หลังจากที่เต้นได้เข้ากลางเพลง ดาวเต้นสาวก็ลงจากเวทีเพื่อไปนั่งดื่มกับแขกที่ให้ดื่มเธอสูงถึงสิบดื่มในค่ำคืนนี้ หญิงสาวบอกมาม่าซังว่าขอเป็นน้ำเปล่าบ้าง เพราะเตกิลานั้นเป็นเหล้าที่มีสีใส แต่ทว่ามีฤทธิ์แรง หากลูกค้าไม่สังเกตก็จะไม่รู้ว่านั่นไม่ใช่เหล้า กลโกงนี้จะเป็นการช่วยไม่ให้สาวๆ ที่ได้ดื่มนั้นเมาเร็วขึ้น แพทตี้นั่งลงข้างๆ กับสตีเว่น เขาจับขาเธอมาก่อนที่จะบีบนวดให้จนหญิงสาวตกใจเกือบจะชักกลับ
“สตีเว่น คุณไม่ต้องนวดให้ฉันหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยความเขินอาย เธอนั่งกับโต๊ะอื่นๆ ก็ไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้
“ไม่เป็นไรผมเห็นคุณแอบนวดขาอยู่บ่อยๆ นี่คุณต้องเต้นแบบนี้ทั้งคืนเลยหรอ แล้วถ้าไม่ได้ดื่มคุณต้องเต้นนานกว่านี้หรือเปล่า”
สตีเว่นเอ่ยถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ น้ำเสียงที่แสดงออกมาถึงความห่วงใยทำให้หัวใจของหญิงสาวที่เริ่มจะด้านชากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง สองเพื่อนซี้ที่ได้ฟังก็อดที่จะอมยิ้มออกมาให้สตีเว่นเช่นกัน เขาไม่เคยแสดงความห่วงใยผู้หญิงคนไหนที่ทำงานแบบนี้มาก่อนเลย ดูดาวอะโกโก้คนสวยคนนี้จะถูกใจสตีเว่นเข้าอย่างจังเสียแล้ว
“ก็เป็นแบบที่คุณคิดนั่นแหละค่ะ ถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มก็ต้องเต้นจนจบรอบ พอถึงรอบก็ขึ้นไปใหม่จนกว่าร้านจะปิด” แพทตี้ตอบยิ้มๆ รอยยิ้มที่ทำเอาคนมองตาพร่า หนุ่มๆ โต๊ะอื่นต่างมองมาที่เธอเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าให้ดื่มเธอมากเกินกว่าสองดื่ม
“อืม... คุณไม่อยากไปหางานอย่างอื่นทำบ้างหรอ” สตีเว่นอดที่จะถามออกมาไม่ได้ เธอเก่งภาษาขนาดนี้ น่าจะหางานดีๆ ทำได้ไม่ยาก
“ฉันยังมีภาระและหน้าที่ที่จะต้องทำค่ะ และที่สำคัญฉันเรียนจบเพียงแค่มัธยมต้น มันยากนะคะที่คนที่เรียนมาน้อยอย่างฉันจะหาเงินได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายและภาระที่มีของครอบครัว” เธอตอบเขาก่อนที่จะยกแก้วเตกิลาขึ้นมากระดกในคราวเดียว เขาจึงยกแก้วบรั่นดีของเขาขึ้นมาจิบบ้าง
“อันที่จริงผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก เพียงแต่ว่าเพื่อนผมสองคนมันเป็นเศรษฐี ผมเลยมีโอกาสได้มาเที่ยวที่เมืองไทยกับพวกมัน” สตีเว่นเริ่มที่จะลองใจสาวสวยดาวอะโกโก้ด้วยการโกหกว่าเขาจน
“อ้าว... แล้วทำไมคุณเลี้ยงดื่มฉันเยอะจังเลยล่ะคะ เก็บเงินไว้ไปเที่ยวไปกินอาหารดีๆ ยังจะดีกว่า”
และคำตอบของเธอทำให้เขารู้สึกพอใจ เธอไม่สนับสนุนให้เขาเอาเงินที่หามาด้วยความลำบากมาเสียให้กับการเลี้ยงดื่มพวกเธอ เดนนิสกับโอเว่นถึงกับยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน สองหนุ่มรู้ดีว่าสตีเว่นนั้นร่ำรวยขนาดไหน และนี่มันคือการลองใจขั้นแรกของเพื่อนจอมเจ้าเล่ห์ของพวกเขา
“ไม่เป็นไรครับแพทตี้ ผมอยากให้เพื่อนได้ผ่อนคลาย แต่ถ้าคุณไม่รังเกียจคืนนี้ออกไปกับสตีเว่นได้ไหมครับ พวกเราเพิ่งมาได้สองวันยังไม่รู้จักที่เที่ยวที่ไหนเลย ถ้าได้ไกด์สวยๆ คอยพาเที่ยวคงจะดีไม่น้อย”
เดนนิสเริ่มเอ่ยปากทันทีด้วยรู้ว่าเพื่อนสนิทคงจะไม่กล้าเอ่ยถามเธอออกมา แพทตี้ทำสีหน้าลังเลอยู่สักครู่ก่อนที่โอเว่นจะบอกว่าเขาก็จะพาเพื่อนสนิทของเธอออกไปพร้อมกับเธอในคืนนี้ด้วย แอมมี่ทำสีหน้างุนงง แต่ก็พอเข้าใจว่าหนุ่มๆ กลุ่มนี้อยากที่จะบาร์ฟายเพื่อนเธอออกไป รวมถึงเธอด้วย
“ไปไหมแพทตี้ ฉันอยากพักขาอยู่เหมือนกัน ถึงอยู่ต่อฉันก็หาดื่มไม่ได้อยู่ดี”
แอมมี่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเพื่อนสนิท แต่กฎของดาวอะโกโก้สาวนั้นจะไม่ออกไปกับแขกคนไหนถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องทางบ้าน
“ไปด้วยกันเถอะนะครับ รับรองว่าแค่ให้พาทัวร์คืนนี้ ไม่พาไปทำอะไรที่คุณไม่เต็มใจแน่นอน”
เดนนิสเอ่ยเสริมอีกที เขานั้นติดต่อมาม่าซังเรื่องที่จะบาร์ฟายพีอาร์สาวคนที่เรียกเขาและเพื่อนเข้ามาแล้ว เหลือก็แต่สองหนุ่มที่ยังตกลงกับคู่ของตนไม่ได้
“คุณจะไปกับผมไหมครับ”
สตีเว่นเอ่ยถามพร้อมทั้งส่งสายตาบางอย่างมาให้กับเธอ แพทตี้มองหน้าเพื่อนสนิททีและมองใบหน้าหล่อเหลาของสตีเว่นที จึงตัดสินใจเอ่ยถามออกมา
“แค่พาไปเที่ยวแล้วก็แยกย้ายใช่ไหมคะ”
“ครับ...แค่พาเราเที่ยวก็พอ” สตีเว่นตอบรับ
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ แต่คุณรู้ใช่ไหมคะว่าค่าบาร์ฟายไปLongของร้านเราสองพันห้า”
แพทตี้ตอบตกลงแต่ก็ยังไม่ลืมเอ่ยถามหนุ่มๆ อีกครั้ง เธอรู้สึกเห็นใจสตีเว่นที่เขาต้องใช้เงินที่ทำงานมาท่องเที่ยวและเสียเงินไปกับสิ่งที่ไม่ควรจะเสีย อย่างเช่นบาร์ฟายเธอออกไป แต่ก็ไม่ได้พาไปมีความสุขบนเตียง
“แน่นอนครับ ขอแค่แพทตี้เต็มใจออกไปกับพวกเรา จะกี่บาทพวกเราก็ไม่เกี่ยงครับ เพื่อนผมเป็นเศรษฐีบริษัทใหญ่ เงินแค่ไม่กี่ยูโร ขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงหรอกครับ” สตีเว่นบอกเธอก่อนที่จะหันไปมองสองเพื่อนสนิทที่พยายามกลั้นขำกับการโกหกหน้าตายของเขา
“ค่ะ ขอเราสองคนไปบอกมาม่าซังกับเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
เสียงหวานบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืนเมื่อเตกิล่าแก้วสุดท้ายถูกยกจนหมด สามหนุ่มพยักหน้า สองสาวจึงเดินไปบอกมาม่าซัง แพทตี้ยืนคุยอยู่สักพักจึงเดินตามแอมมี่เข้าไปหลังร้าน จากนั้นมาม่าซังจึงถือบิลเข้ามาเก็บเงินค่าดื่มและค่าบาร์ฟายจากสามหนุ่ม ถึงแม้จะงุนงงอยู่ไม่น้อยที่ดาวอะโกโก้สาวตกลงออกไปกับลูกค้าในค่ำคืนนี้ แต่พอมาเห็นหน้าลูกค้าของแพทตี้ใกล้ๆ จินตนาจึงไม่แปลกใจเลย เธอเก็บเงินและส่งยิ้มพร้อมทั้งอวยพรให้ทั้งสามหนุ่มแล้วเดินจากไป
ใช้เวลาเพียงไม่นาน สองสาวก็เดินออกมาในชุดที่แตกต่างกัน แพทตี้แต่งตัวค่อนข้างน่ารักเสื้อกล้ามสีขาว สวมกางเกงยีนขาสั้นสีเข้ม รองเท้าที่เธอสวมใส่ก็เป็นรองเท้าผ้าใบให้ความทะมัดทะแมง แตกต่างจากสาวสวยดาวยั่วที่อยู่บนฟลอร์เต้นราวกับเป็นคนละคน แต่แอมมี่แต่งตัวค่อนไปทางเซ็กซี่ ชุดแซกเปิดไหล่แหวกข้างขาเรียว คืนนี้โอเว่นหมายมาดเอาไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องได้สาวเซ็กซี่คนนี้ไปนอนกอด ส่วนเพื่อนของเขาจะปล่อยให้สมันสาวหลุดมือไปเขาก็ตามใจ ส่วนเดนนิสคงไม่ต้องบอกเพราะดูพีอาร์สาวจะเต็มใจและยินยอมไปกับเขา
สามหนุ่มหน้าตาดีเดินจับมือกับสามสาวที่มีความสวยแตกต่างกัน พีอาร์สาวที่อยู่มาก่อนแพทตี้และแอมมี่เป็นคนพาหนุ่มๆ และพวกเธอเข้าไปเที่ยวตามไนต์คลับ แต่ทุกที่ที่แพทตี้ไปมักจะมีหนุ่มๆ มองมาอย่างสนใจเสมอ สตีเว่นรู้สึกไม่พอใจนิดๆ ที่คนอื่นมองเธอด้วยสายตาที่แทบจะกลืนกิน เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกหวงหญิงสาวร่างเล็กคนนี้นัก ทั้งๆ ที่เธอดูไม่มีอะไรเหมาะสมกับมหาเศรษฐีหนุ่มอย่างเขาเลยสักนิด
มือหนาของสตีเว่นจับเอวขอดเอาไว้ ก่อนที่จะเต้นซ้อนอยู่ข้างหลังของเธอ แพทตี้รู้สึกวาบหวิวแปลกๆ กับลมหายใจอุ่นร้อนของหนุ่มฝรั่งที่รดต้นคอระหงของเธออยู่ ไหนจะมือหนาทั้งสองข้างที่กอบกุมเอวบางของเธอเอาไว้จนแน่น แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกวาบหวามก็คงจะหนีไม่พ้นอวัยวะกลางกายของชายหนุ่มที่มันเสียดสีกับบั้นท้ายงอนงามของเธอจนก่อให้เกิดความรู้สึกร้อนรุ่ม เฉิ่มแฉะตรงจุดกลางกายสาวอย่างควบคุมไม่ได้
“ไปนอนกับผมได้ไหม...แพทตี้”
เสียงดังกระเส่าที่ข้างหูเล็กมันทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว ความต้องการที่เกิดจากอารมณ์ใคร่บวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้แพทตี้พยักหน้าราวกับต้องมนต์ ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า เขากระซิบบอกเพื่อนสนิททั้งสองว่าขอตัวพาแพทตี้กลับห้องก่อน ซึ่งสองหนุ่มก็พอจะรู้ดีว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่ห้ามแต่กลับอวยพรขอให้เพื่อนรักสุขสมและพวกเขาจะตามกลับไปทีหลัง
มือหนาจับมือบางเอาไว้ก่อนที่จะดึงให้เธอเดินตามเขาออกไป แพทตี้เดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายถึงแม้จะรู้ดีว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหากเขาพาเธอไปถึงโรงแรมที่เขาพัก แต่ดูเหมือนหัวใจดวงน้อยจะไม่รักดี เพราะเขานั้นหล่อและอบอุ่นจนสามารถทำให้เธอนั้นคล้อยตาม ถ้าเขาไม่จ่ายเงินเธอก็คงไม่เสียดายเลยสักนิดที่เสียตัวให้กับเขา ชายหนุ่มที่มีผิวขาว ผมทอง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่มองมาทีไรทำเอาเธอรู้สึกสั่นระทวยทุกที
แต่ก่อนที่เขาจะได้กินเธอ หญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะเพิ่มพลังให้กับตนเองด้วยการไปรับประทานอาหาร เพราะตั้งแต่เข้างานมาข้าวยังไม่ตกถึงท้องของเธอเลยสักเม็ด สตีเว่นไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด เพราะเขาก็รู้สึกหิวอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะอยากกลืนกินร่างบางมากขนาดไหน แต่ถ้าเธอไม่มีเรี่ยวแรงเพื่อสู้กับเขา คืนนี้ก็หมดสนุกเช่นกัน สองหนุ่มสาวเลือกนั่งรับประทานอาหารไทยริมทาง ซึ่งเป็นร้านที่เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติพอสมควร
“คุณมาทานร้านนี้บ่อยเหรอแพทตี้”
เขาเอ่ยถามทันทีที่เห็นเธอสั่งอาหารมาทานโดยที่ไม่ได้มองเมนูเลยเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวชะงักก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองสบดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลแล้วฉีกยิ้มออกมา
“ก็มากับลูกค้าเมื่อหลายเดือนก่อนน่ะค่ะ เห็นว่าเมนูนี้อร่อยดี ราคาก็ไม่แพงมากด้วย” ชายหนุ่มตาพร่าไปกับรอยยิ้มของเธอไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะเอ่ยติดตลกออกมา
“คุณจะสั่งเมนูแพงกว่านี้ก็ได้นะ ผมไม่ได้จนขนาดนั้น”
“คิกๆๆ ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันอยากช่วยคุณประหยัด” เธอบอกเขาด้วยรอยยิ้มจนชายหนุ่มอดที่จะยิ้มตามเธอไม่ได้
สองหนุ่มสาวที่มีอายุห่างกันเพียงสิบปีนั่งรับประทานอาหารด้วยกันเงียบๆ เพราะต่างคนต่างต้องการที่จะเพิ่มพลังงานให้กับตนเอง แพทตี้ชวนเขาแวะเซเว่นเพื่อซื้อโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่เธอมักจะกินและดื่มเป็นประจำทุกเช้า เขาไม่ขัดอะไรเดินตามเธอราวกับว่าสองหนุ่มสาวเป็นคู่รักกัน สตีเว่นจูงมือแพทตี้ให้เดินไปที่ล๊อบบี้ก่อนที่เธอจะเอาบัตรประชาชนให้กับพนักงานต้อนรับก่อนที่จะขึ้นไปบนห้องกับเขา เพราะถือเป็นการป้องกันเวลาที่ของลูกค้าหายก็จะสามารถติดตามคืนมาได้ง่าย ผู้หญิงกลางคืนที่นิสัยไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์และขี้ขโมยก็มีอยู่มากมายเพราะไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่รู้จักพอ