มิตรภาพ

1065 คำ
ร่างบางเมื่อร้องไห้จนพอใจ ก็ผละออกจากอ้อมแขนแกร่งทันที “ขอบคุณ คุณภูผาที่ทนยืนให้ระตีได้ยึดเป็นหลักพิง” มองแผงอกกว้างที่ตอนนี้เปียกชุ่มด้วยน้ำตาของตนเอง “เปียกหมดเลย” พยายามยิ้มให้อีกคน เก็บความรู้สึกอุ่นใจ อย่างที่ไม่เคยได้รับที่ไหนมาก่อนไว้ในอกที่คับพอง           “ไม่เป็นไร ก็คุณระตีเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนแล้วนิ ผมก็ไม่ต้องกลัวว่าชุดนี้จะเปียกหรือไม่” เอ่ยอย่างเป็นกันเอง            แต่คนที่ได้ยินถึงกับร้องค้าน “อย่าเรียกคุณ กับระตีเลย” ก้มหน้างุด ไม่อยากทัดเทียมกับคนของผู้มีพระคุณ “เรียกระตี ว่าระตีอย่างเดียวก็พอ” เสียงแผ่วลง            แม้หล่อนจะได้สิทธิ์ ได้ใช้นามสกุลของข้าราชการผู้มีชื่อเสียงและกำลังลงเล่นการเมือง และที่สำคัญชายผู้นั้นเป็นเจ้าของพื้นที่ ที่หล่อนกับแม่พักอาศัยอยู่ แต่หล่อนก็ไม่เคยทำตัวหยิ่งลำพองให้คนรอบกายได้รู้และเห็นในความผิดแปลกไปในการได้ใช้นามสกุลนั้น ระตี วุฒิพงศ์นาท มีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายคนเคยถาม ความเป็นมาของนามสกุลที่สะดุดหูทุกครั้ง แต่หล่อนก็จะตอบไปตามความเป็นจริงที่แม่เคยบอกไว้           ‘หากใครถามก็บอกไปว่าเป็นนามสกุลของพ่อ และไม่รู้มาก่อนว่า นามสกุลที่ใช้อยู่จะเป็นนามสกุลเดียวกับคนที่กำลังลงเล่นการเมืองและ เป็นข้าราชระดับผู้ใหญ่ และไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อจะเป็นญาติกันหรือเปล่า เพราะแม่ไม่ทันได้ถาม คุณพ่อก็เสียไปก่อนหน้านั้นแล้ว’           คำตอบที่หล่อนให้มาทำให้คนที่เคยอยากรู้ก็ไม่เคยเซ้าซี้ถามต่อ และเป็นคำตอบที่หล่อนเอ่ยบอกไปแล้วรู้สึกสบายใจที่สุด แม้จะไม่แน่ใจ ว่าความจริงมันเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะตลอดเวลาที่หล่อนไปอยู่มหาวิทยาลัย และพักอยู่ในตัวเมือง คนใกล้เคียงที่รู้จัก เคยเห็นว่าคุณวิรุจขึ้นมาหาแม่เธอประจำ แม้จะนานๆ ครั้ง แต่มันก็ได้ยินเข้าหูเกือบทุกครั้งที่หล่อนกลับมาหาแม่และก่อนวันที่แม่จะเสียชีวิต เขาก็เป็นคนโทรบอกให้หล่อนกลับมาจากมหาวิทยาลัย และก็ทันมาเห็นภาพเขายืนเฝ้าหน้าเตียงของแม่ กุมมือเรียวของแม่หล่อนไว้ ด้วยแววตาอาดูร แล้วอย่างนี้จะให้หล่อนเข้าใจว่าอย่างไร...           แต่สุดท้ายความจริงที่หล่อนอยากรู้ ก็ได้ถามผู้เป็นแม่ของเธอ เมื่อเธอตัดสินใจถามแม่อีกครั้ง กลับได้รับน้ำตาเป็นคำตอบ พร้อมกับลมหายใจสุดท้าย ที่ทิ้งไปพร้อมปริศนา ที่ยังค้างคาอยู่ในใจเธอ จนถึงวันนี้             ภาพชายหนุ่มและหญิงสาวที่กำลังปลอบโยนกัน ทำให้คุณหนูตัวร้ายถึงกับชะงัก แผนที่คิดจะหนีเป็นอันต้องหยุดชั่วคราว แอบมองทางหน้าต่างเอียงหูฟังอีกนิดว่าสองคนนั้นคุยอะไรกันแน่           หากสองคนนี้เพิ่งรู้จักกัน และสนิทกันรวดเร็วอย่างนี้... แปลว่าผู้ชายหน้าเหี้ยมทำตัวให้ผู้หญิงคนนั้นไว้เนื้อเชื่อใจได้ แปลว่าเก่งไม่เบาแฮะ... ซอนด้าคิดแล้วยิ้มเหมือนมีแผนอะไรดีๆ อยู่ในใจ           ร่างบางถอยหลบเพื่อไม่ให้สองคนด้านนอกเห็น แต่จังหวะที่ก้าวออกมาไม่ได้ดูข้างหลังว่ามีโต๊ะวางอยู่จึงชนเข้าอย่างจัง           เพล้ง! แจกันใบไม่ใหญ่นัก หล่นพร้อมกับกรอบสี่เหลี่ยม ที่หล่อนไม่ได้ดูว่าเป็นกรอบอะไรสักอย่างก่อนหน้านี้ หล่นแตกกระจัดกระจายเต็มพื้น สาวสวยลูกครึ่งปิดปากที่กำลังอ้าค้าง ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา เพราะความตกใจปนหวาดกลัว ทำให้เสียงที่เคยเจื้อยแจ้ววิ่งหายลงท้องไม่เหลือให้ดังออกมา           พลั่ก! ประตูห้องถูกเปิดออก พร้อมใบหน้าตื่นตกใจของหนุ่มสาวที่อยู่ข้างนอกก่อนหน้านี้โผล่เข้ามา           “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณซอนด้า!?” ใบหน้าหวานของคนที่เข้ามาใหม่ ขาวซีดแสดงถึงความตกใจอย่างเห็นได้ชัด           “เอ้อ...คือ...” สาวสวยอึกอัก ก้มมองผลงานของตัวเองที่พื้น ใบหน้าซีดเซียวไม่ต่างกับหญิงสาวอีกคน           “ไม่เป็นไรค่ะ เดินออกมาให้ห่าง เดี๋ยวระตีจะเก็บกวาดให้ค่ะ” เอ่ยจบหล่อนก็เดินแยกหายออกไป           สวยแต่ซุ่มซ่าม... ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้า ส่งสายตาตำหนิสาวสวยที่ก่อแต่เรื่องทันที           ซอนด้าที่ยืนหน้าเสียถึงกับควันออกหู ส่งสายตาอาฆาตให้กลับมา เมื่อเห็นใบหน้าชายหนุ่มเหมือนจะต่อว่าเธอทางสายตา           ศึกทางสายตาสงบลง เมื่อหญิงสาวอีกคนโผล่มาพร้อมไม้กวาด และที่โกยขยะ สาวลูกครึ่งขยับหลีกให้อีกคนได้ทำความสะอาดอย่างสะดวก โดยมีหล่อนยืนมองอยู่ห่างๆ           เศษแจกันถูกเก็บใส่ที่โกยขยะเรียบร้อย เหลือแต่กรอบสี่เหลี่ยมคว่ำหน้าอยู่ สาวสวยหน้าหวานค่อยๆหยิบจับ เหมือนกลัวว่าของสิ่งนั้นจะแตกเสียหายมากไปอีก           อาการที่ดูหวงแหนกรอบสี่เหลี่ยมทำเอาสาวลูกครึ่งสำนึกผิด เอ่ยบอกไปว่า “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันได้กลับบ้านเมื่อไหร่ จะซื้อใช้ให้นะ”           ใบหน้าหวานถลึงตามองทันที ทำเอาสาวสวยลูกครึ่งถอยหลังอย่างตกใจ สีหน้าเหยเกอยากจะร้องไห้ไม่ปาน เมื่อคิดว่าอีกคนไม่ให้อภัยเธอแน่แล้ว ในมือถือกรอบรูปที่คว่ำหน้าอยู่เดินตรงมาหาหล่อน สีหน้าไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เธอพูดไป            ชายหนุ่มก็รู้สึกไม่ต่างกับสาวลูกครึ่ง รีบขยับตัวเข้ามากั้นระหว่างกลางหญิงสาวสองคน “เอ่อ... คือ ผมขอโทษแทนคุณหนูด้วยนะครับ ยังไงผมจะซื้อชดใช้ให้นะครับ” ชายหนุ่มออกตัวขอโทษแทนคนทำทันที และยืนยันจะชดใช้ให้แทนอีกคน ทั้งสามรวมใจกันเงียบนิ่ง ต่างคนต่างอยู่ในความคิดของตัวเอง           แฮะ นี่เราออกรับแทนยัยคุณหนูตัวร้ายได้ไง... ภูผาคิด           นายหน้าเหี้ยมออกตัวแทนเราด้วยหรือ... ซอนด้าคิด มองไปยังชายหนุ่ม           เฮ้ย! ยัยคุณหนูหน้าตาลูกครึ่ง พูดไทยได้ชัดเจน เหมือนเป็นคนไทยเลย... ระตีคิด อึ้งทึ่งมองผ่านไปยังคนที่ยืนอยู่อีกด้านของชายหนุ่ม                 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม