= EP04 =
นั่งรอพี่ไฟที่หน้าคณะพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างบอบบางที่เดินกอดอกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน ฉันไม่สนใจและเลือกที่จะฟังเพลงโดยเสียบ Airpod Pro ไว้
หมับ
ทว่าไหล่ซ้ายกลับถูกรั้งไว้ด้วยฝ่ามือที่เล็บสีแดงยาวจิกลงจนฉันรู้สึกได้ จำต้องปัดมือนั้นทิ้งไปและดึงหูฟังแบบไร้สายออก “ไม่เจอกันนาน ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“ขอบคุณ” ถือซะว่าเป็นคำชมแล้วกัน “อย่าทักจะดีกว่า”
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะทักหรอกนะ แต่อยากจะถามว่าที่ทำอยู่ ต้องการเรียกร้องความสนใจงั้นสิ?” แคทถามด้วยน้ำเสียงไม่พึงพอใจฉันสัมผัสได้ จำต้องแหงนหน้ามองเธอที่ยืนค้ำศีรษะอยู่เนื่องจากฉันนั่งรอพี่ไฟตรงขอบปูนแปลงดอกดาวเรืองที่อยู่ตรงป้ายคณะ
“ฉันทำอะไร” ไม่เข้าใจคำถามถึงได้ถามกลับ “ฉันไม่ใช่เธอ”
“พะแพง!” ตะคอกฉันพลางดิ้นเร้าไปมาราวกับนกโดนน้ำร้อน “แล้วที่ทำวันนี้ ไม่ใช่เพราะต้องเรียกร้องความสนใจจากรุ่นพี่หรือไง”
“ไม่จำเป็น” เอาจริงฉันไม่ได้อยากจะเสวนากับคนที่ตัดออกไปจากชีวิตหรอกนะ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็หนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี “เธอก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ยังจะอยากได้อะไรอีก”
“หึ นั่นสินะ” แคทยกยิ้มมุมปากพาดแขนทั้งสองไขว่กอดอก “ลืมไปว่าทุกอย่างที่อยากได้ ฉันก็ได้มาหมด”
“...”
“ไม่เว้นแม้แต่...” ก่อนที่แคทจะได้พูดอะไร รุ่นพี่ที่ดูเหมือนจะมีงานอะไรให้แคททำก็กวักมือตะโกนเรียกซะก่อน ดังนั้นทั้งสามคนจึงจากตรงนี้ไป เท่านั้นลมหายใจของฉันถึงได้ปล่อยออกมาอย่างโล่งอก
แสงไฟจากรถปอร์เช่สีดำที่คุ้นเคยตามด้วยร่างสูงที่ลงจากรถวิ่งก้าวขึ้นบันไดเพียงไม่กี่ก้าวก็มาหาฉันได้อย่างรวดเร็ว พี่ไฟยิ้มให้กับฉันพลางเอามือกุมหน้าอกไว้ราวกับเหนื่อยที่ขึ้นบันไดมา “กลับกัน”
ฉันไม่พูดอะไรแต่ก็เดินลงบันไดไปพร้อมกับเขา อยากจะถาม... ถามในสิ่งที่ค้างคามานาน แต่พอเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มฉันก็กลืนคำพูดตัวเองไปซะหมด
“หิวหรือเปล่า อยากให้พี่แวะพากินข้าวที่ไหนไหม?”
“ไม่ค่ะ” ตอบกลับก่อนจะเอนศีรษะพิงเบาะนั่งและทอดสายตามองไปยังนอกรถ แต่ฉันก็ต้องตกใจเมื่อสมาร์ทโฟนของพี่ไฟเตือนดังขึ้นเขาก็กดรับสายด้วยท่าทางที่หงุดหงิด
“อะไร ช่วงนี้มึงโทรหากูบ่อยจริงนะไอ้เทียน” แม้จะแสร้งไม่สนใจแต่เพราะอยู่ในรถจึงได้ยินบทสนทนาทั้งหมด “ขี้เกียจแวะแล้ว กูเลยร้านสะดวกซื้อมาละ... ไม่ๆ กูไม่แวะ ร้านอยู่ก่อนจะถึงคอนโดทำไมตอนมึงกลับไม่เสือกซื้อมาวะ”
ดูเหมือนว่าเพื่อนของพี่ไฟจะโทรมาขอให้ช่วยซื้อของให้แน่ แต่พี่ไฟก็ดูจะไม่อยากทำตามจึงเอี้ยวตัวมายังคอนโซลรถตรงหน้าฉัน ระยะที่เขาเอี้ยวตัวมามันใกล้จนฉันต้องเอนตัวหนีทันทีด้วยความตกใจ เมื่อศีรษะของเขาอยู่ระหว่างหน้าท้องฉันพอดี ดูเหมือนว่าพี่ไฟจะหาของไม่ได้ก็ถอนหายใจฟึดฟัด “เออ มึงต้องซื้อบุหรี่ให้กูด้วย โอนเงินมาเลย”
จบก็วางสายพี่ไฟก็เบี่ยงเส้นทางกลับบ้านไปอีกทางจนฉันขมวดคิ้วอย่างมึนงง แต่ดูเหมือนเขาจะรู้ปฏิกิริยาของฉันจึงหันมาทำหน้าอ้อนวอนใส่ “เดี๋ยวพี่ขอแวะร้านสะดวกซื้อแปบนะ พอดีเพื่อนพี่วานให้ซื้อของไปให้หน่อย”
เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบอะไรพี่ไฟก็ขับรถพาฉันมาจอดที่ร้านสะดวกซื้อ แม้ว่าจะไม่อยากลงมาด้วยแต่พี่ไฟก็คะยั้นคะยอให้ฉันลงมาเพื่อหาอะไรกินลองท้องก่อนจะถึงบ้าน ฉันจึงเดินไปยังล็อกขนมปังพลางหยิบขนมปังที่เป็นแบบคัพแต่เลือกไส้ส้มขึ้นมา
“หนูชอบบราวนี่ไม่ใช่เหรอ?” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างใบหูจนฉันตกใจทำขนมหล่นจากมือ “หรือเปลี่ยนรสแล้ว”
หยิบขนมปังขึ้นมาพลางมองฉันด้วยสีหน้าสงสัย จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ “เอาอันนี้นะ”
เมื่อได้ของที่ต้องการฉันเบนสายตามองกระป๋องเบียร์จำนวนเกือบห้ากระป๋องและขนมขบเคี้ยว พี่ไฟก็ยืนล้วงกระเป๋าเพื่อรอพนักงานคิดเงิน “เอาบุหรี่มาร์ลโบโร่เมนทอลสองกล่องครับ”
พูดจบพนักงานก็หมุนตัวไปหยิบบุหรี่มาตามที่พี่ไฟต้องการ จากนั้นท่อนแขนแกร่งด้านขวาก็เอื้อมมาตรงหน้าจนฉันต้องถอยหลังพลางเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าสิ่งที่พี่ไฟหยิบไปคือกล่องถุงยางอนามัยแบบเบาบางสองกล่อง ก่อนจะหันมาสบตากับฉันที่ยังคงอึ้งไม่หาย
“พะแพง” ฝ่ามือเย็นเฉียบแตะลงบนแก้มจนฉันต้องปัดมือเขาออกอย่างแรงจนพี่ไฟขมวดคิ้ว
“ขอโทษค่ะ”
“พี่ไม่ได้ใช้กับหนู” รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นจนฉันเผลอหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา “ถ้าพี่ใช้จริงๆ พี่ไม่บอกให้หนูรู้หรอก”
แบบนี้ฉันจะไว้ใจเขาได้ใช่ไหม? เมื่อได้ของตามต้องการพี่ไฟก็ขับรถเลี้ยวเข้ามาจอดภายใต้คอนโดใจกลางเมืองที่หรูหราเอาการ พลันร่างสูงก็เดินนำฉันเข้าไปด้านในแม้จะบอกว่าขอรอด้านนอกแต่พี่ไฟก็ไม่ยอม
ดวงตาของฉันจับจ้องมองตัวเลขของลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนไปยังชั้น 15 กระทั่งประตูเปิดออกพี่ไฟก็นำฉันไปยังห้องเบอร์ 1515 กดกริ่งสักพักประตูก็ถูกเปิดขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่ยืนเปลือยท่อนบนอยู่ สวมเพียงกางเกงยีนโหลดเอวต่ำจนเห็นส่วนสะโพกเด่นชัด แม้ว่าจะมีรอยสักตามเอวทว่าก็ยังน้อยกว่าคนที่ยืนอยู่ข้างฉัน
“ของมึง”
“ได้มาแค่นี้ เอากูไปตั้งสองพัน!” รับถุงผ้าที่ใส่ของด้านในไปดูพลางเบนสายตามามองฉันด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะสงสัย “กูว่ากู... คุ้นหน้า”
“อือ”
“ผู้หญิงเคี้ยวคืนนี้อ่อ” พี่ไฟไม่ตอบอะไร ทว่าคำถามนี้ทำเอาฉันสะอึกไม่น้อยทีเดียว แต่พี่ไฟก็ไม่ได้สนใจจะตอบเขาเดินแทรกตัวเข้าไปด้านในจนฉันมองแผ่นหลังกว้างอย่างกล้าๆ กลัวๆ “น้องเข้ามาก่อน”
“คือว่า...” พอเห็นฉันลังเลพี่ไฟก็หันมาพร้อมกับบุหรี่ที่คีบอยู่ในปากแล้ว
“เข้ามาก่อน พี่ขอสูบบุหรี่แปบ” กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะสบตากับคนที่เป็นเจ้าของห้อง เขาเอียงคอให้ฉันเข้าไปจึงทำได้เพียงก้าวเท้าเข้ามายังโซนรับแขก มองผ้าม่านที่ไหวอยู่ตรงระเบียงเพราะพี่ไฟเพิ่งจะออกไปสูบบุหรี่ได้สักพัก
“น้องอยากกินน้ำอะไรไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เพื่อนของพี่ไฟถามฉันก่อนจะเดินตรงไปยังมุมครัวที่เป็นสไตล์แบบฝรั่ง กระทั่งเขาเอาของทุกอย่างแช่ไปแล้วผุดขึ้นมายืนตัวตรงจนฉันตกใจ “เหี้ย!”