เนยนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าป้ายรถเมล์ เธอกำลังรอใครบางคนที่กำลังจะมาหาเธอในไม่ช้า หัวใจของเธอตอนนี้มันเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ในหัวตอนนี้ มันมีแต่คำว่า..ทำไม ทำไม และทำไม!
ทำไมเขานั้นทำกับเธอแบบนี้ ดูถูกเธอ ต่อว่าเธอ แล้วยังจะกระทำป่าเถื่อนใส่เธออีก คนอย่างเขามันเป็นคนแบบไหนกัน
“เนย..” เสียงทุ้มดังขึ้นจากข้างหน้าของเธอ
“ลี..มาแล้วเหรอ ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถเลย” เนยเงยหน้าขึ้นไปดูก็พบว่าเป็นลี เพื่อนชายในกลุ่มของเขานั้นเอง เธอเอ่ยถามเขาออกไปทันทีเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงรถเขาจริง ๆ หรือเธอจะเหม่อลอยคิดแต่เรื่องบ้า ๆ พวกนั้นอยู่จนไม่ได้ยินขนาดนั้นเชียวหรือ
“ลีควรถามเนยมากกว่าไหม..ลีมาตั้งนานแล้วเนยไม่ยอมเดินมาขึ้นรถ จนลีต้องลงมาเรียกเนี่ย” ลีเดินเข้ามาก่อนพูดออกไปตามความจริง เขาเห็นหญิงสาวนั่งเหม่อลอยไม่ยอมเดินมาขึ้นรถ เขาจึงต้องลงมาจากรถ เพื่อที่จะมาเรียกเธอ
“เนยขอโทษนะ..ขอโทษที่รบกวนดึก ๆ แบบนี้ด้วย” เนยเอ่ยออกไปอย่างรู้สึกผิด ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรเลย เคยบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจ มีอะไรให้โทรหาลีได้ตลอด” ชายหนุ่มเอ่ยออกไป เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวนั้นสบายใจ
“อืม ขอบคุณนะ..งั้นเราไปกันเถอะ” เนยยกยิ้มเอ่ยของคุณไปอีกครั้ง
“...” ลีไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อพบรอยช้ำที่ริมฝีปากของเธอ
“ลี..เป็นอะไร?”
“ไปโดนอะไรมา?” ลีเอ่ยถามขึ้น เขายกมือไปแต่บริเวณริมฝีปากเธออย่างเป็นห่วง
“เอ่อ..เราเดินชนประตูห้องอ่า..แหะๆ ซุ่มซ่ามเนอะ” เนยสายตาไหววูบกับคำถามของลี เธอเลยแก้ต่างออกไปหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อให้เขานั้นไม่สงสัยเรื่องราวที่เพราะอะไรริมฝีปากของเธอจึงปริแตกแบบนี้
“..อืม ซุ่มซ่ามจริง ๆ งั้นเรากลับกันเถอะ” ลีจึงไม่ได้อยากเอ่ยถามอะไรเธอมากไป เพราะปกติเนยไม่ใช่คนขี้โกหกอยู่แล้ว เขาเอ่ยขึ้นหันตัวเดินนำเธอไปขึ้นรถหรูของเขาทันที