ด้านพ่อแม่ของวริสาก็กำลังพูดคุยกับเพื่อนของเขาทั้งสองรอให้ลูกสาวของเขาเข้ามายังห้องอาหาร จนเวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีลูกสาวของเขาก็ไม่โผล่มาสักที ทำให้เขาเริ่มร้อนใจกลัวว่าเพื่อนของเขาจะว่าลูกสาวของไม่มีมารยาทที่มาสาย แต่พอประตูห้องอาหารถูกเปิดพร้อมกับมีร่างลูกสาวของเขาเดินเข้ามา เขาก็ถอนหายใจแบบโล่งอกทันที
“อ่าว ลูกสาวฉันมาแล้ว มีมี่ มานั่งตรงนี้สิลูก นั่งข้างๆอาเหมา มาๆ” เฮงพูดเรียกลูกสาวแล้วชี้ไปที่อาเหมาที่นั่งหันหลังใส่ลูกสาวของเขาอยู่
“ค่ะป๊า ขอโทษคุณลุงคุณป้าที่มาช้าด้วยนะคะ” วริสาพูดบอกไปก็รีบเข้าไปนั่งที่ผู้เป็นพ่อบอก ก่อนจะหันข้างไปมองเฮียเหมา หนุ่มที่เธอมาดูตัวในวันนี้
“สวัสดีมีมี่ ไม่เจอกันนานเลยนะ” อาเหมาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มแบบหล่อออกไปให้กับสาวน้อยที่เขาแอบชอบมานาน ตอนเด็กๆว่าน่ารักมากแล้ว โตมาสวยน่ารักกว่าอีก
“เฮีย เฮียเหมาเหรอคะ” วริสาพูดออกไปแบบอึ้งๆจนอ้าปากค้างกับใบหน้าหล่อสไตล์โอปป้าเกาหลีจองอาเหมา นี่เขาโตมาหล่อขนาดนี้เลยเหรอ แม่เจ้า ยอม เธอยอมให้จับคู่เลย ยอมถวายหัวเลยแบบนี้ วริสาคิดไปแบบตื่นเต้น
“อืม เฮียเอง แปะยิ้มของเราไง ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีจำเฮียไม่ได้แล้วเหรอ” อาเหมาพูดออกไปแบบเอ็นดูเด็กสาว ก่อนจะยิ้มออกมาแบบชอบใจ กับสีหน้าของเธอที่มองมาที่เขาแบบอึ้งๆ
“ก็เฮียหล่อขึ้นนิคะ มีมี่จะจำได้ยังไงล่ะคะ” วริสาพูดบอกไปตรงๆ จนพ่อแม่ของเธอและพ่อแม่ของอาเหมาหัวเราะออกมากันอย่างชอบใจ อาเหมาเองก็ยิ้มเขินๆกับคำพูดของเธอเช่นกัน
“แบบนี้ก็พอจะแววว่าเราจะได้ดองกันแล้วล่ะอาเฮง ฮ่าๆ” อาหลงพูดบอกไปแบบชอบใจ ก่อนจะมองเด็กทั้งสองที่เหมาะสมกันมาก
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ให้หมั้นกันไว้ก่อนไหมล่ะ” เฮงพูดบอกไปก็หัวเราะอย่างพอใจเช่นกัน ยิ่งเห็นท่าทีของลูกสาวเขินอายแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าลูกสาวของเขาก็คงจะพอใจกับอาเหมาไม่น้อยเลย
“ใจเย็นๆกันก่อนไหมคะป๊า ให้มีมี่กับเฮียเหมาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าไหมคะป๊า จะรีบยกลูกสาวให้เขาไปไหนคะ” วริสาพูดบอกไปก็หันมาทำสายตาใส่ผู้เป็นพ่อ ที่ดูอยากจะยกเธอใส่พานให้บ้านนี้จริงๆ ถึงอาเหมาจะหล่อแต่เธอขอดูนิสัยของเขาก่อนสิ
“แค่มีมี่ยอมศึกษาดูใจกับเฮียก่อน เฮียก็พอใจแล้วล่ะ เรื่องหมั้นกับเรื่องแต่งงานรอให้มีมี่พร้อมก่อนก็ได้ เพราะเฮียก็ไม่เคยมองใครนอกจากมี่มี่มาก่อน เฮียรอมานานแล้ว ทำไมจะรอต่อไปไม่ได้ล่ะ” อาเหมาพูดบอกไปตรงๆเช่นกัน เพราะเขารอมานานแล้ว แต่เธอก็อ้างนั่นอ้างนี่ไม่ยอมมาดูตัวกับเขาสักที จนในที่สุดเธอก็ยอมมาเจอกับเขาสักที
“อ่อค่ะ ขอบคุณที่รอมีมี่นะคะเฮียเหมา” วริสาพูดไปแบบเขินๆก็เอามือมาลูบที่หน้าไป ตายๆ รุกหนักมากแม่ ฉันจะเล่นตัวได้นานแค่ไหนเนี่ย วริสาคิดในใจไปแบบเขินๆ
“เฮียเต็มใจ ต่อให้นานแค่ไหน เฮียก็จะรอ” อาเหมาพูดย้ำออกไปแบบจริงจังอีกครั้ง เพราะอยากให้วริสารู้ว่าเขาชอบเธอจริงๆ
วริสากลืนน้ำลายลงคอทันที เพราะไม่คิดว่ามันจะกดดันแบบนี้ ให้ตายเถอะ เอาไม่เอาดีนะ วริสาคิดในใจแบบลังเล
“เราก็อย่าไปกดดันน้องสิอาเหมา ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ใช่ไหมจ้ะมี่มี่ ตอนนี้หนูเรียนจบแล้วใช่ไหมลูก จะทำงานที่ไหนล่ะ” พิไลพูดชมออกไปแล้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดูเด็กสาว
“ค่ะคุณป้า กว่าจะจบได้ก็หลายปีเลยค่ะ ต่อไปมีมี่ก็คงมาช่วยงานที่ร้านป๊านั่นแหละ” วริสาพูดตอบไปแบบนอบน้อมก่อนจะยิ้มออกไป
“สนใจมาทำงานกับเฮียไหมล่ะ เราเรียนจบบริหารมาไม่ใช่เหรอ อยากมาเรียนรู้งานกับเฮียไหม” อาเหมาถามออกไป เพราะอยากจะใกล้ชิดกับวริสามาขึ้น
“ดีสิ ถ้าต่อไปสองคนนี้แต่งงานกันแล้วจะได้ไม่ต้องมาเรียนรู้งานอะไรเลย” อาหลงพูดบอกไปแบบเห็นดีเห็นงานด้วยอย่างเต็มที่
วริสาที่ไม่อยากไปทำงานกับอาเหมาก็รีบส่งสายตาไปหาผู้เป็นแม่ที่นั่งเงียบๆทันที เพราะพ่อของเธอคงไม่ช่วย มีแต่จะเห็นดีเห็นชอบไปกับพวกเขาน่ะสิ เธอจึงต้องอ้อนวอนแม่ของเธอผ่านสายตาไป
“อ่อ พอดีฉันว่าจะให้มี่มี่เขาช่วยดูแลที่ร้านทองน่ะค่ะ อาตี๋ใหญ่ของฉันเขาก็ไม่ได้มาช่วยดูแลอะไร ก็เลยอยากให้มี่มี่เขามาช่วยดูแลแทน” หทัยรันต์พูดจัดขึ้นไป เพื่อช่วยลุกสาวของตัวเองในสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้
“ใช่ค่ะ มี่มี่ไม่อยากให้ป๊ากับม๊าเหนื่อยก็เลยจะช่วยงานที้บ้านก่อนน่ะค่ะ” วริสาพูดเสริมออกไปด้วยรอยยิ้มไป
“น่ารักจริงๆเลย แบบนี้ลุงก็ยิ่งอยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้” อาหลงพูดบอกไปแบบชอบใจกับความกตัญญูของเด็กสาว
“คะ อ่อค่ะๆ” วริสาก็พูดไปแบบยิ้มๆ แล้วก็เริ่มคิดว่าการดูตัวครั้งนี้มันจริงจังมาก มากจนเธอกลัวว่าจะถูกมัดมือชกให้แต่งงานกับอาเหมาจริงๆ เพราะแค่นี้ก็รู้เลยว่าเธอบ้านนี้เขาชอบเธอจริงๆ
จากนั้นทั้งสองครอบครัวก็พูดคุยกันอย่างถูกคอ ส่วนวริสาก็พูดคุยทำความรู้จักกับอาเหมาอย่างเปิดใจให้เขา เพราะยังไงเธอก็หลีกหนีเขาไม่ได้ ก็สู้เรียนรู้นิสัยของกันและกันไปจะดีกว่า
ด้านเดรโกที่กำลังคุยธุรกิจขายอาวุธปืนให้กับนักธุรกิจคนไทยเสร็จ เขาก็ร่วมทานอาหารกับคู่ขาทางธุรกิจของเขาไป จนกระทั่งอีกฝ่ายพูดออกมา
“เย็นนี้ผมมีสาวไทยสวยๆไปบริการให้กับคุณเดรโกที่ห้องด้วยนะครับ รับรองว่าคุณจะต้องชอบแน่ๆ” เดวินพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มแบบรู้กัน เพราะปกติเขาก็ต้องจัดสาวๆสวยๆไปให้กับคู่ค้าของเขาอยุ่แล้ว การคุยธุรกิจมันจะได้ดำเนินไปได้ด้วยดี
“ไม่เป็นไร ผมมีคนของผมคอยบริการอยู่แล้ว” เดรโกพูดบอกไปแบบมั่นใจว่ายังไงคืนนี้เขาก็ต้องได้สาวชุดแดงมานอนครางบนเตียงของเขาแน่ๆ
“อ่อ นายครับ คือว่า” เอียนเห็นเจ้านายดูมั่นใจแบบนั้นก็เข้าไปกระซิบบอกเขาเรื่องของสาวชุดแดงทันที เพราะเขาไม่รู้ว่าเจ้านายจะเอายังไงต่อ
เดรโกได้ยินแบบนั้น เขารู้สึกโมโหที่ผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธเขา เธอคิดว่าเธอเป็นใครกันถึงกล้าปฎิเสธคนอย่างเขาน่ะ แล้วเธอจะรู้ว่าว่าคนอย่างเขาไม่มีอะไรที่ไม่ได้
“ส่งคนไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นไปไว้ที่โรงแรม เย็นนี้ฉันต้องได้เห็นผู้หญิงคนนั้นบนเตียง” เดรโกพูดเสียงเข้มๆอย่างเน้นย้ำด้วยสายตามาดมั่นแบบดุๆ จนเอียนพยักหน้าตอบแบบรวดเร็ว
“ได้ครับนาย ผมจะรีบส่งคนไปจับตัวเธอครับ” เอียนบอกไป ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับรอนลูกน้องคนสนิท แล้วรอนก็พยักหน้าตอบรับไปแล้วก็เดินออกไปแบบรู้หน้าที่ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เพื่อให้ได้ตามที่เจ้านายของตัวเองต้องการ
“ถ้ามีอะไรผิดพลาดให้เด็กของผมไปดูแลแทนได้นะครับ เพราะผมคัดมาแต่ของดีๆสดๆทั้งนั้นเลย” เดวินพูดถามออกไป เมื่อเขาเข้าใจว่าผู้หญิงของเดรโกคงจะไม่พร้อมดูแลเขาในคืนนี้
“ไม่เป็นไร เพราะอะไรที่ผมอยากได้ผมก็ต้องได้” เดรโกหันมาตอบแบบห้วนๆ แล้วก็มองไปที่แก้วเหล้าด้วยสายตาจดจ้อง ก่อนจะดื่มมันรวดเดียวหมดแก้ว
ส่วนเดวินที่ได้ยินคำตอบจากเขาแบบนั้น เขาก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไรอีก เพราะทำธุรกิจกับเดรโกมานาน จึงรู้ว่าเขาไม่ควรไปขัดใจอะไรของเดรโกตอนนี้จึงได้แต่เงียบไป
ด้านวริสาพอดูตัวเสร็จก็ถึงเวลาที่ทั้งสองครอบครัวต้องแยกย้ายกันกลับ อาเหมาก็เลยเอ่ยถามครอบครัวของเธอออกไป
“ให้ผมไปส่งไหมครับ พอดีผมไม่ได้มีธุระอะไรต่อ” อาเหมาพูดบอกไปก็มองหน้าของวริสาแล้วยิ้มออกไปแบบอยากสานสัมพันธ์กับเธอต่อ
“ได้สิๆ ให้อาเหมาไปส่งก็ดีเหมือนกันนะ จริงไหมอามีมี่” เฮงพูดไปอย่างเห็นดีเห็นงาม ทั้งที่เขาก็เรียกคนขับรถให้มารับแล้ว แต่เขาอยากเปิดทางให้อาเหมาจึงรีบตอบรับไป
“อ่อดีสิคะ ป๊าอยากให้เฮียเหมาไปส่งก็ดีค่ะ มีมี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงมีมี่ฝากเฮียเหมาด้วยนะคะ” วริสาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม เพราะเธอจะไม่ยอมกลับบ้านไปโดยมีเฮียเหมาไปส่งหรอกนะ
“แล้วมีมี่ล่ะ จะไม่กลับไปพร้อมกับป๊ากับม๊าเหรอ” อาเหมาถามออกไปด้วยเสียงเบา แล้วสีหน้าผิดหวังก็ออกมาแบบชัดเจน
“พอดีมีมี่นัดกับเพื่อนไว้น่ะค่ะว่าจะไปซื้อของกันนิดหน่อย ป๊าม๊า มีมี่ไปหายัยฟางก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับค่ะ ไปแล้วนะคะเฮีย สวัสดีค่ะ” วริสาพูดบอกไปแบบรวดเร็วก่อนจะรีบวิ่งลงมาชั้นล่าง เพื่อมาหาเพื่อนสาวที่อยู่ที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะรียลากเพื่อนสาวเข้าไปหลบให้ห้องทำงานของพ่อเพื่อนสาวแบบรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆเข้าหาลูกสาวลุงก็แล้วกัน มีมี่คงจะยังเขินๆน่ะ เราไม่ต้องไปส่งก็ได้ ลุงให้คนขับรถมารับแล้วล่ะ” เฮงเอ่ยพูดบอกไป เมื่อลุกสาวตัวดีรีบชิ่งหนีลงไปด้านล่างไวอย่างกับลิงแบบนั้น ก็อดสงสารอาเหมาไม่ได้ที่ต้องเจอฤทธิ์ลูกสาวของเขา
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะพยายามให้มากกว่านี้ งั้นผมกลับก่อนนะครับคุณลุง สวัสดีครับ” อาเหมาพูดบอกไปก็เดินลงไปด้านล่าง ก่อนจะมองหาวริสาที่ลงมาหาเพื่อนสนิทของเธอด้านล่าง แต่ก็ไม่เจอเธอ เขาก็เลยเดินออกไปหาพ่อแม่ของเขาที่เดินลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
ด้านวริสาและฟาติมาที่กำลังแอบมองอาเหมาอยู่ก็มองจนอาเหมาเดินออกไป แล้วฟาติมาก็เอ่ยพูดออกไปทันที เพราะจากที่เธอได้เห็นอาเหมาแล้ว เธอคิดว่าเขาก็ใช้ได้เลยทีเดียว
“มีมี่ แกจะหนีเฮียเหมาเขาทำไมเนี่ย เขาก็หน้าตาดีนิแก ไม่ได้หน้าแปะยิ้มแบบเมื่อก่อนสักหน่อย” ฟาติมาถามเพื่อนสาวออกไปแบบสงสัยว่าหล่อขนาดนี้แล้วทำไมเพื่อนสาวของเธอถึงทำแบบนี้
“เฮียเหมาเขาก็ดูดีนะแก แต่เขารุกเกินไปอ่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้พร้อมกับอะไรกับเฮียเหมาตอนนี้ ฉันก็ต้องหนีมาตั้งหลักก่อนไหมล่ะแก” วริสาพูดบอกไปก่อนจะออกมายืนคุยกับเพื่อนสาวที่เคาน์เตอร์ด้านนอก เมื่ออาเหมาเดินออกไปจากร้านแล้ว
“เฮ้อ แกนี่มันจริงๆเลยนะ มีคนรักคนชอบแบบนี้แล้วไม่เอา แกจะไปเอาคนแบบไหนยะ” ฟาติมาพูดประชดไปอย่างอดไม่ได้
“ก็เอาคนที่ฉันพอใจแล้วฉันก็ชอบ ก็รักเขาไงแก คนเราจะแต่งงานกันได้มันก็ต้องรักกันป่ะล่ะ ไม่ใช่มาคุมถุงชนจับคู่ให้กันแบบนี้อ่ะ ฉันไม่ชอบ ฉันยอมมาดูตัวก็เพราะให้ป๊ากับม๊าฉันเขาสบายใจแค่นั้นแหละแก ฉันไม่ยอมโดนจับคู่หรอก แกคอยดูสิ” วริสาพูดไป จนฟาติมาที่เห็นพ่อแม่ของวริสาเดินมายืนอยู่ด้านหลังถึงกับทำหน้ายิ้มแห้งๆออกไปแบบกลัวๆเลยทันที ก่อนจะทำสายตาให้เพื่อนสาวรู้ตัว
วริสาก็มองหน้าเพื่อนสาวแล้วขมวดคิ้วแบบไม่เข้าใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ เธอก็รู้เลยว่าเธอต้องโดนด่าเละแน่ๆ
“มีมี่ นี่เราคิดแบบนี้งั้นเหรอ ป๊าอุตส่าห์หาคนดีๆที่เขารักแกและจริงจังกับแกมาให้ ทำไมแกถึงทำแบบนี้ห้ะ ถ้าอาเหมาเขามาได้ยิน เขาจะเสียใจแค่ไหนแกรู้ไหมมีมี่” เฮงพูดออกไปแบบไม่พอใจกับคำพูดของลูกสาว
“ก็ช่างเฮียเหมาสิคะ เขามาชอบมีมี่เองนิ มีมี่ไม่ได้ไปบังคับเขาสักหน่อย แล้วป๊าก็ไม่ต้องมานัดเหยียดมีมี่ให้เขานะคะ เพราะมีมี่ไม่มีวันให้ป๊าจับมีมี่แต่งงานกับเฮียเหมาเด็ดขาด” วริสาพูดบอกไปแบบไม่ยอม ชีวิตเธอทั้งชีวิตจะให้แต่งงานกับคนที่ไม่รักได้ยังไง เธอไม่มีวันยอมหรอก วริสาพูดจบเธอก็รีบวิ่งหนีออกไปแบบไม่อยากจะทะเลาะกับพ่อของเธอตอนนี้
“มีมี่ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ มีมี่” เฮงเรียกเสียงดังจนลุกค้าในร้านที่กำลังนั่งทานอาหารด้านล่างหันมามองกันใหญ่
“คุณคะ ใจเย็นๆก่อนสิคะ อายคนอื่นเขาบ้าง” หทัยรัตน์รีบเอามือกอดแขนของสามีเอาไว้ แล้วเอ่ยห้ามเขาไม่ให้ตามลูกสาวไป เพราะตอนนี้ทั้งสองก็ใช้อารมณ์คุยกันทั้งคู่ มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก ยิ่งจะแย่ลงด้วยซ้ำ
“ใช่ค่ะคุณลุง ลูกค้าเขาตกใจกันใหญ่แล้วนะคะ ฟางว่าปล่อยมีมี่ไปก่อนเถอะค่ะ คุณลุงก็รู้นิคะว่ามีมี่ไม่ชอบถูกบังคับ” ฟาติมาพูดเสริมออกไปอย่างออกความคิดเห็น เพราะเธอรู้จักเพื่อนสาวดี
“ลูกสาวลุงมันดื้อจนลุงอดไม่ได้น่ะสิ ลุงก็แค่อยากให้มีมี่เขาได้คนดีๆอย่างอาเหมาไปก็เท่านั้น เฮ้อ ยังไงลุงก็ขอโทษด้วยนะที่เสียมารยาทเสียงดังทำให้ลูกค้าตกใจน่ะ” เฮงพูดบ่นไป ก่อนจะขอโทษเด็กสาวที่เขาเสียงดังจนลูกค้าหลายๆคนตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง งั้นฟางขอตัวไปดูมีมี่ก่อนนะคะ ไม่รู้เตลิดออกไปไหนแล้ว” ฟาติมาพูดจบก็เดินออกไปนอกร้าน แล้วมองหาตัวเพื่อนสาวแต่ก็ไม่เจอ
ด้านวริสาที่เดินออกมาด้านนอกร้าน เธอก็รีบมาหลบพ่อแม่ของเธอที่ตรอกซอยข้างๆร้านอาหารของเพื่อนสาว
“จับตัวไปให้นาย” เสียงสำเนียงภาษาอิตาเลี่ยนพูดขึ้นมา จนวริสาหันไปมองอย่างอดไม่ได้ แล้วอยู่ๆคนพวกนั้นก็เข้ามาหาเธอแบบรวดเร็ว
“อื้อ อื้อ” วริสาร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมีคนเข้ามาจับตัวเธอไว้แล้วก็เอาผ้ามาปิดที่จมูกของเธอจนเธอสติดับวูบไปอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็ถูกหามขึ้นไปบนรถตู้แล้วมันก็ขับออกไปจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว จนคนแถวนั้นมองนึกว่ามีคนเป็นลมเลยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เลยไม่ได้สนใจอะไร
ส่วนฟาติมาที่ออกมาหาเพื่อนสาวก็ไม่เจอ เธอก็หันไปบอกพ่อแม่ของวริสาที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหารของเธอพอดี
“มีมี่คงกลับไปแล้วล่ะค่ะคุณลุงคุณป้า ยังไงก็คุยกันดีๆนะคะ กับมีมี่ต้องใช้ไม้อ่อนค่ะ” ฟาติมาพูดบอกไป เพราะไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสาวแล้ว
“อืม เดี๋ยวลุงจะพยายาม ไปก่อนนะหนูฟาง” เฮงพูดไปก็เดินไปขึ้นรถที่มารอรับที่หน้าร้านพร้อมกับภรรยาของเจาที่เดินจับแขนของเขา พอทั้งสองนั่งรถออกไปแล้วฟาติมาก็กลับเข้าไปในร้านก่อนจะโทรหาเพื่อนสาว เพื่อถามว่าตอนนี้เธอไปไหน แต่กลับไร้การตอบกลับจากเพื่อนสาว
“ไปไหนของแกเนี่ยยัยมีมี่” ติดมาพูดไปแบบเป็นห่วงก่อนจะหยุดโทรหาเพื่อนสาว เพราะคิดว่าวริสาคงต้องการใช้เวลากับตัวเองมากกว่า เธอจึงกลับเข้าไปในร้านเพื่อช่วยงานที่ร้านต่อทันที