ตอนที่ 8 เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
ปั่ก! พ่อเลี้ยงมังกรมองกิ่งไม้ลอยมาตกอยู่ข้างเท้าอย่างงง ๆ ก่อนจะวิ่งไปตามตำแหน่งที่มันลอยมา
“พิม”
“พ่อเลี้ยงมังกร” ทันทีที่เขามาถึงตัวเธอคนที่กลัวจนขึ้นสมองดึงคอเสื้ออีกคนก่อนจะยื่นแขนไปโอบรอบคอเขาไว้ทันที “ฉันนึกว่าคุณจะทิ้งฉันจริง ๆ ฮรือ ๆ”
“แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” ไม่พูดเปล่าเขาช้อนร่างเล็กขึ้นมาอยู่ในวงแขนแกร่งพร้อมกับเดินเยื้องไปอีกทางลาดลงมาเพื่อที่จะได้ขึ้นมาบนถนนได้ เขาตกใจหมดนึกว่าโดนเด็กแว้นแถวนี้ลากไปแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องเบาใจลงขึ้นมาอย่างประหลาดตอนที่เห็นหน้าพริมา
“ตกใจเสียงรถคุณนั่นแหละค่ะ” ทันทีที่ตูดถึงเบาะก็ซี้ดขึ้นมาเสียงดังจนใบหน้าหล่อซึ่งโน้มตัวเข้ามาวางไว้บนเบาะนั่งเงยหน้าขึ้นมามอง บอกเลยว่าอายแต่มันเจ็บนี่นา “เลิกมองได้แล้ว” เธออดแขวะไม่ได้ไม่ได้ตั้งใจอ่อยอย่างที่เข้าใจหรอกนะ
“อยู่ดี ๆ ก็อยาก” ให้ตายเถอะซาตานตนนี้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
“นี่คุณ!”
“หึ” เขาเพียงจุดยิ้มมุมปากแล้วเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ
พริมาเหลือบตามองคนนั่งประจำตำแหน่งคนขับเขาไม่ได้พูดกับเธออีกจนมาถึงไร่สวนเดชา แล้วเขาก็เป็นคนอุ้มเธอเข้ามาในบ้านอีกด้วย
“ไม่ต้องหอบสังขารป่วย ๆ นี้เข้าไปในไร่ ไม่อยากให้คนมาตายที่นี่” เขาพูดจบก็เดินเลี่ยงออกไปเลย เอาเถอะถึงแม้จะปากร้ายไปหน่อยอย่างน้อยเธอก็รอดตายในคืนนี้ ทายาสักหน่อยพรุ่งนี้ก็คงทุเลาลงบ้าง เสียงรถยนต์วิ่งออกไปแล้วพ่อเลี้ยงมังกรคงกลับบ้านใหญ่ตามปกติ
บ้านริมน้ำแห่งนี้หลังไม่ใหญ่มากอีกอย่างคือแบบบ้านในฝันของหญิงสาวเลยก็ว่าได้ มันทั้งเรียบง่ายสะอาดตาและบรรยากาศดี รอบ ๆ มีแปลงดอกไม้นานาพันธุ์แถมยังมีธารน้ำทอดยาวไปจนถึงบ้านติดลมมีศาลาเล็ก ๆ ให้นั่งเล่นหลายจุด และมีโรงนาเก็บผลผลิตของที่ไร่อีกด้วย
“อ้าวหนูพิม ไม่เจ็บแล้วเหรอคะ” พริมารดน้ำดอกไม้อยู่วางสายยางแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้คุณแม่บ้าน “พ่อเลี้ยงมังกรบอกว่าคุณเจ็บตัวระหว่างนี้ป้าจะทำงานบ้านแทนเองค่ะ”
“ป้าจะกลับมาอยู่ที่นี่กับพิมแล้วใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างตื่นเต้นบ้านพื้นที่กว้างขวางเธออยู่คนเดียวมาหลายวันแล้วบอกเลยว่าถึงมันจะสวยแต่มันก็เงียบเกินไป เธอก็กลัวอยู่หน่อย ๆ
“จ้า งั้นเช้านี้ป้าทำข้าวต้มกุ้งให้นะคะ”
“ป้าทำงานของป้าเถอะค่ะพิมดูแลตัวเองได้จริง ๆ นะ” แม่บ้านที่ใช้ชีวิตมาค่อนชีวิตแล้วมองดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ของเจ้านายนั้นไม่ได้เลวร้ายเลย เธอออกจะน่าสงสารที่มาเจอพ่อเลี้ยงมังกรในเวอร์ชันร้ายกาจเหมือนปีศาจสิงร่างแบบนี้ คำวัยรุ่นสมัยนี้เธอใช้ถูกรึเปล่าหนอ
“ได้ไงล่ะ ดูแลผู้หญิงของพ่อเลี้ยงมังกรนั่นก็หน้าที่ป้านะ”
พริมายิ้มแหยเธอไม่ใช่คนที่จะมาเป็นนายหญิงที่นี่สักหน่อยแค่มาอยู่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นคนรุ่นลูกเอาแต่ยิ้มหน้าเศร้าเลยปลีกตัวไปทำงานของตัวเองบ้าง สักวันแม่หนูคนนี้จะรู้เองว่าพ่อเลี้ยงไม่ได้เป็นแบบนี้กับคนอื่นเลย
ในขณะที่พนักงานหลายชีวิตยืนตัวสั่นก้มหน้าน้ำตาลูกผู้ชายคลอเบ้า พ่อเลี้ยงมังกรเดินสำรวจความเสียหายจากค่ำคืนที่ผ่านมาแค่คืนเดียวพวกโจรสามารถทำลายพืชผลของเขาได้ครึ่งเฮาส์ใหญ่
“ต้องมีคนในเป็นหนอนแน่ ๆ ครับ” บวบมองส่วนที่เสียหายได้แต่กำหมัด ที่นี่มีเวรยามตลอด 24 ชั่วโมงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนนอกจะเข้ามาได้
“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แถมยังเป็นคนในที่รู้จักมุมกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี” เจมส์เตะดินใกล้ตัวเองอย่างหัวเสีย ใครกันที่กล้าหักหลังทั้งที่พ่อเลี้ยงมังกรไว้เนื้อเชื่อใจขนาดนี้
“เรื่องนี้อย่าให้แพร่งพรายออกไป ส่วนพวกเวรเมื่อคืนไล่ออกให้หมด” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้น ร่างสูงเดินไปดูผลผลิตที่ไม่โดนยาฆ่าแมลงก็มีหนอนมากัดกินใบจนหมด มือหนากำเข้าหากันแน่นหน้าตาดูน่ากลัวจนไม่มีใครกล้าเข้ามาอยู่ในระยะสายตา
“พ่อเลี้ยงมังกรครับฝนจะตกแล้วพ่อเลี้ยงกลับไปก่อนเถอะครับ” บวบทำงานกับพ่อเลี้ยงมังกรมาหลายปีรู้ว่าเจ้านายนั้นมีนิสัยใจคออย่างไรเหตุการณ์ครั้งนี้คงไม่จบง่าย ๆ
ทั้งสามเดินออกมาจากเฮาส์ใหญ่คนงานยืนคอตกอยู่ไม่ไกลเมื่อรู้ว่าพ่อเลี้ยงมังกรเดินออกมาหัวใจยิ่งกระหน่ำเต้น
“ใครที่มันเป็นเวรยามเมื่อคืนไล่ออกให้หมด”
คนงานหันไปสบตากันหน้าเหลอหลาไม่คิดว่าจะโดนไล่ออกแบบนี้ พวกเขาไม่น่าหักหลังพ่อเลี้ยงเลย ความใจดีไม่สามารถมอบให้คนที่กล้าหักหลังพ่อเลี้ยงจริง ๆ นั่นแหละ
“เออ ออกก็ออกสิว่ะคิดว่าแน่นักเหรอก็แค่พ่อเลี้ยงที่ชอบเผด็จการไม่เคยฟังคำพูดของใครหน้าไหนนอกจากความคิดของตัวเองต้องเป็นใหญ่ คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกหรือไงหะ!!”
“ไอ้ชาติ มึงกล้ามากนะ” เจมส์ปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อคนงานที่ชื่อชาติด้วยความโมโห มันกล้าดียังไงมาด่าว่าเจ้านายที่ให้ที่ซุกหัวนอนให้งานมัน ไม่รู้จักบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนยังมาทำปากดีวอนตีนอีก
“เออ กูจะออกเดี๋ยวนี้!” หันไปเหยียดยิ้มให้ ‘อดีต’ เจ้านายก่อนจะสะบัดตัวออกไปด้วยความโมโห
พ่อเลี้ยงมังกรมองคนงานซึ่งเดินออกไปโดยไม่หันมามองด้านหลังสักนิดเขาคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ปกติอย่างแน่นอน
“พ่อเลี้ยงกลับไปก่อนเถอะครับ ผมจะให้คนตรวจสอบทีหลัง” เจมส์ที่เป็นมากกว่าผู้ช่วยเหมือนพี่น้องที่โตมาด้วยกันมักจะรู้ว่าพ่อเลี้ยงต้องจัดการเรื่องนี้ยังไง แต่เพียงเพราะตอนนี้พ่อเลี้ยงคงจะยังสะเทือนใจแล้วกักเก็บอารมณ์โมโหอยู่ กลัวว่าระเบิดจะไปลงที่ไร่ฝั่งตรงข้ามนี่แหละ เขากับไอ้บวบจึงควรพูดหว่านล้อมให้เจ้านายไปสงบสติอารมณ์ก่อน
“อืม รีบตรวจสอบ”
“ครับผม” หลังจากพ่อเลี้ยงมังกรขับรถออกไปแล้ว เจมส์จึงหันไปมองไอ้บวบซึ่งแสดงสีหน้าโมโหจัดออกมาได้ดีทีเดียว “ไปไอ้บวบเราต้องผดุงคุณธรรมให้พ่อเลี้ยงมังกร”
“ไป!!”
“นี่เขาเรียกว่าตลาดใหญ่ตีนเขา ถ้าอยากมาก็ขอให้พ่อเลี้ยงพามานะ”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ” พริมายิ้มเหย
วันนี้เธอมีโอกาสติดรถป้านิดลงมาช่วยป้าถือของเพราะเห็นว่าต้องทำอาหารต้อนรับคนที่มาจากเมืองกรุงเธอเลยอาสาเป็นลูกมือเพราะยังไงเธอก็เข้าไร่ไม่ได้อยู่บ้านเฉย ๆ คงน่าอึดอัดแย่ “ได้ของครบแล้วเรารีบกลับกันดีกว่าค่ะฝนตั้งเค้ามาแล้ว” สองสาวต่างวัยเงยหน้ามองท้องฟ้าจึงเห็นเมฆสีดำปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าในตอนนี้
“งั้นก็กลับกันเถอะค่ะ ขอบคุณที่อาสามาช่วยนะคะ ปกติป้าจะมากับนังส้มจิ้ดวันนี้มันมีสอบน่ะค่ะ” ป้านิดคลี่ยิ้มอบอุ่นให้หญิงสาวรุ่นลูก
พริมาพยักหน้ารับคงหมายถึงเด็กสาวที่เจอหน้าเธอไม่กี่ครั้งแต่แยกเขี้ยวขู่ฟ่อ ๆ ใส่เธอเหมือนแม่งูน้อย เจอหน้าเธอทีไรเหมือนไม่กินเส้นกันมาสิบปีเห็นจะได้ พริมายิ้มรับก่อนจะช่วยกันขนของช่วยกันขึ้นหลังกระบะ โดยมีคนในไร่ขับรถมาส่งและแวะมารับ
ในระหว่างทางกลับบ้านป้านิดสังเกตหญิงสาวเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ สายตาเหมือนคนหวงใยใครสักคนอยู่หรือคิดอีกแง่เหมือนผู้หญิงของนายกำลังคิดถึงใครอยู่ สายตาอ่อนโยนมองแล้วเหมือนผูกพันเหมือนกำลังคิดถึงคนในครอบครัวอยู่ เธอก็เป็นมนุษย์ต้องมีครอบครัวอยู่ที่ไหนสักที่ให้คิดถึงนั่นแหละ ป้านิดวางมือนุ่มลงบนต้นแขนของหญิงสาวเบา ๆ ทำให้อีกคนสะดุ้งเล็กน้อยและมองมาที่เธอ ป้านิดจึงขยับยิ้มอบอุ่นส่งไปให้ ผู้หญิงคนนี้ดูยังไงก็ไม่มีพิษไม่มีภัยทำไมกลายมาเป็นอริของพ่อเลี้ยงมังกรได้กันนะ
“ชอบบรรยากาศที่นี่ไหมคะ?”
“ชอบค่ะ”
“งั้นก็อยู่นาน ๆ เลยนะคะ”
พริมาสบตาตรง ๆ ไม่ค่อยเข้าใจความนัยประโยคเมื่อครู่สักเท่าไหร่ แต่ป้านิดคล้ายจะไม่เอ่ยสิ่งใดต่อเลยกลายเป็นเธอต้องครุ่นคิดหาคำตอบเอาเอง