บทที่ 4 หลานตัวป่วน

4819 คำ
เย็นวันเสาร์ “แม่เตรียมของเสร็จหรือยังคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม เมื่อใกล้ถึงเวลาที่แขกคนพิเศษจะมาบ้าน หลังจากตกปากรับคำว่าให้หนุ่มน้อยเอเดนมานอนค้างด้วย “เรียบร้อยแล้วจ้ะลูก แม่ไม่รู้ว่าหนูเอเดนจะชอบขนมแม่หรือเปล่า” ฟ้าลดากล่าว พลางมองไปยังขนมตรงหน้ามากมายที่ทำเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญของลูกสาว เมื่อวานตอนกลับมาจากทำงาน ภารดาก็เดินมาบอกว่าหลานชายของเจ้านายจะมานอนค้างที่บ้านด้วย ทำเอาเธอกับสามีถึงกับงง ว่าจะมาเพื่ออะไร พอได้ฟังที่ลูกสาวเล่า ก็เข้าใจทันทีและยินดีเปิดบ้านด้วยซ้ำ มีเด็กเล็ก ๆ มาวิ่งป้วนเปี้ยนในบ้าน เธอกับสามีนั้นชอบมาก ดูมีสีสันดี “ต้องชอบสิจ๊ะแม่ รายนั้นน่ะกินง่าย อยู่ง่าย ยังนั่งจกปลาร้ากับหนูอยู่เลย” “เลี้ยงง่ายจริง ๆ เลยนะ แม่ชอบ” ยิ่งฟังยิ่งเอ็นดู อยากจะเจอหน้าเร็ว ๆ “มาดามมาแล้วค่ะแม่” เธอรีบเดินออกไปต้อนรับแขกคนสำคัญ รถคันหรูจอดตรงหน้าบ้าน ตามด้วยบอดี้การ์ดร่างยักษ์เดินลงมาเปิดประตูสองข้าง “ซาหวัดดีฮับพี่ภาคนสวย สวัสดีครับคุณยาย” หนุ่มน้อยกระพุ่มมือยกขึ้นไหว้ ฉีกยิ้มกว้างอวดเรียวฟันขาว “สวัสดีครับสุดหล่อ น่ารักจังเลยมาให้ยายชื่นใจหน่อย” แค่เห็นกิริยามารยาทของหนุ่มน้อยก็ทำเอาฟ้าลดาถึงกับเอ็นดู “คิก ๆ” หัวเราะชอบใจใหญ่เมื่อโดนฟัดแก้มสองข้าง “สวัสดีค่ะมาดาม” “สวัสดีจ้ะ ฉันเอาของบำรุงมาให้พ่อกับแม่หนูด้วยนะ เรียกฉันว่าป้าดีกว่า อย่าเรียกมาดามเลย คนกันเอง” นางรักและเอ็นดูภารดาเหมือนลูกสาวอีกคนเลยไม่อยากให้ถือยศถือเจ้าค่ะ เรียกกันธรรมดาแบบคนทั่วไปจะดีกว่า “ค่ะคุณป้า นี่คือแม่ของภาเองค่ะ” เธอยิ้มโดยไม่ลืมที่จะแนะนำมารดาให้ท่านรู้จัก “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ฟ้าลดายกมือไหว้คนตรงหน้า แม้จะไม่รู้ว่าอายุเท่าไร แต่เขาเป็นถึงมารดาของเจ้านายลูกสาวเธอก็ต้องให้เกียรติกันเป็นธรรมดา “เช่นกันค่ะ ว่าแล้วหนูภาสวยเหมือนใคร” สองหน้าคนเป็นแม่สลับกับลูก หน้าตาถอดแบบกันอย่างกะฝาแฝด “เข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ” เธอเดินนำหน้าพาทั้งสองเข้าไปยังภายในบ้านโดยไม่ลืมเรียกบอดี้การ์ดเข้ามาด้วย บริเวณรอบหน้าเธอมีแต่ต้นไม้และดอกไม้เป็นส่วนมาก มีม้านั่งหินอ่อนหนึ่งชุดตั้งไว้นั่งเล่น เมื่อเดินเข้ามาถึงก็พบกับห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นภายใน มารดาของเธอแยกไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมนำขนมมาเสิร์ฟ “นั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวพาไปเอาเครื่องดื่มมาให้” ว่าแล้วเธอก็หายเข้าไปในห้องครัว สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับมารดาซึ่งมีของกินเต็มสองมือ แล้วค่อย ๆ วางลงบนโต๊ะจนเต็ม “ว้าววว มีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลย เอเดนชอบมากกก” หนุ่มน้อยตาลุกวาวรีบหยิบกินเข้าปากอย่างอร่อย “ถ้าชอบก็กินเยอะ ๆ นะ ยายทำไว้เพียบเลย” ฟ้าลดายิ้มแก้มไม่หุบ พลางยกมือลูบศีรษะหนุ่มน้อยแผ่วเบา “คุณฟ้าเก่งจังเลยนะคะ ทำขนมไทยเป็นหลายอย่าง” “คุณทวดของฉันท่านชอบทำขนมไทยค่ะ เลยได้วิชามาจากท่านมาก มาดามลองชิมช่อม่วงดูสิคะ ยัยภาชอบกินมากเลย” นางจิ้มช่อม่วงส่งให้อีกฝ่ายชิมดู ซึ่งเป็นสูตรใหม่ที่เอามาปรับใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยและเป็นเมนูที่หลายคนสั่งบ่อยมาก ส่วนใหญ่มักจะเอาไปเป็นของฝากผู้หลักผู้ใหญ่ “อืม... รสชาติดีมากฉันไม่เคยกินช่อม่วงอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย” รู้สึกได้เลยว่าขนมทุกอย่างล้วนมาจากความรักความใส่ใจของคนทำ “ทองหยิบก็อร่อยด้วยฮับคุณยาย” “อย่ากินเยอะนะเอเดน เดี๋ยวกินข้าวไม่ลง” “ค้าบคุณยาย” “เอเดนครับ ไปไหว้คุณตาก่อนครับ เดี๋ยวค่อยกลับมากิน” เธอกวักมือเรียกเอเดนให้มาหา เพื่อจะพาไปไหว้พ่อของเธอที่กำลังฝึกซ้อมต่อยมวยอยู่หลังบ้าน “ครับผม” หนุ่มน้อยวางช้อนส้อมลง ลุกเดินตามไป เธอพามายังหน้าหลังซึ่งเป็นลานกว้างไว้สำหรับออกกำลังกาย ตอนนี้พ่อของเธอกำลังฝึกซ้อมมวยอยู่ ปรกติแล้วท่านจะอยู่ที่ค่าย ทว่าวันนี้เธอบอกว่ามีแขกท่านเลยไม่ได้ไป “พ่อค่ะ นี่หลานเจ้านายภาเอง ชื่อน้องเอเดน” เธอเอ่ยเรียกบิดาที่กำลังกระโดดเชือกอยู่แล้วพาเอเดนเดินเข้าไปหา “สวัสดีฮับคุณตา ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮับ” หนุ่มน้อยยกขึ้นไหว้ พลางฉีกยิ้มจนตาหยี “ช่างพูดช่างจานะเรา ต่อยมวยเป็นไหม เดี๋ยวตาสอนเอ็ง” ชาติศักดิ์หยิกแก้มหนุ่มน้อยอย่างมันเขี้ยวแล้วถามกลับ “ต่อยเป็นนิดหน่อยฮะ คุณพ่อสอนเอเดนไว้ป้องกันตัว” หนุ่มน้อยทำท่าต่อยให้คุณตาดูว่าตนเองนั้นก็มีวิชาเหมือนกัน “มา ๆ เดี๋ยวตาสอนเอ็งไอ้หนู” “สอนแป๊บเดียวพอนะคะพ่อ” “แม่ของเอ็งไปไหนแล้วล่ะ” “คุยกับมาดามอยู่ค่ะ คงน่าจะถูกคอกัน งั้นหนูฝากเอเดนไว้สักพักจะเข้าไปทำอาหารเย็น” “ได้ ๆ” ท่านกล่าวแล้วจูงมือหนุ่มน้อยไปนั่งยังเก้าอี้ เพื่อดูตนออกกำลังกาย เธอเดินกลับเข้าไปภายในบ้านโดยแวะบอกมาดามเสียก่อนว่าเอเดนอยู่กับพ่อของเธอ ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าหลานหายไปไหน เธอใช้เวลาไม่นานอาหารทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยเตรียมพร้อมเสิร์ฟ ซึ่งเธอได้แบ่งไว้ชุดหนึ่งสำหรับบอดี้การ์ดของมาดาม “พี่ ๆ ค่ะ ภาเอามื้อเย็นมาให้” เธอเดินมาพร้อมกับถาดใบใหญ่ตั้งลงตรงหน้าพวกเขา “ไม่เป็นไรครับคุณภา” บอดี้การ์ดหนุ่มปฏิเสธด้วยความเกรงใจ “ได้ยังไงล่ะคะ ภาอุตส่าห์ยกมาให้แล้ว มีแต่ของอร่อย ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ” “ก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ” “เดี๋ยวภายกขนมหวานมาให้นะคะ” “ไม่ต้องดีกว่าครับ เดี๋ยวผมเข้าไปยกเอง แค่นี้ก็เกรงใจคุณภามากแล้ว” บอดี้การ์ดหนุ่มเดินตามหญิงสาวเข้าไปในบ้านเพื่อเอาขนมหวานและตะโกนเรียกพรรคพวกที่ยืนอยู่นอกบ้านมากินข้าวด้วยกัน “ถึงเวลากินข้าวแล้วค่ะ ส่วนเอเดนตามพี่ภามาล้างหน้าล้างตาก่อนเลย เหงื่อท่วมตัวหมดแล้วเนี่ย” หลังจากจัดโต๊ะเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินไปหลังบ้าน ทว่าต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นของสองหนุ่มก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าพ่อของเธอจะหลงเสน่ห์หนุ่มน้อยเอเดนเข้าให้แล้ว ถึงได้อุ้มมานั่งตักแนบชิดสนิทสนมกัน “ค้าบพี่ภา” เอเดนวิ่งไปหาเจ้าของเสียงเรียก แล้วเดินตามไปยังห้องน้ำทำตามที่พี่ภาบอก “อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” เธอเดินมาเรียกมารดาและมาดามที่กำลังนั่งคุยกันเพลินอย่างสนุกสนาน พลอยทำให้เธอมีความสุขไปด้วย “น่ากินจังเลย หนูภาทำอาหารเก่งจัง” มาดามขวัญเดือนมองอาหารตรงหน้าด้วยความตะลึง กลิ่นหอมโชยฟุ้งไปทั่วบ้าน สีสันน่ารับประทานเหลือเกิน “ขอบคุณค่ะมาดาม” “เอเดนมาแล้วครับ” “พี่ขวัญ! ใช่พี่ขวัญหรือเปล่าครับ” เสียงดังลั่นของใครบางคนดังมาจากข้างหลัง ชาติศักดิ์ยืนแข็งทื่อมองแขกคนพิเศษของลูกสาวด้วยความตกใจ แค่เห็นแผ่นหลังเขาก็รู้ว่าเธอคือคนที่เคยสนิทและร่วมงานกันมาหลายปี แม้ว่าจะไม่ได้เจอมานาน ทว่าเขาก็ยังจำได้ “ชาติ??? ชาติใช่ไหม” นางหันตามเสียงเรียก ตกใจยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก รุ่นน้องที่เคยร่วมงานกันตอนเป็น FBI ยืนอยู่ตรงหน้าในสภาพครบ 32 ประการ ใบหน้ายังคงความหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่มีผิด เธอดีใจจนน้ำตาไหลออกมา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอกันอีก “ใช่ครับ อย่าบอกนะว่าพี่ขวัญคือมาดามที่ยัยหนูของผมพูดถึง” ชาติศักดิ์ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า รุ่นพี่ทำงานด้วยกันจะหวนกลับมาพบเจออีกครั้งในรอบ 20 ปีกว่า และยังเป็นแม่เจ้านายของลูกสาวเขาอีก “บังเอิญมากเลย ไม่คิดเลยว่าหนูภาจะเป็นลูกสาวของชาติ หายหน้าหายตาไปหลายปีเลยนะ ไม่ยอมติดต่อกันบ้าง พี่คิดว่าตายไปแล้วด้วยซ้ำ” นางเดินเข้าไปกอดชาติศักดิ์ด้วยความคิดถึง ตั้งแต่ชาติศักดิ์ลาออกไป เธอกับคนในหน่วยพยายามติดต่อด้วย ทว่าก็เจอพบเจอแต่ความว่างเปล่า จนเผลอคิดไปว่าชาติศักดิ์โดนลูกน้องมาเฟียเก็บไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันโดยบังเอิญในฐานะพ่อของเลขาลูกชาย “ขอโทษด้วยนะครับ ผมแค่ไม่อยากจะกลับยุ่งกับงานพวกนั้นอีก เหนื่อยมามากแล้วเลยมาใช้ชีวิตธรรมดากับแม่ฟ้า” “พี่น่ะเป็นห่วงเรามาก ถามใครก็บอกไม่รู้ ติดต่อไม่ได้ แต่ตอนนี้ได้รู้ว่าชาติสบายดี พี่ก็โล่งใจหายห่วง จะได้ส่งข่าวไปบอกพรรคพวกเราว่า ชาติยังอยู่ดีมีสุขกับครอบครัวเล็ก ๆ ของเขา” “มะ... หมายความว่ายังไงเหรอคะ พ่อกับคุณป้ารู้จักกัน” เธอมองทั้งสองท่านสลับกันด้วยความงุนงง ไม่ต่างอะไรกับมารดาสักนิดที่ยืนหน้าเหวอไม่รู้เรื่อง “เมื่อก่อนป้าทำงานเป็น FBI อยู่หน่วยเดียวกับพ่อของหนู อยู่ดี ๆ ชาติก็ยื่นใบลาออกโดยไม่บอกกล่าวกัน แล้วก็หายตัวไป ติดต่อก็ไม่ได้” นางเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ภารดาและฟ้าลดาคลายความสงสัย ทว่าตอนนี้นางเองก็เข้าใจแล้วแหละว่า การเป็น FBI ต้องอยู่กับความเสี่ยงมากมาย ชาติคงมาเจอฟ้าลดาถึงได้ยอมสละอาชีพที่ตนเองทำมานานเพื่อปกป้องคนที่เรารัก “อ้อ...งั้นผู้หญิงคนที่พ่อบอกว่านับถือเหมือนพี่สาวที่เล่าให้หนูฟังบ่อย ๆ ก็คือมาดามสิคะ” “ใช่แล้วลูก ถ้าพ่อไม่ได้พี่ขวัญช่วยเอาไว้หลายครั้ง คงตายไปนานแล้ว แม่ของเอ็งคงเป็นม่าย” “ดูพูดเข้าสิ กินข้าวกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวหนูเอเดนกินหมูทอดหมดเสียก่อน ลงมือกินไม่รอใครแล้ว” ฟ้าลดาพูดแทรกเมื่อเหลือบหันไปเห็นหนุ่มน้อยตักหมูทอดกินไม่รอใคร ทุกคนหันไปมองอดหัวเราะออกมาไม่ได้ สำหรับเอเดนแล้วเรื่องกินมาก่อนเสมอ หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย ฟ้าลดาก็เอาขนมใส่กล่องให้มาดามขวัญเดือนเอากลับบ้าน “ป้าฝากเอเดนด้วยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็น ๆ จะให้ตาเพลิงมารับกลับ ถ้าดื้อมาก ๆ ก็ตีได้เลย” มาดามกล่าว ตอนนี้นางรู้สึกผ่อนคลายสุด ๆ เมื่อได้รู้ว่าภารดาคือลูกสาวของชาติศักดิ์ รุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกัน “ได้ค่ะคุณป้า” เธอเดินมาส่งท่านขึ้นรถ จากนั้นก็ชวนเอเดนไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน เพื่อเป็นการออกกำลังกายและย่อยอาหารไปในตัว “พี่ภาฮะ เอเดนอยากไปเดินตลาดจังเลย” หนุ่มน้อยบอก ในขณะเดินเข้าบ้าน “ได้สิ พรุ่งนี้เช้าพี่ภากับคุณยายจะพาไปนะ แต่ตอนนี้ต้องไปอาบน้ำก่อนนะครับ จะได้มาดูการ์ตูน” “ฮับผม” เอเดนรีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน ซึ่งคืนนี้เขาจะต้องนอนค้างกับพี่ภาคนสวย “เจ้าหนูเอเดนน่ารักมากเลยนะ หมัดหนักไม่เบา แถมยังมีสัมมาคารวะอีกด้วย พ่อชอบ” ชาติศักดิ์กล่าวเมื่อลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ “เป็นถึงลูกชายของมาเฟียก็ต้องเก่งเรื่องการต่อสู้เป็นธรรมดา หนูขอตัวไปดูเอเดนนะคะ ไม่รู้ว่าป่านนี้อาบน้ำเสร็จแล้วยัง” เธอบอกแล้วลุกเดินขึ้นไปยังห้องนอน เธอบ่อยให้หนุ่มน้อยจัดการตัวเองเพียงคนเดียวเพื่อเป็นการฝึกไปในตัว เช้าตรู่ “คุณยายเร็ว ๆ หน่อยฮะ เอเดนอยากไปเดินตลาดแล้ว” เสียงเจี๊ยวจ๊าวดังลั่นแต่เช้า วันนี้จะได้ไปเดินตลาดสดเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษดี๊ด๊ายกใหญ่ “จ้า ๆ ใจร้อนเป็นวัยรุ่นเชียวนะ” นางรีบหยิบกระเป๋าและตะกร้าใส่ของแล้วเดินไปหาหนุ่มน้อยที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู ตามด้วยลูกสาวที่เพิ่งลงมาจากห้องนอน “แล้วเราจะไปกันยังไงเหรอฮะ” “ปั่นจักรยานไปลูก ตลาดอยู่ใกล้แค่นี้เอง เอเดนซ้อนท้ายพี่ภาไปนะลูก เดี๋ยวยายจะพาไปกินโจ๊กเจ้าอร่อยร้านโปรดของคุณตาชาติ” “ฮับป๋ม” สองแม่ลูกและอีกหนึ่งหนุ่มน้อยสุดหล่อพากันปั่นจักรยานไปตลาดสด ซึ่งจะมีร้านค้ามากมายมาวางของขายตามริมทาง โดยเฉพาะของกินมีให้เลือกเยอะละลานตา มีโต๊ะสำหรับนั่งกินไว้ให้ชาวบ้านได้จับกลุ่มเมาท์มอยกัน ฟ้าลดาปั่นมาจอดที่หน้าโรงน้ำชา แล้วจูงมือเอเดนไปยังร้านโจ๊กเจ้าอร่อย “อาแป๊ะเอาโจ๊กหมูสามถ้วย ไข่ลวกสาม ปาท่องโก๋ 6 ตัว” ฟ้าลดาเดินมาสั่ง แล้วพาไปหาที่นั่งร่ม ๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ “คุณยายฮะ เอเดนหอมกลิ่นหมูปิ้งจังเลย” หนุ่มน้อยทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นหอมโชยมาเตะจมูกเลยหันตามกลิ่น แม้ว่าของตรงหน้าจะยังกินไม่หมดก็ตาม “เดี๋ยวยายไปซื้อมาให้นะลูก เอาแบบติดมันไหมครับ” “เอาฮับ หม้ามี้บอกว่าถ้ากินแบบไม่ติดมันจะไม่อร่อย” “รู้ดีนะเรา” ฟ้าลดาเดินไปซื้อหมูปิ้งให้หนุ่มน้อยอย่างเอาใจและเดินกลับมาพร้อมน้ำเต้าหู้สองถุงเอาไปฝากสามีหล่อนด้วย “ชอบไหมคะเอเดน” ภารดาเอ่ยถามพลางขยี้หัวหนุ่มน้อยด้วยความเอ็นดู “ชอบมากเลยฮะพี่ภา เอเดนขอมานอนด้วยทุกอาทิตย์ได้ไหมฮะ” “ได้สิ เลี้ยงเอเดนแค่นี้สบายมาก รีบ ๆ กินให้หมด เดี๋ยวต้องไปใส่บาตร” หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยทั้งสามคนก็พากันไปซื้อของใส่บาตรกับหลวงพ่อ ทุกสายตาต่างหันมามองหนุ่มน้อยด้วยความสนใจ บางคนก็เดินเข้ามาหยิกแก้มด้วยความมันเขี้ยวและเจ้าตัวเองก็ยินยอมให้คนอื่นหยิกแก้มด้วยความพอใจ “แม่ฟ้าเอ็งพาใครมาด้วยเนี่ย หน้าตาหล่อเหลาเชียว” ป้าเจ้าของร้านชายลูกชิ้นปิ้งเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “หลานชายเจ้านายยัยภาน่ะ” “ซาหวัดดีฮับคุณป้าคนฉวย” น้ำเสียงหวานเจื้อยแจ้วกล่าวทักทายผู้ใหญ่ พลางกระพุ่มมือยกขึ้นไหว้ตามที่มารดาเคยสอน “ตายแล้วปากหวานจริง ๆ เลยลูก เอานี่ป้าให้ลูกชิ้น 3 ไม้” สมกับคำโบราณที่ว่า คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง เจอคำพูดหวาน ๆ รื่นหูของเด็กน้อยเข้าไป ป้าขายลูกชิ้นถึงกับยิ้มแก้มปริ ตบรางวัลด้วยลูกชิ้นปิ้งเพราะความเอ็นดู “ขอบคุณฮับป๋ม” กระพุ่มมือไหว้ขอบคุณก่อนรับของมาจากผู้ใหญ่ “แหม... เสน่ห์แรงนะเรา ซื้อของครบแล้วกลับบ้านดีกว่านะ ป่านนี้คุณตาคงจะตื่นแล้ว” ภารดาหยิบแก้มอย่างหมั่นไส้มาแป๊บเดียวก็ได้ของเต็มมือ แวะร้านไหนแม่ค้าก็หลงรักเอ็นดูแถมของมาให้เพียบจนเธอกับมารดาถือแทบไม่ไหวแล้ว เจ้าตัวก็ดันชอบใจเสียอีก 16:00 น. “ป๋มอยากอยู่ต่ออีกจังเลย” หนุ่มน้อยทำหน้ามุ่ยเมื่อใกล้ถึงเวลากลับบ้าน พลางเอียงหน้าซบไหล่ส่งสายตาออดอ้อน “ไม่ได้ค่ะ เอเดนต้องไปเรียนหนังสือ วันไหนเลิกเรียนเร็วก็แวะไปหาพี่ภาที่บริษัทได้นะ” เธอหันมาเอ็ดเบา ๆ และไม่ยอมตามใจเด็ดขาด โดยยื่นข้อเสนออย่างอื่นให้แทน สำหรับเธอแล้ว เรื่องเรียนต้องมาก่อนเสมอ “จริง ๆ นะฮับพี่ภา เอเดนเห็นที่สวนสาธารณะมีสนามเด็กเล่นด้วย พาไปหน่อยได้ไหมครับ สัญญาว่าจะไม่งอแง เป็นเด็กดี” ไม่ได้คืบจะเอาศอก ต้องให้ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง “ได้สิ เดี๋ยวพี่ภาขอตัวไปถอดแว่นก่อนนะ จะได้ไปออกกำลังกายด้วย” ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปยังห้องนอนเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกาย สวมใส่คอนแท็กต์เลนส์แทนสวมแว่นหนาเตอะ รวบมัดผมรวบ ๆ ทาครีมกันแดดให้เรียบร้อย เดินลงมาพาหนุ่มน้อยเจ้าเสน่ห์ไปสวนสาธารณะ ------------------- ปริ้นนน รถคันหรูจอดลงหน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างสูงเดินลงมาจากรถ มือหนึ่งสอดเข้ากระเป๋ากางเกง ชะเง้อมองในบ้านก็ไม่พบใคร ในจังหวะนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมา ดูแล้วน่าจะเป็นแม่ของภารดาหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะมีส่วนเค้าโครงที่คล้ายกันอยู่มาก “สวัสดีครับ ใช่บ้านของภารดาหรือเปล่าครับ ผมเป็นคุณลุงของเอเดน” ยกมือไหว้ พลางเอ่ยถามและแนะนำตัวด้วย “ใช่จ้ะ เข้าบ้านก่อนสิลูก เอเดนกับยัยภาอยู่ที่สวนสาธารณะ อีกสักพักคงกลับมา” นางเลิกขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าใครมา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเจ้านายของยัยหนูแบบชัด ๆ ไม่คิดเลยว่าหล่อเหลาบาดใจขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่สาว ๆ จะติดพันมากมาย ดูจากสายตาแล้วคงเจ้าชู้ไม่เบา ไม่ต่างอะไรกับหลานชายเลยสักนิด ถอดแบบเหมือนกันเปี๊ยบทั้งลุงทั้งหลาน นางเลือกมานั่งข้างบ้านซึ่งเป็นสถานที่ทำขนม จะให้นั่งคนเดียวในบ้านเหงา ๆ ก็กระไรอยู่ “คุณน้ากำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ” เสียงทุ้มพลางมองของตรงหน้าด้วยความสงสัย เมื่อวานมารดาเขาคุยโวตอนกินข้าวว่าแม่ของภารดาทำขนมหวานอร่อยมาก เขาเลยลองชิมสองสามอย่าง อร่อยจริงอย่างที่ท่านพูด “ทำทองหยิบกับฝอยทองจ้ะ พอดีมีลูกค้าสั่งเอาไว้ น้าเลยต้องรีบทำ” “งั้นผมขอสั่งด้วยได้ไหมครับ พอดีลูกค้าจากญี่ปุ่นจะมาไทยอีกสามวัน คุณน้าพอทำทันหรือเปล่าครับ” เขาเลยถือโอกาสอุดหนุนซะเลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรเป็นของต้อนรับลูกค้าดี “ทันสิ เอากี่กล่องดีล่ะ” “เอาอย่างละ 10 แล้วกันนะครับ อีกสามวันผมจะให้ลูกน้องมาเอา” “ได้เลยลูก น้าขอบใจมากเลยนะที่รับยัยภาเข้าทำงาน แล้วยังให้เงินเดือนเยอะอีก” “ลูกสาวของคุณน้าร้ายไม่เบาเลยนะครับ จัดการคู่ขาของผมซะน่วมเลย เข็ดหลาบจนไม่กล้ามาหาผมที่บริษัทอีก” เขานั่งลงเก้าตรงข้ามมารดาของภารดาจะได้มองเห็นการทำขนมไปด้วย “ฮ่า ๆ ได้เชื้อมาจากพ่อเขาน่ะ สามีน้าแกเป็นตำรวจเก่า มีฝีมือทางด้านการต่อสู้ ตอนนี้ก็ไปเป็นครูสอนต่อยมวยให้เด็กแถวบ้านทุกวัน” “ดีจังเลยนะครับ” “เดี๋ยวอยู่ทานข้าวด้วยกันนะก่อน น้าทำขนมใกล้เสร็จแล้ว เมื่อกี้ข้างบ้านให้ปลาช่อนตัวโตมา กะว่าจะทำแกงส้มกินสักหน่อย” “ได้ครับผม ถ้าไม่รังเกียจให้ผมช่วยทำขนมนะครับ เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย อยากลองดูบ้าง” เขาบอก พอได้มาเห็นกับตาก็รู้เลยว่าขนมไทยแต่ละอย่างล้วนทำยากทั้งนั้น ถ้าหากใจไม่รัก ไม่อดทนจริง คงทำไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ จับปืน จับปากกาทำงานอย่างเดียว ของประณีตอะไรพวกนี้ไม่เคยสนใจเลย เมื่อมีโอกาสอยู่ตรงหน้าก็ต้องลองซะหน่อย ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้กับชีวิต “กลับมาแล้วค้าบบบ อ้าว! ลุงเพลิงมาตอนไหนเนี่ย” น้ำเสียงดี๊ด๊าดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัววิ่งเข้ามาในบ้าน ทว่าต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นคุณลุงกำลังนั่งช่วยคุณยายลุงทำขนมอยู่ “มาได้สักพัก นี่ไปทำอะไรมาถึงได้มอมแมมเหงื่อท่วมตัวแบบนี้ล่ะ” เขาถามกลับ เห็นความมอมแมมของหลานชายแล้วอดขำไม่ได้ คงน่าสนุกไม่เบากับการมาอยู่ที่นี่ “ไปออกกำลังกายกับพี่ภามาครับ” “สวัสดีค่ะบอส” ภารดาเดินเข้ามาพลางเอ่ยทักทาย ทว่าดันลืมไปสนิท ตอนนี้เธอไม่ได้สวมแว่นเหมือนตอนทำงาน “---” “ยัยเฉิ่ม??? เธอคือยัยเฉิ่มเลขาของฉันเหรอ...” อ้าปากค้างด้วยความตะลึง ยกมือขยี้ตาเบา ๆ ให้เห็นชัดว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไป เลขาที่เขาทำงานมาด้วยเกือบเดือน แต่งตัวเหมือนมนุษย์ป้า ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคน สวมชุดออกกำลังกายกระชากใจชายเหลือเกิน “อ้าวบอส! จำภาไม่ได้เหรอคะ ภารดาเลขาของบอสไง!” สะกิดแขนเบา ๆ เพื่อเรียกสติกลับมา พลางขำเบา ๆ กับท่าทางของชายหนุ่ม แต่ก็เข้าใจแหละ เธอในตอนนี้กันตอนทำงานคงต่างกันมาก “จำไม่ได้เลย นี่เธอถอดแว่นเหรอ” ขยี้ตาอีกรอบแล้วเอ่ยถาม พลางมองสำรวจใบหน้านวลด้วยความสนใจ ภารดาสวยจริงตามที่มารดาเคยบอกไว้ สวยกว่าคู่ขาเขาทุกคน อันนี้คือเรื่องจริง! เขายอมรับ “ใช่ค่ะ พอดีภาไปออกกำลังกายเลยใส่คอนแท็กต์เลนส์ แปลกใจใช่ไหม” “ใช่ อย่างกับคนละคนเลย” “ฮ่า ๆ ลูกสาวน้าคนนี้ตัวจริงสวยมาก เพียงแค่ใส่แว่นปกปิดเอาไว้ น้าไม่อยากให้มีปัญหากับใคร ยัยนี่สวยจนเพื่อนอิจฉา มีคนมาปองร้าย น้ากับลุงเลยต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน ไม่อยากให้เจ็บตัว” ฟ้าลดากล่าว “ป๋มบอกลุงเพลิงแล้วว่าพี่ภาน่ะสวยมาก สวยเหมือนนางฟ้าเลย ตอนนี้เชื่อแล้วยังล่ะ” “เชื่อแล้ว สวยเหมือนที่เราพูดไว้ไม่มีผิด แต่ตอนนี้ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าไหม ตัวเหม็นมากกก” “เหม็นที่ไหนกัน เอเดนออกจะหอมลองดมดูสิฮับ” เอเดนปีนขึ้นไปนั่งบนตัวแล้วเอาเนื้อตัวไปถูไถให้คุณลุงดมความหอมชื่นใจเข้าไปเต็มปอด พลางหัวเราะออกมาอย่างขบขันอย่างชอบใจ จนภารดาต้องเข้ามาอุ้มออก แล้วพาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของกลับบ้าน “ขอบคุณมากเลยนะครับที่ช่วยดูแลเอเดนเป็นอย่างดี” หลังจากอยู่กินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที เพลิงพิษเอ่ยขอบคุณทั้งสองคนที่คอยช่วยดูแลเอเดนเป็นอย่างดีจนเจ้าตัวร้องอยากอยู่ต่อ พอเจอภารดาเอ็ดแค่ครั้งเดียวก็เงียบหงอยไปเลย “ไม่เป็นไรหรอก แวะมาหายายปล่อย ๆ นะลูก ยายคิดถึง” “คุณตาหายไปไหนครับ เอเดนยังไม่ได้ลาคุณตาเลย” ใบหน้าเล็กชะโงกตัวหาคุณตา แต่ก็ไม่เห็นวี่แววเลยสักนิด “คุณตามีติดสอนมวยดึกน่ะวันนี้ ถ้าคุณตากลับมาเมื่อไร พี่ภาจะไลน์ไปหานะคะ โอเคไหม” “โอเคครับ ผมกลับบ้านก่อนนะครับคุณยาย พี่ภา” “มา ๆ ให้ยายชื่นใจหน่อยลูก ฟอด แวะมาหายายบ่อย ๆ นะ ยายคิดถึง” ฟ้าลดาหอมแก้มสองข้างฟอดใหญ่ รู้สึกใจหายเล็กน้อยที่เอเดนต้องกลับบ้าน นานครั้งเธอจะมีเด็กเล็กมากวนเล่นแบบนี้ “ฮับป๋ม เอเดนไปก่อนนะฮะ สวัสดีฮับ” ยกมือกระพุ่มไหว้ลาแล้วเดินขึ้นรถไปพร้อมกับคุณลุง “ขับรถดี ๆ นะคะบอส” “ขอบใจ พรุ่งนี้เจอกันที่ทำงาน” รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปได้สักพักภารดาก็เดินเข้าบ้านไปช่วยมารดาทำขนมต่อ ทางด้านของเพลิงพิษและเอเดนหนุ่มน้อยร้องโอดโอยเสียดายไม่หยุดปาก ทำเอาเพลิงพิษเขกหัวหนัก ๆ เข้าไปหนึ่งที “ลุงเพลิงฮะ ลุงเพลิง” กระตุกแขนเสื้อเรียกเบา ๆ “ว่าไงตัวแสบ” หันหน้ามาถาม “ลุงเพลิงชอบพี่ภาไหมฮับ” “ทำไมล่ะ” “เอเดนน่ะชอบพี่ภามากเลย อยากให้พี่ภามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ทำไมลุงเพลิงไม่จีบพี่ภาละฮับ” หนุ่มน้อยเริ่มปฏิบัติการหว่านล้อม “ไม่ใช่สเป็กลุงเลย จะไปจีบทำไมกันล่ะ” เขาอยากจะเขกหัวเจ้าหลานชายตัวแสบจริง ๆ พูดมาได้ยังไงให้เขาไปจีบลูกน้องตัวเอง อีกอย่างเขาก็ไม่ได้คิดจะชอบพอกับภารดาด้วย แทบไม่มีในหัวสมองเลย “หม้ามี้บอกว่าลุงเพลิงเป็นคนพูดปากไม่ตรงกับใจ เมื่อกี้เอเดนเห็นคุณลุงมองพี่ภาตาไม่กะพริบ แปลว่าลุงเพลิงต้องชอบพี่ภาแน่ ๆ” ใช้สัญชาตญาณของตัวเองที่จำมาจากละครหรือซีรีส์ “นี่แน่ะ! คิดเองเออเองไปได้นะเอเดน ลุงกับยัยเฉิ่มนั้นเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง จะเป็นแฟนกันได้ยังไง” เขกหัวหนัก ๆ อีกรอบ ต่อไปนี้คงต้องกำชับพี่เลี้ยงให้ดูละครน้อยลง จะได้ไม่ต้องมาพูดจากับหลานเขาแบบนี้ แก่แดดเกินวัยไปแล้ว “ไม่รู้แหละเอเดนอยากให้พี่ภามาอยู่ที่บ้านด้วย เอเดนชอบพี่ภา คุณลุงต้องไปจีบพี่ภามาเป็นแฟนให้ได้นะ!!!” โวยวายไม่ยอมท่าเดียว ยกมือกอดอกเชิดหน้าอย่างงอน “ไม่เอา!!!” ปฏิเสธเสียงแข็งทันที ไม่มีวันที่เขาจะจีบยัยเฉิ่มแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงก็ตามว่าสวยมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่นิยมกินลูกน้องของตัวเองให้เสียการปกครอง “งั้นเอเดนไปบอกคุณยายก็ได้ ให้สั่งลุงเพลิงจีบพี่ภา” ไหนเมื่อหว่านล้อมคุณลุงไม่ได้ผล หนุ่มน้อยเลยจัดการหาวิธีเข้าทางคุณยายแทน เพราะท่านก็ชอบพี่ภาเหมือนเขาเช่นกัน “หือ แสบนะเรา คนอย่างลุงถ้าชอบใครไม่จีบให้เสียเวลาหรอก มาเฟียอย่างเรานิยมฉุดทำเมียเท่านั้น” เขาไม่เคยจีบใครมาก่อนเลยในชีวิต แฟนเป็นตัวเป็นตนก็ไม่มี มีแต่คู่ขาอย่างเดียว ยิ่งมาสั่งกันแบบนี้ด้วยถือว่าเป็นการบังคับจิตใจกัน คนเราจะรักจะชอบกันขึ้นอยู่กับสองฝ่าย โดยไม่ต้องบังคับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรอกนะ “ถ้าลุงเพลิงแน่จริงก็ฉุดพี่ภาทำเมียให้เอเดนดูหน่อยสิฮับ” พูดอย่างท้าทายพลางยกคิ้วใส่ แม้จะไม่รู้ว่า ฉุดทำเมียคืออะไรก็ตาม “แก่แดดนะเรารู้จักคำพวกนี้ด้วย คอยดูเถอะลุงจะทำให้พี่ภาของเรามาอยู่บ้านด้วยเลย รับรองไม่นานเกินรอแน่ ๆ” คนอย่างเพลิงพิษไม่มีวันยอมให้หลานชายตัวน้อยมาสบประมาทหรอก ในเมื่ออยากได้มากนักเขาก็จะสนองให้ ถือว่าเป็นเรื่องดีจะได้ศึกษานิสัยใจคอกันด้วย ถ้าไม่ลงรอยก็แค่แยกทาง “อย่าหลอกเด็กนะ ไม่อย่างนั้นมีงอน” เขาส่ายหัวเบา ๆ กับคำพูดของหลานชาย พลางอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะเริ่มจีบยัยเฉิ่มยังไงดี ถึงแม้ว่ายัยนี่จะแตกต่างไปจากสาว ๆ ที่เขาควงก็ตาม แต่ก็มีดีเยอะจนทำให้มารดาและเอเดนรักและหลงมาก ทว่าก็เป็นการดีสำหรับเขาเหมือนกัน พ่อกับแม่จะเลิกบ่นหรือหาเมียให้เสียที ถ้าได้ภารดามาก็สมใจมารดาเลยแหละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม