผมก็เหมือนกันทุกครั้ง “แต่ตอนนี้ยังไม่ตายนี่หว่า ทำไปเหอะ ดีกว่าไม่มีอะไรให้ทำแล้วพากันอดตาย” “แต่กูว่ามึงต้องตายก่อนใช้เงินแน่ๆ” “กูไม่ตายง่ายๆขนาดนั้นหรอก เออกูไปละ” ผมรีบออกมาทันที เพราะกลัวว่าจะไปสาย แต่ร้านกับ ม. มันก็ห่างกันไม่มากหรอกครับ ผมจึงไม่ได้รีบอะไรมาก แล้วพอมาถึง ผมก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเพื่อมาเช็คความเรียบร้อยของผับ “ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว มึงคอยดูเด็กเสิร์ฟให้ดีด้วยละกัน การ์ดข้างนอกก็ให้เช็คให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้ พวกไม่ถึง 18 เข้ามาได้” “ครับพี่ร้าย” ผมยืนมองไปรอบๆ คือตอนนี้ทุกอย่างเหมือนมันจะเรียบร้อยหมดแล้วนะ คงไม่มีอะไรแล้วหละ “ไอ้ร้าย” มีคนเรียกผมครับ ผมจึงหันไปดูก็เห็นไอ้หน้าหล่อมันกำลังยืนมองผมอยู่ ผมว่ามองแบบนี้มันต้องอยากไฟว้กับผมแน่ๆ “อะไร มึงมีอะไรกับกู” “ไมค์ไม่ดัง” “แล้วไง มึงก็ไปบอกฝ่ายเทคนิคดิวะ” “ฝ่ายเทคนิคลาป่วย” “อ้าว ชิบหาย แล้วทำไงละทีนี้” ผมจึงเดินไปเช็คไมค์ตามที่ไอ้หน้าหล่อมันบอก แล้วผมก็เห็นตัวการที่ทำให้มันไม่ดัง และผมก็คิดว่าไอ้คนข้างๆผมนี่แหละเป็นคนทำ “มันจะดังให้มึงมั้ยในเมื่อมึงปิดปุ่มปิดไมค์ไว้เนี้ย” “อ้าวเหรอ พอดีกูไม่รู้” “ วู้ มึงนี่โง่ชิบหาย” ผมละอารมณ์เสียกับมัน คือผมรู้นะว่ามันต้องการแกล้งผม ผมเลยเดินออกมา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อไอ้หน้าหล่อมันรั้งแขนผมไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม