หลังจากค่ำคืนนั้นที่ลลนาแสนผิดหวัง เธอหลบหน้าภาคินด้วยการหนีเที่ยวแทบทุกคืน เพื่อปกปิดความรู้สึกที่บอบช้ำ เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน ดื่มด่ำกับการปาร์ตี้และสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ช่วงเย็นของทุกวัน เธอมักจะอาศัยช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเดินทางไปยังผับหรือคลับสุดฮิตในเมือง หรือไม่ก็ออกไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่มีชีวิตชีวาในงานเลี้ยงต่างๆ การที่เธอหลบหน้าและตัดขาดจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกับภาคินนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตอย่างไม่คิดอะไรมากอาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกที่เจ็บปวดได้
ในขณะที่เธอหลีกเลี่ยงการกลับบ้านและการพบปะกับภาคิน เธอรู้สึกถึงความสับสนและความรู้สึกผิดหวังที่ยังคงค้างคาในใจ แม้ว่าการเที่ยวไปทุกคืนจะช่วยให้เธอเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็รู้ดีว่าในที่สุด ความรู้สึกที่แท้จริงและความเจ็บปวดที่เธอพยายามหลบหนีจะต้องตามกลับมาทำให้เธอต้องเผชิญหน้าอีกครั้ง
ท่ามกลางเสียงเพลงและความสนุกสนาน เธออาจจะหลงลืมความเจ็บปวดในชั่วขณะ แต่ลึกลงไปในใจ เธอกลับรู้สึกถึงความโหยหาต่อความรักและการยอมรับที่เธอไม่สามารถหาได้จากการใช้ชีวิตแบบนี้
ภาคินมองดูสาวน้อยในปกครองที่แอบหนีเที่ยวทุกวัน แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร ถึงแม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความกังวลและความกลัดกลุ้ม เขาไม่เคยต้องดูแลใครมาก่อน และยิ่งกว่านั้น คนที่อยู่ในปกครองของเขากลับเป็นสาวน้อยแสนยั่วยวนที่ทำให้เขาแทบคลั่งในทุกครั้งที่อยู่ใกล้
เขารู้ดีว่าต้องรักษาระยะห่างระหว่างเขากับเธอไว้ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยากที่จะละสายตาและความคิดออกจากเธอ ความรู้สึกเหล่านั้นทำให้เขาทรมาน เพราะเขาไม่อยากกลายเป็นคนที่ทำให้เพื่อนรักที่จากไปต้องผิดหวัง แต่ทุกวันที่ผ่านไป ภาคินกลับรู้สึกว่าเขากำลังเสียการควบคุมตัวเองมากขึ้นทุกที
………………………………………………………
ลลนากลับมาถึงบ้านในค่ำคืนที่ดึกสงัด ความสนุกที่เคยหวังไว้มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เธอดื่มไปแค่เพียงนิดหน่อย แต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายและความว่างเปล่าทำให้เธอเลี่ยงเพื่อนๆ แล้วหนีออกมาเงียบๆ ขณะที่เธอเดินผ่านห้องโถงที่เงียบสงัด ภายในใจยังคงรู้สึกอึดอัดและสับสน รู้ดีว่าวันนี้ไม่มีอะไรที่จะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย
ลลนาย่องกลับเข้าบ้านอย่างเงียบเชียบ ขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวัง เธอเหลือบเห็นประตูห้องทำงานที่แง้มอยู่ แสงไฟสลัวๆ ส่องออกมา ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก แม้จะยังโกรธและอายอยู่จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เธอก็ตั้งใจจะเดินผ่านไป แต่สายตากลับดึงดูดไปยังภาพที่เห็นในห้องทำงาน ราวกับเวลาได้หยุดลงทันทีเมื่อภาพที่เห็นสะท้อนเข้ามาในสายตา เธอรู้สึกหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ราวกับมันจะหลุดออกมาจากอก ภาพหญิงสาวในชุดเดรสแสนหรูหราที่กอดคอภาคินแน่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเข็มแหลมทิ่มแทง ความโกรธ ความอับอาย และความเสียใจถาโถมเข้ามาในจิตใจของเธอพร้อมกัน
เธอยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น หายใจติดขัดเมื่อเห็นทั้งคู่จูบกันอย่างลึกซึ้ง ริมฝีปากของพวกเขาประสานกันอย่างร้อนแรง ในหัวของเธอมีเพียงคำถามเดียววนเวียนอยู่ ‘ทำไมถึงเป็นเธอ ทำไมไม่ใช่ฉัน’
ความรู้สึกที่พยายามจะกดทับไว้ตลอดเวลาพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง เธอข่มใจพยายามหันหลังกลับไป แต่ขากลับรู้สึกหนักหน่วงจนไม่อาจขยับได้ เหมือนตัวเธอถูกตรึงอยู่กับที่ ภาพของพวกเขาที่กำลังจูบกันลึกซึ้งนั้นมันเจ็บปวดเกินกว่าที่เธอจะทนได้
ในที่สุด ลลนาตัดสินใจหันหลังและรีบก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องของเธออย่างเงียบเชียบ แม้ใจจะพยายามบอกตัวเองให้ลืมภาพนั้นไป แต่มันกลับฝังลึกลงในความทรงจำ ไม่ว่าเธอจะพยายามหลีกหนีมันมากแค่ไหน ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากความเจ็บปวดและความอิจฉาที่ก่อตัวขึ้นในใจได้
……………………………………………………………
บนโต๊ะอาหารเช้า ลลนานั่งอยู่ในชุดเดรสน่ารักสมวัย แทนที่จะเป็นชุดรัดรูปหรือเสื้อผ้าที่ปิดอะไรไม่มิดเหมือนทุกครั้ง ขณะที่ทานอาหารเช้าเงียบๆ เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
"คุณลุงคะ หนูพร้อมไปเรียนต่อแล้วค่ะ"
ภาคินเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยท่าทีแปลกใจ
"ตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม?"
"ค่ะ" ลลนาตอบ พลางมองตรงไปยังเขาด้วยสายตาที่มั่นคง "แต่ขอไปเร็วที่สุดเลยได้ไหมคะ?"
ลลนากลับขึ้นมาบนห้องหลังจากอาหารเช้า เธอนั่งลงบนเตียงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พิมพ์ข้อความหาแอนนาอย่างรวดเร็ว
"Anna, I’m going to study abroad sooner than expected. I need to get away from here."
"แอนนา ฉันกำลังจะไปเรียนต่อที่อังกฤษเร็วๆ นี้ ฉันอยากหนีไปให้พ้นจากที่นี่แล้ว"
ลลนามองข้อความของแอนนาที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
"Anna, this is just the start, babe. You'll meet tons of new loves. Love ya!"
"มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของชีวิตที่รัก เธอจะได้พบรักใหม่อีกมากมาย รักนะ "
เธอถอนหายใจเบาๆ รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นการเริ่มต้นใหม่จริงๆ แม้ใจจะยังไม่พร้อมเต็มที่ แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำ