รินรดาบอกกับตัวเองได้ว่าคนอย่างหล่อนไม่เคยได้หนีใครอย่างนี้หรอก หล่อนไม่ใช่คนโง่ ไม่ใช่คนหงิม หากใครร้ายมาหล่อนก็ร้ายกลับ แต่กับคนพวกนี้หล่อนไม่อยากเห็นแม้แต่หน้าเนื่องจากคนพวกนี้ไม่รู้จักถูกผิด แม้จะเป็นฝ่ายถูกแล้ววีนใส่ก็คงถูกทำร้ายกลับมาอยู่ดี ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมีอิทธิพลบ้าอำนาจอย่างไม่มีเหตุผล เพราะทำให้อารมณ์หล่อนมัวหมองและพาลจะนึกถึงเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ทางที่ดีอยู่ทางใครทางมันเสียดีกว่า... เมื่อครู่หล่อนพอจะเห็นกลุ่มมาเฟียพวกนี้คุยกับพวกพนักงานโรงแรม ดูแล้วเห็นทางฝ่ายโรงแรมเหมือนพินอบพิเทากับกลุ่มพวกเขามาก นี่คงจะมาเข้าพักแล้วก็วางอำนาจบาตรใหญ่ให้คนพากันหมอบกราบแน่นอน... น่าสงสารคนในโลกนี้ที่รู้จักกับพวกเขาเสียจริง รินรดาคิดในใจก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดหนีไฟมา “เออ มีอะไรก็ว่ามา” เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายดังมาจากด้านล่างเมื่อรินรดาเดินมาถึงชั้นสองของบัน