แค้นรักเพลิงพายุ

11

“พรุ่งนี้ทรายจะบอกคุณภูค่ะ ว่าทรายพร้อมแล้วที่จะเปิดประตูรับเขาเข้ามาในหัวใจ” พิชชาพรพูดเมื่อนึกคิดตามคำพูดของกานดา จริงอย่างที่กานดาพูดเธอนำเรื่องในอดีตมาบั่นทอนความรู้สึก ปิดกั้นความรักของชายทุกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิต จนกระทั่งภูริภัทรชายหนุ่มคนแรกที่สามารถเข้ามายืนในจิตใจของเธอได้ หากแต่เธอไม่เปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขาเพราะคำว่ากลัวคำเดียว ต่อไปนี้คำคำนี้จะไม่อยู่ในใจของหญิงสาวอีกต่อไปแล้ว เธอจะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ตอบรับความรักที่เขามีให้ และจะเก็บกักตุนไว้ในใจ เพื่อที่จะต่อสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า เมื่อเขารู้ความจริง ความเจ็บปวดมากมายแค่ไหนเธอสามารถรับได้ และพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง โดยมีความอดทนและความรักเป็นเกราะคุ้มกัน

วันรุ่งขึ้นภูริภัทรมารับหญิงสาวตามปกติดั่งเช่นทุกวัน ทั้งสองนั่งรถ ประจำทางสายเดิมไปทำงาน พูดจาหยอกล้อตามประสาหนุ่มสาว จนกระทั่งถึงที่ทำงาน

“คุณภูคะ” พิชชาพรตัดสินใจเปิดเผยความในใจ เมื่อเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่ม

“มีอะไรครับ”

“ทรายมีเรื่องอยากจะบอกคุณภูค่ะ”

“ว่ามาเลยครับ”

“ทราย...ทรายยอมรับรักคุณแล้วค่ะ” หญิงสาวพูดไม่เต็มเสียงนัก

“ทรายว่าอะไรนะ” ภูริภัทรถามอย่างร้อนรน เดินเข้ามาใกล้ร่างบางด้วยความดีใจ อยากได้ยินคำพูดของเธออีกครั้งหนึ่ง

“ทรายรักคุณภูค่ะ” เธอพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ก้มหน้าหนีสายตาคมกล้าที่มองมาที่เธอ ภูริภัทรฉีกยิ้มเต็มใบหน้า หัวใจอิ่มเอิบ ในที่สุดสิ่งที่เขาเพียรพยายามทำให้หญิงสาวได้เห็น เริ่มมีความเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ชายหนุ่มกอดร่างบาง ที่ยืนอยู่ไม่ห่างด้วยความดีใจ ก่อนจะจับตัวเธอหมุนไปรอบๆ

“ผมดีใจที่สุดเลย ในที่สุดผมก็พังกำแพงที่ทรายกั้นไว้ได้สำเร็จ” เขาพูดเมื่อหยุดหมุนร่างของเธอ และกระชับร่างบางไว้ในอ้อมแขน

“ผมรักคุณนะทราย...ยิ่งอยู่ใกล้คุณผมยิ่งรักมากขึ้นทุกๆ วัน ผมสัญญาทุกลมหายใจของผมนับต่อจากนี้ จะมีคุณเพียงคนเดียว ผมจะรักคุณตราบสิ้นลมหายใจของผม” เขากอดกระชับร่างบางไว้แน่น เหมือนกับคำพูดของเขาที่หนักแน่นดั่งหินผา ลำแขนเสลายกขึ้นโอบรัดร่างหนาไว้แน่นเช่นกัน เธอพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ และมีความตั้งใจจะบอกเล่าความจริงในอดีตให้ชายหนุ่มฟังในวันหนึ่งที่เธอพร้อม

หลังจากวันที่ทั้งสองเปิดเผยความในใจให้แก่กันและกันแล้ว ภูริภัทรและ พิชชาพรเปิดตัวในฐานะคู่รักตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าเขาจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือว่าลูกค้า ชายหนุ่มจะพาเธอไปด้วยทุกครั้ง

อรกมลหรือแพท นางร้ายชื่อดังของเมืองไทยที่เดินนวยนาดเข้ามาภายในบ้านของมารดาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อเธอพึ่งได้รถยนต์หรูนำเข้าจากต่างประเทศจากเสี่ยดิรก เสี่ยวัยกลางคนที่เธอปรนเปรอความสุขให้ตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา

“คุณแม่ไม่อยู่หรืออ้อย” อรกมลเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นร่างของมารดา

“คุณท่านไม่อยู่ค่ะไปที่สมาคม เห็นบอกว่าจะกลับดึก” อ้อยรายงานเมื่อนำน้ำส้มคั้นมาให้ลูกสาวเจ้าของบ้าน

“เหรอ...ฉันจะขึ้นไปนอนพักนะ ถ้ามีใครมาหาหรือว่ามีใครโทรฯ มาไม่ต้องขึ้นไปตามนะ” อรกมลรู้สึกเพลียกับการถ่ายละคร และจากบทรักของเสี่ยกระเป๋าหนักคนหนึ่งที่ลุ่มหลงในร่างกายเธออย่างหนัก ปรนเปรอเงินทองให้ไม่ขาดสายแม้กระทั่งรถยนต์คันหรูราคาเกือบสิบล้านที่เธอใช้อยู่ เสี่ยดิรกก็เป็นคนซื้อให้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อรกมลเอาตัวเข้าแลกกับเงินตรา หรือของฟุ่มเฟือยที่เธอใช้สอย โดยคนที่จัดหาเสี่ยขี้เหงาเหล่านี้คือภาณี ผู้จัดการส่วนตัวของเธอเอง

“ค่ะ...คุณแพท” หญิงสาวเดินขึ้นไปที่ชั้นบนของตัวบ้านเพื่อไปยังห้องของตัวเอง แต่พอเธอเปิดประตูเท่านั้นร่างของเธอถูกดันเข้าไปในห้องด้วยมือของชายคนหนึ่ง

“พอล...ทำบ้าอะไรเนี่ย” อรกมลถามเสียงเข้ม

“แหม!!...ไม่ได้เจอตั้งนาน คิดถึงจังเลย” พอลชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปี เป็นสามีใหม่ของมารดาของอรกมล และเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้จักกับคำว่าเซ็กซ์ พอลซุกไซ้ไปตามซอกคอระหงของอรกมลอย่างหื่นกระหาย มือหนาลูบไล้ไปตามร่างกายของดาราสาวอย่างหนักหน่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่อรกมลชอบอยู่แล้ว

“พอก่อนพอล...เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” หญิงสาวร้องห้ามเสียงสั่น เมื่อใบหน้า ของหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซุกซบอยู่ที่ทรวงอกของเธอ พร้อมกับใช้ไรฟันขบเม้มปทุมถันผ่านเสื้อผ้าสีสดอย่างแรง

“ไม่มีใครรู้หรอกว่าฉันอยู่บ้าน...เพราะรถฉันอยู่ที่อู่พวกคนใช้คงนึกว่าฉันออกไปข้างนอกแล้ว เรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันดีกว่า” ชายหนุ่มพูดพลางปลดเสื้อผ้าของลูกเลี้ยงสาวสวยออกจากร่างกายทันที เมื่อร่างกายสาวเปล่าเปลือย ชายหนุ่มจับร่างของดาราสาวพิงกำแพง และเริ่มลงมือปรนเปรอบทรักตามที่ทั้งสองปรารถนา

ริมฝีปากของชายหนุ่มจูบดูดดื่มที่เรียวปากสีสดที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกราคาแพง ในขณะที่มือหนาจับมั่นที่ทรวงอกขนาดพอดีมืออย่างเมามัน บีบเคล้นอย่างแรงจนได้ยินเสียงครางครึ้มของอรกมล พอลละจากเรียวปากสีสดมาที่ปลายถันสีน้ำตาลอ่อนก้มลงดูดกลืนอย่างเผ็ดร้อนและหนักหน่วง ขบกัดจนเกิดรอยฟัน แต่นั่นไม่ทำให้เธอเจ็บปวดกลับยิ้มพรายและส่งเสียงร้องครางด้วยความรัญจวน

“วิเศษเลยพอล” อรกมลถึงกับครางระงมเมื่อพอลคุกเข่าตรงหน้าเธอ เลื่อนริมฝีปากต่ำลงมาที่ใจกลางร่างกาย มือหนาจับขาข้างหนึ่งของหญิงสาวยกขึ้นพาดที่บ่า ก่อนจะแนบริมฝีปากร้อนระอุไปที่เนินเนื้ออวบนูนนั้น ร่างกายของอรกมลส่ายสะบัดเสียงครางดังไม่ขาดปาก เมื่อพอลรุกล้ำเข้าไปในร่างกายเธอด้วยปลายลิ้น สากระคาย ระรัวเร็วจนเธอต้องจิกเส้นผมของเขาไว้เต็มกำมือ

“พอล...อย่างนั้นแหละ...” อรกมลพูดไม่ขาดปาก แอ่นร่างกายให้เขาสำรวจด้วยปลายลิ้นอย่างเชื้อเชิญ เมื่อพอลปรนเปรอให้หญิงสาวจนร่างบางอ่อนระทวยแล้ว เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดบางอย่างให้เธอรู้ว่าต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของเธอบ้างแล้ว