นาถวดี ปีนี้อายุ 22 ปี เธอเรียนจบปริญญาตรี ตั้งแต่อายุ 19 ปีเพราะเรียนจมมัธยมปลายตั้งแต่อายุ 15 ปี ด้วยความมีไอคิวสูงถึง 175 ทำให้เธอจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ เธอเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีการอาหาร ด้วยความอัจฉริยะเกินวัยในด้านการเรียนและความจำ
แต่ด้านการสื่อสารและเข้าสังคม รสนิยมการแต่งกายต่างๆ และบุคลิกกับตรงข้ามกับความอัจฉริยะของเธอมากถึงขั้นติดลบ ทำให้เธอมักถูกล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง และมันยิ่งทำให้เกิดเป็นความไม่มั่นใจในบุคลิกภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น เธอมีค่าสายตาที่สั้นถึง -900 ทำให้ต้องใส่แว่นตาหนาเตอะ ทำให้เธอดูแก่กว่าอายุจริง ทั้งที่เธออายุน้อยห่างจากเพื่อนๆ ร่วมคลาส ถึง 3 ปี ทำให้นาถวดีเข้ากับคนอื่นค่อนข้างลำบาก เธอไม่สุงสิงกับใครตั้งใจเรียนอย่างเดียว โลกส่วนตัวสูง จึงเป็นสาเหตุให้เธอปลีกตัวเองออกมาจากสังคมใช้ชีวิตทำกิจกรรมต่างๆ เพียงคนเดียวแม้แต่งานต่างๆ ที่ต้องทำเป็นกลุ่มเธอก็จะขอทำเพียงคนเดียว
เธอเป็นลูกสาวคนเดียว คุณพ่อผู้อำนวยการในมหาลัยชื่อดัง เป็นถึงศาสตราจารย์ดร.จบจากต่างประเทศ ส่วนคุณแม่เป็น รองศาสตราจารย์ สอนภาควิชาคณิตศาสตร์ ในมหาลัยเดียวกันกับคุณพ่อของเธอ ด้วยความที่มีพ่อแม่ ที่ทำงานหนัก ชีวิตของเธอส่วนใหญ่จะต้องอยู่คนเดียว ไม่ค่อยเข้าสังคมนั่นทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่กับการอ่านหนังสือ ในตอนเรียนก็อ่านหนังสือเรียนอย่างหนัก พ่อแม่ ไม่ค่อยได้มายุ่งกับเธอเพราะรู้ว่าเธอรู้หน้าที่ตัวเองไม่ต้องเป็นห่วง
ทำให้เธอไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อและแม่เท่าไหร่ ทุกคนทำหน้าที่ตัวเองอย่างเคร่งครัด พ่อมีหน้าที่หาเงินให้ลูก กับภรรยาก็ทำหน้าที่ได้ดีเธอไม่เคยขาดเงินและมีเงินฝากประจำที่พ่อทำไว้ให้ตั้งแต่เกิด แม่มีหน้าจัดหาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ภายในบ้าน แม่ก็จะมีสิ่งเหล่านี้ให้เธอไม่ขาดเหมือนกัน เธอมีหน้าที่เรียนก็เรียนอย่างหนัก เป็นที่น่าพอใจและภูมิใจ
จนเมื่อเรียนจบออกมามีบริษัทหลายบริษัท ได้ยื่นโควตาการเข้าทำงานให้กับเธอ แต่เธอได้ยื่นข้อเสนอกับบริษัทที่เธอสนใจ ว่าการทำงานของเธอขอให้เธอได้ทำงานที่บ้าน และเธอจะเข้าไปส่งงานแค่อาทิตย์ละครั้ง โดยจะทำงานส่งให้ตามที่บริษัทกำหนด และบริษัทที่เธอยื่นเสนอไปก็ตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เธอทำงานเป็นคนคิดสูตรอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ของบริษัทชั้นนำของประเทศ ตอนนี้เธอทำงานกับบริษัทนี้มาร่วม 3 ปี ผลตอบแทนก็สูงตามความสามารถของเธอ ชีวิตแทบจะไม่ได้ออกไปไหน เพราะมีทุกอย่างในบ้านครบอยู่แล้ว เธอทำอาหารทานเอง แต่แม่จะสั่งซื้ออาหารสดไว้ให้
ตอนนี้พ่อกับแม่ไปอยู่ที่คอนโดที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาลัยเป็นส่วนใหญ่ เพราะรถติดจะกลับมาบ้านอาทิตย์ละครั้ง หรือไม่บางอาทิตย์ติดงานก็ไม่กลับเลย แต่ไม่ได้มีผลกับการใช้ชีวิตของเธอ แม้แต่น้อยเพราะเธอชินกับการอยู่แบบนี้เสียแล้ว ถึงจะอยู่ในบ้านเดียวกันก็ไม่ได้คุยหรือทำอะไรร่วมกันอยู่ดี ทุกคนมีโลกส่วนตัวแม้แต่พ่อกับแม่เอง ก็แยกกันนอนคนละห้อง ไม่ใช่มีคนอื่นและไม่ใช่ไม่รักกัน แต่เพราะต่างมีงานที่ต้องจัดการของแต่ละคน พ่อไม่เคยมีความลับกับแม่ และแม่ก็ไม่เคยมีความลับกับพ่อ
แม้แต่เธอเองก็ไม่เคยมีความลับกับพ่อแม่ เหมือนกันมีอะไรก็บอกตรงๆ พ่อแม่เคยถามว่าเธอรู้สึกยังไงที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้และไม่ค่อยได้เอาใจใส่อย่างพ่อแม่คนอื่น แต่แปลกที่เธอไม่ได้รู้สึกขาดความอบอุ่นอะไรหรือต้องเรียกร้องอะไรจากพวกท่าน ถึงไม่เรียกร้องท่านก็ให้เธอตามหน้าที่และความเหมาะสมทุกอย่างอยู่แล้ว และพ่อกับแม่ก็ไม่เคยร้องขออะไรจากเธอ แต่ตั้งแต่เธอทำงานมีเงินเดือน เธอก็มอบเงินเดือนให้กับท่านทั้งสองคนๆละ 20% ถึงจะรู้ว่าท่านไม่ได้ต้องการแต่เธอก็ถือว่าเป็นหน้าที่เหมือนกัน
ในแต่ละวันเธอจะทำงานไม่เกิน 3 ชม. ในการคิดสูตร และใช้เวลาเพียงอาทิตย์ละ 2 วันเธอก็สามารถทำสูตรอาหารและเครื่องดื่มออกมาได้หลายสูตร
เธอจึงมีเวลาว่างมาก และเธอหันมาอ่านนิยายตามแอป อ่านนิยายที่เป็นสมาชิกอยู่เกือบทุกแอป แนวนิยายก็อ่านทุกแนว ตั้งแต่นายายรัก โรมานซ์ ผจญภัย และแฟนตาซี ต่างๆ จนอ่านมาถึงนิยายจีนโบราณ และมาหยุดอยู่ที่ จีนยุค 70,80 เธออ่านเกือบทุกเรื่องเพราะหลงเสน่ห์ ในนิยายแนวนี้เสียแล้ว และส่วนใหญ่ก็จะเป็นนิยายแนวทะลุมิติ มีทั้งไปแบบมีมิติ ไปแบบจนแต่เก่ง มีพรวิเศษโชคดี พระเอกคลั่งรัก นางเอกเก่ง และเธอก็อ่านมาถึงเรื่องเกี่ยวกับระบบ พาย้อนมิติ ข้ามเวลา ซึ่งระบบก็มีทั้งแบบระบบคลังของ ระบบทำงานแลกของรางวัล ระบบโชคดี
เธอรู้สึกชอบอ่านนิยายแนวนี้มาก รู้สึกว่าจะเหมาะกับเธอ ดูไฮเทคโนโลยีและเหมือนนำของในอนาคตไปใช้ชีวิตในอดีต อ่านๆไปเธอก็คิดว่าหากเธอมีระบบพาย้อนไปอยู่ในประเทศจีน ยุคนี้บ้างคงจะดีและคงจะท้าทายความสามารถเธอไม่น้อย ด้วยความฉลาดของเธอจะต้องสามารถรู้ทันและชนะระบบพวกนี้ได้แน่นอน
ขณะที่เธอนอนอ่านนิยายเรื่องล่าสุดอยู่ ก็คิดตามไปด้วยอย่างสนุกสนานตามจินตนาการ จนหลับไปทั้งที่ยังไม่ได้ปิดหน้าแอปในไอแพด ด้วยซ้ำ
" ตีดดดดด...ตีดดดดด...ตีดดดด..."
' เสียงอะไรปวดหูจังเลย ' นาถวดี
" ติดตั้งสำเร็จ "
' ติดตั้งอะไร ปวดหัวจัง เสียงมาจากไหน'
"ระบบตรวจพบร่างต้นแบบในยุคที่ผู้ร้องขอต้องการแล้ว ต่อไประบบขอเรียกผู้ร้องขอว่าโฮส เพียงตอบยอมรับ ระบบจะดำเนินการย้ายเข้าร่างต้นแบบอย่างอัตโนมัติ "
' อะไร คืออะไร ระบบ อะไร ยอมรับ อะไร'
" รับทราบ ระบบจะทำการย้ายเข้าร่างต้นแบบด้วยระบบอัตโนมัติ ระบบจะย้ายเสร็จ ภายใน 1 นาที "
' เฮ้ย ยังไม่ตอบอะไรเลย นี่อะไรกันหรือจะอ่านนิยายมาก ฝันเป็นตุเป็นตะเลยแฮะ' ขณะคิดเหมือนเธอล่องลอยอยู่ในอากาศเลย
" ระบบทำการย้าย โฮส เข้าสู่ร่างต้นแบบเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลของเจ้าของร่างเดิมจะถูกติดตั้ง เข้าไว้ในหน่วยความจำของโฮส ทั้งหมดตั้งแต่เด็ก จนถึงปัจจุบันก่อนที่จะหมดสัญญาณชีพไปเมื่อไม่นาน"
" อะไรนะตอนนี้ฉันอยู่ไหน " นาถวดี เริ่มไม่สนุกกับฝันเหมือนจริงขึ้นมาแล้ว
"ขอแสดงความยินดีกับโฮส ที่จะได้ใช้ชีวิตตามที่คิดอย่างต้องการ ตอนนี้โฮส อยู่ในยุคจีนก่อนปฏิวัติ ปี 1974 ข้อควรปฏิบัติโฮส ต้องใช้ชีวิตให้เหมือนกับร่างต้นแบบให้มากที่สุด "
" เฮ้ย จริงดิ ตายๆ นี่ฉันข้ามมิติมาเหรอ "
" ครับ โฮส ได้ส่งสัญญาณผ่านคลื่นความถี่ของสมองเพื่อร้องขอให้ระบบพาเข้ามาอยู่ในยุคจีน ช่วงยุค 70 ทางระบบแม่เห็นว่าโฮส มีความเหมาะสมพอที่จะได้รับการตอบสนองความต้องการ จึงได้มอบหมายให้ระบบเป็นผู้รับผิดชอบพาโฮส ย้ายมาสู่ร่างต้นแบบที่ค้นพบ ระบบมีชื่อที่ระบบแม่เรียกว่าเอลิค เเละระบบเอลิคจะผู้ช่วยโฮส ให้ใช้ชีวิตในยุคนี้ให้สำเร็จ และเป็นไปได้ด้วยดี โดยที่โฮสต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย ส่วนรายละเอียดเอลิคจะบรรจุข้อมูลเข้าสู่สมองของโฮส ในบางส่วนถ้าสงสัยอะไรโฮส สามารถสอบถามเอลิค ได้ตลอดเวลา "
" เดี๋ยวนะ ฉันตายยัง "
" ยังไม่ตายแต่ไม่ต่างจากตายครับ ทางระบบแม่ข่ายได้ทำการ สต๊าฟร่างเดิมของโฮส ไว้เรียบร้อยแล้ว หากโฮส ต้องการกลับไปหลังจากที่ได้ใช้ชีวิตได้อย่างต้องการแล้ว ระบบแม่ข่ายจะทำการย้ายโฮส กลับอย่างอัตโนมัติ แต่ถ้าโอสไม่ประสงค์จะกลับไป ทางระบบแม่ข่าย จะล้างตัวตนของโฮส ในโลกเดิมเหมือนโฮส ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกคนจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับโฮส อีกต่อไป"
" เรื่องจริงหรือนี่ โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด"
" ตอนนี้พระเจ้าคงช่วยอะไรโฮส ไม่ได้แล้ว จะมีเพียง เอลิค ที่พอจะช่วยโฮส ได้ครับ "
" ...."
#เปิดเรื่องใหม่ค่ะ ถ้างง ก็ขออภัยด้วยค่ะ 😊❤️