ลาก่อนเป็ดน้อย ลาก่อนทะเล

1005 คำ
เก้าโมงเช้าของวันใหม่ หลังจากอัดกาแฟกันคนละสามแก้ว คนที่ไม่ได้นอนทั้งสองก็อาบน้ำแต่งตัวพร้อมสำหรับการเดินทาง รถของบริษัทจะมารับตอนสิบโมง ดังนั้นพวกเขาจึงมีเวลาล่ำลากันอีกหนึ่งชั่วโมง เอเดรียนดึงเธอมานั่งตักที่เก้าอี้ริมระเบียง เขาแนบหน้าซบอกเธอนิ่ง ตามองแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรือด่วนแล่นผ่านไปผ่านมาเป็นระยะ ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงตึกขนาดมหึมาที่ติดป้ายไว้ว่า ‘ความสง่างามเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา’ เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดและวิวแพงที่สุดในโค้งน้ำ เพชรพลอยแนบแก้มซบศีรษะเขา ลูบแขนชายหนุ่มขึ้นลง ทั้งสองต่างถอนหายใจเบาๆ อย่างคนตกอยู่ในอารมณ์เดียวกัน เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอที่วางไว้ในห้องดังขึ้น เพชรพลอยเดินไปรับ แล้วกลับมาบอกเขา “รถมาแล้วค่ะ” บอกจบก็รู้สึกหนักหน่วงในหัวใจ ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงจนได้ เธอเดินไปส่องกระจกสำรวจตัวเอง จับชุดฟอร์มบริษัทของณวัฒน์ให้เข้าที่ ในกระจกเธอเห็นเอเดรียนเดินตามมา เขาสวมกอดเอวเธอแน่น จมูกโด่งคมซุกลงบนต้นคอระหงนิ่งนาน ริมฝีปากนุ่มเคล้าคลอขบเม้มจนเธอตีมือเขาที่วางอยู่บนหน้าท้องเบาๆ เป็นการเตือนว่าต้องไปแล้ว เอเดรียนล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดฝากล่องหยิบสร้อยคอเส้นเล็กๆ พร้อมจี้ที่ดูเหมือนกรงนกหากแต่เป็นกรงนกทรงหยดน้ำที่มีเพชรเม็ดเล็กๆ เรียงบนซี่กรงขึ้นมา ในกรงหยดน้ำนั้นมีไข่มุกสีชมพูสวยงาม เป็นไข่มุกหอยสังข์ราชินีที่หายากและแพงที่สุดในโลก ชื่อว่าคอนช์เพิร์ล มันไม่ได้แวววาวเหมือนไข่มุกทั่วไป แต่มีลวดลายเป็นริ้วเปลวไฟประดับบนพื้นผิว จะว่าเขาบ้าก็ได้ แต่ก่อนที่เรือจะเทียบท่าที่แหลมฉบังหนึ่งสัปดาห์ ณวัฒน์ส่งรูปไกด์ทรานเฟอร์มาให้ดู เขาก็มีความปรารถนาในตัวเธอ จึงติดต่อซื้อสร้อยเส้นนี้ที่ร้านอัญมณีชื่อดังในอเมริกาแล้วให้ลูกน้องขับเครื่องบินส่วนตัวมาให้ที่เรือสำราญ เขาสวมสร้อยให้กับเธอ มองภาพสะท้อนบนหน้ากระจก คุณค่ามหาศาลของมันยังไม่เท่ากับผู้หญิงที่งดงามทั้งภายนอกและภายในเช่นเธอ อย่างที่เขาเคยบอกเธอไว้ มันอยู่ที่ว่าใครเป็นคนประเมิน “ก้อนหินล้อมเพชรเหรอคะ” เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้ “ครับ” เขาหัวเราะตามเธอ “ที่ระลึกสำหรับไกด์ส่วนตัวคนสวยของผม ส่วนทิป ผมจะให้ณวัฒน์โอนเข้าบัญชีคุณ ผมมีเงินสดไม่พอ” “ฉันชอบเงิน แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของคำว่า ‘ทิป’ นะคะ ฉันไม่ได้ขายตัว” เพชรพลอยพูดกันไว้ก่อน รู้ว่าเขาเป็นสายเปย์ แต่แค่อัญมณีล้ำค่าที่ห้อยอยู่บนคอ เธอก็สัมผัสได้ถึงคำว่าไม่คู่ควรแล้ว เธอหันมาทางเขา ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากระโปรงบ้าง เธอจับมือหนาขึ้นมาแล้ววางสิ่งนั้นลงไป “ฉันมีให้คุณเท่านี้ ลูกเป็ดยางที่บีบแล้วร้องเสียงดัง” ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ เธอบีบเป็ดยางที่ลงไปอยู่ในมือของเขาแล้วให้มันร้องเพื่อเบี่ยงเบนอารมณ์ไม่ให้เศร้าเกินไป เขากำทั้งเป็ดและมือเธอไว้ ใช้แขนอีกข้างเหนี่ยวเอวเธอมาจูบปาก ความรู้สึกผูกพันลึกซึ้งถูกถ่ายทอดถึงกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจำต้องผละออกจากกัน และเขาก็ก้มลงมองลูกเป็ดสีเหลืองปากสีแดงตัวน้อยๆ ในมือตัวเอง “ลูกเป็ด...จะบีบก็ตายจะคลายก็รอดหรือเปล่าครับ” ปี๊บ ปี๊บ เขาบีบเป็ดสองครั้งเท่ากับเธอ และแหย่เธอด้วยการใช้สำนวนไทยผิดๆ “นั่นมันลูกไก่ กลับไปให้คุณตาสอนภาษาไทยใหม่นะเด็กดี” เธอยกมือขึ้นมาเช็ดปากตัวเอง จากนั้นก็ลูบข้างแก้มเขาและตบเบาๆ แบบเอ็นดู ถ้อยคำของเธอสะกิดใจจนเขานิ่งไป เพชรพลอยเห็นท่าว่าเขาจะดึงดราม่าจึงพูดตัดบท “ฉันไปรอข้างล่างนะ ลงไปพร้อมกันจะเสียชื่อบริษัทของพี่วัฒน์” เธอยิ้มให้ และจบด้วยการเขย่งตัวขึ้นมาหอมแก้มเขา “ผมยังไม่ได้ฟังเสียงร้องเพลงของคุณเลย ผมไม่ลืมนะ” เขาทวงถามถึงสิ่งที่ติดค้าง เหนี่ยวแขนเรียวไว้ขณะที่เธอกำลังจะก้าวเดิน ดึงเวลาไว้จนวินาทีสุดท้าย “ฉันก็ไม่ลืม แต่คุณอย่าเก็บความทรงจำที่ไม่ดีไว้เลยค่ะ” เธอบอกแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้สายตาเข้มลึกมองตามด้วยความวูบโหวงข้างใน บรรยากาศในรถตอนขากลับมีแต่ความเงียบงัน เธอไม่หันมาชวนเขาคุยเหมือนตอนขามา เอเดรียนเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไร เขาได้แต่นั่งมองเสี้ยวหน้าของเธอจากเบาะด้านหลังจนกระทั่งถึงท่าเรือแหลมฉบัง เธอเดินมาส่งเขา “คุณทะเล อย่านอกใจเมียคุณนะ” เป็นประโยคแรกที่เธอพูดตั้งแต่รถออกมาจากโรงแรม เขาเห็นรอยยิ้มของเธอ แต่มันเป็นรอยยิ้มฝืนๆ ซึ่งยืนยันได้จากดวงตาของเธอที่ดูเคว้งคว้าง เอเดรียนวางกระเป๋าลงบนพื้นข้างตัว รอยยิ้มสั่นๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของเขา เขาจับมือของเธอขึ้นมาพลางถอนหายใจ “ครับ คุณผู้หญิง” เขาตอบรับเสียงละมุน แต่หัวใจของเขาราวหลุดออกจากขั้ว “ขอบคุณนะคะสำหรับสองวันนี้ คุณทำให้ฉันยิ้มได้ ฉันมีความสุขกับช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเอาแต่ใจสักแค่ไหนก็ตาม” เธอยิ้มให้เขา เสียงฟังแปร่งหู จมูกแดงเรื่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม