ยัยบ๊องของมาเฟีย Episode 09

1439 คำ
Episode 09 Talk ซานติโน่ ผมไม่ได้อยากจะเกาะผู้หญิงกินหรอกนะ...แต่สกุลเงินที่ผมมีอยู่เป็นเงินยูโร....ใช้ในไทยไม่ได้เพราะยังไม่ได้แลกเปลี่ยนสกุลเงินกัน ถึงยังไง...ผมก็ต้องกลับมาคืนบุญคุณให้ยัยบ๊องนั่นอยู่แล้วแหละน่ะ พวกเราต่างพากันแยกย้ายไปซื้อของ แต่ไอ้เงินจำนวนหนึ่งร้อยบาทไทยนี่ถ้าเอาไปซื้อของที่อิตาลีก็คงจะซื้อได้ไม่ถึงสองอย่างแต่ที่ไทยนี่ก็นับว่าได้เยอะอยู่ ผมซื้อของได้มาประมาณสี่ห้าอย่าง เป็นของกินล้วนๆ เมื้อซื้อเสร็จผมก็มายืนรอยัยนั่นอยู่ที่หน้าร้านที่นัดไว้ แม้จะรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยแล้วแต่ก็จะประหม่าไม่ได้ ผมยังคงมองซ้ายขวาตรวจตราไปเรื่ิอยๆ แต่ก็ยังไม่มีอะไรจนยัยบ๊องเดินมาเตรียมตะกลับบ้าน “เสร็จแล้วค่ะ ได้ของกินกลับบ้านเยอะมาก!” เธอยิ้มหน้าบานพร้อมชูอาหารที่เธอนั้นซื้อมา “อ้วนตายห่า” ผมกรอกตามองบนก่อนที่จะเดินนำเธออกมา ตลาดที่ว่านี่ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวบ้านของเธอสักเท่า เพียงแค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วก็เดินเข้าซอยไปไม่นานก็ถึงบ้านของเธอแล้ว ในขณะที่พวกเรากำลังข้ามสะพานลอยกัน ร่างบางที่เดินตามหลังมสก็ได้หยุดเพื่อที่จะนำเศษเหรียญที่เธอมีเหลือจากตลาดมอบให้แต่ว่า.... Talk ตาหวาน “คุณลุงตาบอดเหรอคะ?” ร่างบางกล่าวในขณะที่กำลังเปิดประเก๋าสตางค์หาเหรียญ “ใช่จ้ะ...ขอบคุณนะหนู” “ไม่เป็นไรค่ะ” มือบางค่อยๆ ยื่นมืออกไปเพื่อจะนำเงินใส่แก้วที่คุณลุงวางไว้ตรงหน้า แต่กลับถูกร่างสูงปัดออก พรึบ! “อ๊ะ...คุณซาน ทำอะไรของคุณคะเนี่ย!” ไม่ทันที่จะได้ถามอะไรไปมากกว่านั้นและไม่ทันทีคุณซานจะได้โอกาสพูดตอบ มือบางก็ถูกร่างสูงกระชากไปหลบหลังก่อนที่เขาจะถีบเข้าหน้าของลุงคนนั้นทันที ปึก! “ว๊าย! ทำอะไรคะเนี่ย!” เราเบิกตากว้างเมื่อฝ่าเท้าของเขาฟาดหน้าคุณลุงอย่างเต็มแรง “คุณทำร้ายคนตาบอดทำไมคะ คุณซานหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” “มันไม่ใช่คนตาบอด! ดูที่ตักของมันสิ!” เขากล่าวพร้อมส่งสายตาไปที่หน้าตักของลุงคนนั้น ร่างบางเหลือบสายตาตามไปมอง “ป....ปืน!” เราตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะตั้งสติและรีบหยิบปืนออกมาจ่อที่คุณลุงคนนั้นทันที “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันคะเนี่ย!” “มันอยู่นั่น!” “พวกเราไม่ปลอดภัยแล้ว หนี!” “ว๊าย!” ไม่ทันจะได้ตอบโต้ก็ถูกคว้าแขนวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที มีขายชุดดำกลุ่มหนึ่งวิ่งตามพวกเราสองคนมา ภาษาที่พวกเขาพูดเป็นภาษาไทย แต่ว่า...คุณซานบอกว่าวาเรนติโน่เป็นชาวอิตาลีเหมือนกัน ไม่มีเสี้ยวหรือลูกครึ่งใดๆ หรือว่าคนที่ต้องการจะฆ่าเขา...มีมากกว่าหนึ่ง ไม่ใช่แค่วาเรนติโน่อะไรนั่น! “เราจะหนีไปที่ไหนกันคะ!” “ไม่ต้องถาม! วิ่งก่อน!” “แต่ว่า...แต่ว่าเรามีปืนเหมือนกันนะคะ” “เธอจะยิ้งสู้กับพวกมันที่มีกันคนละสองกระบอกงั้นเหรอ! ยัยบ๊องเอ๊ย!” “แง~ คุณพ่อคุณแม่ช่วยลูกด้วย กรี๊ด~” เมื่อทิ้งห่างมาได้สักพักเขาก็หยุดวิ่งและคว้าปืนจากมือของเราฉับพลัน ไม่ทันได้ตั้งตัวปืนก็ถูกแย่งไปจากมือปละร่างกายก็ถูกดึงเข้าซบที่อกแกร่งก่อนที่เขาจะเหนี่ยวไกและกระหน่ำยิงออกไป ปั้งๆๆๆๆ! “กรี๊ด!” ร่างบางหลับตาปี๋ด้วยความกลัวพร้อมเอามืออุดหูไว้ รู้สึกตัวอีกทีเขาก็คว้ามือเราและวิ่งหนีต่อไป ✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️ “พวกมันเจอตัวฉันแล้ว ฉันต้องไปจากที่นี่ มันไม่ปลอดภัยอีกต่อไป!” เขานั่งกุมขมับด้วยความเครียด แม้ว่าตอนนี้พวกเราจะกลับถึงบ้านและไม่มีใครตามมาแล้วก็ตาม แต่ก็ประหมาดไม่ได้ “วาเรนติโน่มันยังไม่กลับอิตาลีงั้นเหรอวะ! แม่ง!” “หนูคิดว่าน่าจะไม่ใช่วาเรนติโน่นะคะ พวกที่วิ่งตามเรามา พวกเขาเป็นคนไทยแท้ๆ ฟังจากเสียงพูดของเขาสำเนียงของคนไทยอย่างชัดเจน บางที...อาจจะมีใครอีกคนที่คิดจะตามฆ่าคุณอยู่ด้วยเหมือนกันนะคะ” “บัดซบเอ่ย!” ร่างสูงสบถหยาบพร้อมลุกขึ้นเตะเก้าอี้จนมันล้มลง “ถ้าฉันกลับอิตาลีไปได้เมื่อไหร่จะพาคนมาถล่มให้ยับเลยคอยดู!” “แล้ว....คุณจะเอายังไงต่อดีคะ?” “ฉันคงต้องไป....ไม่อยากดึงเธอเข้ามาเอี่ยว” “แต่ไหนๆ มันก็มาขั้นนี้แล้ว หนูก็อยากจะช่วยคุณให้ถึงที่สุดนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะ...ถ้าฉันได้กลับไป ฉันสัญญาว่าจะตอบแทนเธอให้ถึงที่สุด” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ว่า...ตอนนี้หนูพอจะหาทางออกให้คุณได้แล้วนะคะ” “ยังไง! เธอมีแผนอะไรบอกมา!” เขาดีดตัวขึ้นพร้อมเดินเข้ามาเขย่าตัวเรา ร่างบางปลิวไปตามแรงเขย่าของเขา แต่ก็แอบเสียวเพราะปืนที่หยิบมาในตอนนั้นจ่ออยู่ตรงหน้าเรา “อ....เอ่อ! ลดปืนลงหน่อยได้ไหมคะ?” “โทษที” เมื่อเขาได้สติก็รับปล่อยมือออกจากร่างกายของเราทันที ร่างบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมเปิด google ให้เขาได้ดู “นี่ค่ะ หนูไปเจอเบอร์ที่สามารถโทรออกนอกประเทศแล้ว กด 004 แต่ก็ต้องกดรหัสประเทศกับรหัสเมืองที่คุณอยู่ด้วยนะคะ จากนั้นก็ค่อยกดหมายเลขปลายทางที่ต้องการจะติดต่อ” “อืม...เข้าใจแล้ว” เขาทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง พร้อมตอบเสียงเรียบพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เรื่องรหัสประเทศกับรหัสเมืองที่คุณอยู่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเราสามารถหาจาก google ได้ค่ะ แต่ว่า...หมายเลขปลายทางคุณพอจะจำเบอร์ลูกน้องคุณสักคนได้ไหมคะ?” “ได้...ฉันจำได้แม่นเลยล่ะ” “คุณอยู่อิตาลี แล้ว...เมืองอะไรเหรอคะ?” ร่างบางกล่าวถามพร้อมกับเตรียมกดค้นหารหัสเมืองที่เขานั้นอาศัยอยู่ “มาซซาคาร์ราร่า” “โอเคค่ะ อ๊ะ...เจอแล้ว” เมื่อได้ทุกอย่างครบเราก็ยื่นโทรศัพท์ให้เราได้โทรหาบุคคลที่เขาต้องการจคุยทันที ไม่นานนักปลายสายก็รับสาย รู้สึกฉลาดก็วันนี้เนี่ยแหละค่ะ! กรี๊ด~ แต่ลายละเอียดตรงจุดนั้นเราเองก็ไม่ทราบเหมือนกันหรอกนะคะเขาพูดอะไรกันบ้าง เพราะหลังจากนี้ภาษาที่เขาพูดคุยกันเป็นภาษาอิตาลีที่เราฟังไม่รู้เรื่อง ไว้....จะไปหัดเรียนภาษาอิตาลีเพื่อที่จะได้เผือกได้เต็มที่นะคะ 555 ติ๊ด! มือหนากดวางสายพร้อมยื่นโทรศัพท์คืนมาให้เรา มือบางรับโทรศัพท์คืนมาพร้อมเอ่ยถามสถานการณ์ที่ประเทศบ้านเขา “ที่นู้นเป็นยังไงบ้างคะ? วาเรนติโน่คงจะยังไม่ทันได้ไปยึดครองใช่ไหม?” “มันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...มันก็เก่งแค่นอกประเทศเท่านั้นแหละ” “แล้ว...คนของคุณเขาว่ายังไงบ้างคะ? จะมารับเมื่อไหร่?” “ที่นั้นมีพายุเข้า น่านฟ้าถูกปิด ถึงจะเป็นเครื่องบินส่วนตัวก็ตามแต่ก็ยังบินไม่ได้ อีกประมาณสองสามวันคนของฉันคงจะมาถึง” “งั้นคุณก็....” ร่างบางพูดไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงพูดตัดบทเสียก่อน “ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่...” “....” “พวกมันเจอตัวฉันแล้ว และฉันมั่นใจว่ามันจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน ฉันไม่อยากให้เธอต้องมาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันต้องไป...” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อยู่ที่นี่แหละ อยู่จนกว่าจะได้กลับ หนูคิดว่าหนูจะรู้สึกผิดมากกว่านะคะ ถ้าเกิดปล่อยให้คุณไปตอนนี้ หนูก็ต้องมาลุ้นอีกว่าคุณจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย หรือตายกลางทาง” พรึบ! “อ๊ะ...” “ขอบใจเธอมากนะ....สาวน้อย” มือหนาดึงร่างบางเข้าไปกอดพร้อมลูบหัวเราเบาๆ “เอ่อ...ค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม