บทที่7 ใช้หัวใจแก้ไข

2720 คำ
บทที่7 ใช้หัวใจแก้ไข ร่างสูงที่ควรจะเฝ้าน้องหรือไม่ก็ทำงานกลับมานั่งซึมอยู่ในห้องของเพื่อนสนิทที่นั่งนิ่งไม่ทักท้วงอะไร พงศ์พยัคฆ์นั่งนิ่งอยู่นานทว่าเพื่อนหนุ่มก็ไม่ถามอะไรสักทีในที่สุดชายหนุ่มก็ต้องสอบถามออกไป “จะไม่ถามหน่อยเหรอ?” “หึ...ไม่ล่ะ เดี๋ยวอยากบอกนายก็บอกพูดเองแหละ ฉันรู้” ปัญจวัตรเอ่ยบอกพร้อมกับยักไหล่ ไอ้หมอนี่คิดว่าเขาเป็นเพื่อนมากี่ปีนะถึงได้คิดว่าเขาไม่รู้จักมันดี เขารู้จักพงศ์พยัคฆ์ดีถ้าอยากพูดชายหนุ่มจะพูดเอง แต่ถ้าไม่อยากจะพูดถามให้ตายก็ไม่พูด...นี่คือสิ่งที่เขารู้หลักจากคบกันมาจวนเจียนจะเข้าปีที่30 “ฉัน...” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยหลังจากที่นั่งนิ่งมาสักพัก “เข้าใจมาตลอดว่าหนูแพรรักนายเมฆ” “อันนี้ฉันรู้” “แต่ความจริงแล้วฉันเข้าใจผิดว่ะ...หนูแพรปฏิเสธนายเมฆไปแล้ว ฉันเข้าใจผิดมาตลอด” “อันนี้ฉันก็เคยบอกนาย แต่นายไม่เชื่อ นายบอกว่านายได้ยินมากับหู” ปัญจวัตรเอ่ยแล้วก็ร้องเหอะออกมา...เขาเคยพูดแล้วว่าเข้าใจผิด ไงล่ะ ไม่เชื่อเขาดีนัก “9ปี...ไม่ใช่เวลาน้อย ๆ เลย ฉัน...โคตรเลวเลยว่ะ” “เออ...เลว” ปัญจวัตรไม่ใช่เพื่อนประเภทที่ดีแต่ปลอบใจ ชายหนุ่มพูดอย่างตรงไปตรงมาก่อนจะเดินมานั่งข้าง ๆ “แต่โจรยังกลับใจได้ นับประสาอะไรกับสามีไม่รักดี...นายกลับใจกลายเป็นสามีที่ดีได้ เชื่อดิ” “แต่...ฉันไม่รู้ว่าตัวเองควรจะแก้ไขตรงไหนก่อนเว้ย มัน...มันแย่ไปหมด หมดแล้ว” ยิ่งนึกถึงใบหน้าเฉยชาที่ได้เห็นเมื่อคืนนี้รวมไปถึงคำพูดที่เคยได้ยินที่สวนสาธารณะก็ยิ่งทำให้กำลังใจของเขาถดถอย...มันแย่ไปหมดแล้วจริง ๆ ระหว่างเขากับแพรวารินทร์ “อย่าใช้สมองแก้ดิวะ ใช้นี่...ตรงนี้” มือหนาวางลงที่อกซ้ายของตัวเองแทนตำแหน่งที่บอกเพื่อน “ใช้หัวใจในการคิดแก้ไข ฉันเชื่อว่ามันจะต้องดี” “ใช้หัวใจแก้ไข และแก้ไขด้วยใจไม่ใช่ทำลอย ๆ แล้วทุกอย่างจะดี เชื่อมือหมอปัญจ์ได้เลย รับรองจบสวย” “ใช้หัวใจเหรอ?” พงศ์พยัคฆ์พึมพำก่อนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ภายในห้องพักของพิมพ์พิชชาตอนนี้ไม่ได้มีเพียงสองสาวเพื่อนซี้แต่ยังมีคุณหญิงพราวกะรัตและคุณสิงหาที่เพิ่งพากันมานั่งอยู่ด้วยความไม่เข้าใจ แพรวารินททร์นั้นไม่ได้มีทีท่าอะไรแต่ลูกสาวของพวกเขานี่สิที่มีท่าทีแปลก ๆ ...ยัยตัวแสบของบ้านกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่สักอย่าง “ฉันว่านะแพร พี่เสือน่ะรักแกแน่ ๆ” “มั่ว” แพรวารินทร์เอ่ยสวนกลับทันทีที่เพื่อนสาวสันนิษฐานออกมา “ถ้ารัก...เขาไม่แสดงออกกับฉันแบบที่ผ่านมาหรอก” “แต่พี่เสือไปถามพี่เมฆเรื่องแกกับพี่เมฆทั้งที่เรื่องนี้นอกจากฉันกับแกแล้วก็พี่เมฆไม่มีใครรู้เลย พี่เมฆยังบอกอีกว่าหน้าตาพี่เสือตอนที่รู้ว่าพี่เมฆนกจากแกงี้ตกใจมาก ที่ผ่านมาพี่เสือต้องเข้าใจผิดแล้วก็ถอยห่างจากแกเพราะไม่อยากไปแทรกกลางแกกับพี่เมฆแน่ ๆ พี่เสือต้องรู้สึกกับแกแบบพิเศษ...มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ ” “เข้าใจผิด9ปีอย่างนั้นเหรอ?...มันเป็นไปได้เหรอ คนฉลาด ๆ แบบเขาเนี่ยนะ?” แพรวารินทร์ไม่เชื่อข้อสันนิษฐานของพิมพ์พิชชาเลยแม้แต่น้อย...ไม่เชื่อเลยสักนิดเดียว “โธ่แก...คือคนฉลาดก็พลาดได้ปะ บางคนเก่งทุกเรื่องแต่โง่เรื่องหัวใจก็มี” พิมพ์พิชชาที่มีความคิดจินตนาการเป็นเลิศบอกก่อนจะพยักหน้ากับตัวเอง มันต้องใช่แน่ ๆ “ฮะฮ่า ถ้าเป็นอย่างนั้นแสดงว่าเขากินปลาไม่พอสินะ” “นี่ ๆ อย่าทำเป็นเรื่องตลกไปนะยัยแพร” “ก็แกพูดเพ้อเจ้อนี่ ไม่เอาแล้ว เราจะเลิกคุยเรื่องนี้กัน โอเคมั้ย?” แพรวารินทร์ตัดบทราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เพื่อนสาวสันนิษฐานทว่าลึก ๆ ข้างในแล้วคนที่ถูกสามีเมินมาตลอดก็อยากจะคล้อยตามที่พิมพ์พิชชาสันนิษฐานไม่น้อย...ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิ เวลาต่อมา “นี่ห้องพักหรือห้องทำงานเนี่ย?” น้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยความตกตะลึงดังขึ้นทันทีที่เข้ามาในห้องพักภายในห้องทำงานของนายแพทย์หนุ่ม ภาพที่อยู่ตรงหน้าแพรวารินทร์มันห่างไกลกับสิ่งที่หญิงสาวคิดค่อนข้างมาก เธอคิดว่าห้องนี้มีไว้นอนพักหรือพักผ่อนในช่วงวันหลังจากหมอหนุ่มเสร็จจากการผ่าตัดหรือไม่ก็นอนพักในวันที่ไม่อยากจะกลับบ้านซะอีกแต่ความเป็นจริงแล้วห้องนี้น่าจะเรียกว่าห้องทำงานขนาดย่อม ๆ ซะมากกว่า บนเตียงมีทั้งฟิล์มเอ๊กซเรย์ เอกสารนั่นนี่เต็มไปหมด ภายในห้องนอกจากเตียงและโซฟายังมีตู้หนังสือที่เต็มไปด้วยตำราแพทย์ประเทศต่าง ๆ และหนังสือเกี่ยวกับวิชาการแพทย์ ดวงตาคู่หวานแต่เรียบเฉยเหลือบไปมองแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะหัวเตียงก่อนจะแอบลูบแขนอย่างหวั่น ๆ...แฟ้มผลการชันสูตรศพก็มีภายในห้องนี้ “แล้วนี่เจ้าของห้องไปอยู่ไหนล่ะเนี่ย?” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับหันมองหา เพราะพงศ์พยัคฆ์ไม่โผล่มาหาพิมพ์พิชชาอีกเลยหลังจากที่เมฆากลับไปยัยน้องสาวขี้สงสัยของชายหนุ่มจึงไหว้วานแกมบังคับให้เธอมาดูเขาสักหน่อยและมาชวนเขาไปกินข้าวพร้อมกับครอบครัวเธอจึงต้องมาตามหาเขาถึงห้องทำงานและห้องพักภายในห้องทำงานแห่งนี้ “ไปอยู่ที่ไหนเนี่ย? คุณหมอคะ คุณหมะ...” แก๊ก ใบหน้าหวานหันควับไปมองยังประตูห้องที่มีการเปิดเข้ามาก่อนที่ดวงตาคู่หวานจะหยุดนิ่งมองร่างของคนที่เปิดประตูเข้ามา เป็นพงศ์พยัคฆ์ที่คิดตกและตัดสินใจกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองนั่นเอง ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกันก่อนที่แพรวารินทร์จะเป็นฝ่ายหักหลบสายตาไปที่อื่น “ทรายอยากทานข้าวกับคุณหมอน่ะค่ะ เลยให้มาตาม รีบไปเถอะค่ะทรายรอแย่แล้ว” ร่างบางรีบก้าวทันทีที่พูดจบทว่าไม่ทันได้เดินผ่านคนตัวโตกว่ามือบางก็ถูกฉวยไว้จนต้องหยุดชะงัก ดวงตาหวานมองไปยังมือหนาที่จับแขนเธอไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ขัดขวางการออกจากห้องของเธอ “มีอะไรรึเปล่าคะ?” “พอจะมีเวลาคุยกับพี่สักนิดมั้ย” “คุย?” “เรื่อง เรื่องของ...เรา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดมันค่อนข้างเบาจนแทบจะไม่ได้ยินแต่แพรวารินทร์ก็ได้ยินชัดเต็มสองหู เรื่องของเราอย่างนั้นเหรอ? ระหว่างเขากับเธอมีเรื่องของเราด้วยเหรอ? “คุณหมอต้องการจะตกลงเพราะเรื่องที่ทรายขอร้องใช่มั้ย? ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แพรเข้าใจว่าคุณหมอทำเพื่อทราย แพรจะไม่ทำให้คุณหมอต้องลำบากใจ จะ...” “อย่าพูดอย่างนี้ และพี่ไม่ได้จะพูดเรื่องนี้ด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยขัดก่อนจะมองใบหน้าหวานตรง ๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่อยากจะเอ่ย “พี่...พี่อยากขอโทษ” “ขอโทษ?” “พี่ขอโทษที่พี่ทำตัวไม่ดีกับเธอ ขอโทษที่หลายครั้งปล่อยให้เธอต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ ตามลำพังเพราะอคติและความเข้าใจผิด พี่ขอโทษและขอโอกาสแก้ไขสักครั้ง...ได้มั้ย” “พี่ไม่ขอแก้ตัวว่าที่พี่ทำตัวแย่ ๆ ไปมันเป็นความผิดของใคร พี่ยอมรับว่าพี่ผิดเองพี่คิดบ้าไปเองคนเดียว การกระทำของพี่มันอาจทำลายความเชื่อมั่นของปู่พยัคฆ์และตัวเธอ และทำให้เธอต้องแบกรับความรู้สึกมากมายจนไม่อยากอยู่ในสภาพนี้แต่พี่ขอโอกาสให้พี่ได้แก้ไขมันสักวันก็ยังดี แต่ถ้าเธอไม่โอเคพี่ก็จะหย่าให้ให้เธอได้เป็นอิสระไม่ต้องทนกับสภาพที่เป็นมา” “ขอโอกาสงั้นเหรอ” แพรวารินทร์พึมพำเบาๆก่อนจะใช้ความคิดในการตัดสินใจใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าพงศ์พยัคฆ์เป็นคนจริงจังแค่ไหนเมื่อเขาบอกว่าขอโอกาสนั้นก็คือออกมาจากใจของเขาแล้วเธอควรให้โอกาสเขาหรือจะปล่อยให้มันจบลงด้วยการหย่า “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาขอโอกาสล่ะ ไม่โกรธแพรที่แพรมีส่วนร่วมกับคุณปู่ทำให้คุณหมอไม่ได้ทำตามความฝันแล้วเหรอ?” “พี่ไม่เคยโกรธเธอนะ ไม่เคยเลย ที่ผ่านมาที่พี่คอยหลบหน้าเธอตลอดเพราะพี่...พี่อยากให้ปู่เห็นว่าปู่ทำไมถูกที่บังคับเธอแต่งงานกับพี่ทั้ง ๆ ที่เธอมีคนรักอยู่แล้ว พี่ขอโทษ ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าพี่เข้าใจผิดไปเอง” ชายหนุ่มอธิบายออกไปแล้วก็รู้สึกละอายไม่น้อย...เพราะความเข้าใจผิดเขาได้ทำเรื่องแย่ ๆ ไปเยอะมาก มากจนเขาไม่กล้าจะคิดว่าแพรวารินทร์จะให้โอกาสเขาได้แก้ไข แพรวารินทร์ฟังคำอธิบายที่หลายอย่างเธอไม่เข้าใจก่อนจะประมวลผล ดูเหมือนว่าที่พิมพ์พิชชาคาดเดาจะมีความจริงอยู่ไม่น้อย...เขารู้เรื่องที่เมฆาเคยสารภาพรักเธอแต่ไม่รู้ว่าเธอได้ปฏิเสธไป “วันนั้นพี่ไปหาเธอที่บ้าน แต่ได้ยินที่เมฆาเขาบอกรักเธอ และก็ได้ยินที่เธอบอกว่ารักเขา” คำบอกเล่าของพงศ์พยัคฆ์ที่ดังตามมาบอกเล่าเหตุการณ์ได้ดีว่าเป็นอย่างไร แพรวารินทร์ร้องอ๋อในใจก่อนจะนึกย้อนไปถึงวันนั้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่ 9ปีก่อน “หนู...รักพี่เมฆค่ะ...” “จริงเหรอคะ พี่ดีใจนะที่เราใจตรงกัน” เแพรวารินทร์ไม่ทันจะพูดจนหมดเมฆาก็เอ่ยขึ้นทำให้ใบหน้าหวานสลดลงก่อนที่เด็กสาวจะเงยหน้ามองคนที่มาสารภาพรักกันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว “พี่เมฆคะ หนูรักพี่เมฆนะคะ แต่...” “แต่?” “แต่หนูรักพี่เมฆแบบพี่ชายค่ะ หนู...หนูมีคนอื่นในใจแล้ว” เด็กสาวเอ่ยไปตามความจริงก่อนจะจับมือคนที่อึ้งไปกับคำตอบของเธอก่อนจะเอ่ยต่อ “หนูขอให้พี่เมฆเป็นพี่ชายที่แสนดีของหนูไปตลอดได้มั้ยคะ นะคะพี่ชาย” “คนในใจ...คือเจ้าของวันเกิดที่หนูหาของขวัญให้ใช่มั้ย” เมฆาที่แม้จะรู้สึกเจ็บไม่น้อยที่ถูกปฏิเสธแต่ชายหนุ่มก็ยังคงมีสติถามไป คนที่เขาพูดถึงก็คือพี่ชายของเพื่อนสนิทของสาวน้อยที่สาวน้อยกำลังเลือกของขวัญให้อยู่นั่นเองนักศึกษาแพทย์ที่ชอบโผล่มาหาสาวน้อยบ่อย ๆ และเรียกความสนใจของสาวน้อยไปจากเขาได้ทุกครั้งที่โผล่มา...ไอ้หนุ่มที่ชื่อพงศ์พยัคฆ์ แพรวารินทร์ไม่ตอบคำถามนั้นแต่อากัปกิริยาของเด็กสาวที่แสดงออกทำให้เมฆาได้คำตอบในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มพ้นลมหายใจอย่างตัดสินใจก่อนจะฝืนยิ้มและเอ่ยออกมา “ได้ค่ะ พี่จะเป็นพี่ชายที่แสนดีของหนูตลอดไป พี่หวังว่าหนูกับเขาจะใจตรงกันนะคะ พี่อยากให้น้องสาวพี่มีความสุข แต่ก็นะ พูดตรง ๆ อิจฉาไอ้นายเสือนั่นจริง ๆ ชื่อน่ากลัวแบบนั้นกลับได้ใจคนน่ารักแบบน้องสาวพี่” “พี่เมฆบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้” ปัจจุบัน พอขบคิดแพรวารินทร์ก็ต้องหันหน้าหนีชายหนุ่ม ตอนนั้นเธอรู้สึกดี ๆ ให้กับเขามากกว่าพี่ชายเพื่อนธรรมดาเลยนะ แต่มันก็นานมาแแล้วที่เธอหลงลืมคิดถึงความรู้สึกนั่นไป เธอควรปล่อยให้มันหายไปเลยหรือความลองรื้อฟื้นดูสักครั้งดีล่ะ ให้โอกาสตัวเองได้ทดทวนความรู้สึกดีมั้ยนะ?...จะเจ็บหรือเปล่า? “พี่รู้ว่ามันยากที่จะตัดสินใจ เพราะตอนนี้หนูทรายป่วยอยู่ แต่พี่อยากให้เธอตัดสินใจตามความต้องการของเธอเอง ไม่ต้องคิดเผื่อคนอื่น” หมอหนุ่มที่นิ่งรอคำตอบมานานเอ่ยก่อนจะเงียบลงอย่างรอรับความผิดหวัง การที่หญิงสาวหันหลังคงจะบอกได้แล้วว่าเธอตัดสินใจอย่างไร... คงต้องปล่อยปะ... “ก็ได้ถ้าคุณหมออยากได้โอกาสแพรจะให้โอกาสหมอจนกว่าคุณตาจะกลับจากอิตาลีปลายปีนี้หมอมีเวลาอีกครึ่งปีถ้าในเวลาครึ่งปีนี้หมอยังทำให้ระหว่างเราดีขึ้นไม่ได้ หรือยังทำให้แพรรู้สึกโอเคไม่ได้ เราจะหย่ากัน” แพรวารินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ หญิงสาวทำตามความต้องการของตัวเองแต่ก็เผื่อใจไว้เจ็บเธอยกเรื่องที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เดินทางไปช่วยงานหลานชายคนโตที่อิตาลีขึ้นมาอ้างก่อนจะลอบเป่าปาก นับว่าโชคดีที่ผู้เป็นตาโทรศัพท์มาบอกว่าจะไปช่วยงานพัชรซึ่งรับช่วงต่อบริษัทของพ่อเลี้ยงพยัคฆ์ที่มอบให้แก่พิณณารามารดาของหญิงสาวที่เธอร์ปฏิเสธที่จะรับช่วงต่อบริษัทซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่อิตาลีเพราะพ่อเลี้ยงพยัคฆ์มีบิดาบุญธรรมเป็นชาวอิตาลีพ่อเลี้ยงพยัคฆ์พอดีเธอถึงได้มีข้ออ้างในการตกลงลองให้โอกาสตัวเอง “ขอบคุณครับหนูแพร” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอบคุณด้วยความดีใจด้านคนถูกเรียกว่า “หนูแพร” ถึงกับทำตัวไม่ถูกเกือบ9ปีแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้เรียกเธอแบบนี้ แพรวารินทร์จำได้ว่าตอนเด็กๆพงศ์พยัคฆ์หรือ “พี่เสือ” มักจะเรียกเธอกับพิมพ์พิชชาว่า “หนูแพร” กับ “หนูทราย” แต่หลังจากแต่งงานกันเหมือนเขาจะเรียกชื่อเต็มมาตลอดไม่ก็แทนว่าเธอเหมือนที่เธอเรียกเขาว่า “คุณหมอ” แทนที่จะเป็น “พี่เสือ” มันทำให้หญิงสาวทำตัวไม่ถูกยิ่งไอ้คำว่า “ครับ” นั้นอีกทั้งที่ไม่เคยใช้มันกับเธอเลย “คะ คุณหมอไม่ต้องเปลี่ยนคำเรียกก็ได้มั้งมันไม่ชิน” “พี่แค่กลับมาเป็นพี่เสือไม่ได้เปลี่ยนซะหน่อย เป็นพี่เสือไม่ใช่คุณหมอพงศ์พยัคฆ์สามีนิสัยไม่ดี ในเมื่อหนูแพรให้โอกาสพี่แล้ว พี่ก็จะเป็นพี่เสือ สามีที่ดีของหนูแพร หนูแพรบอกเองนิว่าอยากทำอะไรก็ทำพี่อยากทำแบบนี้แหละหรือหนูแพรไม่ชอบถ้าไม่ชอบจะให้พี่เรียกแบบไหนครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยอย่างคนหน้ามึนเท่าที่เคยเป็นมาทำเอาคนที่วันนี้ต้องเจอกับความแปลกประหลาดของชายหนุ่มถึงกับรู้สึกปวดหัว “คุณหมอจะเรียกอะไรก็เรียกไปแล้วกัน ไปกินข้าวได้แล้ว ป่านนี้ทรายรอแย่แล้ว” แพรวารินทร์ทำทีเอ่ยตัดรำคาญก่อนจะมองไปที่มือหนาที่ยังคงจับแขนเธอไว้อย่างสื่อความหมาย พงศ์พยัคฆ์ปล่อยมือตามที่หญิงสาวต้องการทันทีก่อนจะเปิดประตูให้ คนได้รับการบริการอย่างดีแสดงสีหน้าประหลาดใจนิด ๆ ก่อนจะก้าวเดินนำชายหนุ่มออกมาสิ่งที่พงศ์พยัคฆ์กระทำทำให้เธอเชื่อว่าเขาไม่ได้เสแสร้งแม้แต่น้อย...หวังว่าจะดีได้ตลอดนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม