ตอนที่ 1 ดอกไม้ผลิบาน (1)

960 คำ
ร่างเล็กในชุดนักศึกษากระโปรงพลีท ก้าวลงจากยานพาหนะสีชมพู ภายหลังจากที่หยิบค่าโดยสารส่งให้โชเฟอร์เป็นที่เรียบร้อย วันนี้เธอกลับดึกกว่าทุกวัน เพราะมีงานกลุ่มที่ไปทำร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน ขณะนี้แม้จะเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว ทว่าหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ยังคงสว่างไสวด้วยแสงนีออนที่ติดรอบบ้าน เมื่อไขกุญแจเข้ามาในรั้วอัลลอยแล้ว เธอไม่ได้เข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่น แต่เลี่ยงเลาะผ่านสนามหญ้าหน้าบ้านไปยังบ้านหลังสีขาวตั้งอยู่ท้ายคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธออาศัยอยู่กับผู้เป็นป้ามาตั้งแต่เด็กด้วยความเมตตาจากผู้เป็นนายจ้าง “ไปไหนมา ทำไมกลับมาดึกป่านนี้?” คำถามเคร่งขรึมที่ดังมาจากความมืด ทำให้หญิงสาวในชุดนักศึกษาซึ่งกำลังเดินจ้ำอ้าวบนสนามหญ้าสะดุ้งเล็กน้อย เรียวเท้าที่กำลังจะย่ำกรายไปยังข้างหน้าชะงักกึก! เธอรีบหันไปมองผู้ที่เดินออกมาจากซุ้มดอกไม้ แม้ในยามนี้จะมืดสลัว แต่เขากลับดูหล่อเหลาจนหัวใจเต้นแรงและมักจะรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา “เอ่อ… พอดีมะลิมีงานกลุ่มกับเพื่อนเลยกลับดึกค่ะ” เธอตอบเจ้าของใบหน้าคมสันที่ติดจะนิ่งขรึมไปเสียหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงดูสง่าและลุ่มลึกชวนน่าค้นหา วันนี้เจ้าของคฤหาสน์สวมเสื้อยืดแขนยาว แขนเสื้อถูกพับขึ้นมาใต้ข้อศอก เผยให้เห็นเส้นเลือดดั่งบุรุษเพศบนเรียวแขน ทำเอาคนมองรู้สึกจั๊กจี้นิด ๆ และถึงแม้ชายหนุ่มสวมกางเกงวอร์มสีเทาซึ่งเป็นเพียงชุดอยู่บ้านธรรมดา แต่เขากลับดูดีทุกกระเบียดนิ้วแบบไม่ต้องพยายามเลย “วันหลังถ้าจะกลับดึกโทรให้ลุงระพีไปรับ” เจ้าของเสียงเข้มขยับเท้าเข้ามาใกล้ สองมือของเขาสอดอยู่ภายใต้กระเป๋ากางเกงวอร์มขายาว ตาคมเข้มในยามมืดเช่นนี้เวลามองยิ่งคล้ายหลุมดำดึงดูดให้คนมองหลงเข้าไปในนั้นแล้วหาทางออกไม่เจอ “ค่ะคุณนิก” มาลินีพยักหน้าหงึก ๆ พยายามสุดฤทธิ์ไม่ให้ตัวเองตื่นเต้นและสั่นไหว ยิ่งพอมือหนาวางลงบนไหล่บาง ทำให้ความตั้งใจที่จะไม่ให้ตัวเองละลานขาดผึง เธอรับรู้ได้ถึงแรงบีบเบา ๆ ที่มันเต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก “วันหยุดพรุ่งนี้ เรามีแพลนไปที่ไหนหรือเปล่า?” ดนุนัยถามก่อนละมือออกจากบ่าของสาวน้อย ดวงตาสีถ่านยังตรึงอยู่ที่วงหน้าหวาน ส่งผลให้คนถูกจับจ้องรู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอกัดริมฝีปากล่างอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ในยามขาดความมั่นใจ “ไม่ได้ไปไหนค่ะ” ส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะเอ่ยถามบ้าง “คุณนิกมีอะไรให้มะลิช่วยหรือคะ?” ถามทั้งที่รู้ว่าคนเก่งอย่างเขาคงไม่มีงานอะไรให้เด็กกะโปโลอย่างเธอทำหรอก เพราะรอบข้างเขามีแต่คนเก่ง ๆ คอยช่วยงานเพียบ “ไว้พรุ่งนี้ฉันจะบอก ตอนนี้มะลิไปพักเถอะ” ดนุนัยเลื่อนมือจากกระเป๋ากางเกงมาเป็นกอดอกแทน มองเรียวปากอิ่มมันวาว ซึ่งยังเห็นรอยฟันนิด ๆ ทำให้นึกอยากดึงคนตัวเล็กเข้ามาบดจูบ อยากรู้ว่าจะนุ่มและหวานขนาดไหน หากแต่ต้องรีบสลัดความคิดออกอย่างรัวเร็วเมื่อคิดว่ามันไม่สมควร เขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอหากมันยังไม่ถึงเวลา… “ค่ะ” คนที่พยายามปกปิดความหวั่นไหวรีบผงกหัว เตรียมจะผละจากไป แต่ในจังหวะที่เธอเอี้ยวตัวก้าวขา ด้วยความเร่งรีบจึงทำให้เธอสะดุดขาตัวเองเกือบล้มหน้าคะมำ แต่ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะคว่ำจมแหมะอยู่กับพงหญ้า ก็มีวงแขนแข็งแรงของเจ้าของอาณาจักรเจริญภิวัฒน์ เข้ามาคว้าเธอไว้ทันเสียก่อน เมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา หัวใจดวงน้อยที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งระรัวไม่ต่างอะไรกับกลองรัว ใบหน้าเล็กซุกซบกับแผงอกกว้าง ส่วนสองมือเล็กก็เกาะกุมลำแขนแข็งแรงไว้มั่นเป็นที่ยึดเหนี่ยว และแล้วมาลินีก็เผลอทำในสิ่งที่คิดว่าเขาไม่รู้นั่นคือแตะปลายจมูกกับเนื้อผ้าสูดดมกลิ่นกายหอมอบอุ่นจากน้ำหอมราคาแพงผสมกลิ่นประจำตัวของเขาอย่างหน้าไม่อาย กระทั่งมีเสียงกระซิบรดรินกลางกระหม่อมเบา ๆ ว่า “หอมพอหรือยังฉันจะได้ปล่อย” ร่างเล็กทะลึ่งดีดตัวออกห่างอย่างเร็วไว “ขะ… ขอบคุณที่ช่วยมะลิไว้ค่ะคุณนิก” เสียงตะกุกตะกักลอดผ่านเรียวปากสวย ขณะที่พวงแก้มเริ่มร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนเจ้าตัวจะระบายยิ้มแก้ขวยเขิน ทุกอากัปกิริยาของเธอชัดเจนจนเจ้าของบ้านนึกเอ็นดู “อืม” เขาครางเสียงในลำคอพร้อมเลิกหน้าคล้ายอมยิ้ม ก่อนผละจากไปทิ้งให้สาวน้อยที่ยืนสะพายกระเป๋าเป้กลางหลังเม้มปากแน่น มือเล็กยกมาแตะตำแหน่งอกซ้ายที่เต้นระรัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เธอไม่ได้ตกใจที่เกือบจะล้ม หากแต่เธอตื่นเต้นที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาต่างหาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใกล้ชิดสัมผัสเขามากขนาดนี้ มองกระทั่งร่างหนาลับกรอบสายตาไปแล้ว มาลินีจึงหันหลังเดินลอดอุโมงค์ซุ้มดอกไม้ที่ทอดยาวไปถึงเรือนหลังสีขาวอย่างอารมณ์ดี ********* เรื่องนี้ออกแนว เด็กในปกครอง โคแก่กินหญ้าอ่อน โรแมนติกละมุนค่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม