“พี่เจี๋ยหลุนคะ แต่เฟยเอ๋อยังเจ็บตรงนี้ไม่หายเลยค่ะ” เจ้าอี้เฟยจับมือเรียวของเขาไว้แล้วเอามาแนบอกตัวเองมือเล็กลูบมือเขาอย่างถือวิสาสะ หญิงสาวเห็นอาการกระตุกของเขาเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ชักมือออกให้เธอต้องเสียหน้า ชายหนุ่มเพียงยิ้มบางๆ ให้เธอ
“คุณเฉียนอย่าสงสัยในการตรวจของผมสิครับ คุณสบายดีแล้วจริงๆ ครับ” เขากล่าวเบาๆ ก่อนค่อยๆดึงมือของตัวเองออกมาอย่างสุภาพ
“ไม่ได้สงสัยในการตรวจของพี่เจี๋ยหลุนแม้แต่นิดค่ะ แต่เฟยเอ๋อยังเจ็บอยู่จริงๆ นะคะ” หญิงสาวโอดครวญต่อพยายามอ้อนเขา จนพยาบาลที่อยู่ข้างๆ อดยิ้มไม่ได้
“เดี๋ยวผมจะจัดยาแก้ปวดแล้วกันครับ พรุ่งนี้จะมีคุณหมอท่านอื่นมาตรวจหากรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ก็แจ้งอาการเขาให้ละเอียดนะครับ” เขาเขียนบางอย่างลงบนชาร์ทคนไข้ แล้วยื่นให้พยาบาล
“ได้ค่ะ” เจ้าอี้เฟยพ่นลมหายใจออกมาอย่างขัดใจ
“เธอใจกล้ามากเลยเฟยเอ๋อ ไปจับมือเขาแบบนั้นได้ยังไง” เฉียนเฟยเฟยกอดอกมอง แค่เห็นหน้าผู้ชายคนนี้เธอก็กลัวจนหัวหดแล้ว
เจ้าอี้เฟยไม่ตอบ เอาแต่ส่งยิ้มสดใสไปให้คุณหมอหนุ่ม ชายหนุ่มมองใบหน้าเล็กที่มีเลือดฝาดอย่างพึงพอใจ คนไข้ของเขาอีกไม่นานคงออกจากโรงพยาบาลได้
เวลา 01.30 น.
“เจ้าอี้เฟย ตื่น ตื่น” เสียงปลุกของเฉียนเฟยเฟยทำให้เจ้าอี้เฟยรีบลืมตาขึ้น เธอเห็นเงาตะคุ่มของใครบางคนในชุดของพยาบาลกำลังฉีดบางสิ่งเข้าที่สายน้ำเกลือ
“คุณทำอะไรคะ” หญิงสาวถามเสียงเบาทำให้พยาบาลคนนั้นสะดุ้งทันที
“คุณนอนต่อเถอะค่ะ ฉันแค่มาฉีดยาให้เท่านั้น” พยาบาลคนนั้นตอบตะกุกตะกัก ท่าทางมีพิรุธของเธอทำให้เจ้าอี้เฟยไม่วางใจ หญิงสาวกระชากสายน้ำเกลือออกจากมือทันที
“รู้ตัวแล้วสินะ” พยาบาลคนนั้นกล่าวเสียงเย็น ก่อนดึงหมอนที่อยู่ด้านข้างมากดปิดลงไปที่ใบหน้าของเธอสุดแรง เจ้าอี้เฟยหายใจติดขัด
“คนร้าย คนร้าย” วิญญาณของเฉียนเฟยเฟยวิ่งวุ่นไปมา เธอพยายามช่วยดึงมือคนร้ายออกแต่ร่างกายเหมือนอากาศของเธอก็ไม่สามารถทำได้
เจ้าอี้เฟยรวบรวมกำลังสุดแรงจนสามารถดึงมือนางพยาบาลคนนั้นออกไปได้ หญิงสาวใช้ฝ่ามือตีเข้าที่จุดสลบจนคนร้ายจนร่วงลงไปกองกับพื้น แม้พลังภายในยังไม่ฟื้น อีกทั้งร่างกายของเฉียนเฟยเฟยก็ยังไม่ฟื้นจากอาการไข้ แต่เจ้าอี้เฟยก็สามารถใช้วิชาที่เธอมีเอาตัวรอดได้
เธอก้าวขากำลังจะวิ่งไปด้านหน้าห้อง ก็เห็นผู้ชายสองคนหน้าตาไม่คุ้นเคยเฝ้าที่หน้าห้องอยู่ เจ้าอี้เฟยจึงกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“เธอรู้จักมั๊ยเฟยเฟย”
“ไม่รู้ ไม่เคยเห็น มีคนจะฆ่าฉันจริงๆด้วย” เฉียนเฟยเฟยยกมือทาบอก เมื่อเข้าใจในสิ่งที่ยมทูตขาวบอก หาตัวคนร้ายให้เจอเธอจะได้หลุดพ้นเสียที
เจ้าอี้เฟยมองไปยังคนร้ายที่นอนอยู่บนพื้น แล้วรีบเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดพยาบาลอย่างรวดเร็ว ในใจก็นึกโมโหที่การรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลนี้ช่างหละหลวมนัก อยู่ที่นี่ต่อไปเห็นทีคงมีแต่ตายอย่างเดียว
ผู้ชายร่างสูงในชุดสูทสองคนมองมายังพยาบาลที่ปิดบังใบหน้าด้วยผ้าสีขาวตามแบบฉบับพยาบาลทั่วไปเดินออกมา พวกเขามองหญิงชั่วครู่แล้วถามเสียงเบาๆออกมา
“เรียบร้อยใช่มั๊ย”
“อืม เรียบร้อย” เจ้าอี้เฟยตอบเสียงต่ำแล้วรีบก้าวขาเดินออกมายังห้องนั้นอย่างรวดเร็ว เธอรีบเดินไปยังทิศทางที่เฉียนเฟยเฟยลอยนำไป คนพวกนี้กำลังจ้องฆ่าเฉียนเฟยเฟยให้ตายอย่างไม่มีใครสงสัยเหมือนอย่างที่เคยทำมา คราวนี้เธอต้องกระชากหน้ากากของพวกมันออกมาให้ได้
“ทางนี้เฟยเอ๋อ รีบลงลิฟ” เจ้าอี้เฟยทำตามที่วิญญาณสาวแนะนำเธอกดลิฟลงไปชั้นล่าง
“เราจะไปที่ไหนเฟยเฟย”
“ไม่รู้เหมือนกัน มีคนอยากฆ่าฉัน มีคนอยากฆ่าฉัน” ผีสาวเริ่มสติแตก เดินนำเจ้าอี้เฟยมั่วไปมา ในที่สุดพวกเธอก็ออกมาจากโรงพยาบาลได้สำเร็จ
“เธอข้ามถนนไปฝั่งโน้นก่อน แล้วเรียกแท็กซี่ฉันมีบ้านหลังเล็กๆที่แอบซื้อไว้เราไปที่นั่นกันแล้วค่อยคิดหาทางออก” เฉียนเฟยเฟยลอยนำเจ้าอี้เฟยไปอีกฟาก
เจ้าอี้เฟยมองรถที่วิ่งกันควั่กไขว่จนเธอเห็นว่าถนนว่างก็รีบก้าวขาข้ามถนนไป แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรถคันหนึ่งกำลังขับตรงมายังเธอ ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วโดนความตกใจเข้าจู่โจมทำให้เธอขาอ่อนล้มพับลงตรงกลางถนน
เสียงเบรกรถดังสนั่นหวั่นไหว ผู้ชายร่างสูงรีบเปิดประตูรถวิ่งเข้ามาดูเธอทันทีด้วยความตกใจ เจ้าอี้เฟยไม่ได้เจ็บเพราะโดนรถชน แต่เธอกำลังเจ็บเพราะล้มต่างหาก วิญญาณของเฉียนเฟยเฟยรีบลอยกลับมาด้วยอาการตกใจไม่ต่างกัน
“เฟยเอ๋อ เธอเป็นยังไงบ้างทำไมไม่รอสัญญาณไฟก่อน เฟยเอ๋อ” เฉียนเฟยเฟยตกใจแทบวิญญาณสลาย คงเป็นเพราะเฟยเอ๋อมาจากยุคโบราณเลยไม่จักสัญญาณไฟ ยัยโง่เฟยเฟยเอ๊ย เป็นความผิดของเธอเอง
“คุณเป็นยังไงบ้างครับ อยู่เฉยๆนะครับอย่าเพิ่งขยับ ผมเป็นหมอ”
เสียงคุ้นเคยนุ่มทุ้มดังขึ้น เจ้าอี้เฟยมองใบหน้าคมของคนคุ้นเคยแล้วทำตัวอ่อนเอนกายเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของเขาทันที สองมือน้อยบอบบางยกโอบรอบร่างหนาของเขาไว้ ในอันตรายกลับมีโอกาส เธอต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้
“โอ๊ย เจ็บเหลือเกินค่ะ คุณขับรถชนชั้น คุณต้องรับผิดชอบ โอ๊ยเจ็บมากเหลือเกิน” หญิงสาวร้องเสียงดังเอนกายเข้าซบอกแข็งแรงของเขา แล้วแกล้งทำเสียงเจ็บปวดแสนสาหัส บดเบียดร่างกายเข้าหาไม่ให้เขาขยับห่างแม้แต่เซ็นเดียว
“คุณครับ คุณครับ” โจวเจี๋ยหลุนตกใจ เขารีบดึงแมสปิดหน้าสีขาวของหญิงสาวผู้นี้ออก แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าคนที่เขาขับรถชนคือใคร
“คุณเฉียนเฟยเฟย คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”