ผู้ติดตามคนใหม่…5/3

774 คำ
เช้าวันต่อมา อินทวิชญ์ไปเล่นกับหลานชายที่บ้านตามที่บอกไว้ ทั้งสองลงเล่นน้ำด้วยกันที่สระว่ายน้ำอย่างสนุกสนานโดยมีอินทิรานั่งมองที่ขอบสระหัวเราะไปกับน้าหลาน ชายหนุ่มวางความคิดทั้งหลายลงเพื่ออยู่กับหลานชายตัวน้อยที่เขารักที่สุด “ว่ายมาเลยโฟล์ก เร็วเข้า ว่ายมา ฮ่า ๆ” อินทวิชญ์พาหลานชายที่สวมปอกแขนชูชีพไปปล่อยไว้กลางสระเพื่อให้ว่ายมาหา “น้าอวิ๋นขี้โกง อย่าหนีโฟล์กสิ อยู่เฉย ๆ ห้ามว่ายหนี” เด็กชายใช้สองแขนและสองขาตีน้ำว่ายไปหาน้าชายที่ว่ายหนีไปเรื่อย ๆ อย่างสนุกจนเหนื่อยแล้วมาเกาะขอบสระ “นี่ เราก็ว่ายน้ำได้แล้ว ไม่ต้องใส่ปลอกแขนแล้วมั้ง ถอดออกดีมั้ยครับ” เขาเสนอ เด็กชายก็พยักหน้ารีบตอบ “โฟล์กก็อยากถอดครับ” มันช่วยให้ไม่จมก็จริง แต่ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้อย่างใจนัก “มะ ถอดออกดีกว่า” ความจริงเด็กชายหัดว่ายน้ำตั้งแต่ขวบกว่าจนถึงตอนนี้สี่ขวบก็สามารถว่ายน้ำในสระได้เองแล้วแต่เพื่อความปลอดภัยก็ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย และเพื่อความไม่ประมาทก็ต้องสวมปลอกแขนทุกครั้งอินทวิชญ์ถอดปลอกแขนให้หลาน “พร้อมมั้ย” “พร้อมครับ” ตู้มมม... น้าหลานกระโดดลงน้ำพร้อมกัน ก่อนจะโผล่ขึ้นมาหัวเราะเอิ้กอ้าก “เอาอีก ๆ” “ได้เลยไอ้หนู” สองน้าหลานเล่นกันจนเหนื่อยจึงขึ้นมานั่งพัก อินทิราเช็ดตัวให้ลูกชาย ระหว่างนั้นซิ่วหลินก็เดินออกมา “สนุกใหญ่เลยใช่มั้ยครับหลานยาย” “สนุกมากครับ” เด็กชายตอบแล้วก็หัวเราะ ซิ่วหลินจึงหันไปพูดกับลูกสาวว่า “ระหว่างรอเปิดเทอม แม่ว่าให้โฟล์กไปเรียนร้องเพลง เรียนดนตรีก่อน หรือจะเรียนพิเศษภาษาเพิ่มก็ดีนะลูก โตไปยังไงก็ต้องใช้ ดีมั้ยครับโฟล์กหลานยายจะได้เก่ง ๆ ไงครับ อยากเรียนอะไร ดนตรีมั้ยลูก” “โฟล์กอยากเล่นกับน้าอวิ๋นครับคุณยาย” “โถลูก ยังไงก็ได้เล่นกับน้าอวิ๋นทุกวันอยู่แล้ว เรียนเสร็จกลับมาก็ได้เล่น” “แต่โฟล์กอยากอยู่กับน้าอวิ๋นทั้งวันเลย” ว่าแล้วเจ้ารถเต่าก็วิ่งเข้าไปแทรกตัวอยู่ระหว่างขาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ เขารวบร่างนั้นขึ้นมานั่งตักทันที ในขณะที่ผู้เป็นยายทำหน้าเหนื่อยใจ “แต่ยายอยากให้โฟล์กเรียนดนตรี เหมือนคุณตาไง คุณตาของโฟล์กเล่นกีตาร์เก่งแล้วก็เท่มากเลยรู้มั้ย” เด็กชายทำหน้ายู่ แหงนมองหน้าน้าชายอย่างขอความช่วยเหลือ อินทิราถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นว่า “อย่าเพิ่งให้โฟล์กเรียนอะไรเลยค่ะคุณแม่ หนูอยากให้ลูกได้เล่นไปตามวัยก่อน ไม่อยากบังคับ” “เอ้า แล้วแบบนี้เปิดเทอมไปจะตามเด็กคนอื่นทันได้ยังไง รู้มั้ยว่าลูกคนอื่นเขานอกจากเรียนแล้วยังมีความสามารถพิเศษอื่นอีกตั้งหลายอย่างนะ แม่ว่าเริ่มเรียนตั้งแต่เล็กจะดีกว่า” “ผมเห็นด้วยกับพี่อวี้นะครับ อย่าเพิ่งให้โฟล์กเรียนอะไรมากเลย เด็ก ๆ เรียนรู้จากการเล่นแล้วมีผู้ใหญ่คอยแนะจะดีกว่า” อินทวิชญ์ที่นั่งฟังอยู่เอ่ยขึ้นบ้าง ซิ่วหลินถอนหายใจค้อนลูกทั้งสองอย่างขัดใจ “เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะสองพี่น้อง แม่ไม่มีความหมายแล้วสิ” “โถ คุณแม่ครับใครจะคิดแบบั้น” ขณะที่สามแม่ลูกคุยกันยังไม่จบเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ตโฟนของอินทวิชญ์ก็ดังขึ้น เป็นนิ่มอนงค์ที่โทร. มา มือหนาหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย ทว่าสีหน้าเรียบเฉย “ครับน้องนิ่ม” “พี่อวิ๋นแผลเป็นไงบ้างคะ นิ่มเป็นห่วง” เขาหลุบสายตามองปลาสเตอร์ที่ติดไว้กลางฝ่ามือแล้วตอบเสียงนุ่ม “อ๋อ ไม่เป็นไรแล้วครับ” “แล้ววันนี้พี่อวิ๋นว่างมั้ยคะ นิ่มอยากชวนออกมาหาอะไรทานแล้วก็เดินเล่นที่อัคราด้วยกันค่ะ” คำขอนี้ส่งผลให้ดวงตาคมตวัดมองหน้ามารดาและพี่สาว ก่อนจะก้มมองศีรษะทุย ๆ ที่ขยับยุกยิกอยู่ในผ้าเช็ดตัวที่คลุมอยู่ ในฐานะคู่หมั้นที่แสนดี เขาควรจะออกไปเจอแฟนสาวไม่ใช่หรือ “ครับ” ^ ^ ^ ****โปรดติดตามตอนต่อไปนะค้า สุขสันต์วันลอยกระทงค่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม