น้ำตาลผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะตื่นขึ้นมาเกือบสามทุ่ม ท้องของหล่อนเริ่มร้องครวญครางด้วยความหิว ทำให้ต้องลงจากเตียง และไปยังห้องครัว
เมื่อก้าวออกมานอกห้องพัก ร่างกายก็ปะทะเข้ากับความหนาวเหน็บของยามค่ำคืน หญิงสาวยกมือขึ้นกอดตัวเองเอาไว้ ขณะเร่งฝีเท้าเข้าไปในห้องครัว
น้ำตาลชะงักเท้าเล็กน้อยเมื่อพบว่าในห้องครัวเปิดไฟอยู่ แต่หล่อนคิดไปว่ามารดาอาจจะลืมปิดไฟ
หล่อนก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไป และเดินตรงไปยังสำหรับอาหาร แต่ก็ต้องสะดุ้งตัวเย็นเฉียบ เมื่อได้ยินเสียงเข้มเอ่ยขึ้น
“หิวหรือ”
น้ำตาลตัวชาดิก ก่อนจะรวบรวมสติค่อยๆ หมุนตัวไปมองยังต้นเสียง
อัคเรศในชุดนอนสีเทายืนตระหง่านอยู่ข้างตู้เย็น
หล่อนอยากวิ่งหนีออกไปมา ไม่อยากเผชิญหน้ากับคนใจร้าย แต่ก็ไม่อาจจะหนีไปไหนได้ เพราะขาไร้เรี่ยวแรงลงกะทันหัน
“คุณกลาง...”
เจ้าของชื่อสาวเท้าเข้ามาหา และไม่ช้าก็มาหยุดตรงหน้าของหล่อน
ท่วงท่าของเขาเต็มไปด้วยความสง่างามและทรงอำนาจ
หล่อนน้อยใจกับการกระทำของเขาเมื่อเย็นนี้ แต่กลับไม่อาจจะเกลียดอัคเรศลงได้เลย หัวใจของหล่อนยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงรักที่มีต่อผู้ชายไร้หัวใจคนนี้
“ตาล... ขอตัวค่ะ”
“จะไปไหน”
“อะ...”
แขนของหล่อนถูกคว้าหมับ ก่อนจะลอยละลิ่วเข้าไปปะทะแผงอกกว้างของอัคเรศ
“โกรธที่ฉันไม่ได้ไปรับเธอหรือ”
น้ำตาลก้มหน้ายืนนิ่ง เอามือดันแผงอกกว้างเอาไว้เพื่อรักษาระยะห่างของสองร่าง
“ตาลไม่ได้โกรธคุณกลางหรอกค่ะ”
“ดีแล้ว เพราะเธอไม่มีสิทธิ์มาโกรธเคืองอะไรฉันทั้งนั้น”
น้ำตาของหล่อนหยดแหมะลงกับพื้นห้อง พยายามอย่างที่สุดที่จะกลั้นเสียงสะอื้น
“ตาล... ขอตัวก่อนนะคะ”
“เธอหิวไม่ใช่หรือ”
หล่อนพยายามจะไปแต่เขาไม่ยอมคืนอิสรภาพให้
“ตาล... ไม่หิวแล้วค่ะ”
เขาไม่สนใจคำตอบของหล่อน เพราะเขาดันหล่อนให้ถอยหลังไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ และออกคำสั่งตามความเคยชิน
“นั่งลง ฉันจะหาอะไรให้กิน”
“เอ่อ... ไม่ต้องค่ะ”
“อย่าดื้อกับฉัน”
เขาจ้องหน้าหล่อน และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคล้ายกับผู้ใหญ่ปรามเด็กน้อย
หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง บรรยายความรู้สึกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอะไรกันแน่ในตอนนี้
น้อยใจ...
ใช่ หล่อนกำลังน้อยใจมาก แต่ในความน้อยใจนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความภักดีที่มีต่อเขา
“อย่าลุกจนกว่าฉันจะอนุญาต เข้าใจนะ”
“คือตาล... อยากกลับห้องค่ะ ตาล...”
“หรือว่าต้องการให้ฉันทำอย่างอื่น แทนการหาอะไรอร่อยๆ ให้เธอกินล่ะ”
สายตาคมกริบลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนา ซึ่งเขาใช้สายตาแบบนี้มองหล่อนตอนที่กำลังสอดใส่เข้ามา
โอ้...
น้ำตาลครางในอก สองพวงแก้มแดงระเรื่อ ก่อนจะหลบสายตาคมเข้ม
อัคเรศอมยิ้ม ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กของน้ำตาล ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็น
“ฉันทำกับข้าวไม่เป็น เธอคงได้กินแค่ไข่เจียวนะคืนนี้”
“เอ่อ... ตาลทำเองก็ได้ค่ะ”
“บอกให้นั่งเฉยๆ อย่าขัดคำสั่งสิ”
อัคเรศทำเสียงดุๆ ใส่ จนหล่อนต้องนั่งก้มหน้าด้วยความขลาดกลัว
บรรยากาศภายในห้องครัวเงียบกริบ มีเพียงแค่เสียงช้อนกระทบกับถ้วยเซรามิกที่อัคเรศกำลังตีไข่เท่านั้นที่ดังกังวานขึ้น
น้ำตาลอดที่จะลอบมองเขาไม่ได้...
อัคเรศยามที่สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับการตีไข่ ช่างดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นบนดวงหน้า ก่อนจะต้องรีบก้มหน้าหลบสายตา เมื่อคนที่หล่อนแอบมองอยู่หันมาเห็นเข้าพอดี
เขาวางชามใส่ไข่ที่ถูกตีจนขึ้นฟองลงกับโต๊ะ และเดินเข้ามาหาหล่อน
“เอ่อ...”
กลิ่นหอมละมุนจากเนื้อตัวกำยำของ
อัคเรศโชยฟุ้งเข้ามาในโพรงจมูก และก็ทำให้หล่อนมึนงง
“ถามจริงๆ เถอะ...”
เขามาหยุดตรงหน้า โน้มตัวลงมาหาหล่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ นิ้วแกร่งจับคางมน และบังคับให้เงยหน้าขึ้นสบประสานสายตา
ดวงตาคมกริบของอัคเรศในยามนี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิงเสน่หา
“ระหว่างฉันกับอาหาร เธอหิวอะไรมากกว่ากัน”
“คุณ... กลาง...”
เนื้อสาวร้อนผ่าว และพยายามหลบตาแต่ทำไม่ได้ เพราะเขาบีบคางเล็กแน่น พวงแก้มทั้งสองข้างก็ร้อนจัดคล้ายกับถูกก้อนถ่านร้อนๆ นาบเอาไว้
“ตอบสิ...” เขากระซิบเสียงกระเส่า
“เอ่อ... คุณกลาง... ตาล... อยากกลับห้องค่ะ”
“ไม่...”
น้ำเสียงของเขากระเส่าต่างไปจากยามปกติเหลือเกิน
“ตอบมาก่อน ว่าหิวอะไรมากกว่ากัน”
“ตาล... เอ่อ...”
“ถ้าไม่ตอบ... ฉันจะคิดเองเออเองแล้วนะ”
หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอัคเรศถึงต้องมาหว่านเสน่ห์ให้หล่อนลุ่มหลงอีก ในเมื่อเขาเองก็มีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างกาย
“ตาล... หิวข้าวค่ะ”
หล่อนตอบออกไป และคิดว่าจะจบ แต่อัคเรศไม่เคยให้ใครทำลายความต้องการของตัวเองได้เหมือนเคย
“แต่ฉันคิดว่าเธอโกหก...”
“ตาลไม่ได้โกหก อะ!”
ฝ่ามือใหญ่ตะปบลงกับเต้านมอวบอัด แสดงความคุ้นเคยด้วยการตวัดนิ้วถูไถกับหัวนมที่อยู่ใต้ชุดนอนของหล่อน
เขารู้ว่าหล่อนไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน และนั่นก็ทำให้เขาปลุกเร้าจนกายสาวปั่นป่วนจนยากที่จะต่อต้านความต้องการล้ำลึกที่กำลังเต้นระริกอยู่ภายในใจได้
“อา... อ๊า...”
อัคเรศอมยิ้มพึงพอใจ จับจ้องมองดวงหน้าหวานที่กำลังแดงระเรื่อไม่วางตา
“นี่แหละเธอ... น้ำตาล... อืมมม... หัวนมเธอแข็งสู้นิ้วฉันดีจัง...”
“อา... อะ... คุณกลาง... จะทำอะไรคะ”
เขายกหล่อนขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะพาไปวางบนโต๊ะไม้ตัวยาว สองขาของหล่อนถูกแทรกกลางด้วยเรือนกายทรงพลัง
“จะเอาเธอไง”
“คุณกลาง... ไม่... อา... อ๊า...”
“เธอก็รู้ว่าปฏิเสธฉันไม่ได้...”
อัคเรศแสดงความเอาแต่ใจด้วยการช้อนใบหน้างาม และบดปากลงไปหาเรียวปากนุ่มที่เขารู้ดีว่ามันหวานแค่ไหน
ส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้ไปทั่วเนินสะโพกกลมกลึง วกมาที่ขาเรียว และตรงนั้น
“อืมมม...”
เขาหลุดเสียงครางออกมาด้วยความพึงพอใจ เมื่อนิ้วยาวพบกับความชุ่มชื่นร้อนฉ่าของน้ำตาล
“อะ... อ๊า... ซี๊ดดด”
นิ้วแกร่งไสลึกหยอกเย้ากับน้ำเสียวของน้ำตาลที่ไหลรินออกมามากมาย ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่าที่ข้างใบหูเล็ก
“เยิ้มขนาดนี้ ยังจะปากแข็งอีกนะ น้ำตาล... อืมมม”
อัคเรศเต็มไปด้วยความพึงพอใจ เขาขยับนิ้วกับอวัยวะเพศของน้ำตาล ในขณะที่ปากกำลังงับติ่งหูเล็ก และเลียไล้
“อา... อ๊า... ซี๊ดดด”
เจ้าของปากนุ่มที่ถูกบดจูบจนเห่อบวมครวญคราง ขยับบั้นท้ายตอบสนองการบดขยี้เม็ดสวาทของนิ้วยาวอย่างกระตือรือร้น
“อ๊า... อ๊า...”
อัคเรศชอบความเร่าร้อนของน้ำตาลเหลือเกิน หล่อนร้อนฉ่าง่ายดาย เพียงแต่ถูกเขาจูบ ก็ตอบสนองได้อย่างถึงพริกถึงขิง
ชายหนุ่มผลักร่างอรชรให้นอนราบกับโต๊ะไม้ เอามือผลักสองขาเรียวให้แยกกว้างจนสุด จ้องมองความเป็นหญิงที่แย้มอ้าด้วยความหิวกระหาย และในที่สุดก็ก้มหน้าลงไปหา
“อ๊ะ... คุณกลาง... อา... อ๊า...”
หล่อนถูกอัคเรศตวัดลิ้นกับตรงนั้น... ความเป็นหญิงที่กำลังร้อนฉ่าปวดร้าว ลิ้นสากปาดเลียไล้ด้วยลีลาที่หล่อนต้องร่อนสะโพกขึ้นหา มือเล็กจิกกับโต๊ะไม้เอาไว้ ความเสียวซ่านทวีความรุนแรงขึ้นทุกครั้งที่ลิ้นช่ำชองสัมผัสกับกลีบเนื้ออ่อน
“อ๊า... ซี๊ดดดด อ๊า... เสียวววว”
ยิ่งหล่อนครางเสียว และดิ้นเร่าๆ ใต้ปากกระด้างของเขา อัคเรศก็ยิ่งเพิ่มเลเวลการดูดเลียกลีบนางมากยิ่งขึ้น
“อู๊ยยยย... อ๊า... คุณกลาง... ตาล... ตาลเสียววว อา...”
มือที่เคยจิกครูดกับโต๊ะไม้ตอนนี้ยกขึ้นมาขยุ้มศีรษะของคนตัวโตแทน พร้อมกับร่อนเนินสาวขึ้นหาปากร้อนจัดอย่างไร้สติ
“อ๊า... จะ... จะ... อ๊ายยยย”
และเมื่อเขาจ้วงจุ้มลิ้นลงมาหาอีกครั้ง ความสุขสมแรงกล้าก็ระเบิดตูม หล่อนสั่นเทาไปทั้งตัว กระตุกไหวด้วยความเสียวซ่าน
อัคเรศยังคงปาดเลียน้ำจากร่องสาวของหล่อน และเลียจนแห้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจูบปากหล่อน มือใหญ่สอดเข้าไปในชุดนอน และขยำเต้าอวบจนแทบเละ
“อ๊า... ซี๊ดดด อา... คุณกลางขา... อ๊า...”
หล่อนครางวิงวอนเมื่อเขาถอนจุมพิต และก้มลงดูดหัวนมเข้าไปโรมรันในอุ้งปาก
กายสาวดิ้นเร่าๆ ด้วยความปรารถนาแรงกล้า ต้องการให้เขาสอดใส่เข้ามาหา และกระแทกให้สุดแรง
“ได้โปรด... เอาตาล... คุณกลางขา... ซี๊ดดด กระแทกตาล... อา...”
เสียงคำรามด้วยความพึงพอใจของอัคเรศดังขึ้น พร้อมกับเขาที่กระชากกางเกงนอนให้รูดต่ำลงไปด้วยความรีบร้อน
น้ำตาลผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย ความใหญ่ยาวของอวัยวะเพศชายที่กำลังชูชันทำให้หล่อนถึงกับต้องสูดปากแรงๆ
เขาใหญ่และยาว แถมมันยังดุดันกินไม่เคยอิ่ม แต่หล่อนก็รับมือมันได้ทุกครั้ง
“อะ... อู๊ยยยยย อา...”
หล่อนครางระรัวด้วยความเสียวระคนคับแน่น เมื่อเอ็นชายถูกผลักดันให้เข้ามาจนมิดด้าม ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ดื่มด่ำกับความแข็งแกร่งของเขาที่เริ่มต้นเคลื่อนไหว
“ซี๊ดดด อู๊ยยยย อา... อ๊า... คุณกลางขา... อ๊า... เสียวววว”
ขาเรียวยกขึ้นตวัดรอบเรือนกายทรงพลังของอัคเรศเอาไว้ หล่อนได้ยินเสียงเขาครางฟังไม่ได้ศัพท์ ก่อนที่จังหวะสวาทจะร้อนแรงจนกะพริบตาแทบไม่ทัน
“โอ้ววว... โอ้วววว... ดูดดีจริงๆ โอ้ววว”
โต๊ะไม้ถูกกระแทกจนโยกครืน แต่เจ้าของบั้นท้ายทรงพลังก็ยังคงกระหน่ำเอ็นเข้าหาร่องสาวไม่หยุด
“อ๊า... อา... ซี๊ดดดด”
หล่อนกับอัคเรศเคลื่อนไหวเข้าหากัน สอดประสานกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน กว่าไฟสวาทจะดับมอดลง ก็เมื่อน้ำกามของเขาแตกกระฉูดออกมานั่นเอง
หล่อนมีความสุข...
มีความสุขเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
หญิงสาวนอนนิ่ง ความอิ่มเอมยังคงครอบงำ แม้ว่าเอ็นชายจะถูกถอดถอนออกไปจากร่องสาวแล้วก็ตาม
“ลงมาจากโต๊ะได้แล้ว และรอกินไข่เจียวฝีมือของฉัน”
เสียงห้าวที่มีแปร่งเล็กน้อยของอัคเรศทำให้คนที่ตกอยู่ในหมอกสวาทรู้สึกตัว หล่อนรีบตะเกียกตะกายลงจากโต๊ะไม้ และดึงเสื้อผ้าให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ควรอยู่
พวงแก้มแดงระเรื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องก้มหน้าซ่อนความอับอายเอาไว้เท่านั้น
หล่อนไม่เคยต่อต้านอัคเรศได้เลย ไม่ว่าเขาจะต้องการเซ็กซ์ที่ไหน หล่อนก็พร้อมที่จะอ้าขาให้เขาเสมอ
มันน่าอดสูเหลือเกิน...