บทที่ 1 เจอกันอีกครั้ง

2275 คำ
ก่อนหน้านี้... นานมากแล้วที่ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ไม่ได้ออกมาสังสรรค์ข้างนอก อีกทั้งเดี๋ยวนี้เขากลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงจากการทำคดีดัง ๆ หลายคดีเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องสงสัย ซึ่งมันทำให้เขาไม่ค่อยอยากออกมาข้างนอกสักเท่าไร อัทธากรในวัยสามสิบสี่ลืมไปเสียสนิทว่าตนต้องมีคู่ครอง เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับการเรียนหนังสือ ปริญญาสามใบจากทั้งในและนอกประเทศยืนยันได้ว่าเขาเรียนหนักแค่ไหน ชายหนุ่มเกิดในชาติตระกูลดีระดับมหาเศรษฐี ทว่าเขากลับฝักใฝ่ความยุติธรรม บิดาของเขาให้การสนับสนุนเปิดสำนักงานกฎหมายเอกชนในเครือบริษัทใหญ่อย่างเดอะเกรทฟีเจอร์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัททำการค้าหลายสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ ที่อยู่อาศัย โรงแรม คอนโดมิเนี่ยม แม้กระทั่งการเกษตรกรรม และแน่นอนว่าครอบครัวเขาเป็นผู้เสียภาษีเงินได้สูงสุดของประเทศ สายตาของผู้คนที่มองมายังเขานั้นแปลความหมายได้หลายอย่าง สายตาแห่งความชื่นชม สายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในรูปลักษณ์หน้าตา ชาติตระกูล เงินทอง แต่เขากลับไม่ได้สนใจสายตาของใครอื่นนอกจากเธอคนนั้น ดวงตาคมกริบเพ่งเล็งไปยังหญิงสาวร่างบางที่ยืนห่างไกลเขาออกไปอีกด้านหนึ่ง แต่เขามองเห็นเธอเช่นเดียวกับเธอที่มองเห็นเขา ลินินกลืนน้ำลายลงเมื่อเพื่อนของเธอคะยั้นคะยอให้เธอมาแนะนำตัวกับเขาและเธอก็ไม่อาจปฏิเสธคำขอเหล่านั้นได้ เรียวขาเล็กในส้นสูงสามนิ้วค่อย ๆ กรีดกรายฝ่าฝูงชนเข้าไปหาเขา ใบหน้าคมเข้มเห็นสันกรามชัดเจน ผิวขาวซีด และดวงตาสีนิลชวนหลงใหลนั้นเธอเคยสบตากับเขาในระยะประชิด ลินินหญิงสาวลูกครึ่งไทยจีนเธอเคยเป็นคู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มมองใบหน้าเล็กขาวใสของเธอภายใต้แสงไฟสลัว ไม่เจอกันนานเธอโตเป็นสาวขึ้นมาก รูปร่างเล็กทรวดทรงองค์เอวมีสัดส่วน เธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา “สวัสดีค่ะ...” ลินินกระแอมเสียงออกมาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเอ่ยพูดขึ้น ในมือของเธอมีแก้วเหล้าสองใบก่อนที่เธอจะยื่นให้เขาแก้วหนึ่ง ซึ่งการไม่ยื่นมือมารับน้ำใจของเขานั้นทำให้เธอหน้าเสีย “ไม่เจอกันนานเลยนะ” “ก็...ห้าปีได้มั้งคะ” “หึ” เขาแค่นหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่ายหน้าและเดินสวนเธอไปอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ” ชายหนุ่มชะงักฝ่าเท้าก่อนที่เขาจะหันหน้ามาหาเธอ ส่วนสูงมากกว่าร้อยแปดสิบห้าทำให้ลินินต้องเงยหน้าขึ้นมอง “เพื่อนฉันอยากรู้จักคุณค่ะ” อัทธ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่ใบหน้าเล็กของลินินจะพยักพเยิดหน้าไปฝั่งที่เพื่อนของเธอยืนอยู่ ฝ่ามือเล็กของมินตรายกขึ้นโบกหย็อย ๆ ให้กับเขา ดวงหน้าสวยฉบับสาวไทยทำให้เขายิ้มออกมาบาง ๆ “สวยดีนิ” “ค่ะ ช่วยเดินไปทำความรู้จักกับเธอสักนาทีได้ไหมคะ” “ทำไม” “ก็เพื่อนฉันอยากรู้จักคุณ” “ทำไมผมต้องทำแบบนั้นต่างหากล่ะ” สรรพนามของชายหนุ่มดูห่างเหินกับเธอจนหญิงสาวสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบพอ ซึ่งลินินก็ทำใจมาแล้วว่าเขาต้องเกลียดเธอไปแล้วแน่ ๆ “ก็...” “ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาเสียเวลาคุยกับคุณ” เขาว่าเสร็จก็มีท่าทีว่าจะก้าวขาเดินไปอีก ทว่าหญิงสาวก็เอ่ยพูดขึ้นเสียก่อน “พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานกับคุณ....” “_” “คุณรู้หรือเปล่าคะ” ลินินเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเห็นว่าสำนักงานกฎหมายเก่าของเธอบอกเธอว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนทำเรื่องดึงตัวเธอมาทำงานด้วย “ทำไมผมต้องรู้ ถ้าอย่างนั้นผมควรต้องไปถามฝ่ายบุคคลแล้วล่ะว่าทำไมคุณถึงมาทำงานกับผมได้” ลินินรู้สึกโกรธเคืองคำพูดของเขาออกมาเสียดื้อ ๆ แล้วใครกันอยากทำงานกับเขา “ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ คนบ้ามั้งคะที่ย้ายงานฉัน” “หึ...” อัทธ์หัวเราะออกมาเบา ๆ ให้กับคำพูดของเธอ ก่อนที่เขาจะก้าวขาเข้ามาหาเธอ และการเข้าประชิดตัวแบบกะทันหันทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น “ทะ ทำอะไร” “หรือจริง ๆ คุณอยากย้ายมาทำงานกับผม” “อะไรนะ” “อยากรำลึกความหลังเหรอครับ” ลินินตาโตเสียยิ่งกว่าเดิมอยากจะยกเหล้าในแก้วสาดใส่หน้าหล่อ ๆ นี้ให้จบไปเสีย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะวันพรุ่งนี้เขาจะกลายเป็นเจ้านายของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะได้ประทุษร้ายเขา เสียงเล็กของเพื่อนเธอก็ดังขึ้น “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ” อาจจะเป็นเพราะแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มบดบังร่างเล็กของลินินทำให้เธอมองไม่เห็นว่าใบหน้าของลินินแทบติดแผ่นอกกว้างของเขาแล้ว พรึ่บ! “ไม่มีอะไรครับ” อัทธ์หันหลังกลับมาพูดคุยกับหญิงสาวผู้มาใหม่ ขณะที่อีกฝ่ายพอเห็นใบหน้าของเขาชัด ๆ ในระยะประชิดอย่างนี้ก็เกิดอาการเขินอายออกมา “เอ่อ พอดีว่าฉันเป็นเพื่อนลินินน่ะค่ะ” “ครับ เธอบอกผมแล้ว” น้ำเสียงทุ้มลึกชวนฝันของเขาทำเอามินตราหลงใหล ก่อนที่เสียงกระแอมในลำคอของลินินจะดังออกมา “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ” “หืม แล้วฉันจะอยู่ยังไงอ่ะ” มินตรารู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก แต่ก่อนที่ลินินจะได้พูดอะไรอัทธ์ก็ได้เอ่ยออกมาเสียก่อน “เดี๋ยวผมนั่งดื่มเป็นเพื่อนก่อนก็ได้ครับ” พอเห็นสีหน้าของลินินที่อยู่ ๆ เธอก็มีสีหน้าไม่ยินดียินร้ายชายหนุ่มก็ยกยิ้มขึ้น ขณะเดียวกันลินินก็เกิดอาการหวงเพื่อนขึ้นมา เพราะเธอเกรงว่าเพื่อนของเธอจะถูกผู้ชายคนนี้หลอกเข้าให้... ลินินเข้าห้องน้ำไม่นานมากนัก จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการทำธุระอะไรที่ห้องน้ำ ซึ่งเธอเพียงแค่หงุดหงิดเขา น้ำเสียงท่าทางของเขานั้นทำทีว่าเกลียดเธออย่างกับอะไรดี ซึ่งก็ผ่านมานานมากแล้วเขายังไม่ลืมเรื่องเหล่านั้น ดวงตารียาวสำหรับสาวหมวยมีเสน่ห์น่ามองของเธอมองตรงไปยังแผ่นหลังหนาของเขาและแผ่นหลังบางของเพื่อนเธอ อากัปกิริยาทั้งวางฝ่ามือที่หัวไหล่ของเพื่อนของเธอ ยื่นแขนโอบแผ่นหลังเพื่อนเธอเพื่อไปจับเอาขวดเหล้าอีกฝั่งหนึ่ง ดูก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนดี หญิงสาวเดินกลับทางเดิม ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งเก้าอี้หน้าบาร์เทนเดอร์ข้าง ๆ เพื่อนของเธอ “หือ? มาไวจัง” ลินินหันไปยิ้มให้เพื่อนของเธอเล็กน้อยก่อนที่เธอจะขอเหล้ากับบาร์เทนเดอร์หนุ่มใหม่อีกครั้ง “ทำไมเหรอ หรือแกอยากให้ฉันไปนาน ๆ” มินตราขำออกมาเบา ๆ เพื่อนของเธอรู้ดีราวกับมานั่งในใจ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเพียงแค่หันหน้ากลับไปสนใจชายหนุ่มข้างกาย “ฉันเคยเห็นคุณในทีวีค่ะ ไม่เคยเห็นตัวจริงเลย” “ก็เห็นอยู่นี่ไงครับ” ท่าทางเหนียมอายของมินตราน่าเอ็นดู ทว่าชายหนุ่มกลับมองเลยเธอออกไปหาหญิงสาวร่างบางที่นั่งหันข้างไม่สนใจเขาอยู่ แต่หารู้ไม่ว่าใบหูเล็กนั้นเงี่ยหูฟังตลอด “ว่าแต่...ฉันไม่เห็นข่าวคุณกับ เอ่อ...แฟนนะคะ” อัทธ์ยกยิ้มบาง ๆ ให้กับมินตรา เธอรุกแรงไม่เบา และการขยับตัวของลินินนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอกำลังสนใจคำพูดของเขาอยู่ “ผมยังไม่มีแฟนครับ แต่คงเป็นวันนี้มั้ง...” “หึ ใครกันนะ” มินตรายกมือขึ้นทัดผม ซึ่งก็ได้รับเพียงเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอหนาของเขาเป็นการตอบกลับ ขณะเดียวกันที่ลินินก็ได้คว่ำปากให้เขาอย่างนึกหมั่นไส้ “มินฝากยัยลินินด้วยนะคะ วันนี้เธอเครียดมากเลยค่ะ” มินตราเอ่ยปากชวนเขาคุย “ครับ ผมจะดูแลอย่างดี” ลินินแทบสำลักน้ำเหล้า เขาจงใจเน้นคำว่าดูแลอย่างดีให้เธอได้ยิน “ดีใจจัง ยัยนินน่ะยังไม่เคยชนะคดีเลยค่ะ” “หึ ครับ” เสียงหัวเราะของเขาแทบทำให้หญิงสาวอยากลุกขึ้นไปกล่าวโทษ ซึ่งก็ได้แต่กำหมัดอยู่ในใจ ลินินเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งคู่ที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกันเรื่อย ๆ นั้นทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธอหล่อนจะรู้หรือไม่ว่าเขาไม่ได้จริงจังอะไร น้ำเสียงของมินตราบ่งบอกว่ากำลังเมาเต็มที หากทิ้งไว้อย่างนี้จุดจบของสองคนนี้คงเป็นโรงแรม “ฉันจะไปหาบ่อย ๆ ...เอ่อ หมายถึงไปหายัยนินค่ะ” “ครับ ยินดี” อัทธ์ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเธอคนนี้ มินตราสวย พูดจาดี แต่เขากลับไม่รู้สึกหวั่นไหวหรืออะไรกับเธอ “ว่าแต่คุณทำงานอะไรครับ” ชายหนุ่มรินเหล้าให้เธอไปหลายแก้ว เขาไม่ได้จงใจจะมอมอะไรเจ้าหล่อนหากแต่พอคุยไปนาน ๆ เธอก็ยกขึ้นดื่มไม่หยุด “อ่อ ที่ศูนย์การเจริญพันธุ์ค่ะ” “หือ?” “ก็แบบทำเด็กหลอดแก้วอะไรประมาณนี้” น้ำเสียงยานคางของมินตราทำให้ลินินอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่เพื่อนของเธอก็ดูเหมือนจะไม่สนใจเธอเลย “อ่อครับ แล้วถ้าผมอยากทำบ้างต้องทำอะไรหรือเปล่า” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็เกิดสนใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น “หือ คุณไม่อยากมี เอ่อ...ภรรยาเหรอคะ” “ไม่รู้สิ” มินตรายกมือขึ้นเท้าคางมองใบหน้าของเขา ใบหน้าคมสันนี้น่าหลงใหลเกินเหตุ “พอดีเห็นน้องมีลูกเลยอยากมีมั้ง...” เสียงพูดของอัทธ์ทำให้ลินินรู้สึกไม่ดี เขาจงใจพูดใส่เธอหรือเปล่าเพราะจริง ๆ เธอเคยมีอดีตที่ไม่ดีกับน้องชายเขา “อ่อ น้องชายฝาแฝดใช่ไหมคะ ฉันเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณค่ะ” “ครับ” “งั้น ไปฝากเชื้อไว้ก่อนก็ได้นะคะ” อัทธ์เพียงแค่ยิ้มให้เธอเป็นการตอบรับแบบกลาย ๆ ก่อนที่เขาจะรินเหล้าให้กับมินตราอีกครั้ง ทว่าลินินกลับยื่นมือไปดึงแก้วของมินตราออกเสียอย่างนั้น “แกทำอะไรน่ะ” “แกเมามากแล้วมิน...ฉันกำลังจะกลับ เดี๋ยวฉันไปส่ง” “ไม่เป็นไร แกกลับก่อนเลย” ใบหน้าของมินตราแดงก่ำ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนยังไม่อยากกลับและยังอยากพูดคุยกับชายหนุ่มรูปงามคนนี้อีก “แล้วแกจะกลับยังไงล่ะ เมาขนาดนี้” อัทธ์ยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก ดูเธอจะเกรงกลัวเขามากเพราะเรื่องในอดีตกระมั้งเลยทำให้เธอคิดแบบนี้ แต่เล่นตามน้ำก็สนุกดี “เดี๋ยวผมไปส่งก็ได้ครับ” “หยุดเลยค่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณคิดอะไร” มินตราขมวดคิ้วไม่พอใจในสิ่งที่ลินินพูด ทว่า “แล้วผมจะทำอะไรล่ะครับ” ท่าทางยียวนของชายหนุ่มทำให้ลินินหายใจฮึดฮัด “ก็ทำแบบที่เคยทำไงคะ ฉวยโอกาสคนเมา” “เหรอครับ ผมเคยทำอย่างนั้นเหรอ” มินตราเห็นท่าไม่ดีเธอก็เลยหันไปกล่าวขอโทษชายหนุ่ม “เอ่อ ขอโทษนะคะ อย่าถือโกรธยัยนินเลยค่ะ” ลินินหันไปมองเพื่อนของเธอก่อนที่เธอจะดึงข้อมือของมินตราออกไปคุย “อะไรของแกเนี่ย...ดะ เดี๋ยวฉันกลับมานะคะ” อัทธ์เพียงแค่ยักไหล่เล็กน้อย เขานึกขันกับท่าทีของลินิน ซึ่งตอนนี้หญิงสาวก็ได้ลากเพื่อนของเธอออกไปคุยห่างไกลจากเขา “อะไรของแกเนี่ย...ลินิน” พรึ่บ! มินตราสะบัดข้อแขนออกจากฝ่ามือเล็กของลินิน เธอเซเล็กน้อยทว่าลินินก็คว้าต้นแขนของเธอไว้ได้ทัน “แกเมามากมิน แล้วแกควรกลับกับฉัน” “แกเป็นอะไรเนี่ย ก็คุณอัทธ์บอกเดี๋ยวไปส่งฉันไง” “หึ แกไม่รู้เหรอว่าเขาหมายถึงอะไร” มินตราขมวดคิ้วให้กับสิ่งที่ลินินพูด ก่อนที่เธอจะถึงบางอ้อ “อ่อ แกกลัวว่าฉันกับเขาจะวันไนท์ใช่ปะ” “ก็ใช่น่ะสิ เขาดูเจ้าชู้จะตาย” “หึ ถ้าเราสองคนยินยอมมันก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ” “ก็ใช่ แต่แกจะมั่นใจเหรอว่าเขาได้แกแล้วเขาจะไม่ทิ้ง” มินตรามองใบหน้าลินิน เพื่อนของเธอเป็นห่วงเธออย่างนั้นใช่ไหม “โอเค แกคงเป็นห่วงฉัน...งั้น ฉันยอมกลับกับแกก็ได้” ลินินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ทว่า “ถ้าแกไม่เป็นเพื่อนฉัน ฉันจะแอบคิดว่าแกหวงเขาแล้วนะ...” “บ้า...ใครจะคิดอย่างนั้น” ลินินตอบกลับทันควันอย่างไม่คิดอะไร เพราะเธอไม่เคยคิดอะไรอย่างที่เพื่อนของเธอพูดเลยสักนิด ไม่เคยเลยสักครั้งที่คิดอย่างนั้น...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม