EP 5
“ไม่เอาน่าลูกรัก อย่าขัดใจแม่แบบนี้สิ แต่งตอนนี้ หรือว่าแต่งตอนไหนมันก็ต้องแต่งเหมือนกันนั่นแหละลูก เชื่อแม่เถอะ แต่งๆ ไปซะ แม่จะได้สบายใจ”
“คุณแม่สบายใจ แต่ผมทุกข์ใจนะครับ”
“ไม่เห็นมีอะไรจะต้องทุกข์ใจเลยนี่พ่ออเล็ก หนูเจนทั้งสวย ทั้งน่ารัก ลูกน่ะเป็นผู้ชายที่โชคดีมากเลยรู้ไหม”
“แต่ผมไม่ได้รักเธอครับ”
“อยู่ๆ กันไปก็รักกันเองนั่นแหละน่า เชื่อแม่เถอะนะ”
อเล็กซิสกระแทกลมออกจากปากแรงๆ อย่างหงุดหงิด มือใหญ่ยกขึ้นเสยเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากหลายครั้ง
“โอเค ผมแต่งเลยก็ได้ครับ แต่ถ้าคนดีของคุณแม่ไม่ได้ซิงเหมือนราคาคุย ผมจะหย่าทันที”
เจสสิก้าหัวเราะร่วน “แหม เอาเรื่องนี้มาต่อรองกับแม่เชียวนะพ่ออเล็ก ไหนว่าไม่สนใจพรหมจรรย์ของผู้หญิงไงล่ะลูก”
“ผมไม่ได้ไยดีเยื่อนรกพวกนั้นหรอกครับ แต่คุณแม่คุยเองไม่ใช่เหรอครับว่าน้องเจนเรียบร้อยอย่างนั้นเรียบร้อยอย่างนี้ แถมยังอ่อนต่อโลกอีก ก็คอยดูกันสิว่าจะซิงอย่างที่คุณแม่โม้เอาไว้หรือเปล่า”
“ลูกไม่มีวันได้หย่าจากหนูเจนหรอกจ้ะลูกรัก เพราะหนูเจนของแม่บริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งกว่าน้ำค้างกลางหาวเสียอีก”
เจสสิก้าหัวเราะชอบใจ ส่วนอเล็กซิสนั่งหน้าหงิกด้วยความหงุดหงิด แต่อีกคนที่แอบฟังอยู่ด้านนอกกลับกำลังเต็มไปด้วยความร้อนอกร้อนใจ
“ถ้าพี่อเล็กรู้ว่าเราไม่ซิง พี่อเล็กก็จะหย่ากับเรา นี่จะทำยังไงดีนะ บ้าชะมัด!”
เจนจิรากำมือแน่น หน้าตาเคร่งเครียด ก่อนจะรีบวิ่งไปปรึกษาปิยนุชด้วยความร้อนใจ
“คุณแม่”
ปิยนุชที่ปลีกตัวออกมาเข้าห้องน้ำเห็นลูกสาววิ่งกระหืดกระหอบมาหาก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้
“หน้าตาตื่นมาเชียว มีอะไรเหรอน้องเจน”
“คุณแม่... แย่แล้วค่ะ แย่แล้ว...”
“แย่อะไรเหรอ มีเรื่องอะไร หรือว่านังเตยมันแอบเข้าใกล้พ่ออเล็กอีกใช่ไหม”
“เรื่องนั้นมันเรื่องเล็กค่ะคุณแม่ แต่เรื่องที่ใหญ่โตและเราต้องหาทางออกมันคือเรื่องนี้ค่ะ” เจนจิราหน้าตาเครียดจัด
“เรื่องอะไรเหรอน้องเจน”
“ก็เรื่องที่เจนไม่ซิงยังไงล่ะคะ”
“อ้าว แล้วมันใหญ่ตรงไหน น้องเจนก็ไม่ซิงมาตั้งแต่ประถมแล้วไม่ใช่เหรอ”
เจนจิรามองหน้ามารดา ก่อนจะเล่าทุกอย่างที่ได้ยินให้ท่านฟัง ซึ่งพอปิยนุชได้ยินแล้วก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที
“คุณแม่ต้องช่วยเจนนะคะ เจนไม่ต้องการหย่ากับพี่อเล็ก เจนรักพี่อเล็กค่ะ”
“ใจเย็นๆ น้องเจน...”
“เจนจะใจเย็นได้ยังไงกันล่ะคะ ในเมื่อหายนะกำลังใกล้เข้ามาหาเจนแล้วน่ะ” เจนจิราโวยวายไร้สติ
“มันต้องมีทางออก เชื่อแม่นะ แม่จะพยายามคิด ส่วนตอนนี้เราต้องสงบสติอารมณ์ และเข้าไปหาคุณป้ากับพ่ออเล็กก่อน แล้วอย่าแสดงพิรุธให้สองคนนั้นเห็นล่ะ เข้าใจไหมน้องเจน”
“ค่ะ คุณแม่”
ปิยนุชกุมมือลูกสาวเอาไว้ ก่อนจะพาเดินกลับไปยังห้องโถงอีกครั้ง
“คุณจะต้องช่วยฉันคิดหาทางออกนะคะคุณเกรียง”
ปิยนุชพูดเสียงดังขึ้นทันที เมื่อเห็นเกรียงไกรเดินออกมาจากห้องน้ำ
เกรียงไกรกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
ปิยนุชเห็นหน้าสามีก็อดที่จะตวาดลั่นไม่ได้ “ทำไมคุณต้องทำหน้ายุ่งด้วย นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับน้องเจนเลยนะคะ หรือว่าคุณไม่รักลูก”
เกรียงไกรใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาทรุดตัวนั่งบนเตียง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ที่ไม่เคยสลัดออกได้เลย คงเป็นเพราะสุดายังไม่อโหสิกรรมให้เขานั่นเอง
“แล้วผมจะช่วยอะไรได้ ในเมื่อคุณเลี้ยงน้องเจนให้ทำตัวแบบนั้นเอง”
“นี่คุณโทษฉันเหรอคะคุณเกรียง!”
“หรือว่าไม่จริงล่ะ คุณตามใจน้องเจน จนน้องเจนเสียคน มีผัวตั้งแต่ประจำเดือนยังไม่มาด้วยซ้ำ ดังนั้นคุณอย่ามาบังคับให้ผมช่วยเหลืออะไรเลย เพราะผมไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
ปิยนุชกระโดดลงไปยืนบนพื้น เท้าสะเอว และจ้องหน้าสามีด้วยท่าทางไม่ต่างจากนางยักษ์ขมูขี
“ก็ใครจะไปบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนลูกรักของคุณกันล่ะ”
“อย่าเอาเตยหอมมาเกี่ยวข้อง”
“แตะต้องไม่ได้เลยนะ อีลูกเมียคนใช้เนี่ย” ปิยนุชโวยวาย และก็แค้นเคืองเตยหอมมากขึ้น
“คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยหยิบยื่นความเป็นพ่อให้กับเตยหอมเลย ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้” เกรียงไกรรู้สึกผิดบาปยิ่งนัก “ผมทำตามใจคุณทุกอย่าง แล้วคุณจะยังต้องการให้ผมทำอะไรอีก หรือว่านี่ยังไม่พอใจคุณ หึ... คุณนุช!”
“นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ คุณเกรียง!”
เกรียงไกรหันหน้าหนีอย่างรำคาญ นี่มันเวรกรรมอะไรของเขากันนะ
“อย่าหันหน้าหนีฉันเด็ดขาด คุณต้องฟังฉันพูดให้จบ หันมาเดี๋ยวนี้คุณเกรียงไกร!”
ปิยนุชกระชากหน้าของเกรียงไกรให้หันกลับมาหา ก่อนจะตวาดลั่นอย่างไร้ความเคารพ
“คุณจะต้องช่วยฉันคิดว่าจะทำยังไงดี น้องเจนถึงจะไม่ถูกคุณอเล็กเท”
“ผมคิดไม่ออก”
“แต่คุณต้องช่วยฉันคิด ไม่อย่างนั้นเราเห็นดีกันแน่”
เกรียงไกรอยากหนีไปให้พ้นๆ จากบ้านหลังนี้นัก เพราะยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีแต่ความทุกข์ใจ ไม่มีความสุขเลย แถมยิ่งนานวันเข้าเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดกับเตยหอมเหลือเกิน
เขารับปากกับสุดาเอาไว้ว่าจะดูแลเตยหอมให้ดี แต่เขากลับปล่อยให้ปิยนุชกับเจนจิรากดขี่ข่มเหงเตยหอมราวกับทาสในเรือนเบี้ย แถมยังไม่เคยหยิบยื่นน้ำใจให้แม้แต่ครั้งเดียว
เขานี่มันเป็นพ่อที่เลวจริงๆ
ดวงตาของเกรียงไกรแดงก่ำเต็มไปด้วยความละอายใจ เขาเดินหนีไปหยุดนิ่งที่หน้าต่างห้อง ดันบานหน้าต่างให้เปิดออก และจ้องมองออกไป
ปิยนุชเดินตามมาหยุดด้านหลัง และก็ยังไม่คิดจะหยุดระรานเลยแม้แต่น้อย
“ที่เงียบอยู่นี่ กำลังหาทางช่วยน้องเจนอยู่ใช่ไหมคุณเกรียง”
“ผมคิดไม่ออก ผมไม่รู้จะไปทำยังไงให้น้องเจนกลับมาเป็นสาวพรหมจรรย์ได้”
“แต่เราต้องทำ และต้องทำให้ได้ด้วย เพื่อความสุขของน้องเจน”
“ก็ใครใช้ให้คุณไปคุยโวเอาไว้แบบนั้นล่ะ ทั้งๆ ที่มันใช่เรื่องจริงแม้แต่เสี้ยวเดียว”
“ถ้าฉันไม่พูดแบบนั้น น้องเจนจะดูดี ดูงามพร้อมในสายตาของเจสสิก้าไหมล่ะ” ปิยนุชยังเถียงไม่ยอมแพ้ ขณะเดินกลับไปกลับมาอย่างใช้ความคิด
“ฉันจะต้องทำยังไงนะ จะต้องหาวิธียังไงดี”
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น พร้อมกับเสียงของเตยหอมที่ดังกังวาน
“เอ่อ... คุณท่านค่ะ เตยมาขออนุญาตออกไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลนะคะ”
เกรียงไกรหันขวับมองไปที่ประตูห้อง และรีบเดินไปดึงบานประตูเปิดออก ปิยนุชมองสองพ่อลูกคุยกัน และความคิดบางอย่างก็แวบขึ้นมาในสมอง
“ทำไมต้องออกไปดึกๆ ดื่นๆ ด้วยล่ะ” เกรียงไกรถามลูกสาว น้ำเสียงมีความเป็นห่วง จนเตยหอมอดที่จะแปลกใจไม่ได้
“พอดีเพื่อนเตย... เอ่อ... ประสบอุบัติเหตุน่ะค่ะ เตยเพิ่งรู้ข่าวเมื่อกี้นี้เองค่ะ”
“แล้วเพื่อนเป็นอะไรเยอะหรือเปล่าล่ะ”
“เตยยังไม่ทราบเลยค่ะ”
“งั้นให้นายกอบขับรถไปส่งก็แล้วกัน”
แววตาของเกรียงไกรที่มองมานั้นต่างไปจากทุกครั้งจนเตยหอมน้ำตาคลอ เพราะพ่อไม่เคยมองหล่อนด้วยสายตาเป็นห่วงแบบนี้มาก่อนเลย
“ขอบคุณค่ะ แต่... เตยไม่อยากรบกวน...”
“ไม่รบกวนหรอก ค่ำๆ มืดๆ ออกไปคนเดียวมันไม่ปลอดภัย แล้วก็รีบกลับด้วยล่ะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”
พ่อเป็นห่วงหล่อน...
“ขอบคุณมากค่ะ” หล่อนยกมือไหว้ น้ำใสๆ ที่เอ่อล้นอยู่ขอบตาไหลออกมาอาบแก้ม
เกรียงไกรยกมือขึ้น ตั้งใจจะลูบศีรษะของเตยหอม แต่ปิยนุชก้าวเข้ามาหยุดใกล้ๆ เสียก่อน
“ให้นายกอบไปส่งน่ะดีแล้ว”
ไม่ใช่แค่เตยหอมคนเดียวหรอกที่รู้สึกแปลกใจกับความใจดีของปิยนุช แต่เกรียงไกรเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เขาหันมองหน้าภรรยา และก็พบความเจ้าเล่ห์ร้ายเกลื่อนดวงตา เขาใจคอไม่ดีเลย เพราะเป็นห่วงเตยหอม
“แต่เตยไม่อยากรบกวนค่ะคุณผู้หญิง”
“อย่ามาเรื่องมาก ให้นายกอบไปส่ง หรือไม่ก็ไม่ต้องออกไปเลย เลือกเอา”
เตยหอมไม่มีทางเลือก จำต้องตอบรับด้วยการยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณคุณผู้หญิงค่ะ”
“ไปได้แล้ว”
“ค่ะ”
เกรียงไกรมองตามร่างของลูกสาวที่ตัวเองไม่เคยให้ความรักไปจนลับสายตา ก่อนจะดึงบานประตูห้องปิดลง และเอ่ยถามปิยนุชอย่างรู้ทัน
“คุณกำลังคิดจะทำอะไร คุณนุช”
“ทำไมถามฉันแบบนี้ละคะ”
ปิยนุชยิ้มพึงพอใจ เดินกลับไปนั่งบนขอบเตียง เกรียงไกรเดินตามมาหยุดตรงหน้า
“คุณไม่ใช่คนใจดีแบบเมื่อกี้นี้หรอก”
ปิยนุชหัวเราะร่วน “แหม ไม่เสียแรงที่อยู่กันมาไม่รู้กี่สิบปีนะคะเนี่ย”
“บอกผมมา คุณกำลังจะทำอะไร”
“ฉันก็แค่คิดหาทางออกให้กับเรื่องของน้องเจนได้แล้วก็เท่านั้นเองค่ะ”
เกรียงไกรใจคอไม่ดีเลย เขาภาวนาให้เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเตยหอม
“อย่าเอาเตยหอมเข้าไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด”
“แหม ตายจริง คุณพูดนี่เหมือนมานั่งอยู่ในใจของฉันเลยนะคะ”
“คุณนุช!”
ปิยนุชจ้องหน้าสามีและยิ้มเลือดเย็น “นังเตยมันคือหมากสำคัญของแผนนี้ค่ะ”