XXX KINDEL :: CHAPTER 1 [30%]

1894 คำ
-NARA TALK- ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่ร้านอาหารหลังจากวันนั้นที่เจอเขาคนที่ฉันรัก พี่กรหรือมังกร เขากำลังทำในสิ่งที่เคยประกาศเอาไว้คือการเอาคืนฉันทุกวิถีทาง ตอนนี้เหลือแค่ฉันเท่านั้นที่เป็นเหยื่อคนสุดท้าย เพราะเขาได้ทำลายพี่ขุนทัพและแก้มยุ้ยไปแล้ว แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากทำให้ทั้งคู่ต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องของตัวเองอีกแล้ว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะฉัน... ถ้าพี่กรจะโกรธ จะเกลียด จะแค้น ก็ขอให้เขามาลงที่ฉันเถอะ ฉันยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อแล้ว ฉันผิดเองที่ขี้ขลาดเกินกว่าจะพูดความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง เพียงเพราะว่ากลัวพ่อกับแม่ที่บังคับให้ฉันหาผู้ชายรวยๆ แต่งงานเพื่อยกระดับของตัวเอง จนต้องทำผิดกับคนที่ตัวเองรักมากที่สุด ที่ฉันขอความช่วยเหลือพี่ขุน เพราะฉันขี้ขลาดเกินกว่าจะไปบอกพี่กร ฉันมันอ่อนแอที่ทำให้ทุกคนพลอยเดือดร้อนกับเรื่องนี้ เรื่องที่ทุกคนไม่ได้ก่อ เพราะฉันคนเดียวจริงๆ พี่ขุนคอยเตือนฉันและบอกเสมอว่าให้พูดความจริงกับพี่กร แต่เป็นฉันที่ไม่กล้าพอ ทำให้เรื่องบานปลายจนทำให้พี่ขุนโดนซ้อมปางตายและพี่กรก็หายสาบสูญไป ใช่ว่าฉันจะมีความสุข ใช่ว่าฉันจะไม่เสียใจ... ฉันทนทุกข์ทรมานที่ทำให้พี่กรและพี่ขุนต้องทะเลาะกัน และผลสุดท้ายต้องจบลงด้วยการเลิกราต่อการเป็นเพื่อน ถ้าพี่กรต้องการแก้แค้นฉันเพื่อให้ฉันทุกข์ทรมาน ตอนนี้ฉันเป็นแล้ว เป็นเพราะว่าพี่กรเลิกรักฉัน มันก็สมควรแล้วที่เขาจะเลิกรักคนอย่างฉัน ผู้หญิงที่ทำให้เขาต้องเจ็บ ต้องเสียใจ มันสมควรแล้วจริงๆ “คุณนาราเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” “ปะ เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” ฉันยิ้มให้กับคุณภู เขาเป็นไฮโซเจ้าของร้านเครื่องเพชรที่อายุห่างกับฉันหกปี เขาอายุสามสิบปี ที่เราสองคนรู้จักกันไม่ใช่เพราะว่าพ่อกับแม่ฉันยัดเหยียดเขาให้ แต่ว่าฉันเคยสวมเครื่องเพชรเขาเดินงานพรมแดงมาก่อน ทำให้แบรนด์เพชรของเขาขายดีติดอันดับ หลังจากนั้นก็สนิทกันจนถึงตอนนี้ “แต่สีหน้าคุณดูแย่มากๆ” “เหรอคะ สงสัยจะเป็นแบบนั้น” เขาถอนหายใจออกมา เขารู้เรื่องที่ฉันควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้าและฉันก็ไม่เคยบอกเขาเรื่องนี้ด้วย ไม่อยากให้ใครต้องมาสมเพชเวทนาตัวเองหรอก “วันก่อนผมเห็นคุณกิตติไปหาคุณ” “ค่ะ เขามาชวนนาราไปทานข้าว แต่นาราปฏิเสธไป” แถมยังเสียเงินให้กับเขา เพราะพ่อกับแม่ไปเอาเงินของเขามาใช้ ตอนนี้ฉันเหลือเงินแค่ไม่มากเท่าไหร่ จำต้องทำงานทุกวันเวลา “คุณทำงานหนักไปหรือเปล่าช่วงนี้?” “ไม่นี่คะ ปกติทุกอย่าง” คุณภูถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เขาเพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอกเพราะต้องไปดูเครื่องเพชร พอลงเครื่องปุ๊บก็นัดฉันมากินข้าวด้วยกันเลย “สีหน้าและน้ำเสียงคุณดูไม่ค่อยมั่นใจ” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะมองตรงไปที่ประตูร้านอาหาร เห็นร่างสูงที่คุ้นตาเดินควงแขนมากับหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยมาก ใบหน้าหล่อคม ผมสีดำที่ไถข้าง รอยสักรูปมังกรที่เด่นชัด สายตาของเขากวาดมองไปทั่วเพื่อหาโต๊ะอาหาร กระทั่งเขาสบตากับฉันด้วยสีหน้านิ่งเฉย ยกยิ้มเดินตรงมาหาฉันที่หลบสายตาทันที “ไง เหยื่อรายใหม่เหรอ?” “ใครเหรอนารา” พี่กรมองฉันด้วยสีหน้าสมเพช “คนนี้ดูดีนะ ไม่เหมือนคนก่อน แก่ไปหน่อย... อ่อมีเมียอยู่แล้วด้วย ใช่ไหม?” ฉันไม่พูดตอบโต้อะไรเขา เงยหน้าสบตาพี่กรที่ยืนยิ้มพร้อมกับกอดคอหญิงสาวคนนี้ที่เบ้ปากใส่ฉัน ตอนนี้สายตาทุกคนในร้านจับจ้องฉันและซุบซิบกันอย่างมันปาก “พี่กรมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มี แค่... มาทักทาย ไม่ได้เหรอ” ฉันส่ายหน้าไปมา รู้สึกเจ็บหัวใจแปลกๆ ที่เห็นพี่กรควงผู้หญิงคนอื่น หรือนี้เขากำลังทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้นกันแน่นะ “คุณโอเคไหมนารา?” “ค่ะ ไม่เป็นไร” “นี่แก จะบอกให้นะถ้าไม่อยากถูกยัยนี่หลอก อยู่ห่างไว้ดีกว่า เดี๋ยวจะหมดตัว หมดใจไปซะก่อน” “...” “สำส่อนจะตาย เดี๋ยวควงแกเสร็จก็ไปควงกับผู้ชายคนอื่น ระวังจะถูกสวมเขาโดยไม่รู้ตัวนะ” “เฮ้คุณพูดอะไรระวังหน่อยนะครับ” คุณภูลุกขึ้นเผชิญหน้ากับพี่กรที่เบ้ปากยักไหล่อย่างไม่สนใจอะไร “พอเถอะค่ะคุณภู” “หึ เห็นแล้วขยะแขยงจริงๆ มั่วไปเรื่อยนะนารา” “นี่ถ้าคุณไม่หยุดดูถูกนารา ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่!” พี่กรกลอกตาไปมา ถอนหายใจพลางเอียงคอมอง “แล้วไง กูต้องกลัวว่างั้นสิ?” “นี่คุณ!” “พอเถอะค่ะคุณภู อย่าไปยุ่งกับเขาเลย นาราไม่อยากให้คุณต้องเป็นอันตราย” ฉันดึงแขนเขาไว้ แน่นอนว่าคุณภูหยุดหันมาสบตากับฉันที่พยักหน้าให้เขา “นะคะ” “ก็ได้ครับ ผมไม่รู้นะว่าคุณกับนารารู้จักกันได้ยังไง แต่อย่าดูถูกเธอ...” “ทำไมกูจะทำไม่ได้ มีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้คนอย่างกูหยุด แม้แต่ยัยนี่ยังไม่กล้าเลย” พี่กรชี้นิ้วมาที่ฉัน ตอนนี้ฉันเลยทำได้แค่ดึงมือคุณภูออกจากร้าน แต่ทว่าเสียงทรงพลังก็ดังขึ้น “ไปหาฉันที่สนามแข่งรถด้วยล่ะ” “!” “ก็ลองไม่ไปดูนะ แล้วเธอจะรู้ว่าไอ้คนที่เธอจับมืออยู่ จะมีสภาพยังไง” “อย่านะคะพี่กร” ฉันหันไปสบตากับเขาที่มองบนและกอดคอหญิงสาวของตัวเองไปนั่งที่โต๊ะอาหาร คุณภูขับรถมาส่งฉันที่หน้าบ้าน เนื่องจากรถของฉันต้องเอาไปเข้าอู่เพราะว่าเก่ามากแล้ว “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” “เขาเป็นใครกัน ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” กะแล้วว่าคุณภูจะต้องถามเรื่องนี้ ฉันหันไปสบตากับเขาที่ตอนนี้สีหน้าที่มีแต่คำถามเต็มไปหมด “ไม่เป็นไรนะ ถ้าทำให้คุณอึดอัดที่จะบอก” “เปล่าค่ะ แต่นาราแค่ไม่อยากบอก... ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจ แต่นาราไม่อยากให้คุณไปยุ่งกับเขา” “ผมจะไม่ยุ่งก็ได้นะ ถ้าเขาไม่มายุ่งกับคุณ” คุณภูเลื่อนฝ่ามือมาแตะลงที่มือของฉัน บีบราวกับปลอบใจ “เขาเป็นแฟนเก่านาราเองค่ะ” “แฟน... เก่าเหรอครับ?” “ค่ะ เป็นแฟนเก่าตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย เราสองคนเลิกรากันด้วยเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้น มันเกิดจากตัวของนาราเอง” ฉันเม้มริมฝีปากตัวเอง เมื่อนึกไปถึงเรื่องราวของฉันกับพี่กรที่เรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้ มันเพราะฉันคนเดียว “เพราะคุณเหรอครับ?” “ค่ะ เพราะนารา... ทำให้เขาที่เคยแสนดี กลายเป็นแบบนี้” “แล้วเขาต้องการอะไรจากคุณ ก็ในเมื่อเลิกรากันไปแล้วยังต้องการอะไรอีก?” คุณภูดูจะหงุดหงิดมาก แต่ฉันก็ไม่เล่าอะไรออกไปหรอกนะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของฉัน และตัวฉันก็ไม่อยากทำให้ใครต่อใครต้องลำบากอีกแล้ว ทั้งพี่ขุน แก้มยุ้ยและมาถึงคุณภู “ผมช่วย...” “ไม่เป็นไรค่ะ นาราดูแลตัวเองได้ คุณไม่ต้องห่วงนะคะ” แต่ไหนแต่ไร เขาเป็นห่วงเป็นใยฉันมาเสมอ แต่ฉันรู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉัน แต่ฉันไม่มีค่าพอยืนเคียงข้างเขา ทั้งที่หัวใจของฉันมันยังรักพี่กรอยู่ “เฮ้อ คุณก็ชอบพูดแบบนี้เสมอเลย” ฝ่ามือหนาลูบศีรษะของฉันเบาๆ รอยยิ้มและความเป็นผู้ใหญ่ของเขา ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลย “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” “พรุ่งนี้ผมจะมารับนะ รถคุณยังไม่เสร็จห้ามปฏิเสธด้วย” “ขอบคุณนะคะ รบกวนคุณภูหรือเปล่า?” “ไม่เลย” ฉันยิ้มกว้างส่งให้เขา ก่อนจะลงจากรถจากัวร์คันใหม่ล่าสุดของเขา ยืนมองจนรถของเขาลับตาไปก็เดินตรงเข้ามาในบ้าน เห็นพ่อกับแม่นั่งกินอาหารที่หรูหรา “มาแล้วเหรอ ฉันว่าแกน่าจะจับคุณภูไว้นะ รวยด้วย หล่อด้วย แถมยังโสด... สบายเลยล่ะ” “นาราขอคุณภูไว้คนหนึ่งเถอะค่ะ อย่าให้เขาต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้เลย” “นี่แกคิดว่าเรื่องอะไรแบบนี้มันเป็นเรื่องยังไง นังนารา!” แม่ลุกขึ้นมาผลักศีรษะของฉัน ตามด้วยพ่อที่ยืนเท้าเอว “ก็ถ้าไม่จับผู้ชายรวยๆ จะมีเงินมีทองใช้ไปตลอดไหมห้ะ!” “แต่นาราก็ทำงานได้นี่คะ ถ้าพ่อกับแม่ไม่ใช้เงินเยอะ เราก็คงมี” “นี่แกกำลังว่าฉันใช้เงินแกฟุ่มเฟือยงั้นเหรอ! แล้วที่ฉันเลี้ยงแกจนโตเป็นควายแบบนี้ จะไม่ตอบแทนฉันหรือไง” “นาราเปล่าหมายความแบบนั้นนะคะ แค่อยากให้พ่อกับแม่ช่วยกันประหยัดมากกว่านี้ เงินที่นาราหามาได้ก็อยากจะเก็บไว้... นาราอยากพาพ่อกับแม่ไปอยู่สวิตฯ” ฉันพูดความปรารถนาของตัวเอง ใช่ ฉันอยากพาพ่อกับแม่ไปอยู่ที่สงบแบบนั้น เพราะที่นั่นเป็นที่ที่ฉันอยากไปอยู่มากที่สุด แต่ถ้าพ่อกับแม่ยังใช้เงินแบบนี้ ฉันคงไม่มีโอกาสได้ไป เงินที่หามาได้มากแค่ไหน มันก็หมดไปเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ “เหอะ กระแดะอยากไปอยู่ที่นั่น ก็หาผัวรวยๆ สิ พวกฉันจะได้สบายสักทีไม่ต้องมาทนอยู่ไอ้บ้านแคบๆ แบบนี้!” “แต่นาราอยากทำด้วยตัวเอง...” “ทำด้วยตัวเอง ชาติหน้าคงจะได้ไปอะนะ ฉันสั่งให้แกหาผัวรวยแกก็ต้องหา! และถ้าไม่ทำให้ผู้ชายรวยๆ พวกนั้นแต่งงานกับแกได้ ก็ทนทำงานงกๆ ต่อไปเหอะ เพราะฉันจะผลาญเงินแกไม่ให้เหลือ จำไว้!” พูดเสร็จก็ผลักศีรษะจนฉันล้มลงกับพื้น พ่อกับแม่เดินข้ามร่างฉันออกไปข้างนอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไปบ่อน น้ำตาของฉันไหลออกมากับชีวิตที่วนเวียนอยู่แบบนี้ พาตัวเองขึ้นมาที่ห้อง เหนื่อยแค่ไหนห้องนี้ก็เป็นเหมือนเครื่องชูกำลังให้ฉันเสมอ โดยเฉพาะรอยยิ้มของพี่กรที่อยู่ในรูป... รอยยิ้มที่ฉันจะไม่ได้เห็นมันจากเขาอีกต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม