ตอนที่ 1 ลูกหนี้ที่ตามหา
สนามบินสุวรรณภูมิ.....
ในเวลาบ่ายแก่ของคนที่เร่งรีบในการทำงาน ร่างสมส่วนบนรองเท้าส้นสูงก้าวขาออกมายืนรอรถอยู่บริเวณขาออกของสนามบิน ไม่นานรถที่เรียกไว้ก็ขับเข้ามาจอดตรงหน้า ภายใต้กรอบแว่นสีชานัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองออกไปไกล นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกลับมาหลังจาก 5 ปีผ่านไป
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการเดินทางมาถึงสถานที่จัดงานสำคัญ ที่เธอต้องเดินทางกลับมาประเทศไทยนั้นก็คืองานศพแม่ใหญ่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ร่างสมส่วนยืนอยู่หน้าวัดไม่ได้ย่างกรายเข้าไป เธอเพียงเอ่ยทักทายคนในกรอบรูปพร่ำบอกขอโทษและบอกคิดถึงที่มาเยี่ยมบ่อย ๆ ไม่ได้ มาวันนี้คนที่รับเลี้ยงและดูแลเธอกับน้องมาได้จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อทำธุระในการจัดการเรื่องค่างานศพโดยไม่ประสงค์ออกนามเสร็จก็เดินทางไปทำธุระที่ต้องจัดการต่อทันที
“สบายดีนะ” นี่คือเสียงทักทายแรกบนผืนดินไทย หญิงสาวในชุดสูททำงานคลี่ยิ้มส่งไปให้ผู้หญิงที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“อืม แม่ก็คงสบายดี”
“ก็ดีแหละมั้ง ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ”
“พิมจะไปยื่นข้อเสนอให้คุณมังกร”
“ไม่ต้องหรอก หนี้ก้อนนี้แกไม่ได้สร้างไม่ต้องมารับผิดชอบ”
“ถือว่าเป็นสิ่งเดียวที่พิมจะทำให้แม่ ขอบคุณที่ทำให้พิมเกิดมาค่ะแม้จะไม่ได้เลี้ยงพิมมาก็ตาม” พูดจบมือเรียวก็ล้วงเอาซองบางอย่างออกมาจากกระเป๋าก่อนจะวางไว้ตรงหน้ามารดาผู้อุ้มท้องเธอมาหลังคลอดก็ทิ้งเธอทันที “เลิกเข้าบ่อนเอาเงินนี้ไปทำทุนนะแม่ถึงมันจะไม่มากแต่มันก็เปิดร้านเล็ก ๆ ได้สบาย ๆ”
“พิม”
“หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมา ขอบตาเจ้ากรรมดันรื้นขึ้นมาจนได้ ว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้วเธอต้องไม่ร้องไห้กับมันอีก เดินเหม่อลอยรู้ตัวอีกทีก็มาถึงตึกสูงหลายสิบชั้น “นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย” เธอบอกกับตัวเองแบบนั้นที่จะชดใช้คำว่าลูกให้กับคนเป็นแม่
“ขอเข้าพบคุณมังกรค่ะ” เธอไม่มีเงินสิบล้านก้อนนั้นหรอก ตอนนี้มีแค่ล้านเดียวเธอจะลองเข้าไปพูดคุยขอผ่อนจ่ายเขาในสิบครั้ง ไม่รู้ว่าคนที่ชื่อมังกรนั้นเป็นคนมีชื่อเสียงเรียงนามแบบไหน แต่ที่รู้ ๆ คือเขาปล่อยเงินให้พ่อสิบล้านและพ่อก็เสียให้บ่อนเขาทั้งหมดคงจะมีอิทธิพลไม่มากก็น้อย เธอมาแบบไม่รู้ข้อมูลอะไรสักอย่างเพราะไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย
“ให้บอกว่าใครมาขอพบคะ?” ฝ่ายต้อนรับมองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอยู่หลายรอบจนกระทั่งยอมเอ่ยถามออกมา
“มาขอใช้หนี้ให้คุณนวลดีค่ะ” ยิ่งพอบอกออกไปแบบนั้นสายตาเย้ยหยันก็มองมาอย่างปิดไม่มิด ฉันถอนหายใจก้มหน้ารอฟัง
“ไปรอที่ห้องรับรองนะคะ เชิญทางนี้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” พริมาเอ่ยขอบคุณพร้อมกับเดินตามไปยังห้องที่ว่า
เมื่อมาถึงห้องผู้หญิงแต่งตัวดูดีมีภูมิฐานก็เดินมาบอกให้ฉันรออีกหน่อย เพราะคุณมังกรอะไรนั่นประชุมอยู่ ฉันก็คิดว่ามันก็ดีไปอย่างเพราะจะได้เตรียมใจเจอกับเจ้าหนี้รายใหญ่ของพ่อ เธอก็ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อแถมมันยังมาจากคนสองคนที่ตัดสินใจทิ้งเธอตั้งแต่ลืมตามาดูโลก แต่พอรู้ว่าเธอมีงานมั่นคงหน่อยผู้เป็นพ่อที่ฉันเคยเจอแทบนับครั้งได้กลับมาทวงบุญคุณ
‘แกไม่เอาเงินกลับมาช่วยฉันไอ้มังกรมันฆ่าฉันแน่’
พริมาได้แต่ทบทวนข้อความที่ถูกส่งข้ามประเทศมา เธอเบื่อนักกับวงการเจ้าพ่อ เดิมทีเธอก็ทำงานให้คนใหญ่คนโตและเงินนั้นดีไม่น้อยก็จริง แต่เธอพึ่งทำงานได้แค่ห้าปีหนี้สินที่ยืมเรียนมาและยืมตอนใช้ชีวิตเป็นนักศึกษา ไหนจะช่วยเหลือน้อง ๆ ที่บ้านเด็กกำพร้ามาตลอดตอนนี้มีเต็มที่ก็แค่สองล้านนิดๆ เธอตั้งใจเอาเงินหนึ่งล้านมาจ่ายให้คุณมังกรอะไรนั่นก่อน แต่เธอไม่ชอบชื่อนี้จัง ‘มังกร’ คงไม่ใช่หรอกนะโลกคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก พริมายิ้มเย็นให้กับความคิดไร้สาระของตัวเอง ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก...
“มาพร้อมเงินสิบล้านหรือเปล่า” เสียงเย็นยะเยือกดังมาจากข้างหลัง ร่างบางในชุดแสนธรรมดารีบลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหน้าไปมองเจ้าหนี้รายใหญ่ของพ่อ ไม่สิ ตอนนี้คงเป็นของเธอแล้ว
“สวัสดีค่ะฉันชื่อ...”
!!
ทั้งคนอยู่ก่อนและคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเลขาพลันชะงักกึกค้างไปทันที โดยเฉพาะคนที่บากหน้าหอบเงินน้อยนิดมาเพื่อผ่อนผันหนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเหมือนผีหลอกตอนกลางวัน เหมือนสวรรค์กำลังลงโทษเธออย่างหนัก ผิดกับอีกคนที่นิ่งไปแค่นิดเดียวใบหน้าเรียบนิ่งก็เปลี่ยนมาเป็นเหยียดยิ้มเย็นขึ้นมาทันที
ตามหาไปทั่วโลกดันไม่เจอ ถ้าจะเจอกลับมาเป็นลูกหนี้!
“ฉันชื่อพริมา มาขอผ่อนจ่ายหนี้ให้คุณนวลดีค่ะ” พยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่น และไม่สบสายตาที่มองมา
พรึ่บ!
“โอ๊ย!!”
“นังสารเลว!”
พริมาตกใจกับคำพูดคนตรงหน้าแต่ไม่คิดว่าสิ่งต่อมาที่เขาทำนั้นก็คือ
เขาจูบเธอ!
แบบซาดิสม์!
มือเล็กพยายามทุบไปตามตำแหน่งที่มือไปถึงและทุบมันอย่างแรง แต่แรงรั้งที่ท้ายทอยไม่สามารถทำให้เธอดิ้นได้ตามใจ เพราะกลัวคอจะหักเอา เขาไม่ได้จูบแบบอ่อนโยนแต่เขาทั้งกัดริมฝีปากเธอทั้งกัดลิ้นแบบไม่ให้เธอได้หายเจ็บ เขาบ้าไปแล้ว!
“อ่อยอ้ะ” (ปล่อยนะ) ใช้แรงทั้งหมดที่มีกำคอเสื้ออีกคนแล้วผลักออกสุดแรงเกิด เธอกลัวเขาจนมือไม้สั่นไปหมดแล้ว
“ทำไม จะบอกว่าไม่เคยเหรอทั้งที่ร่านขนาดนั้น”
“...” พริมาเงียบจะแอบเป็นไปได้ไหมถ้าเขาจำคนผิด แต่หน้าตาแบบนี้เธอกำลังหลอกตัวเองมากกว่า พี่มังกรจริง ๆ แต่ไม่ใช่พี่มังกรที่เคยรู้จัก “คุณอาจจำคนผิด...” พริมากลั้นใจพูดท่าทางนิ่งเฉยกับใบหน้านิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่นั้นมันทำให้เธอกลัวจนเกือบร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขาแล้วตอนนี้
“หน้าตาร่าน ๆ แบบนี้ทั้งโลกคงมีเธอคนเดียว” มันเจ็บจนเธอแอบจุก ทำไมเขาถึงได้ปากร้ายขนาดนี้ ต่อให้คิดแบบนั้นก็ไม่กล้าเถียงอะไรออกไปสักคำ “หน้าอย่างเธอคงมีหรอกสิบล้านที่ไอ้พลมันติดที่บ่อนฉัน” ร่างสูงใหญ่กว่าอีกคนหลายเท่าค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้จนเธอถอยติดกับอีกฝั่ง
“มี แต่ตอนนี้ฉันมีล้านเดียวคุณเอาไปก่อนฉันจะกลับไปเอามาให้” เธอยอมบากหน้าไปหยิบยืมผู้ใหญ่ดีกว่าต้องขายขี้หน้า
“ต้องจ่ายตอนนี้ไม่งั้นไอ้นั่นตาย!”
“ฉันชดใช้แน่ค่ะ แต่ฉันต้องการเวลาแค่อาทิตย์เดียว” อาทิตย์เดียวก็มากเกินพอที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้แล้ว
“ไอ้พลมันจะตายตั้งแต่เธอก้าวออกจากห้องนี้ มีทางเดียวจ่ายมาตอนนี้ จ่ายมา!!”
“ฮรึก คุณมังกรคะ ฉันขอเวลาแค่อาทิตย์เดียวฉันไม่หนีหรอกค่ะ” ทั้งที่พยายามแล้วพยายามกลั้นแล้ว แต่ท่าทางคนตรงหน้ามันน่ากลัวเกินไป ถ้าทำได้เธอแทบจะยกมือไหว้เขาแล้ว
“หึ ฉันเกลียดคนที่ไม่รักษาคำพูดที่สุด” ใช่ เกลียดมากเกลียดจนอยากบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้แหลกคามือตอนนี้ แต่นั่นมันจะไปสนุกอะไรล่ะ
ใบหน้าหล่อเหลายิ้มร้ายนัยน์ตาแดงก่ำแม้กระทั่งผู้ช่วยคนสนิทอย่าง ‘เจมส์’ ยังมองการกระทำเจ้านายอย่างงง ๆ ตั้งแต่จับผู้หญิงแปลกหน้าเข้ามาจูบ หรือทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน?
“มานอนแหกขาให้ฉันเอาสักเดือนหนึ่งสิ แค่เศษเงินสิบล้านฉันอาจจะยกให้เธอเลยก็ได้ ถ้าเธอใช้ประสบการณ์ที่หนีไปคั่วอยู่กับผู้ชายปรนเปรอให้ฉันมีความสุขได้”
ประโยคนั้นเหมือนน้ำเย็น ๆ สาดเข้าหน้าพริมาอย่างจัง เธอรับรู้ได้ถึงแรงเกลียดแค้นที่เขามีต่อเธอนั้นมันมากมายจนแสดงออกมาทั้งแววตาและสีหน้า
“มังกร!”
“ไอ้เจมส์แกกล้าปล่อยผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้เรียกชื่อเล่นฉันงั้นหรือ!” กริ๊ง! แกร๊ก เสียงปลดเซฟของกระบอกปืนลอยเข้าหู เธอรู้สึกว่ามันอยู่ใกล้มากแล้วก็จริงมันอยู่แค่บนหัวเธอนี่เอง “ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ อย่ามองฉันเหมือนอยากฆ่า น้ำหน้าอย่างเธอได้แค่คิด จำไว้!”