พูดจบภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง พี่รามเกียรติ์ก็ทิ้งก้นบุหรี่ลงที่เขี่ย จากนั้นก็หยิบขวดเหล้ากรอกผ่านลำคอจนฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองควรกลับได้แล้ว “แพงกลับก่อนดีกว่า” “...” “เดี๋ยวแฟนพี่รามมา” ลุกขึ้นยืนก่อนจะโค้งศีรษะให้เขาแต่ด้วยความเพราะว่ามันมืด ฉันก็เลยหมุนตัวเดินไปชนโซฟาจนโค้งตัวไปด้านข้างแต่ทว่าเอวของฉันกลับถูกท่อนแขนแกร่งคว้าไว้ซะก่อน และใช่... มันเป็นคว้าในแบบที่ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนตักพี่รามเกียรติ์ “แพง แพงขอโทษค่ะ” รีบลุกขึ้นจากตักทว่าพี่รามเกียรติ์ไม่ยอมที่คลายท่อนแขนตรงเอวฉัน หนำซ้ำยังขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนฉันหันไปมองทำให้จมูกของเราสองคนเฉียดกันจนรับรู้ถึงกลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้าที่ปนคละคลุ้งกันไปมา ดวงตาของฉันกวาดมองไปทั่วใบหน้าที่แสนจะเฉื่อยชา ทว่ากลับรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงเป็นบ้าเลยยามมองดวงตาคมที่ดูน่าค้นหาคู่นี้ “เธอน่ะ” ขยับริมฝีปากพูดขึ้นมา “ช่างไม่รู้อะไรเลย