คนของเขานำฉันไปที่ห้องเดิม ห้องที่ตอนนั้นฉันโดนกระทำเกือบจะตายให้ได้ ประตูเปิดขึ้นสองเท้าของฉันก้าวเข้าไปก็เห็นร่างสูงกำลังยืนอยู่ตรงระเบียงกระจก สายตาทอดมองไปที่สนามแข่งรถที่กำลังแข่งกันอยู่ ร่างกายเปลือยเปล่าท่อนบนมีแต่รอยสัก คิ้วของฉันขมวดเข้าหากันเนื่องจากรอยแผลเป็นตามลำตัวที่กลืนไปกับรอยสักมันเด่นชัดมาก
หรือว่า... ทำร้ายตัวเอง?
แค่นี้หัวใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้น ฉันทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ ฉันเคยเห็นร่างกายของพี่กร เขาเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแกร่ง สมบูรณ์ ผิวขาวเนียน แต่ทว่าตอนนี้ถูกกลบไปด้วยรอยสักและรอยแผลเป็น จากการกระทำของฉัน ใบหน้าหล่อหันมามองฉันที่สะดุ้ง
“ไง มานี่”
“นาราต้องมาค่ะ ไม่งั้นพี่กรจะทำร้ายคนที่ไม่รู้เรื่อง”
“หมายถึง... ไอ้ภู”
“พี่กร รู้จักเหรอคะ?” ไม่สิ ถามแบบนี้ไม่ได้ เพราะอิทธิพลของเจ้าสัวอินทรีพ่อของเขา รู้ทุกอย่างแค่เพียงกระดิกนิ้วประวัติของคนที่เขาอยากรู้ก็มาอยู่ในมือแล้ว
“คนนี้แก่ไม่มาก แถมยังดูดีด้วย... คงสมใจ”
“นาราไม่ได้คิดอะไรกับคุณภูแบบนั้น”
“เลิกทำตัวตอแหลกับฉันสักทีเหอะ เห็นแล้วจะอ้วกว่ะ!” พี่กรตะคอกฉันก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่ม เขาเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย “เดี๋ยวฉันจะแข่งรถ เธอ... ต้องไปกับฉัน”
“เอ๋? ตะ แต่ว่าพี่กร พี่ก็รู้ว่านารา...”
“รู้อะไร เรื่องอะไรของเธอ? ฉันไม่เคยจำ”
“!”
“จำอย่างเดียวคือสิ่งที่เธอทำไว้กับฉัน นอกนั้น ลืมไปหมดล่ะ” ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก มือสั่นไปหมดที่มองสบตากับเขา ริมฝีปากเหยียดตรงมองฉันอย่างสมเพช
“กลัวหรือไง? ไหนเธอบอกว่าไม่กลัวฉัน ไม่ใช่หรือไง”
“ตะ แต่ว่าเรื่องแข่งรถ...”
“เอาน่า ฉันไม่ให้เธอตายหรอก และฉันก็ไม่ตายพร้อมเธอด้วย” พี่กรลุกขึ้นหยิบแจ็กเก็ตสีดำมาสวมทับก่อนจะรูดซิปขึ้น เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน พร้อมกับฝ่ามือแกร่งที่บีบปากฉันอยู่จนเจ็บไปหมด
“แต่เธอต้องกระอักตาย นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ มา!”
“อึก พะ พี่กร นาราไม่ไป! พี่กร ได้โปรด”
ไม่นะ... อย่าทำกับฉันแบบนี้
อะไรก็ได้พี่กร พี่จะทำอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่พาฉันไปแข่งรถด้วย ฉันกลัว... ฉันกลัวจริงๆ
-NARNA TALK END-