เมื่อวันทำงานสิ้นสุดลง
โดยปกติแล้วในกรณีนี้ แอนนี่จะไปกับฉันตลอดเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แต่วันนี้เธอบังเอิญออกไปข้างนอกกับแม่และพี่ชายของเธอ ดังนั้นฉันไม่มีทางเลือกนอกจากขอให้แอนดี้ออกไปกับฉันเพื่อไปทานอาหารเย็นกับวอร์เรน
อย่าเข้าใจฉันผิด นอกจากแอนนี่ แอนดี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนต่อไปของฉัน สหาย พันธมิตร และเพื่อนในที่ทำงานของฉันในบริษัท ต้องบอกว่าฉันยอมรับว่าฉันรู้สึกลังเลเล็กน้อยและสงสัยเกี่ยวกับการเชิญแอนดี้ไปด้วยกัน เพราะที่สุดเธอคือราชินีแห่งการนินทาในที่ทำงาน เป็นเพราะเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับกิ๊บในบ่ายวันนี้และมันส่งผลกระทบต่อเธออย่างมาก ฉันสามารถจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอรู้ว่าเราจะทานอาหารเย็นกับผู้ช่วยส่วนตัวของซีอีโอคนใหม่
ประมาณสิบห้านาทีก่อนที่เราจะเลิกงานพร้อมหิมะที่ตกลงมาและวอร์เรนโทรหาฉันด้วยโทรศัพท์ที่ทำงานและขอให้ฉันรอในห้องโถง เขาจะขับรถไปที่ด้านหน้าเพื่อมารับเรา ดังนั้น แอนดี้กับฉันกำลังรอเขาอยู่ที่ล็อบบี้เลานจ์
“เป็นไงบ้าง”
“อะไรนะ”
“เถอะน้าอเล็กเซีย เธอต้องบอกฉันด้วยว่าเราจะออกไปกินข้าวกับใคร เพราะฉันไม่รู้เลยและเขากำลังจะมารับเรา ดังนั้น ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าใครกำลังจะมารับเราไปกินข้าวเย็นนี้”
ตั้งแต่ฉันขอให้แอนดี้ไปกับฉัน เธอก็ถามฉันอย่างเซ้าซี้อย่างบ้าคลั่งว่าชื่อของเขาคืออะไร โชคดีที่เหลือน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นฉันคงต้องแย่แน่นอนภายใต้แรงกดดันในการซักถามของเธอ
อีกครั้ง แอนดี้ต้องการรู้เสมอแน่ใจว่าเธอรู้จักทุกคนในที่ทำงาน ฉันรู้ว่าแน่ เมื่อเธอได้ยินชื่อ วอร์เรน วิลสัน เธอจะรู้ทันทีว่าเราจะไปกินข้าวกับผู้ช่วยส่วนตัวของ คาลวิน สมิธ และฉันต้องการให้เธออยู่ห่างจากข้อมูลนี้ให้มากที่สุด ถ้าฉันไม่ต้องการรบกวนรังแตนของเธอ
แอนดี้หยาบคายและขัดจังหวะฉันตลอดเวลา
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันล่ะว่าเรากำลังจะไปเจอใคร เร็วเถอะฉันอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว”
ใช่ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถมองเธอได้อีกต่อไป ถ้าฉันไม่บอกเธอตอนนี้หนึ่งในพวกเราจะมีอาการทางจิตอย่างแน่นอน
“โอเค ชื่อของเขาคือวอร์เรน วิลสัน”
แอนดี้หยุดฉันและตื่นเต้นมากเลย
“วอร์เรน วิลสัน อย่าบอกฉันว่าเธอหมายถึงผู้ช่วยส่วนตัวของซีอีโอรูปหล่อ คนนั่น วอร์เรน วิลสัน!”
ฉันอายที่จะพูดว่า “อืม ใช่”
รอยยิ้มที่ซุกซนขนาดใหญ่ขยายออกบนใบหน้าของแอนดี้ทันที เมื่อเธอจ้องมาที่ฉันด้วยดวงตาปีศาจของเธอ นั้นเกือบจะทำให้ฉันอยากจะเอาอกเอาใจเธอมากขึ้น
“อะไร มันเป็นอย่างไร”
เธอหัวเราะเยาะฉันอย่างตลก ๆ
“คนแรกซีอีโอหนุ่มผู้เร่าร้อนและตอนนี้ผู้ช่วยส่วนตัวของเขา เพื่อนสาวฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ เธอจะต้องเป็นคนที่น่าอิจฉามากของพวกพนักงานสาวๆ ของบริษัทเราแน่ๆ ทุกคนต้องอยากเป็นเธอจนตัวสั่น และทุกคนต้องตกใจแน่ที่รู้เรื่องนี้”
ฉันรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจทันที ทันใดนั้นฉันก็
“นั้นแหละ แอนดี้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่ต้องการที่จะบอกคุณว่าใครจนกว่าเราจะเจอเขา”
แอนดี้วางแขนของเธอเบา ๆ บนไหล่ของฉัน และดึงฉันเข้ามาใกล้เธอ จากนั้นฉันก็ลูบแก้มของฉันเบา ๆ เธอยิ้มให้ฉันด้วยความรัก
“ผ่อนคลายสาว ๆ ฉันแค่ล้อเล่น ขอโทษถ้าฉันทำให้เธอไม่มีความสุข ฉันผิดเองยกโทษให้ฉันเถอะนะได้ไหม”
พูดอีกครั้ง ฉันไม่สามารถโกรธแอนดี้ได้เลย ฉันส่งสายตาแบบเอือมๆ และส่ายหัว
“โอเค ฉันให้อภัยเธอ”
มีรอยยิ้มซุกซนที่มุมปากของเธอ เธอเหมือนเด็กที่ดื้อและต้องการที่จะพูดเรื่องต่าง ๆ ตลอดเวลา
“ขอบคุณ นอกจากนี้ฉันเป็นแค่ฉากของเธอสินะสาวน้อย มันต้องมีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้แน่ ๆ”
ฉันได้แต่กลอกตาไปมา และส่ายหัวให้กับเธอ
“ช่างเถอะ”
อเล็กเซีย นั่งอยู่ข้างหลัง นี่คือรถของวอร์เรนดังนั้นฉันควรทำในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ
“ยังไงก็ตาม คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะพาเพื่อนไปด้วย” วอร์เรนโพล่งออกมา
“อ๊ะ เยี่ยมเลย ฉันก็พาเพื่อนมาด้วย” ฉันยิ้มอย่างอาย ๆ แต่ฉันมีความสุขมากที่มันจะไม่น่าอายเหมือนนัดบอดเมื่อเร็ว ๆ นี้
วินาทีต่อมาฉันรู้ว่าฉันคิดผิด
ฉันนั่งอยู่ด้านหลังรถกับ คาลวิน สมิธ ฉันรู้ตัวตนของเขาในครั้งนี้ ฉันเรียบร้อยขึ้นทันที
ฉันจะอธิบายให้แอนดี้ฟังได้อย่างไร
แน่นอนพอแอนดี้มองมาที่ฉันด้วยท่าทางสยองขวัญและหน้าที่พร้อมจะนินทา เวรเอ้ย..
ฉันทำผิดพลาดแน่นอน
“อเล็กเซีย ฉันคิดว่าเธอจะไปนัดบอด” แอนดี้กระซิบในหูของฉัน แต่เสียงก็ยังดังมาก คาลวินต้องได้ยินทุกคำ
นัดบอด คาลวินมีรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเขาฉันรู้สึกอายมาก
วอร์เรนก็กลัวเช่นกัน เขาคิดว่าโอ้พระเจ้า คาลวิน สมิธ ได้ยินมาว่าฉันกำลังกินข้าวกับอเล็กเซีย ฉันแค่หวังว่าเขาจะไม่เข้าใจผิดว่าเป็นนัดบอด นี่เป็นความเข้าใจผิดที่ยิ่งใหญ่
เนื่องจากความลำบากใจอย่างมากผู้คนในรถจึงนิ่งเงียบ
รถหยุดที่ร้านสเต็กเฮ้าส์ขนาดใหญ่
ฉันลงจากรถแล้วเอนตัวลงและกระซิบกับวอร์เรน “คาลวิน สมิธ ให้ฉันยืมเสื้อโค้ทของเขา ฉันจะมอบให้คุณในวันพรุ่งนี้โปรดช่วยบอกเขาด้วย”
วอร์เรนมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ พี่ชายของเขาไม่เคยอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน ไม่ต้องพูดถึงการให้ยืมแจ็คเก็ตกับผู้หญิง
“โอเค ไม่มีปัญหา” วอร์เรนยิ้มและมองไปที่สมิธ และสมิธแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก
หลังจากถามอาหารจานโปรดของพวกเรา วอร์เรนสั่งอาหารคลาสสิกสองสามจาน แล้วพวกเขาก็ไม่มีอะไรจะพูด บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัด
“คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะสูบบุหรี่” ในที่สุด คาลวิน สมิธ ก็พูดประโยคแรกของเขาและฉันก็โบกมืออย่างรวดเร็ว
“ได้เลย ฉันไม่รังเกียจหรอก”
แอนดี้กระซิบกับฉันอีกครั้ง “ว้าว เขาหล่อมากเมื่อเขาสูบบุหรี่ ฉันน้ำลายไหลเลย”
ฉันได้รับข้อความจากแอนดี้ที่หื่นกระหาย
“เขาหล่อมาก ฉันไม่สามารถละสายตาจากเขาได้”
“ฮะฮะฮ่า” วอร์เรนหัวเราะเยาะเรา
เมื่อฉันได้ยินเสียงหัวเราะของวอร์เรน ฉันก็รู้ว่าฉันแสดงได้ชัดเจนแค่ไหน ฉันรีบเงยหน้าขึ้นและดื่มซุป
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น มันคือแม่ของฉัน
“ขอโทษค่ะ ต้องรับโทรศัพท์” ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
แม่ “ลูกอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่” ฉันรู้ว่าแม่ของฉันต้องโทรหาฉันอีกครั้งเพื่อแนะนำวันที่ในการนัดบอด
“แม่คะ หนูไม่ไปนัดบอดแล้วค่ะ หนูมีคนที่หนูชอบอยู่แล้ว ๆ จะพาแฟนกลับบ้านนะคะ” ฉันโกรธมากกับคำพูดของแม่เพราะเธอยิ่งอุกอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันไม่สามารถควบคุมน้ำเสียงของฉันได้ ในที่สุดฉันก็ระเบิดเสียงใส่แม่และวางสาย
เมื่อฉันหันหลังกลับ ฉันชนกับแขนของใครบางคน
“ขอโทษค่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นและพบกับ คาลวิน สมิธ อีกครั้ง มันเป็นภาพที่น่าอึดอัดใจสำหรับเขา ฉันจะมีวันที่สงบกับเขาบ้างไหม
“ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณกลับบ้าน” ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิเสธ เขาพาแอนดี้กับฉันไปที่สี่แยกสุดท้ายที่เขาส่งฉันครั้งสุดท้าย
เมื่อฉันลงจากรถแม่ของฉันโทรหาฉันอีกครั้ง
“แน่นอนหนูจะพาแฟนไปหาแม่ แม่จะได้มีชีวิตอย่างอิสระซะที” ฉันเบื่อหน่ายและตอบเธออย่างลวก ๆ
แอนดี้รู้สถานการณ์เธอลูบหลังของฉันและบอกฉันว่าเธอจะมานอนกับฉันคืนนี้ ซึ่งมันทำให้ฉันซึ้งจริง ๆ
เมื่อเรากลับถึงบ้านฉันเหนื่อย แต่แอนดี้ดูเหมือนจะบ้า เธอโม้อย่างบ้าคลั่งกับฉันว่า คาลวิน สมิธ หล่อมากแค่ไหนและสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติแค่ไหน แม้ว่าฉันจะเหนื่อยฉันก็คุยกับเธอ เพราะฉันรู้ว่ามันเป็นความสุขเพียงอย่างเดียวของเธอ
“คนๆ นี้ลูกรักพระเจ้าแน่ ๆ”
“แต่อเล็กเซีย ฉันคิดว่าสมิธชอบเธอจริงๆ นะ” แอนดี้เริ่มนินทาอีกครั้ง ฉันรู้สึกหมดหนทางจริงๆ
“ฉันบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน ทำไมยังพูดถึงเรื่องนี้อยู่”
“ฉันคิดว่าเขาชอบเธอจริง ๆ เชื่อฉันสิเธอไม่เชื่อสัญชาตญาณของผู้หญิงด้วยกันหรือ” แอนดี้ทำท่าตบหน้าอกและสัญญา
“ฉันเชื่อในตัวเอง ไม่ต้อง ไปนอน ฉันอยากอยู่กับตัวเองอยู่คนเดียวซักพัก”
ในตอนกลางคืนประตูห้องของฉันดังขึ้น คนที่เปิดประตูคือแอนนี่ พฤติกรรมของเธอแปลกไปหน่อย เธอต้องการให้ฉันให้เงินเธอ ฉันไม่ลังเลที่จะให้เธอยืมเงิน แต่เธอควรจะอยู่กับพี่ชายและแม่ของเธอในวันนี้ ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงยืนอยู่ที่นี่และขอยืมเงินจากฉัน จากความไว้วางใจฉันไม่ได้ถามอะไรเธอเลย ท้ายที่สุดทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง
ในวันถัดไป
“พวกเราอยากจะแนะนำพวกคุณ กับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ แองเจิล จอห์นสัน ที่จะเข้ามารับตำแหน่งของฉัน” ทอมป์ แจ็คสันกล่าวด้วยความกระตือรือร้นในใจ ฉันแค่ภาวนาว่า ฉันจะเข้ากันได้ดีกับเจ้านายคนใหม่นี้ และฉันจะไม่คาดหวังอะไรมากไปกว่านี้
“เฮ้ ดูกระเป๋าของเธอสิ ชาแนลลิมิเต็ด ฉันหวังว่าจะมีแบบนี้บ้าง” แอนดี้พึมพำอย่างตื่นเต้น
“คุณทักทายวันแรกของฉันด้วยวิธีนี้หรือ” แอนดี้ทำเกินจริง เห็นได้ชัดว่าแองเจิลไม่ชอบ
“ฉัน ฉัน” แอนดี้พูดติดอ่าง
“คุณเพิ่งพูดว่าคุณมีความสุข แต่ตอนนี้คุณไม่สามารถพูดอะไรได้” แองเจิลยกคางของเขาและข้ามแขนของเขาไป
“ดี ฉันขอโทษถ้ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ แต่คุณหยาบคายเกินไป” แอนดี้ไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไปดังนั้นฉันจึงกระแทกข้อศอกของเธอทันทีและส่งสัญญาณให้เธอหยุด ชื่อของบุคคลนี้คือนางฟ้า แต่บุคลิกของเธอไม่เหมือนนางฟ้าเลย ในอนาคตเราจะมีวันที่ยากลำบากอย่างแน่นอน
แอนดี้คุยกับฉัน “เคยได้ยินว่าผู้หญิงเลวคนนั้นเคยทำงานกับ คาลวิน สมิธ มาก่อน ฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่เธอมาที่บริษัทนี้
ว้าว ข่าวนี้มีค่าจริงๆ คุณยอดเยี่ยม ฉันประหลาดใจกับทักษะการนินทาของแอนดี้ เธอเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย
“ใช่ ฉันคิดว่านังสารเลวนี่คงชอบสมิธแน่ๆ อเล็กเซีย ไปเอาคาลวิน สมิธคืนมา อย่าปล่อยให้มีที่ว่างสำหรับเธอนะ หล่อนเป็นคนที่โน้มน้าวใจเก่ง ฉันไม่ชอบยัยแองเจิลเลยจริง ๆ”
“นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นนะ” ฉันบอกแอนดี้
หลังจากเห็นข้อความของแอนดี้หัวใจของฉันเต้นแรง ฉันมีลางสังหรณ์ว่าอนาคตของฉันในบริษัทจะไม่ดี ฉันหวังว่าแองเจิลจะไม่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
ในห้องเก็บของ
“คุณคือ อเล็กเซีย หรอ”
ไม่ว่าฉันจะสวดอ้อนวอนกี่ครั้ง ฉันก็ยังโชคดีที่ได้พบกับทูตสวรรค์องค์นี้
“ใช่ สวัสดีคุณแองเจิล” ฉันภาวนาให้ผู้หญิงคนนี้ปล่อยฉันไปแต่สิ่งที่เกิดขึ้นดันตรงกันข้าม
“เฮ้ คุณฟังเอาไว้นะว่า – คาลวิน สมิธ เป็นของฉัน อย่าคิดที่จะเอาชนะฉัน ฉันเคยเห็นผู้หญิงหลายคนเช่นคุณ พยายามเกลี้ยกล่อมเจ้านายของพวกเขา เพราะคิดว่าพวกเขายังเด็กและสวยงาม แต่ฉันขอเตือนคุณไว้ว่ามันไม่ได้ผล”
คำสบถของเธอทำให้ฉันรู้สึกไม่สบาย
“คุณแองเจิล ดูเหมือนคุณจะกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่คุณรู้มาอย่างผิดๆ แต่ไม่ต้องกังวล เรื่องพวกนั้นมันเป็นไปไม่ได้” ฉันปิดประตูใส่เธอ และไม่ได้มองกลับไปที่ใบหน้าที่น่าขยะแขยงของเธอ
อเล็กเซีย ทำได้ดีมาก ฉันเตือนตัวเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ารำคาญ ที่ฉันจะไม่ปล่อยให้เข้ามาในชีวิตของฉัน ไม่มีใครสมควรที่จะดูถูกหรือสั่งฉัน ไม่มีทาง
หลังเลิกงานฉันกำลังกลับและออกจากสำนักงานทันที ฉันไม่ต้องการพูดอะไรกับแองเจิลและฉันไม่ได้คาดหวังว่า คาลวิน สมิธ จะยืนอยู่ในลิฟต์
“สวัสดีค่ะท่าน” ฉันทักทายอย่างเชื่องช้าและหวังว่าลิฟต์จะมาถึงชั้นหนึ่งในไม่ช้า
แต่ ทันใดนั้นไฟในลิฟต์ก็ดับลง ฉันที่กลัวความมืด กรีดร้องด้วยความตกใจและกอดเขาโดยไม่รู้ตัว
“อย่ากลัวเลย ส่งมือถือมาให้ผม”
ฉันจับเขาแน่นและรู้สึกอายมาก ฉันส่งโทรศัพท์ให้เขา เมื่อฉันทำสิ่งนี้ฉันบังเอิญจับมือเขา แต่ฉันบอกตัวเองว่าฉันไม่ควรคิดถึงเรื่องเซ็กซ์และผ่อนคลาย
ฉันกลัวความมืดมากเกินไป
สมิธ เรียกและแตะหลังของฉันแทนที่จะผลักฉันออกไป
“นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของผม” สมิธ บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของเขาในโทรศัพท์ของฉัน ฉันพยักหน้าตอนนี้ ฉันแค่อยากเห็นแสงสว่าง
เมื่อลิฟต์ตกลงมาอย่างกระทันหัน ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคลุมเครือแค่ไหน ด้วยความกลัวอย่างที่สุดฉันจึงรีบไปหาเขา
ดูเหมือนว่าเขาจะยิ้มและกอดฉันไว้ในอ้อมแขน
ฉันหายใจดังเสียงฮืด ๆ ออกมาจากปากของฉัน
ในความมืดฉันรู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันอยู่บนแก้มของฉันโดยตรง ฉันพยายามทำให้ตัวเองสงบลง แต่พบว่าสมิธ กำลังเข้าใกล้ หลังจากนั้นครู่หนึ่งใบหน้าของเขาอยู่ใกล้ฉันมากเกินไป และเขาจะดึงมันเข้ามาใกล้อีกครั้ง และเขาจะจูบฉัน
เขาต้องการอะไร
ฉันพยายามที่จะลืมตาขึ้น เพื่อที่เขาจะได้เห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้าฉัน แต่มันก็ไร้ประโยชน์
ฉันคิดว่าเขาต้องการจูบฉัน ฉันรู้สึกได้ถึงมือของเขาเลื่อนผ่านไปรอบเอวของฉัน นิ้วของเขาแตะเสื้อผ้าของฉันและทันใดนั้นก็หมุนไปรอบ ๆ บริเวณเอวของฉัน ครู่หนึ่งฉันตกตะลึง แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นจากนั้นนิ้วของเขาค่อย ๆ ยกเสื้อของฉันและลูบผิวที่อ่อนนุ่มของฉันด้วยปลายนิ้ว นี่ทำให้ฉันตัวสั่น
ฉันกลัวพยายามอยู่ห่างจากเขา แต่เขากอดฉันแน่นขึ้นและฉันหนีไม่พ้น
พระเจ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับฉันได้อย่างไร
ฉากต่อไปทำให้ฉันตกใจมากขึ้น
เขาเหยียดแขนออกแล้วกดคอของฉันไม่ให้ฉันขยับแล้วผลักฉันไปที่กำแพง เขาไม่เสียเวลาสักครู่ เขาวางริมฝีปากบนริมฝีปากของฉัน ลมหายใจของเขาหนักแน่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ริมฝีปากของเขาแนบชิดเข้ากับริมฝีปากของฉันและ ลิ้นของเขาตวัดไปมาเกี่ยวกับลิ้นของฉัน บางครั้งฉันรู้สึกได้ว่าการหายใจของเขาหนักขึ้น เราแยกริมฝีปากออกจากกันเพียงนิดเดียว ริมฝีปากของเขายังคงกดลงมาบนริมฝีปากของฉันอย่าง กับคนหิวกระหาย
มือที่แตะเอวของฉันค่อยๆ เคลื่อนมาแตะที่หน้าอกของฉันและคลึงหน้าอกของฉันเบา ๆ เมื่อฉันโค้งหลัง ริมฝีปากของฉันแนบสนิทจนแทบจะหายใจไม่ออก ฉันลืมตาขึ้นและยังคงดิ้นรนต่อไปเขาก็ยิ่งกอดฉันแน่นขึ้นไปอีก ถึงตอนนี้ไม่มีช่องว่างระหว่างเรา เขากำลังทำอะไร ฉันตัวแข็งทื้อทำอะไรไม่ถูกอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ทันใดนั้นลิฟต์ก็หยุดและมีเสียงระเบิดออกมาจากประตู พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือเรา
เสียง ติ๊ง ประตูลิฟต์ถูกงัดเปิดออกเป็นช่องและมีคนตะโกนอยู่ข้างนอกว่า “พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
ฉันประหม่าเกินไป หัวใจของฉันเริ่มเต้นเหมือนกระต่ายกระโดดไปมา ฉันหยุดดิ้นรนและภาวนาให้สมิธปล่อยฉันไป แต่จนกระทั่งเราทุกคนได้ยินว่าประตูถูกเปิดออก เขาก็ถอนริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของฉันทันที
ฉันเกลียดที่จะเห็นเขาอีกครั้ง ในกรณีนี้ฉันจะไม่สามารถอยู่ในบริษัทนี้ได้
ฉันเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับบาดเจ็บ ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งนี้ แต่ผู้คนจะเข้าใจฉันผิดอีกครั้ง
“เราสบายดี” คาลวิน สมิธ ปล่อยฉันและเดินออกจากลิฟต์อย่างง่ายดาย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น วอร์เรนรีบเข้ามาหาฉัน และฉันมองหน้าเข้าและรู้สึกขอบคุณเขามาก
หลายคนจ้องมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ
“ถึงเวลาเลิกงานแล้วหรอ ไปได้แล้ว” คาลวิน สมิธ ตะโกนใส่พวกเขา
ฝูงชนก็แยกย้ายกันกลับอย่างรวดเร็ว
วอร์เรนช่วยฉันและพาฉันไปที่ห้องโถง “พวกคุณไม่เป็นไรใช่ไหม ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นในลิฟต์ใช่รึเปล่า”
“ไม่ อย่าล้อเล่นนะ” ฉันขัดจังหวะเขา ฉันจะไม่บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในลิฟต์
“แต่ผมมีคำถามจะถามคุณ” วอร์เรน มองมาที่ฉันอย่างสงสัย
“อะไรนะ” แม้ว่าฉันจะรู้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรที่สมเหตุสมผล ฉันจะให้เขาถาม เพื่อที่เขาจะได้อยู่คนเดียว
“ลองนึกภาพว่าคุณจะทำอย่างไรถ้าสมิธ สนใจในตัวคุณ? และตามตื้อคุณ”
“คุณบ้าหรอ” ฉันตะโกนออกมา “คำถามบ้าบอพวกนี้คืออะไร”
“ผมบอกคุณว่านี่คือเรื่องสมมติคุณบอกผมมาสิ” วอร์เรนจะไม่หยุด
“ไม่ ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าฉันจะไม่เห็นด้วย”
“โอ๊ย เขาหล่อและรวย ใครจะปฏิเสธเขาได้ยังไง” วอร์เรนมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ
“อืมม ใช่ เขาหล่อและรวย แต่เขาชอบอะไรฉัน เขาเหมือนไอดอลมาก เอ่อ วันนี้ขอบคุณนะ ฉันต้องไปแล้ว”
ฉันแน่ใจว่าสิ่งที่ดีเช่นนี้ จะไม่เกิดขึ้นกับฉัน เว้นแต่เขาจะตาบอด
ฉันเคยไปนัดบอดมากมาย ซึ่งนั้นทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจมาก
ฉันมักจะดุแม่ของฉัน เพราะยิ่งฉันออกเดทมากเท่าไหร่ ความล้มเหลวของฉันก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
“โอเค ฉันต้องรีบกลับบ้านแล้ว เจอกันพรุ่งนี้” เมื่อเห็นว่าใบหน้าของฉันกลายเป็นสีเทา ในที่สุดวอร์เรนก็หยุดถาม
“ฉันอยากอยู่ตรงนี้คนเดียวสักพัก ไปดูคุณสมิธของคุณเถอะ”
“โอเค โอเคไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่บอกใครเกี่ยวกับการสนทนาของเราในวันนี้”
แต่วอร์เรนจะพลาดโอกาสในการแชทได้อย่างไร
เมื่อเขากลับไปที่สำนักงาน เขาเห็นลิปสติกสีแดงที่รุนแรงบนริมฝีปากของสมิธ
“เฮ้ ปากของคุณ”
เห็นได้ชัดว่าวอร์เรนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไปให้พ้น” สมิธ อารมณ์ไม่ดีและไม่ต้องการคุยกับเขา
“พี่ชายคุณจะเสียใจที่หยาบคายกับผม ผมเพิ่งถามอเล็กเซีย เป็นคำถามที่พี่น่าสนใจและแน่นอนพี่น่าจะต้องการที่จะรู้ว่า-”
วอร์เรนหยุดพูดกลางคันปล่อยให้สมิธโกรธมาก จนแทบจะเอ่ยปากพูดบางคำออกมา
“ผมถามเธอว่า ถ้าพี่ตามตื้อเธอ ๆ จะว่ายังไง ทายซิว่าเธอพูดอะไร”
“พูดอะไร” เห็นได้ชัดว่าสมิธกระตือรือร้นที่จะได้รับคำตอบ
“เธอบอกว่าไม่” วอร์เรนยิ้มเยาะ
“ทำไม?” สมิธประหลาดใจ
“เพราะเธอบอกว่าพี่สมบูรณ์แบบเหมือนดารา นี่อย่างบอกนะว่าพี่ชอบเธอจริง ๆ ใช่ไหม?” วอร์เรนพูดติดตลกและออกจากสำนักงาน
ในอีกด้านหนึ่ง
“นังสารเลว” แองเจิลได้ยินเกี่ยวกับลิฟต์และวิ่งมาหาฉันด้วยความโกรธมาก
เธอเยาะเย้ยฉันด้วยน้ำเสียงที่แหลมคมของเธอ ฉันยิ้มอย่างเหยียดหยาม
“ผู้จัดการ ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูดถึง คุณกำลังพูดถึงใครหรอ”
ทันใดนั้นแองเจิลก็เอามือมาลูบริมฝีปากของฉัน อย่างลึกลับด้วยนิ้วของเขาและเดินหนีไปเหมือนคนบ้า
ฉันอารมณ์ดี ดังนั้นจึงตัดสินใจปล่อยให้เธออยู่คนเดียว
“อเล็กเซีย เป็นอะไรไหม” แอนดี้ยังเห็นการเคลื่อนไหวของคนบ้าและรีบเข้ามาหาฉัน
“หล่อนไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม” เธอจ้องที่ปากฉันด้วย “ปากเธอ สมิธจูบเธอ!” แอนดี้เริ่มนินทาอีกครั้ง
“โอเค หยุดนะ ฉันต้องกลับแล้ว” แอนดี้ผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอรู้ว่าฉันต้องกลัวปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว
แอนดี้ “คุณหลับแล้วหรอ ข่าวใหญ่ชายตาบอดกำลังมีปัญหาในสำนักงานของสมิธ เมื่อสมิธพบเธอ เธอร้องไห้และถอดเสื้อผ้าออก สมิธโกรธมากจนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดึงเธอออกมา”
ฉันเพิ่งได้รับข้อความจากแอนดี้หลังจากอาบน้ำ ซึ่งทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะเริ่มแย่ลง แองเจิลต้องเห็นริมฝีปากของฉันด้วย ดังนั้นเธอจึงรีบไปหาสมิธอย่างรวดเร็ว พระเจ้าจากนี้ชีวิตฉันจะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้วสินะ
โทรศัพท์ของฉันดังขึ้น พระเจ้านี่คือหมายเลขของสมิธ ฉันจำได้ว่าเขาเพิ่มหมายเลขของเขาในลิฟต์ ฉันไม่สามารถรับมันได้
“สวัสดี” ฉันตอบรับและคิดว่า เกิดอะไรขึ้นกับสมิธนี้ เขาต้องการที่จะขอความรักจากฉันจริง ๆ หรือเปล่า
“ถ้ามีอะไรคุณโทรหาผมที่เบอร์นี้ได้ทุกเมื่อ ตกลงไหม” สมิธ ตอบและวางสาย
ฉันอ้าปากและรู้สึกท่วมท้น
“ฉันเบื่อหน่ายเต็มที่แล้ว!” ข้างนอกประตูเสียงร้องของแอนนี่ร้องดังขึ้นมา ฉันเดาว่าพ่อแม่ของเธอต้องสับสนอีกครั้ง
“แอนนี่ เป็นอะไรไหม” ฉันไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ ฉันยังต้องการปลอบเธอ
“อเล็กเซีย เธอกลับมาแล้วหรอ” แอนนี่เช็ดน้ำตาของเธออย่างรวดเร็วและมองมาที่ฉันอย่างเศร้า ๆ
“อืมมม เรื่องเงินอีกแล้วหรอ”
แอนนี่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้
“ฉันเบื่อหน่ายกับพวกเขา ฉันให้เงินที่ฉันเก็บไว้ตั้งแต่เด็ก ทุนการศึกษาของฉันและเงินเดือนปัจจุบันของฉัน แต่พวกเขาก็ยังไม่พอใจและยังบอกว่าฉันมีรายได้น้อย ฉันไม่ใช่ลูกสาวของพวกเขาหรอไง ทำไมพวกเขาถึงไม่นึกถึงความรู้สึกของฉันบ้าง” แอนนี่ตะโกน
บางทีนี่อาจเป็นเพราะครอบครัว ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน มันก็ไม่สามารถแตกหักได้
ฉันพาเธอออกไปทานอาหารเย็น แม้ว่าแอนนี่จะหยุดร้องไห้ แต่เธอก็ไม่พูดอะไรเลยความเงียบของเธอเหมือนกับเธออกหัก
หลังอาหารแอนนี่ขอโทษฉัน
“อเล็กเซียเกี่ยวกับเงินที่ฉันยืมไป ฉันจะจ่ายคืนให้ในเดือนหน้าได้ไหม”
“ใช่ ได้สิ ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ต้องการใช้เงินตอนนี้”
“คือฉันมีอะไรจะบอก” แอนนี่ดูมีท่าทีลำบากใจ
“มันคืออะไร?” ฉันกังวลเล็กน้อย
“ฉันเจอ จอห์นนี่ อีแวนส์ เขาถามถึงเธอและเขาต้องการพบเธอแต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย”
ฉันรู้สึกแย่ลงเมื่อได้ยินชื่อนั้น “ทำไมต้องอยากเจอฉัน?”
“อเล็กเซีย ถ้าตอนนี้เขารู้ว่าเขาผิดและต้องการให้เธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เธอจะว่ายังไง”
อีกครั้งหรอ ใช้คำว่าอีกครั้ง นี่เป็นคำถามที่แย่มากและฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบมันยังไง
มันดึกมาก แต่กลุ่มเฟซบุ๊กของเพื่อนร่วมชั้นที่มหาวิทยาลัยของฉันกระตือรือร้นมาก
ฉันดูบันทึกการแชทและเห็นรูปถ่ายของ จอห์นนี่ อีแวนส์ และ แอ๊บบี้ วิลเลียมส์
พวกเขาดูน่ารักมาก ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจในท้องของฉัน มันน่าขยะแขยง
คาลวิน “คุณจะนอนหรือยัง คุณง่วงแล้วหรอ”
มีข้อความใหม่ปรากฏบน WhatsApp และด้วยความประหลาดใจของฉันนี่คือ คาลวิน สมิธ
อเล็กเซีย “ใช่ ราตรีสวัสดิ์นะ”
ทำไมเขาถึงอ่อนโยนกับฉัน
ฉันหลับไปพร้อมกับปัญหา
ในทางกลับกันคาลวินซึ่งยังอยู่ในงานเลี้ยงค็อกเทล จ้องที่โทรศัพท์มือถือของเขา เพื่อนของเขาตะโกนอย่างเงียบ ๆ ว่าเขามีผู้หญิงที่เขาชอบหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธ
เขาดูมีความสุขและพูดอย่างไม่เห็นแก่ตัวว่าไวน์ของวันนี้ได้รับเชิญจากเขา ซึ่งทำให้เพื่อนของเขาตื่นเต้นมากขึ้น ฉันอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงมีความกล้าที่จะเริ่มคุยกับฉัน
“มีผู้หญิงจริงๆ หรอ” พวกเขาเกือบจะพูดพร้อมกัน