ตอนที่ 4

1347 คำ
“เฮ้ มีนาวันนี้ทำไมมารถแท็กซี่ล่ะ” ทันทีที่หล่อนก้าวลงจากรถแท็กซี่ และเดินเข้ามาในตึกสูงระฟ้า เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เท้าของหล่อนชะงักกึก ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองต้นเสียง สิ่งที่เห็นทำให้สมองของหล่อนต้องรีบประมวลผลด้วยความรวดเร็ว ผู้หญิงผมสั้นยาวแค่บ่า หน้าตายิ้มแย้ม รูปร่างอวบระยะสุดท้ายแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก... “สวัสดีค่ะพี่อุ้ม” หล่อนยกมือขึ้นไหว้ตามนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนของตนเอง จนลืมไปเลยว่าพี่สาวไม่เคยทำ “วันนี้สงสัยฝนคงจะต้องตกแน่ๆ น้องมีนายกมือไหว้พี่ด้วย” “อ๋อ...” หล่อนยิ้มหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะขอตัวไปยังห้องทำงานของพี่สาว “มีนาไปโต๊ะก่อนนะคะ” หล่อนก้าวเท้าจะเดินไป แต่เสียงของคู่สนทนาหยุดเอาไว้เสียก่อน “โต๊ะทำงานของน้องมีนาไปทางซ้ายมือไม่ใช่เหรอจ๊ะ นี่ล้อพี่เล่นใช่ไหมเนี่ย” หล่อนหน้าเสีย ก่อนจะรีบรับสมอ้าง ด้วยการหัวเราะร่วนออกมา “มีนาแกล้งเล่นน่ะค่ะ งั้นมีนาไปนะคะ” “แหม ไม่ได้มาทำงานแค่สองวัน ดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะน้องมีนาเนี่ย” หล่อนทำได้แค่ยิ้ม และก็รีบย่ำเท้าเดินจากไปด้วยความเร็ว จนกระทั่งชนกับใครบางคนที่เดินสวนมาเข้าอย่างจัง “อุ๊ย... ขอโทษค่ะ” มือแข็งแรงของคนที่เนื้อตัวแข็งยังกับแผ่นไม้กระดานคว้าเอวของหล่อนเอาไว้ ช่วยไม่ให้หล่อนล้มหน้าคะมำลงไปกับพื้น “รีบร้อนไปไหนน่ะมีนา” เสียงนี้คุ้นหู ทำให้คนที่เพิ่งทรงตัวยืนด้วยขาได้สำเร็จต้องช้อนตาขึ้นมอง ก่อนจะเบิกตากว้าง พลศรุต อัครโยธิณ! เขา...? นี่เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงน่ะ “ทำไมทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นล่ะ มีอะไรหรือเปล่าคุณมีนา” เขาพูดเหมือนกับรู้จักพี่สาวของหล่อนเป็นอย่างดี... นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย “เอ่อ...” “เห็นคุณพ่อบอกว่าคุณป่วยมาทำงานไม่ได้สองวัน เป็นไงบ้าง หายดีแล้วหรือ” เขาพูดแบบนี้แสดงว่า... พลศรุตต้องทำงานที่นี่?! ตายแล้ว หล่อนไม่สามารถหุบดวงตาที่เบิกกว้างให้เป็นปกติได้เลย ทฤษฎีโลกกลมทำไมมาเกิดเอาตอนนี้นะ มันบ้ามากๆ เลย “เอ่อ... หายแล้วค่ะ” หล่อนเสหลบสายตาสำรวจของเขาพัลวัน และก็อดเคืองพี่สาวไม่ได้ที่ให้หล่อนดูรูปเพื่อนร่วมงานไม่ครบทุกคน นี่ถ้าหล่อนรู้ว่าพลศรุตทำงานอยู่ที่นี่ด้วย หล่อนคง... ไม่สิ... ถึงจะรู้ว่าเขาทำงานที่นี่ หล่อนก็ต้องปลอมตัวเป็นพี่สาวอยู่ดี หล่อนลอบถอนใจออกมาเบาๆ ก่อนจะกัดฟันช้อนตาขึ้นมองเขา พระเจ้า... พลศรุตหล่อเหลือเกิน... เมื่อหลายวันก่อน หล่อนเห็นเขาในระยะไกล แต่ตอนนี้ หล่อนได้เห็นเขาในระยะใกล้ ใกล้จนมองเห็นตอหนวดที่เขาเพิ่งโกนทิ้งไปเมื่อเช้าชัดเจน บ้าแล้ว... หัวใจของหล่อนเต้นไม่หยุดเลย แถมยังเต้นคร่อมจังหวะอีกต่างหาก หล่อนรีบถอยหลังหนี รักษาระยะห่างเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ในขณะที่เขามองหล่อนด้วยสายตาที่อ่านความรู้สึกไม่ออก “มีนา... ขอตัวก่อนค่ะ” “ตามสบายครับ” หล่อนรีบหันหลัง และเดินจากมาด้วยความเร็ว หัวใจเต้นระส่ำไม่หยุด “จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคเลือดดีล่ะโมรี... ทำไมต้องมาเจอผู้ชายที่แอบชอบที่นี่ด้วย” หล่อนพุ่งตัวเข้ามาภายในห้องทำงาน ซึ่งก็โชคดีมากที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ยังไม่มาทำงาน “โต๊ะไหนล่ะเนี่ย” หล่อนเดินมองหาโต๊ะทำงานของพี่สาว ยังไม่ทันจะหาเจอ เสียงข้างหลังดังขึ้นเสียก่อน “ซ้ายมือไง โต๊ะของเธอน่ะ” หล่อนชะงักเท้ากึก หันไปมองที่ด้านหลัง ก็พบว่าพลศรุตเดินตามเข้ามา “คุณพลศรุต...” หล่อนเห็นเขายิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนจะขยับเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ “ปกติคุณไม่ได้เรียกผมแบบนี้นี่มีนา” “เอ่อ...” “คุณเรียกผมว่าคุณศรุต ตอนที่เราสองคนอยู่ต่อหน้าคนอื่น” หล่อนงง ไม่เข้าใจความหมายของเขาเลย และก็ยิ่งหวั่นไหว เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้มาก และหล่อนก็หมดปัญญาจะถอยหนีเพราะบั้นท้ายชนกับขอบโต๊ะทำงาน “คุณศรุต...” นี่เขาจำเป็นต้องโน้มหน้าเข้ามาหา และทำหน้าหล่อใส่แบบนี้ด้วยเหรอ หล่อนเริ่มสับสนกับความสัมพันธ์ของมีนาและพ่อสุดหล่อคนนี้เสียแล้ว “ม่าย... เวลาเราอยู่กันตามลำพัง... คุณเรียกผมว่าที่รัก” “คะ?” หล่อนเบิกตากว้าง ลูกกะตาดำแทบจะถลนออกมาเลยทีเดียว “ที่... ที่รักเหรอคะ” หล่อนเอียงหน้าหนีมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาสัมผัสแก้มนวลของตนเอง แต่ก็หนีไม่ค่อยพ้นนัก “วันนี้คุณแปลกๆ นะมีนา... คุณไม่เหมือนวันอื่นๆ ที่ผ่านมาเลย” “อ๋อ... ฉัน... ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ฉันสบายดี...” “แล้วทำไมทำท่าทำทางห่างเหินกันนักล่ะ เราสองคนเป็นอะไรกัน คุณลืมไปแล้วหรือไง” “คะ?” เอาอีกแล้ว เขาพูดให้หล่อนช็อกตาค้าง แทบหยุดหายใจอีกแล้ว “เรา... เป็นอะไรกันด้วยเหรอคะ” หล่อนละล่ำละลักถามเขาออกไป หล่อนหน้าซีดเผือด เมื่อเขาขยับตัวเข้ามาใกล้มากจนสองร่างแนบชิดกัน “คุณศรุต... เอ่อ... ขยับออกไปก่อนค่ะ” “เรียกผมว่าที่รัก... เหมือนที่เคยเรียกสิครับทูนหัว” ทูนหัว?! นี่พี่สาวของหล่อนกับพลศรุตเป็น...??? “คุณไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะมีนา หรือว่าคุณไม่รักผมแล้ว” พี่สาวของหล่อนรักอยู่กับพลศรุต! หล่อนทั้งตกใจ ทั้งช็อก และทั้งเสียใจ เมื่อผู้ชายที่ตัวเองแอบรักกับพี่สาวเป็นคนรักกัน แต่... แล้วทำไมมีนาไม่เห็นเคยบอกหล่อนเลยว่ามีคนรักอยู่ในที่ทำงาน ขนาดตอนที่ติวเข้มเรื่องปลอมตัว พี่สาวก็ไม่เห็นเอ่ยถึงพลศรุตสักคำเลย หรือว่ามันเป็นความลับ... ลับจนพี่สาวลืมบอกหล่อนกันนะ? “ดูท่าทางแล้ว ผมคงต้องทบทวนความทรงจำกับคุณแต่เช้าแล้วล่ะ มีนา” “ทบทวน... อะไรคะ” เขาขยับออกห่าง มือใหญ่คว้าแขนของหล่อนเอาไว้แน่น และรั้งให้เดินตามไป “ก็เรื่องของเราไงครับ” หล่อนงงจนสมองเลอะเลือน กระทั่งเขาลากเข้ามาในห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยชั้นวางเอกสาร หล่อนถึงได้สติ และละล่ำละลักถาม “คุณศรุต... พามีนาเข้ามาในนี้ทำไมคะ” เขากดล็อกประตูห้อง ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อน ใบหน้ามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็ทบทวนเรื่องของเรายังไงล่ะครับ” “ทบทวนในนี้เหรอคะ?” “ใช่ แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมามากนัก คุณจะได้ร้องเต็มเสียงไงล่ะ” “ร้อง?” นี่เขาหมายถึงอะไรน่ะ เขาจะตบ จะตี จะต่อย และทำให้หล่อนร้องไห้อย่างนั้นเหรอ พระเจ้า... นี่หล่อนกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไรกันเนี่ย “หรือจะเรียกว่าครางก็ได้ครับ” “คราง?” “ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะที่คุณเอาแต่พูดตามผมเป็นนกแก้วนกขุนทอง มีนา...” “อ๊ะ... คุณจะทำอะไรคะ” เขาผลักหล่อนแรงๆ จนแผ่นหลังชนกับผนังห้องเก็บเอกสาร “เราก็จะมีความสุขกันไงครับ” คงไม่ใช่อย่างที่หล่อนคิดใช่ไหม? “คุณไม่มาสองวัน ผมคิดถึงแทบเป็นบ้า วันนี้ขอเบิ้ลสามนะครับทูนหัว” “คุณ... พูดอะไรคะ” “มีนา... คุณกำลังปั่นหัวผมเล่นใช่ไหมครับ” “เอ่อ...” หล่อนจะ... จะทำยังไงดี ถ้าขัดขืน ผู้ชายคนนี้ก็จะสงสัย “ผมต้องการคุณ...” “ตะ แต่ว่า...” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหิวกระหาย ขณะไล้นิ้วหัวแม่มืดใหญ่ไปกับกลีบปากสาว  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม