เพื่อน ๆ
>>>>>@@@@@@@@@<<<<<
“เราว่าลุงวินทร์ต้องชอบอ้นแน่ ๆ เลย”เมื่อขับรถมากันสองคนภูมิบดินทร์
“เอาอะไรมาชอบก่อน มั่วตลอดเลยนะภูมิ”อ้นพูดอย่างไม่ใสใจ
“ลุงวินทร์ไม่เคยดูแลใครแบบนี้เลยนะ ”ภูมิบดินทร์พูดบอกอ้นด้วยความมั่นใจ
“มันจำเป็นไหมก็อ้นเล่นไปเป็นลมในห้องทำงานเขาขนาดนั้น สงสัยกลัวเราตายในห้องแหละ คิดอะไรมาก” อ้นพูดออกไปด้วยท่าทางเหมือนเดิม พยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด
เมื่อนึกถึงหน้าของพ่อเลี้ยงภาวินทร์ตอนที่ได้อยู่ใกล้ ๆ แล้วทำให้อ้นหน้าแดงขึ้นมาในทันที
“เชื่อเราซิเราเป็นหลานลุงวินทร์นะ เรารู้สึกได้ว่ามันพิเศษ ไม่เชื่อคอยดู”ภูมิบดินทร์พูดเสียงหนักแน่นกว่าเดิมเพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเองบอก
“คุณภาวินทร์ไม่มีครอบครัวเหรอ”เมื่อภูมิบดินทร์เปิดมาขนาดนี้แล้ว อ้นก็รีบถามออกไปเพื่อคลายความสงสัย
“เคยมีแต่คนรักของลุงวินทร์เกิดอุบัติเหตุเสียตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว โดยลุงวินทร์เป็นคนขับ ลุงเราเสียใจมากที่ทำให้คนรักตาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาลุงก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุย ไม่มีรอยยิ้มอีกเลย”ภูมิบดินทร์พูดเสียงเบาลงเมื่อนึกถึงหน้าคุณลุงของตัวเอง
“อ้นเป็นอะไร ยังไม่ดีขึ้นเหรอ ไปหาหมอไหม”อ้นเอามือกุมที่ของตัวเองที่ได้ฟังเรื่องราวของพ่อเลี้ยงจากภูมิบดินทร์ เขาแอบยิ้มในใจทำไมก็ไม่รู้ที่รู้ว่าพ่อเลี้ยงยังไม่มีครอบครัว
‘นี่เรายิ้มอย่างงั้นเหรอ’
“ไม่เป็นไร เราแค่รู้สึกสงสารคุณภาวินทร์ก็แค่นั้นเอง กินยาก็ดีขึ้นแล้ว”อ้นบอกกับเพื่อนเพราะไม่อยากให้ภูมิบดินทร์เป็นห่วงเดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกกันพอดี
“คุณลุงน่าสงสารมาก พ่อเล่าให้ฟังว่าลุงวินทร์ไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย ไม่ว่าคนรอบข้างจะพยายามแค่ไหนก็ไม่เป็นผล จนลุงวินทร์ได้มาเจออ้น”ภูมิบดินทร์ยังคงยืนยันในความคิดของตัวเอง
“เจออ้นอะไรกันเล่า มั่วแล้วภูมิ”อ้นพูดออกไปส่ง ๆ และแอบหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“อ้นต้องช่วยดูแลลุงวินทร์แทนเรา ตอนที่เราไม่อยู่ด้วยนะ เราพูดจริง ๆ นะอ้น”ภูมิบดินทร์ยังคงพูดไม่หยุด
“ไม่ต้องมาชงเลยนะ นี่ก็พูดเอง คิดเองเก่งเกินไปแล้ว”อ้นพูดอย่างไม่ใส่ใจคำพูดของเพื่อน
“เชื่อเราเถอะน่า เราหลานรักลุงวินทร์นะ ทำไมเราจะไม่รู้ว่าลุงเราเปลี่ยนไปตอนที่เจออ้นล่ะ คิคิ”ภูมิบดินทร์พูดบอกอ้นอย่างอารมณ์ดีและขับรถต่อ
อ้นได้แต่ส่ายหน้าและยิ้มให้เพื่อน แต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร ตอนนี้เขาคิดถึงแค่พ่อเลี้ยง และทุกครั้งที่นึกถึงเขาจะหน้าแดงและใจเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡
ร้าน Frend & Frend Cafe’ Of Love
“คุณแม่ สวัสดีครับน้องภูมิคิดถึงคุณแม่ที่สุดเลย”ภูมิบดินทร์ เมื่อรถจอดที่หน้าร้านภูมิบดินทร์ก็รีบวิ่งเข้ามากอดคุณแม่ระวิภาด้วยความคิดถึงจริง ๆ เพราะตอนเรียนเขาก็แวะมาที่บ้านของอ้นบ่อย ๆ เขาสองคนรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้วส่วนอ้นกับน้ำอิงรู้จักกันมาตั้งแต่เรียนอนุบาลเลยเพราะเรียนด้วยกันมาตลอด
“แม่ก็คิดถึงภูมิ มาคราวนี้อยู่กี่วันล่ะลูก”คุณแม่ระวิภาถามเด็กหนุ่มตรงหน้า
“อาทิตย์หน้าก็กลับแล้วครับ รีบไปเก็บหน่วยกิตจะได้จบเร็ว ๆ ”
“ดีแล้วหละลูกอยู่ไกลบ้านไกลเมือง แม่ก็เป็นห่วง”
“น้องภูมิจะมานอนบ้านคุณแม่ 2 คืนนะครับ คุณแม่ครับอ้นได้ไปทำงานที่ไร่น้องภูมิแล้วนะ ไปพร้อมกันวันอาทิตย์ครับ เริ่มงานวันจันทร์นี้”ภูมิบดินทร์บอกรายละเอียดกับคุณแม่ระวิภาอย่างดีใจที่อ้นได้ไปอยู่ที่ไร่รัฐดาวงศ์
“จริงเหรออ้น แม่ดีใจด้วยนะ อ้นโอเคใช่ไหม”คุณระวิภาถามลูกชายที่ยืนข้าง ๆ
“แกไหวนะอ้น ถึงจะเผื่อใจไว้แล้วแต่ก็เป็นห่วงแกอยู่ดี”น้ำอิงพูดถามเพื่อนรักอีกครั้ง เพราะเวลามีเรื่องในใจห่วงว่าอ้นจะไม่มีคนคอยคุยด้วย
“ภูมิคุยกับแม่ไปก่อนนะ เดี๋ยวเราไปเคลียร์บัญชีกับน้ำอิงข้างในแปบนึงค่อยไปหาอะไรทานกัน”อ้นหันมาบอกภูมิบดินทร์ที่นั่งคุยกับแม่ของตัวเองอย่างออกรส และเดินตามน้ำอิงเข้าไปข้างในร้าน ภูมิบดินทร์ก็กลายเป็นเด็กเสิร์ฟจำเป็นของร้านเพราะช่วงนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ
“มีอะไรจะเล่าใช่ไหม”เมื่อเข้ามาข้างในน้ำอิงก็ถามอ้นอย่างรู้ทัน
“ดูออกขนาดนั้นเลย??? ”
“แค่ดูหน้าก็รู้แล้ว อีกเรื่องเผื่อไม่รู้ อ้นโกหกไม่เนียนด้วย หึหึ”
“ลุงของภูมิคือคนที่เรามั่นใจว่าเป็นวินทร์ เขาคือคนคนเดียวกันที่เราเจอที่ท่าน้ำของวัดและชื่อวินทร์เหมือนกัน อิงว่าบังเอิญไหมล่ะ”อ้นกุมมืออิงและบอกเพื่อนออกไปด้วยความตื่นเต้น
“จริงดิ แบบนี้ก็ดีซิ บางทีอะไร ๆ อาจจะชัดเจนขึ้นก็ได้นะ หรือว่ามันอาจจะถึงเวลาตามที่พระท่านบอกไว้”น้ำอิงนึกถึงคำที่หลวงตาเคยบอกไว้ว่า ถ้าถึงเวลาที่สมควร ทุกอย่างจะคลี่คลายเอง
“ไม่รู้ แต่เราว่ามันบังเอิญมากเลยนะ เราไม่รู้เลยว่าเราจะเจอเขาได้ที่ไหน แต่ดันมาเป็นคนใกล้ตัวแบบนี้”อ้นก็เห็นด้วยกับความคิดของน้ำอิง
“แล้วอ้นโอเคใช่ไหม ที่จะไปอยู่ใกล้คุณลุงของภูมิแบบนั้น”
“ไม่รู้ซิ แต่เราก็อยากรู้ว่าเขากับวินทร์ที่เราฝันถึงคือคนเดียวกันไหมและบัวตองอีกคนที่เรายังไม่เจอ เธออาจจะอยู่ที่ไร่นั้นก็ได้ ซี๊ดดด”อ้นเอามือกุมที่หน้าอกของตัวเองอีกครั้ง ที่มันเจ็บจี๊ดแบบไม่ทราบสาเหตุ
“ไหวไหมแก อิงว่าไปหาหมอเถอะ”น้ำอิงถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ตอนอยู่ที่ไร่ภูมิ อ้นก็ปวดหัวกับเจ็บที่หัวใจแปลก ๆจนเป็นลมเลยนะ แต่พอตื่นขึ้นมาก็หายเฉยเลย อ้นยังไม่ได้กินยาเลยด้วยซ้ำ แปลกดี”
“เออ แปลกแต่จริงวะ”เพราะน้ำอิงรู้ว่าเพื่อนของเธอปวดหัวต้องกินพาราอย่างน้อยก็ 1 เม็ดถึงจะหาย
“และที่ไร่นั้นเรารู้สึกคุ้นมากเลยนะอิง แต่คิดไม่ออกว่าคุ้นได้ยังไง”
“อาจจะเป็นภาพใน ไอจี ภูมิรึเปล่า”นำอิงช่วยคลายข้อสงสัยของอ้น
“ก็อาจจะเป็นได้”อ้นพยักหน้าเห็นด้วยกับน้ำอิง
“เราขอโทษที่ไม่ได้อยู่ช่วยงานอิงนะ”
“คิดมาก เราจ้างคนเพิ่มก็ได้ คุณแม่ก็มาช่วยเราอยู่แล้ว ไปหาคำตอบของอ้นเถอะ เราเอาใจช่วย เดี๋ยวภูมิก็กลับมาแล้วนี่”น้ำอิงพูดอย่างเข้าใจ
“ขอบใจอิงมากเลยนะ ออกไปข้างนอกดีกว่า หิวข้าวแล้ว”
¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡
ร้านอาหาร
“เย็นนี้น้องภูมิฝากท้องที่บ้านคุณแม่นะครับ ไม่ได้ทานกับข้าวฝีมือคุณแม่นานแล้ว”ภูมิบดินทร์ออดอ้อนคุณระวิภาอย่างที่เคยทำ
“ปากหวาน ให้คนแก่ดีใจเล่นใช่ไหมน้องภูมิ”คุณแม่ระวาแกล้งแซวภูมิบดินทร์
“เปล่าซักหน่อย น้องภูมิพูดจริง ๆ นะครับ”ภูมิบดินทน์พูดย้ำอีกครั้งอย่างเอาใจคุณแม่ระวิภา
“อีกไม่ถึงปีภูมิก็จบแล้วนี่”น้ำอิงถามภูมิบดินทร์
“ใช่เราลงเรียนเต็มทุกเทอมและลงซัมเมอร์ด้วยอยากจบเร็ว ๆ จะได้รีบกลับมาช่วยงานที่ไร่”ภูมิบดินทร์ตอบ
“ดีจัง เราสามคนก็จะกลับมาคบแก้งค์เหมือนเดิมแล้ว”น้ำอิงนึกถึงสมัยเรียนปริญญาตรีที่พวกเขาไม่เคยห่างกันเลย ยกเว้นตอนเลิกเรียนกลับบ้าน
เย็นวันเสาร์สามเพื่อนรักก็ช่วยกันเก็บประเป๋าช่วยอ้นหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว
“มีปัญหาอะไรโทรหาเราได้ตลอดนะอ้น”น้ำอิงพูดพร้อมกับช่วยพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
“เชื่อเรา ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน คนที่นั่นจะดูแลอ้นเป็นอย่างดีเพราะอ้นคือคนสำคัญของไร่รัฐดาวงศ์”ภูมิบดินทร์ บอกกับน้ำอิงด้วยสายตาที่แพราวพราว
“สำคัญอะไรกันภูมิ”อ้นมีท่าทางประหม่าและอายจนผิดสังเกต
“ก็อ้นเป็นเพื่อนของหลานเจ้าของไร่ไง ใครจะกล้าทำอะไรจริงม๊ะ”ภูมิบดินทร์แกล้งเอาไหล่กระแทกอ้นอย่างรู้กัน
“ไม่ต้องเลยภูมิไปอาบน้ำได้แล้ว ต้องไปส่งน้ำอิงอีกนะ”
“เปลี่ยนเรื่องเก่ง”ภูมิบดินทร์ พูดแค่นั้นก็รีบเดินไปอาบน้ำ
“มีเรื่องอะไรที่เราต้องรู้อีกไหมอ้น”อ้นเลยเล่าให้น้ำอิงฟังว่าภูมิบดินทร์คิดยังไงกับเรื่องของอ้นและพ่อเลี้ยงภาวินทร์
“ก็ไม่แน่นะ อาจจะเป็นอย่างที่ภูมิบอกก็ได้ใครจะรู้ อาจะเป็นบุพเพสันนิวาสก็เป็นได้ เน้อ ๆ ”
“ไม่ต้องมาเน้อ เลยนะ ”อ้นพูดแก้เขินและหันลุกไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาอีก
“เนี๊ยะมันต้องมีอะไรแน่ ๆ เขินเก่งไปนะเราอ่ะ”น้ำอิงผู้มองอ้นทะลุไปถึงขดลำไส้เล็ก ก็พอจะมองออกว่าอะไรเป็นอะไร
“เอาไปด้วยเหรอ”น้ำอิงเห็นอ้อนหยิบภาพวาดของวินทร์ออกจากลิ้นชักและเอาไปด้วย
“อืม เหมือนต้องเอาไปด้วยนะ”อ้นก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเอาภาพวาดของวินทร์ไปด้วยทำไม
หลังจากที่ไปส่งน้ำอิงกลับบ้านและภูมิบดินทร์หลับไปแล้ว อ้นก็ลงมาคุยกับคุณแม่ระวิภาเกี่ยวกับคุณลุงของภูมิบดินทร์ ว่าเป็นคนคนเดียวกันกับที่เขาเจอที่วัดเมื่อหลายวันก่อน คุณแม่ระวิภาก็บอกเหมือนกับน้ำอิงว่า พ่อเลี้ยงภาวินทร์อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อ้นหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องฝันรายของอ้น ๆ ได้
“ขอให้พ่อเลี้ยงเป็นคนนั้นจริง ๆ นะครับ”อ้นพูดกับคุณแม่ด้วยเสียงที่ดูแล้วมีความหวังแฝงอยู่ในนั้น อ้นไม่อยากฝันร้ายอีกแล้ว
“เมื่อถึงเวลาทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น อ้นเป็นคนที่รู้จักกับเขาทั้งสองคนแม้จะเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่อ้นก็รู้ดีที่สุด แม่เชื่อว่าอ้นจะหาคำตอบได้ด้วยตัวเองในเร็ววัน”คุณแม่ระวิภาพูดให้กำลังใจลูกชาย
“ครับคุณแม่ ขอบคุณที่เข้าใจผมมาตลอดนะครับ”อ้นเข้าไปกอดคุณแม่ไว้แน่น
“ไปพักได้แล้วลูก พรุ่งนี้ก็กลับไร่แล้วนี่”คุณแม่ระวิภาบอกลูกชาย
¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡
เช้าวันอาทิตย์
“ไหนว่าจะกลับสาย ๆ ไงลูก”เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จทั้งแล้วเด็ก ๆ ทั้งสองคนก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะเอากระเป๋าขึ้นรถ คุณแม่ระวิภาเลยถามทั้งสองคน
“ลุงวินทร์มาธุระในเมืองครับ บอกให้รอกลับพร้อมกันครับ”ภูมิบดินทร์เป็นคนตอบคุณระวิภา
“งั้นไปรอที่ร้านไหม หรือว่าจะรอที่บ้าน”
“รอที่ร้านครับคุณแม่ อยากอยู่กับคุณแม่นาน ๆ ”ภูมิบดินทร์ลุกขึ้นไปกอดคุณแม่ระวิภาอย่างเอาใจคนแก่
“อ้อนเก่งขึ้นนะเรา งั้นออกไปพร้อมกันเลยนะ ตอนเย็นแม่กลับกับคุณพ่อ”
¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡
ร้าน Frend & Frend Cafe’ Of Love
“ลุงวินทร์มาแล้วครับ”อ้นมองตามภูมิบดินทร์ ไปที่ประตูของร้าน เขาต้องใจสั่นอีกครั้งเมื่อเจอผู้ชายมาดนิ่ง ๆ เดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางสุขุม ทั้งสองสบตากันอย่างตั้งใจเพราะพ่อเลี้ยงเดินมาในระยะสายตาของอ้นพอดี
“สวัสดีครับคุณภาวินทร์”อ้นทักทายคนอาวุโสกว่าอย่างมีมารยาท
“คุณลุงวินทร์ครับ นี่คุณแม่ระวิภาคุณแม่ของอ้น และนี่น้ำอิงเพื่อนน้องภูมิกับอ้นครับ”ภูมิบดินทร์แนะนำคนทั้งสามให้รู้จักกัน
“คุณนั่นเอง อิงจำคุณได้ ที่มาที่ร้านเมื่อหลายวันก่อน”อิงทักผู้ชายตรงหน้า เพราะพ่อเลี้ยงใครเห็นก็ต้องสะดุดตาเป็นธรรมดา
“ครับ ผมเคยมาที่นี่”พ่อเลี้ยงภาวินทร์ไม่ปฏิเสธ
“คนนี้เหรอลุงของภูมิ หล่ออ่ะแก คนนี้สินะที่ทำให้หัวใจเพื่อนฉันเต้นแรงแบบนี้”น้ำอิงกระซิบที่ข้างหูและเอามือจับที่หน้าอกของอ้นอย่างล้อเลียนเพื่อน เพราะอาการของอ้นมันออกจนเพื่อนสนิทอย่างเธอจับสังเกตได้
“เต้นแรงอะไรล่ะ ก็บอกว่าเขาเหมือนคนที่เราฝันถึงไง” อ้นตอบแต่ไม่กล้าสบตาเพื่อน
“ฝากลูกชายด้วยนะคะพ่อเลี้ยง ตั้งแต่เรียบจบมา ยังไม่เคยทำงานที่ไหนเลย มีอะไรค่อยบอกค่อยสอนเอานะคะ”คุณแม่ระวิภาบอกกับพ่อเลี้ยงภาวินทร์ ดู ๆ แล้วพ่อเลี้ยงก็ท่าทางใจดีถึงจะพูดน้อยไปหน่อย
“ครับ”พ่อเลี้ยงภาวินทร์ตอบออกไปด้วยท่าทีปกติ
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ น้องภูมิจะให้คุณลุงดูแลอ้นเป็นพิเศษเลยครับ เพราะอ้นเป็นเพื่อนรักน้องภูมิ”
“ใช่ไหมครับลุงวินทร์”ภูมิบดินทร์กอดพ่อเลี้ยงภาวินทร์อย่างอ้อน ๆ โดยใช้สายตาแทนคำพูดของเขาเองอีกด้วย
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”พ่อเลี้ยงพูดกับคุณแม่ระวิภาอย่างสุภาพ
“อ้นไปก่อนนะครับแม่”อ้นเข้าไปกอดคุณแม่นี่เป็นครั้งแรกที่เขากับแม่ต้องห่างกันแบบนี้ ที่ตกลงกันตอนแรกคือคุณแม่ระวิภาอยากให้อ้นออกจากสภาพแวดล้อมเดิม ๆ เผื่อจะทำให้ฝันร้ายของอ้นลดลง เมื่อไปอยู่ในที่อากาศและบรรยากาศดี ๆ
แต่ตอนนี้อยากให้ลูกชายไปหาคำตอบที่มันค้างคาในใจของอ้นมาตลอดเวลา ถึงจะห่วงมากแค่ไหนก็ต้องยอมรับในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อให้ลูกชายได้โตขึ้นอีกและสามารถดูแลตัวเองได้
❣@@@@@@@@@@❣
ฝากเอ็นดูพ่อเลี้ยงกับน้องอ้นด้วยนะคะ
มารับน้องด้วยตัวเองเลยน๊า??