Sunflower 10

969 คำ
Sunflower 10 “หาห้องได้หรือยัง?” ฉันถามน้องชายทั้งสองคนหลังจากที่นั่งดูทีวีได้สักพัก “พี่เมษบอกว่าได้แล้วครับ” “ได้แล้วเหรอเมษ” ได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเมษาที่นั่งอยู่ที่มุมด้านหนึ่งและเล่นโทรศัพท์ไปด้วยทันที “ใช่ ได้แล้ว แต่ห้องข้างล่าง มะรืนจะเข้ามาเซ็นสัญญา” “แล้วนี่จะเอารถด้วยไหม?” ได้รับคำตอบจากเมษาก็ถามน้องชายทั้งสองคนของตัวเองต่อด้วยความใส่ใจ เพราะจากที่นี่ไปมหาลัยก็หลายกิโลอยู่ “คุยกันอยู่ครับ” มีนาตอบฉันกลับมา “จะให้คนละคันเพราะเรียนคนละสาขามันเข้าเรียนไม่ตรงกันจะได้ไม่ยุ่งยาก” เมษาบอกกับฉันแต่สายตาและมือยังจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ “อือ แบบนั้นก็สะดวกดีนะ” พยักหน้าเห็นด้วยกับเมษา “แต่เด็ก ๆ ไม่ยอมบอกว่าเกรงใจ” อ๋อ สองแฝดเกรงใจนี่เอง “ถ้ามีมันก็สะดวกนะ เลือกสักคันสิ” “แต่ว่า...” สองแฝดมีท่าทีลังเล “เลือกเถอะ พี่ซื้อให้ของขวัญที่สอบเข้ามหาลัยได้” “ไม่เอามันแพงนะ” กุมภาส่ายหน้าปฏิเสธ “ถ้าอย่างนั้นก็เลือกจะให้พี่จ่ายค่าคอนโดให้หรือให้พี่ซื้อรถให้ เลือกมา” ฉันยื่นคำขาดทันที “ก็ได้ให้พี่ลีซื้อรถให้ครับ” กุมภาขยับเข้ามากอดแขนอ้อน มีนาเองก็ขยับเข้ามากอดแขนฉันอีกข้างไว้อย่างออดอ้อนเช่นเดียวกัน “โห ดูมัน คอนโดห้องละเท่าไหร่มันให้พี่จ่ายเนี่ย” เมษามองสองแฝดทั้งยังส่ายหน้ากับความชอบแกล้งของน้องทั้งสองคน “พี่รวยอะ จ่ายคอนโดดีแล้วครับ ให้คนสวยจ่ายค่ารถ” “หึ เลือกมาแล้วกัน” ฉันบอกน้องทั้งสองคน ตอนนี้ฉันมีกำลังมากพอที่จะซื้อให้น้อง เหมือนในตอนนั้นที่พ่อกับแม่ช่วยสนับสนุนฉันและเมษา ในตอนนี้เราทั้งสองคนมีกำลังมากพอที่จะสนับสนุนน้องทั้งสองคนแทนพ่อแม่แล้วเช่นเดียวกัน “อยากได้อันนี้ได้ไหมครับ” มีนายื่นโทรศัพท์ตัวเองมาให้ฉันดู เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ห้าประตูสีขาว “ผมอยากได้อันนี้ครับ” กุมภาเองก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองออกมาให้ดู เหมือนสองแฝดจะดูรถที่อยากได้ไว้แล้วถึงได้เอามาให้ฉันดูได้รวดเร็วแบบนี้ “อ้าว รุ่นเดียวกันนี่” ถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจยามได้เห็นว่าสองแฝดนั้นอยากได้รถแบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่สีเมื่อมีนาอยากได้สีขาว ส่วนกุมภาอยากได้สีดำ “วันหยุดหน้าของพี่ไปดูรถด้วยกันนะ” “ขอบคุณครับ” “ขอบคุณครับพี่” สองแฝดขยับเข้ามาสวมกอดฉันไว้หลวม ๆ อย่างขอบคุณ เด็กน้อยของฉันไม่ว่าจะอายุเพิ่มขึ้นทุกปีเท่าไหร่แต่ยังไงในสายตาของฉันสองแฝดก็ยังคงเป็นเด็กน้อยอยู่ดีนั่นแหละ หกโมงเย็นเราช่วยกันเตรียมของทำหม้อไฟ รอคุณหมอข้างห้องมากินข้าวด้วย เมื่อของบนโต๊ะพร้อมคุณหมอก็มาถึงห้องพอดีพร้อมกับผลไม้ที่ซื้อติดมือมา คนตัวสูงเดินมาหยุดยืนข้างที่ฉันอ่างล้างมือก่อนจะส่งถุงผลไม้ที่ซื้อมาตรงหน้า “ขอบคุณค่ะ” “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” คุณหมอเอ่ยถาม ทั้งยังมองฉันอย่างพิจารณา “ดีขึ้นแล้วค่ะ” ฉันตอบพร้อมกับยกถุงผลไม้วางไว้บนชั้นวาง คุณหมอล้างมือเสร็จก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้บริเวณโซนกินข้าว มีนาเดินมารินน้ำก่อนจะยกไปวางไว้ให้ทุกคน ระหว่างที่กินมื้อเย็นมีเพียงเมษาที่ชวนคุณหมอพูดคุย ต่างจากฉันที่กินหม้อไฟและคุยกับน้องชายบ้างแต่หลัก ๆ ก็ไม่ได้คุยกับใคร หากเป็นก่อนหน้านี้ที่ฉันจะรู้ว่าเขาคือพี่ชายที่อยู่บ้านตรงข้ามฉันคงจะชวนเขาคุยและขอบคุณเขาอีกสักครั้ง “แล้วพี่ไปทำงานอีกตอนไหนนะครับ” เมษาถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “พรุ่งนี้เลยล่ะ ทำไมเหรอ?” “เปล่าครับ ผมสงสัยน่ะทำงานไม่เป็นเวลาเหรอครับ” “ก็ไม่ใช่หรอก ที่โรงพยาบาลจะแบ่งเป็นกะแล้วแต่ว่าเราจะได้กะไหน ที่หลัก ๆ จะเป็นกะตอนเช้าก็แปดจนถึงสี่โมงเย็นเลยน่ะ” คุณหมออธิบายให้ฟังอย่างใจเย็น “อ๋อ แล้วพี่สบายดีนะครับ ไม่ค่อยได้เจอที่บ้านเลย” “สบายดี ช่วงนี้พี่ก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนกัน” คุณหมอตอบมือก็คีบหมูที่สุกแล้วมาใส่จานให้ฉัน “ขอบคุณค่ะ” และฉันคนนี้ก็ได้แต่ขอบคุณอีกฝ่ายกลับไปเบา ๆ “แล้วนี่จะกลับวันนี้เลยเหรอ?” “ครับ กินข้าวเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะให้ลีได้นอนพัก” ยังคงเป็นเมษาที่รับบทตอบคำถามของคุณหมอ จวบจนกินข้าวเสร็จเมษาออกไปส่งคุณหมอที่หน้าห้อง ส่วนฉันและสองแฝดเก็บโต๊ะล้างจานทำความสะอาด “มึง มึงรู้ไหมพี่หมอชื่ออะไรนะ” มีนาที่ล้างจานเพิ่งเสร็จหันมาถามกุมภาที่หยิบจานไปเช็ดจนแห้ง “ไม่รู้ เรียกแต่พี่หมอ” แฝดคนพี่ตอบอย่างไม่คิดอะไร “พี่ลีรู้ไหม?” เมื่อไม่ได้คำตอบมีนาก็หันกลับมาถามฉันทันที “นั่นสิ คุณหมอชื่ออะไรกันพี่เองก็จำไม่ได้...” ทำไมความทรงจำบางช่วงของฉันที่มีต่อคุณหมอมันถึงได้ว่างเปล่ามากขนาดนี้กันนะ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม