“ผมขอตัวก่อนนะครับ” รามีนเอ่ยบอกออกไป แล้วดึงมือสโรชาเดินออกไปทันที
“โอ้ย เจ็บนะคะคุณรามีน ปล่อยเอยสิคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไปเมื่อรามีนบีบข้อมือแน่น
“เธอชอบมันหรือไงสโรชา ถึงให้เบอร์มัน” รามีนเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ ขณะมาถึงรถสปอร์ตคันหรู
“เปล่าค่ะ เอยก็แค่ให้ไปตามมารยาทก็แค่นั้น คุณจะมาว่าเอยทำไมคะ คุณก็แค่เจ้านาย ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องส่วนตัวของเอยสักหน่อย” สโรชาเอ่ยออกไปอย่างไม่เข้าใจที่รามีนโมโหเธอ จะว่าหึงก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาคงจะไม่ได้ชอบเธอเร็วขนาดนั้น
“ต่อไปฉันจะไม่ยุ่งกับเธอสโรชา” รามีนพูดไปก็อ้อมเดินไปฝั่งคนขับแล้วขึ้นไปนั่งรอ
สโรชาบนรถอย่างไม่พอใจ สโรชาก็มองแล้วรู้ว่าเขาคงจะโกรธเธอจึงจะขอโทษ แต่ดันมีคนเรียกเธอไว้
“เอย มาทำอะไรที่นี่” พ่อเลี้ยงตะวันที่เห็นน้องสาวถูกผู้ชายจูงตัวออกมาจากในร้าน จึงตามออกมาดูว่าใช่น้องสาวของตัวเองรึเปล่า
“พ่อเลี้ยง ไหนว่ากลับเชียงใหม่แล้วไงคะ” สโรชาหันไปถามอย่างตกใจ แล้วมองรามีนที่นั่งในรถ โชคดีที่ทั้งสองไม่เจอกัน
“ถ้ากลับแล้วจะเห็นเราถูกไอ้นี่มันกระชากลากถูหรือไง” ตะวันเอ่ยบอกน้องสาว
“เขาเป็นเจ้านายเอยเองค่ะ เดี๋ยวไว้เราไปคุยกันใหม่นะคะพ่อเลี้ยง” สโรชาเอ่ยบอก เพราะกลัว รามีนจะไม่พอใจที่รอนาน
ด้านรามีนก็มองสโรชาคุยกับผู้ชายคนหนึ่งแต่ไม่เห็นหน้าเพราะรถของเขามันต่ำเกินไป
“ไม่ เราต้องกลับกับพี่วันนี้เราต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ไม่งั้นเราก็กลับเชียงใหม่” ตะวันบอกออกไป เพราะเขาดูแลสโรชามายังไม่เคยฉุดกระชากน้องตัวเองเลยสักครั้ง แล้วไอ้นี่มันเป็นใครถึงกล้ามาฉุดกระชากน้องเขา เอ๊ะ แต่รถคันนี้ทำไมมันคุ้นๆนะ เหมือนรถของไอ้ราม รุ่นน้องของเขายังไงก็ไม่รู้ ตะวันคิดอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเอยบอกเจ้านายของเอยก่อนนะคะ พ่อเลี้ยงไปรอที่รถก่อนนะคะ” สโรชาเอ่ยบอกพี่ชายออกไปอย่างขอร้อง
“ไม่ เราต้องไปพร้อมกัน” ตะวันเอ่ยออกไปอย่างเอาแต่ใจ จนสโรชายอมใจแล้วเดินไปเคาะกระจกของรามีนให้เปิดออก
“จะกลับได้รึยังสโรชา” รามีนพูดออกไป แต่ไม่มองหน้าของสโรชา
“คือ คุณรามีนกลับก่อนนะคะ เอยเจอคนรู้จักน่ะค่ะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วทำหน้าเจือนๆ
“อืม” รามีนเอ่ยบอกออกไปก็ปิดกระจกรถ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองเห็นว่าสโรชากำลังยืนคุยกับผู้ชายอยู่ และคนๆนั้นก็คือพ่อเลี้ยงตะวัน รุ่นพี่ของเขาที่เป็นเจ้าของไร่ปานตะวันในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ที่เขาสงสัยก็คือสโรชารู้จักกับพี่ตะวันได้ยังไง ก่อนจะแอบจอดรถรอข้างนอก เพื่อดูทั้งสองอย่างลับๆ
“ไปกันเถอะค่ะพ่อเลี้ยง” สโรชาหันมาหาพี่ชายที่ทำหน้าอึ้งๆอยู่
“เมื่อกี้ไอ้ผู้ชายที่มันลากเราออกมามันชื่อรามีนงั้นหรอยัยเอย” ตะวันเอ่ยถามน้องสาวอย่างลุ้นๆ หวังว่าคงไม่ใช่รามีน รัตนสารศิลป์ เจ้าของผู้ผลิตอุสาหกรรมเครื่องดื่มหรอกนะ ตะวันคิดในใจ
“ใช่ค่ะ พี่รู้จักเขาด้วยหรอคะ” สโรชาถามออกไปแล้วมองพี่ชายนิ่ง
“พี่รู้จักมันดีเลยล่ะ เราไปลาออกเดี๋ยวนี้ยัยเอย พี่จะไม่ให้เราทำงานกับไอ้รามเด็ดขาด” ตะวันเอ่ยบอกออกไป เพราะรามีนมันเย็นชาและเคยใส่ใจคนรอบข้างมันที่ไหน เขารู้จักรามีนมาเป็นสิบๆปี ยังไม่เคยเห็นความดีในตัวของรามีนเลยสักนิด ยิ่งมาถูกแฟนมันทิ้งมันก็ไร้หัวใจเย็นชาจนไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าไปในใจมันได้อีก
“แต่เอยอยากทำงานกับเขานี่คะ” สโรชาเอ่ยบอกแล้วทำหน้าจริงจังใส่พี่ชาย
“ไม่ เราต้องกลับเชียงใหม่” ตะวันพูดคำขาดก็เดินนำน้องสาวไปที่รถของตัวเอง เขาว่าจะมาเที่ยวก่อนกลับเชียงใหม่ แต่ต้องมาหมดอารมณ์เมื่อรู้ว่าน้องสาวตัวแสบ มาทำงานกับไอ้ราม รุ่นน้องที่เขาถือว่าเป็นเพื่อนของเขาอีกคน
“เดี๋ยวสิคะพ่อเลี้ยง ฟังเอยก่อนสิคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้ววิ่งตามพี่ชาย ไปที่รถ จากนั้นพี่ชายของเธอก็เงียบมาตลอดทางจนเธอเริ่มรู้สึกกังวลว่าพี่ชายของเธอรู้จักกับรามีนได้ยังไง จนกระทั่งขับมาจอดในคอนโดของเธอ แล้วตะวันก็เดินโกรธๆ เข้าไปในคอนโดโดยมีเธอเดินเกาะแขนง้ออยู่
“พ่อเลี้ยง เอยขออยู่ต่อนะคะ นะคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วกอดแขนพี่ชายที่เอาแต่เดินไม่สนใจเธอ
ด้านรามีนที่ตามมาก็เห็นสโรชาเดินกอดแขนของตะวันเขาไปในคอนโดของเธอ
“เธอเป็นเมียน้อยพี่ตะวันงั้นหรอ” รามีนพูดออกไป เพราะตะวันแต่งงานกับลีน่าแหม่มฝรั่งที่คบกันตั้งแต่เรียนเมืองนอก แถมยังมีลูกสาวแล้ว ยังไม่เลิกเจ้าชู้อีกหรอถึงมาเลี้ยงสโรชาในคอนโดหรูแบบนี้ รามีนคิดอย่างเสียดาย เพราะเขาคงจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงของเพื่อนหรือพี่ที่เขาเคารพแบบตะวัน ถึงแม้เธอจะเป็นเมียน้อยของเขาก็ตาม รามีนคิดในใจก่อนจะขับรถออกไป
“ทำไมเอยอยากจะทำงานกับไอ้รามมันนัก บอกพี่มาซิ” ตะวันเอ่ยถามน้องสาวออกไป เมื่อเข้ามาในคอนโดที่ซื้อไว้ให้น้องสาว
“ก็เอย เอยแค่อยากทำงาน” สโรชาโกหกพี่ชายออกไป แล้วนั่งลงข้างๆพี่ชาย
“งั้นก็กลับไปทำที่ไร่ของเรา งานก็เหมือนกัน” ตะวันเอ่ยบอกน้องสาวแล้วมองน้องสาวที่กำลังทำหน้าตกใจ แสดงว่าสโรชาต้องกำลังคิดจะทำอะไรอยู่แน่ๆ ตะวันคิดในใจ
“แต่เอยทำที่ไร่เบื่อแล้วนี่คะ เอยอยากจะทำงานที่นี่ค่ะ สนุกดี” สโรชาเอ่ยบอกพี่ชายออกไป
“เหอะ ทำงานกับไอ้รามเนี่ยนะสนุก บอกพี่มาเอยว่าเราคิดจะทำอะไร ห้ามโกหก เรารู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่ชอบ” ตะวันทำเสียงเข้ม แล้วจ้องหน้าน้องสาวของตัวเองนิ่ง แล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำมาดื่ม
“คือ เอยแค่อยากจะจับคุณรามีนเขาเป็นสามีก็แค่นั้นเอง” สโรชาเอ่ยบอกออกไปแล้วก้มหน้าอย่างรู้ตัวว่าผิด
“พู่... เราล้อเล่นใช่ไหมยัยเอย” ตะวันสำลักน้ำทันทีที่ได้ยินน้องสาวตอบ แล้วถามออกไปอย่างไม่เชื่อหู
“เปล่า เอยพูดจริงๆ ที่จริงเอยแค่จะแข่งกับยัยนานาเล่นๆ แต่ดันชอบเขาจริงๆ เอยก็เลยอยากได้เขามาเป็นสามีของเอยจริงๆ” สโรชาบอกออกไปเสียงอ่อย แล้วทำสายตาน่าสงสารใส่พี่ชาย
“พี่จะบ้าตาย นี่พี่ตามใจเอยผิดไปใช่ไหม พี่รู้ว่าเอยแรดแต่ก็ไม่คิดว่าจะแรดอยากมีผัวจนตัวสั่นขนาดนี้ พี่ผิดหวังในตัวเราจริงๆ โถ่โว้ย ผู้ชายดีๆมีไม่ชอบไปชอบไอ้รามซาดิสม์ ยัยเอยแกไปชอบมันได้ยังไง” ตะวันเอ่ยออกไปเสียงดัง แล้วทำหน้าเครียดที่น้องสาวเล่นอยากมีสามีจนต้องทำถึงขนาดนี้
“พ่อเลี้ยง เอยไม่ได้แรดสักหน่อยก็เอยอายุขนาดนี้แล้ว เอยยังไม่ได้แต่งงานเลย เอยก็อยากมีครอบครัวอยากมีลูกแบบเพื่อนๆบ้าง เอยก็ต้องหาสามีสิคะหรือว่าจะให้เอยขึ้น คาน” สโรชาเอ่ยบอกออกไป เมื่อเจอคำด่าของพี่ชายที่สุดแสนจะตรงและเจ็บมาก ดีนะมาแค่แรด ถ้าร่านมานี่คงได้ตัดพี่ตัดน้อง สโรชาคิดในใจ
“ถ้าเราอยากจะมีครอบครัวพี่ไม่ว่า หรือเราจะขึ้นคานพี่ก็ยอมน้องคนเดียวพี่เลี้ยงได้ ผู้ชายคนอื่นก็มี ทำไมต้องเป็นไอ้ราม ถ้าได้ไอ้รามเป็นน้องเขยพี่ไม่เอา” ตะวันพูดออกไปอย่างเด็ดขาด เพราะเขารู้จักกันมา เขาย่อมรู้ดีว่าใครนิสัยเป็นยังไง แต่กับรามีนเห็นมันนิ่งๆ แต่เรื่องบนเตียงมันนิ่งแบบหน้ามันที่ไหนล่ะ แล้วหุ่นบางๆแบบน้องสาวของเขาจะไหวได้ยังไง จะให้พูดไปตรงๆกับน้องสาวก็ไม่ดี โถ่โว้ย ตะวันคิดในใจอย่างเหนื่อยใจ
“พี่ไม่เอา แต่เอยจะเอา เอยชอบเขาถึงเขาจะเย็นชาแต่เขาก็ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น เอยจะเอาคนนี้แหละ มัวแต่เลือกอยู่นั่นเอยได้ขึ้นคานกันพอดี” สโรชาเอ่ยบอกพี่ชายออกไปเสียงดังอย่างไม่ยอมแพ้
“พ่อเลี้ยงอาชากับนายโตมรทำไมเราไม่ชอบ พี่เห็นสองคนนั่นตามจีบเรามาตั้งนาน กับไอ้รามเลิกคิดเถอะ” ตะวันเห็นน้องสาวเริ่มเอาแต่ใจ เขาจึงเอ่ยบอกออกไปอีกครั้ง
“เอยไม่ชอบ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ยอมเอยจะบอกพี่ลีน่าว่าตอนพี่ลีน่ากลับเยอรมัน พ่อเลี้ยงแอบหนีเที่ยวสาว”สโรชาเอ่ยขู่พี่ชายออกไปเพราะมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่พี่ชายเขาจะยอม
“ยัยเอย พี่แค่เที่ยวไม่ได้เที่ยวผู้หญิงเราไปบอกแบบนั้น เดี๋ยวได้ทะเลาะกันบ้านแตก น่ะสิ” ตะวันเอ่ยบอกออกไป เพราะสโรชารู้จุดอ่อนของเขา
“ถ้างั้นก็ปล่อยให้เอยจัดการเรื่องนี้เอง แล้วก็ห้ามมาขัดขวางเอยด้วย เพราะเอยเลือกแล้วว่าเขาคือพ่อของลูกเอย” สโรชาเอ่ยบอก พร้อมกับสีหน้าจริงจัง
“แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่เตือนก็แล้วกัน ไอ้รามมันไม่ได้หยุดที่ใครง่ายๆ พี่ไม่อยากให้เราไปเป็นแค่ผู้หญิงข้างทางของมันนะเอย” ตะวันเอ่ยบอกน้องสาวอย่างเป็นห่วง เพราะเขาก็รู้จักทั้งสองเป็นอย่างดี
“เอยรู้ค่ะว่าพี่ตะวันห่วงเอย แต่เอยขอเลือกคนรักเองนะคะ เอยเชื่อว่าเอยปราบคุณรามีนได้แน่นอนค่ะ เอยรักพี่ตะวันนะคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไปอย่างขอบคุณ พร้อมกับเรียกตะวันว่าพี่ชายอีกต่างหาก จนตะวันยิ้มดีใจที่น้องสาวเรียกเขาว่าพี่สักที
“ก็ได้ พี่ยอมก็ได้ แต่เราต้องทำให้ไอ้รามมันรักเราภายในสามเดือน ถ้าในสามเดือนมันยังไม่รักเราละก็ เราต้องเลิกล้มความคิดบ้าๆพวกนี้ตกลงไหมเอย และเราก็ห้ามมีอะไรกับไอ้รามเด็ดขาด ทำได้ก็ตกลง ทำไม่ได้ก็กลับเชียงใหม่” ตะวันเอ่ยบอกน้องสาวแล้วลูบผมอย่างรักใคร่ แต่สายตากลับบ่งบอกถึงความจริงจัง จนสโรชานึกกลัวจึงเอ่ยอ้อนออกไปอย่างกลบเกลื่อน
“ได้ค่ะ เอยสัญญาว่าจะไม่ให้เขามีอะไรกับเอยเด็ดขาด แต่ว่าพ่อเลี้ยงก็ต้องช่วยเอยด้วยนะคะ” สโรชาเอ่ยบอกแล้วยิ้มให้พี่ชาย
พอคุยกับสโรชาเสร็จตะวันก็เข้ามาในห้อง แล้วกดโทรหารามีนทันที เพราะเขาไม่ไว้ใจ สโรชาว่าจะทำตามสัญญาได้แค่ไหน เขาต้องห้ามอีกฝ่ายไว้ด้วย
“ไอ้ราม นี่พี่เองนะ” ตะวันกรอกเสียงลงไปอย่างดีใจ ตามปกติ
“ว่าไงคับพี่ตะวัน มีอะไรรึเปล่าถึงโทรหาผมได้” รามีนเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจ ตั้งแต่เห็นเป็นเบอร์ของตะวันแล้ว
“ฉันอยากจะฝากอะไรแกหน่อย เลขาของแกที่ชื่อสโรชาน่ะ ช่วยดูให้ฉันหน่อย แล้วก็ห้ามใครจีบเธอเด็ดขาดโดยเฉพาะแก๊งเราทั้งแก๊ง แกช่วยฉันได้ไหมวะ” ตะวันเอ่ยบอกอย่างอ้อมๆ เพราะไม่อยากจะพูดตรงๆ ว่าไม่อยากให้รามีนยุ่งกับสโรชา
“อ่อ แล้วพี่เป็นอะไรกับสโรชาถึงหวงขนาดนี้ พี่มีเมียมีลูกแล้วยังไม่เลิกเจ้าชู้อีกหรอ”รามีนถามออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ในใจก็ลุ้นคำตอบของรุ่นพี่ตัวเองอยู่
“ฮ่าๆ เออน่า ฉันเป็นเสือนี่วะ แกก็ช่วยกันพวกผู้ชายให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน แล้วก็อย่าให้สโรชาเขารู้ล่ะว่าฉันมาขอแก” ตะวันเอ่ยบอกออกไป แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะเขารู้ดีว่า รุ่นน้องทั้งสามคนจะไม่มีทางกินผู้หญิงคนเดียวกันอย่างแน่นอน
“ก็ได้ครับพี่ ผมจะช่วยดูให้” รามีนบอกออกไป แล้วทำหน้าคิดหนักเมื่อรู้ว่าสโรชาอาจจะเป็นเมียน้อยของตะวันจริงๆ
“ดูอย่างเดียวนะโว้ย ห้ามแตะ ห้ามคิด” ตะวันเอ่ยกำชับออกไป
“พ่อเลี้ยงคะ อาบน้ำได้แล้วค่ะ” สโรชาเรียกพี่ชายจากนอกห้องเสียงดัง แต่มันก็ทำให้คนในสายได้ยิน
“เดี๋ยวพี่ออกไป” ตะวันตะโกนบอกกลับไป แล้วยิ้มออกไป เมื่อน้องสาวช่างเรียกเขาได้ถูกจังหวะจริงๆ
“เดี๋ยวไงฉันจะโทรหาแกใหม่นะไอ้ราม แล้วว่างๆนัดรวมตัวกัน แค่นี้ก่อนนะโว้ย” ตะวันบอกออกไป
“ครับพี่ ไว้เจอกัน” รามีนเอ่ยบอกออกไปเสียงอ่อย แล้วกดวางสาย นี่คือการบอกให้เขาเลิกยุ่งกับสโรชาสินะ รามีนคิดในใจก็โยนโทรศัพท์แล้วนอนลงบนเตียงอย่างคิดหนัก
พอเช้าของอีกวันสโรชาก็ไปทำงานตามปกติ แต่เธอกลับรู้สึกว่ารามีนกำลังหลบหน้าเธอ แถมยังไม่ยอมเจอหน้าเธออีกต่างหาก คงไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อวานหรอกนะ
ด้านรามีนก็ทำงานตามปกติ แต่เขาสั่งให้ชานนเป็นคนจัดการงานให้เขาทุกๆอย่างโดยไม่ให้สโรชาเข้ามาในห้อง แล้วก็สั่งให้ชานนหาแม่บ้านที่ไม่ใช่สโรชามาแทน เพราะตอนนี้สำหรับเขาสโรชาคือผู้หญิงต้องห้าม เธอเป็นผู้หญิงของพี่ตะวัน เขาก็ไม่สมควรจะยุ่งกับเธอและอีกอย่างเธอก็เป็นพนักงานในบริษัทของเขา เพราะฉะนั้นเขาต้องห่างจากสโรชามากกว่านี้ มันจะดีต่อตัวเขาและสโรชาที่จะได้ไม่มีเรื่องเสียหาย และเขาก็ต้องไม่ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดเด็ดขาด
“ยัยเอย นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่า พี่ตะวันเนี่ยนะยอมให้แกจับคุณรามีนเขาทำสามี” ปัทมาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ
“ใช่ พ่อเลี้ยงเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของคุณรามีนน่ะ เขาก็เลยยอม” สโรชาบอกออกไปแต่ก็ไม่ได้เล่าละเอียดนัก
“แกนี่สุดยอดยัยเอย เจ้ตั้มขอคารวะ” โตมรเอ่ยบอกออกไป แล้วทำมือแบบคนจีนใส่สโรชา
“เดี๋ยวนะยัยเอย มันง่ายเกินไปรึเปล่าอ่ะ พี่ตะวันเขารู้จักกับคุณรามีนไม่ใช่หรอ แล้วเขาไม่เตือนแกเรื่องคุณรามีนเลยรึไง” ปัทมาเอ่ยถามเพื่อนสาวอย่างสงสัย
“เตือน แต่ฉันจะเอาคนนี้ พี่ชายที่แสนดีก็ต้องยอมสิยะยัยปัท แกอย่าลืมสิ พ่อเลี้ยงเขาเคยขัดฉันได้ที่ไหนล่ะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป
“พ่อเลี้ยงตะวันคงไม่เป็นลมไปก่อนนะยะ ที่มีน้องสาวแรดๆแบบแก” โตมรเอ่ยแขวะออกไป แล้วหัวเราะ
“โอ้ยเจ้ ฉันเคลียร์เรียบร้อยแล้วน่า แถมยังได้ข้อมูลมาเพียบ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป เพราะเธอขอให้พี่ชายช่วยบอกสิ่งที่รามีนชอบ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องบนเตียง แต่อันนี้พี่ชายของเธอไม่ได้บอกอะไรมาก แต่บอกว่าถ้าอยากได้รามีนเป็นสามีต้องอึด แต่พี่ชายเธอคงไม่รู้ว่าเธอก็หื่นไม่ได้ต่างจากเขาเท่าไหร่ สโรชาคิดก็แอบยิ้มออกมา
“นี่แกจะไม่เล่าให้พวกฉันฟังหรอยะ” โตมรเอ่ยถาม เมื่อเห็นสโรชายิ้มหน้าบาน
“โอ้ยเจ้ อันนี้ความลับค่ะ ฮ่าๆ เอยขอเก็บไว้บ้างสิคะ” สโรชาเอ่ยบอกก็ยิ้มให้ทั้งสองที่ทำหน้าหมั่นไส้ใส่เธอ
“แต่ว่าตอนนี้คุณรามีนเขาแปลกไปอ่ะเจ้ เขาเหมือนออกห่างเอยอ่ะ แบบหลบหน้าอ่ะ เอยไม่รู้ทำไงดีอ่ะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป เพราะวันนี้ทั้งวันเธอไม่เจอเขามาทั้งวัน
“ก็เจ้เห็นไปกินข้าวกับยัยนานานะ เนี่ยดูสิ ยัยนานายังอัพรูปโชว์อยู่เลย” โตมรเอ่ยบอกก็ยื่นโทรศัพท์ให้สโรชาดูภาพที่รามีนไปกินข้าวกับนานาตอนกลางวัน
“ยัยนานา แกตัดหน้าฉันอีกแล้ว เห็นทีฉันต้องรุกหนักซะแล้ว” สโรชาพูดไปอย่างจริงจัง แล้วทำหน้าหมั่นไส้นานา
“แกจะรุกยังไงคะ พึ่งบอกว่าคุณรามีนเขาหลบหน้าแกไม่ใช่หรอ” โตมรเอ่ยถามออกไป
“นี่แกขอถามไรหน่อยดิ ถุงยางไซส์58 นี่ มันใหญ่มากไหมอะแก ถ้าซิงๆแบบฉันโดนไปจะเจ็บไหมอะ” สโรชาถามปัทมาออกไปเบาๆ
“อะไรนะ!” ทั้งโตมรและปัทมาตะโกนออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ จนคนในร้านอาหารหันมาดูทั้งสามที่นั่งอยู่ที่เค้าน์เตอร์
“จะเสียงดังทำไมเนี่ย” สโรชาเอ่ยว่าทั้งสองแล้วทำเสียงเบาๆ
“ยัยเอยอย่าบอกนะว่ามันเป็นของคุณรามีนอะ” โตมรถามออกไปแล้วยิ้มแบบอยากรู้อยากเห็น
“อืม ตอนไปทำความสะอาดแล้วเจออะเจ้” สโรชาเอ่ยบอกเบาๆ
“ตายแน่ยัยเอย จิ๋มแกแหกแน่งานนี้” ปัทมาเอ่ยพูดแล้วปิดปากตัวเอง
“ก็เขาเป็นลูกเสี้ยวฝรั่งนี่ยะยัยปัท แกจะตกใจทำไมกัน” โตมรเอ่ยบอกออกไป
“เจ้ก็ตกใจเหมือนกันแหละย่ะ” ปัทมาตอบกลับไป
“เดี๋ยวๆ นี่วิจารณ์พ่อของลูกฉันกันพอรึยังเนี่ย แล้วบอกมาว่าฉันจะเจ็บไหม” สโรชาบอกไปก็เอ่ยถามต่อ
“ก็เจ็บสิยะ แกอายุขนาดนี้ยังซิง ป่านนี้คงตันแล้วมั้งน่ะแล้วมาเจอแบบนี้อีก โชคดีนะเพื่อน” ปัทมาเอ่ยบอก เพราะเธอก็มีสามีฝรั่งเช่นกัน แต่เธอไม่ใช่พวกนิยมรักษาพรหมจรรย์แบบสโรชาจึงไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร
“โอ๊ย เจ้อยากได้มั้งอะ ต้องไปหาสามีฝรั่งกะเขาบ้าง” โตมรเอ่ยบอกแล้วทำท่าทางสะดีดสะดิ้ง
“แกคงไม่คิดเอาตัวเข้าแลกใช่ไหมยัยเอย แกคิดให้ดีก่อนนะ” ปัทมาเอ่ยบอกออกไปอย่างเตือนๆ
“ฉันอายุจะสามสิบแล้ว แกยังต้องให้ฉันสงวนตัวอยู่หรอยัยปัท ถ้าสักสี่สิบฉันก็ทำอยู่หรอกไม่งั้นคงไม่ซิงมาจนถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้มันได้เวลาใช้งานมันได้แล้วย่ะ”สโรชาบอกออกไป เพราะคิดว่าเธอจะใช้อะไรได้นอกจากเรื่องนี้
“อืม เจ้ก็ว่ายัยเอยพูดถูก มันสงวนตัวจนไม่มีผัวมาขนาดนี้ก็ให้มันได้ใช้เถอะ อย่าไปขัดมันเลย ไม่ใช้ตอนนี้มันก็คงไม่ได้ใช้แล้วล่ะ” โตมรเอ่ยบอก ตามความคิดของตัวเอง
“เจ้ก็เยอะไป เอยแค่จะสามสิบไม่ใช่หกสิบนะคะ” สโรชาเอ่ยตอบกลับออกไป
“อ่าวเอย เป็นยังไงบ้างจ้ะ มีวี่แววว่าจะแต่งงานรึยัง” นานาเดินเข้ามาในร้านอาหารของปัทมา เพื่อมาเยาะเย้ย สโรชาโดยเฉพาะ
“นี่เธออย่ามาหาเรื่องได้ไหมนานา วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะด้วย” สโรชาเอ่ยบอกออกไป อย่างเบื่อหน่าย
“ว้า นี่คงยังหาไม่ได้ล่ะสิ รีบตามฉันให้ทันนะเอย ตอนนี้คุณรามีนเขากำลังตามใจฉันเลยล่ะ นี่ก็พึ่งพาฉันไปทานข้าวกลางวันมา” นานาเอ่ยบอกออกไปแล้วยิ้มอย่างมารยา
“หรอ ใครถามเธอมิทราบยะ” สโรชาบอกออกไป แล้วเบะปากใส่นานา
“โอ๊ยนี่ ยัยนานาถ้าเธอจะมาเยาะเย้ยยัยเอยแค่นี้ก็กลับไปเถอะย่ะ แล้วนี่ฉันจะบอกให้นะยะแฟนเก่าคุณรามีนเขากำลังจะกลับมา เธอคิดว่าจะจับเขาได้หรือไง ยิ่งตอนนี้คุณรวีเขาเลิกกับสามีซะด้วย เธอเตรียมตัวให้ดีล่ะ” โตมรเอ่ยบอกออกไปอย่างรำราญ เพราะดูท่าจะเถียงกันไม่จบ แต่คำพูดของโตมรก็ทำให้ทั้งสโรชาและนานาหันควบเลยทีเดียว
“ไม่จริง ถึงเขาจะมาเขาก็แค่แฟนเก่า อย่างฉันสิของใหม่ เจ้คอยดูละกันว่าใครจะได้คุณรามีนไป”นานาเอ่ยบอกแล้วสะบัดหน้าหนี เดินออกจากร้านไป
“เจ้ตั้ม ทำไมเจ้ไม่บอกเอยเรื่องนี้คะ” สโรชาถามโตมรออกไป
“คือเจ้พึ่งรู้จากคุณริสาไง เจ้ก็เลยยังไม่ได้บอกแกอะ” โตมรโกหกออกไป เพราะเขารู้มาได้สองสามวันแล้ว แต่ไม่กล้าบอกสโรชา เพราะว่ากลัวสโรชาจะคิดทำไรแผลงๆไปมากกว่านี้
“โอ๊ย แล้วทีนี้จะทำยังไงเนี่ย ยัยนานาก็ตามมาราวี ยัยแฟนเก่าก็จะกลับมา แล้วฉันต้องทำยังไงเนี่ย” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วนั่งทำหน้าคิดหนัก
"เอาน่า กว่าเขาจะมาแกก็งาบคุณรามไปแล้วมั้ง อย่าคิดมากสิยัยเอย” ปัทมาเอ่ยปลอบเพื่อนสาวออกไป อย่างไม่คิดอะไร งาบงั้นหรอ ใช่ ทำไมเราไม่จับคุณรามีนเขาก่อนที่ยัยนั่นจะกลับมาล่ะ สโรชาคิดในใจแล้วยิ้มออกมา
“ฉันมีแผนแล้วล่ะ” สโรชาบอกออกไปแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จนเพื่อนทั้งสองหันไปมองหน้ากันทันทีอย่างไม่เข้าใจ