บทที่ 5 แก้แค้นเมียบนเตียง NC (1)

1266 คำ
คนป่วยหรี่ตาจับผิดสามีพลางกลอกตาไปมาระหว่างใช้ความคิด ไม่รู้ว่าควรบอกเขาดีไหม ถ้าบอกแล้วโดนสามีฆ่าด้วยวิธีนี้จะทำอย่างไร แต่สุดท้ายเธอก็ยอมบอกเพราะคิดว่า คนอย่างออร์ดี้ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น ถึงขั้นฆ่าคนตายเขาคงไม่ทำหรอก “บอกก็ได้ มันต้องเล่าเรื่องนี้ก่อนค่ะ ตอนเรียนอยู่ปีสามช่วงปิดเทอมใสขอแม่ไปอยู่กับเพื่อน ไปทำงานหาเงินค่าขนม มีอยู่วันหนึ่งตอนนั้นกำลังจะซักผ้า ไม่รู้ทำอีท่าไหนผงซักฟอกกระเด็นเข้าตา ใสรีบเอาน้ำล้างจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มองเห็นดีทุกอย่าง แต่ผ่านไปหลายวันใสเริ่มรู้สึกปวดตา ปวดแบบปวดมาก มันรู้สึกแสบ ๆ ด้วย ใสเลยลางานไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นตาอักเสบ ติดเชื้อต้องกินยา เขาให้ยาฆ่าเชื้อกลับมากิน แต่คุณออเชื่อไหม พอตื่นมาในเช้าของอีกวัน ใสเห็นฝ่ามือตัวเองผิดปกติ มันมีเหมือนตุ่มน้ำใสอยู่ข้างใน ปากก็แตก ใสคิดว่าต้องเกี่ยวกับยาแน่เลยไปหาหมออีกครั้ง” “แล้วหมอว่าไง ให้หยุดยาไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงสงสัย คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน อดจินตนาการสภาพของภรรยาตอนนั้นไม่ได้ เธอคงทรมานน่าดูเลย “หมอก็ถาม ๆ ถามนั่นถามนี่ แต่เป็นคนละคนกับที่ตรวจเมื่อวันแรก สุดท้ายหมอบอกเป็นโรคอะไรก็ไม่รู้ มือเท้าปากมั้งถ้าจำไม่ผิด” เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาผ่านไปหลายปีแล้ว เธอจำตอนที่หมอตรวจได้ไม่แม่น ไม่เหมือนตอนป่วย “มือเท้าปากที่เกิดในเด็กเหรอ” “ค่ะ โรคนั่นแหละมั้ง ใสจำได้ หมอบอกว่า ไม่น่าจะเป็นโรคนี้ แต่ผู้ใหญ่ก็มีโอกาสเป็น หมอให้กินของเย็น ๆ ให้ยาฆ่าเชื้อมากิน เป็นอีกตัวแต่อยู่ในกลุ่มเพนิซิลลินเหมือนกัน แต่มิลลิกรัมมันเยอะกว่า ใสจำไม่ได้เท่าไหร่ ใสกลับมาตอนเที่ยงกินยาเสร็จก็นอน พอตื่นมาอีกทีช่วงเย็นเห็นตัวเองมีผื่นเต็มหน้าเลย แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพราะโรคเลยไม่ได้เอะใจว่าแพ้ยา” เธอจำได้ว่าตอนนั้นกังวลใจมาก แอบคิดว่าไม่น่าจะใช่โรคที่หมอบอก แต่เธอเลือกที่จะเชื่อหมอเพราะเขาคือหมอ มันก็เป็นไปได้ที่หมอจะวินิจฉัยโรคผิดเนื่องจากอาการใกล้เคียงกันมาก “แล้วมารู้ตอนไหนว่าแพ้ยา” ออร์ดี้ถามต่อ “พอวันต่อมา ใสกินอะไรไม่ได้เลย บ้วนปากก็มีเลือดออก ปากแตก รู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ยังคิดว่าเป็นเพราะโรค คืนนั้นก็นอนไปแบบนั้น นอนไม่หลับทั้งคืน กลืนน้ำลายก็ไม่ได้เจ็บคอ นอนน้ำลายยืด ต้องเอาผ้ามารอง เพื่อนก็ไม่อยู่ไปหาแฟน จนกระทั่งเช้าของวันต่อมา ใสทนไม่ไหว ใสเลยไปหาหมออีกครั้ง ใสคิดว่าจะให้หมอจ่ายยาแก้ปวดเพราะมันทรมานมาก แต่ทันทีที่หมอเห็นสภาพ หมอก็พูดว่านี่คืออาการของคนแพ้ยา เขาเรียกว่า สตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม จากนั้นก็วุ่นวายเลยค่ะ หมอให้แอดมิต ใสต้องโทร.บอกแม่ กว่าแม่จะมา กว่าจะได้ห้องพัก นั่งรถเข็นไปหาหมอตา ไปหาหมอผิวหนัง ไข้เริ่มมา ใสยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี โคตรทรมาน ปากพูดแทบไม่ได้ มันไหม้ไปหมด ตาก็มองแทบไม่เห็น แบบเห็นเลือนรางมาก ผื่นขึ้นเต็มหน้าเต็มตัว กลัวจะไม่หายสุด ๆ กลัวจะไม่ได้ไปเรียน โชคดีที่หายป่วย แผลไม่ตกสะเก็ด ผื่นไม่คัน หนักสุดเป็นเรื่องของดวงตา ยังมีปัญหาถึงทุกวันนี้” “ตอนนั้นฉันไม่อยู่เหรอ ฉันไปไหน” “คุณอออยู่ต่างประเทศค่ะ” “ถึงว่าฉันไม่รู้เรื่องนี้ ต่อไปจะกินยาอะไรก็ระวังหน่อยแล้วกัน” “ห่วงใสเหรอคะ กลัวใสตายว่างั้น” “ไม่ได้ห่วง แต่ไม่อยากให้เธอตายตอนนี้ จนกว่าฉันจะแก้แค้นเธอสำเร็จ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีแววล้อเล่น ทั้งน้ำเสียงและแววตาทำให้พรนับพันรู้สึกกลัวไม่น้อย แต่ต้องทำเป็นไม่กลัวจึงหันไปจ้องหน้าสามีที่กำลังมองมาราวกับเสือจ้องเหยื่ออย่างคนไม่ยอมคน บอกตรง ๆ ถ้าเอาแจกันที่อยู่บนโต๊ะฟาดหัวเขาได้ เธอทำไปแล้ว คนอะไรน่าหมั่นไส้เหลือเกิน พรนับพันได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากพักรักษาตัวอยู่สามวันสองคืน หมอกำชับเรื่องอาหารการกิน เรื่องความเครียด เรื่องการดูแลตัวเอง เธอลางานมาสามวันแล้วจึงตั้งใจจะกลับไปทำงานพรุ่งนี้ แต่ออร์ดี้ไม่อนุญาต ทำให้สองผัวเมียมีปากเสียงกัน พรนับพันไม่สนใจฟังคำสั่งของสามีที่บอกให้พักผ่อนอีกหนึ่งถึงสองวันแล้วค่อยกลับไปทำงาน ทำไมเธอต้องฟัง? ออร์ดี้ไม่ใช่เจ้านายเสียหน่อย เป็นแค่สามีตามทะเบียนสมรสไม่ใช่หรือ เขาพูดเองเธอจำได้ดี “ใสยืนยันคำเดิม พรุ่งนี้ใสจะไปทำงาน” หญิงสาวลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟาก่อนจะเอามือกอดอกตอบกลับสามีด้วยน้ำเสียงไม่ยอม เขาไม่มีสิทธิ์มาสั่งเธอ แววตาดื้อรั้นของภรรยาทำให้สามีรู้สึกโกรธไม่น้อย ที่เขาห้ามเพราะอยากให้เธอนอนพักอีกสักวัน ถ้าเจ้านายจะไล่ออกก็ไล่เลย เดี๋ยวเขารับเมียเข้ามาทำงานเอง “แต่เธอยังไม่ค่อยสบาย พักอีกวันสองวัน มันจะเป็นอะไรไป” “ไม่เป็นอะไรได้ยังไง ลานานขนาดนี้โดนไล่ออกกันพอดี” “ออกก็ออกสิ ผัวของเธอไม่มีบริษัทหรือไง ที่บริษัทของฉันตำแหน่งเยอะแยะ” “แต่ใสจะทำงานที่บริษัทคุณพอร์ช งานดี เจ้านายดี สำคัญสุด เงินดี” “ทำไมถึงดื้อแบบนี้ ฉันเป็นผัวเธอนะสดใส” “ก็แค่ผัวตามทะเบียนสมรส อย่าอินนักเลยค่ะ” “อยากให้ฉันเป็นผัวบนเตียงด้วยว่างั้น” ชายหนุ่มขยับเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวก่อนจะใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า ว่าไปแล้วเขาไม่เคยทำหน้าที่สามีบนเตียงเลยหลังจากแต่งงาน เห็นทีต้องทวงคืนแล้ว “แล้วถ้าใช่คุณออจะยอมไหมล่ะคะ หึ ๆ ไม่สินะ” เธอคิดว่าเขาไม่กล้าถึงได้เอ่ยอย่างท้าทาย ชายหนุ่มถึงกับหลุดยิ้มออกมา แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองต้องถอยหลังไปอีกก้าว “ใครบอก คืนนี้เลยแล้วกัน ฉันพร้อมมาก” เอ่ยจบคนตัวโตก็เดินไปอุ้มภรรยาขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนทำให้หญิงสาวส่งเสียงร้องด้วยความตกใจพลางดิ้นเพื่อให้เขาปล่อย “ว้ายยยยย คุณออปล่อยใสเดี๋ยวนี้นะ ใสบอกให้ปล่อย” “ปล่อยแน่ แต่ปล่อยบนเตียง” คนอยากแก้แค้นเมียไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหญิงสาวเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียงอย่างไม่เบานัก จากนั้นก็กระโดดขึ้นคร่อมตัวเธอด้วยความไว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม