แบล็คเมล

1316 คำ
อีกด้านหนึ่งของผนังห้อง... สองหนุ่มยืนตัวงอเป็นกุ้ง เป้ากางเกงตุงจนซิปเกือบแตก ทั้งคู่หอบหายใจแฮ่กๆ แววตาหวานเยิ้มเหมือนถูกเคลือบด้วยน้ำผึ้ง   “แม่งต้องโด๊ปยาปลุกเซ็กซ์มาแน่ๆ ล่อกานซะน้ำแตกเหมือนซึนามิถล่มภูเก็ต แต่kวยมันยังแข็งโด่เป็นหลักกิโลเมตร” โจ๊กเดาถูกเผง “มึงพูดเหมือนคนมีประสบการณ์เลยนะ”  ชาคริตแขวะเพื่อนแบบขำๆ แม้จะเห็นพ้องตรงกับโจ๊ก เพราะเพลงกามที่เพิ่งบรรเลงจบไม่ถึงครึ่งนาทีได้เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง “กูยืนดูเฉยๆ ยังเหนื่อย แต่ไอ้หื่นนี่แม่งจะเy็ดต่อแบบไม่ยอมพักยกหายใจหายคอเลย” “พูดเบาๆ ไอ้โจ๊ก เดี๋ยวคนก็แห่มามุงดูกับมึง” ชาคริตดุเพื่อนซี้เสียงต่ำ “ไม่ทันแล้วค่ะ” เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น สองหนุ่มจากที่ยืนตัวงอ ตอนนี้ดีดตัวยืนตรงแด่วราวนักเรียนปฐมยืนเข้าแถวเคารพธงชาติตอนแปดโมงเช้า ทั้งคู่หมุนร่างกลับมายังต้นเสียงอย่างช้าๆ และอุทานชื่อผู้มาใหม่พร้อมกันราวนัดหมายไว้ล่วงหน้า “แอนนา!”  “แหม... ปลื้มจัง ที่พี่สองคนจำชื่อแอนนาได้แม่นขนาดนี้”  หญิงสาวยิ้มหวานฉ่ำ สายตาที่จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาของชาคริตค่อยๆ ลดต่ำลงมายังเป้ากางเกงที่ตุงโด่งโค้งนูนของหนุ่มหล่อสายเลือดผสมไทย-อเมริกัน ขนาดความเป็นบุรุษเพศที่สามารถคาดเดาได้คร่าวๆ จากภายนอกทำให้เธอถึงกับปากคอสั่นระริก ‘เขาจะแซ่บสมคำร่ำลือไหมหนอ’ “พี่ว่า... พวกเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่านะ”  ชาคริตรีบสอดมือถือที่ใช้แทนตาแมวประกอบการถ้ำมองเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วทำท่าจะลากแอนนาออกมาจากตรงนั้น แต่หญิงสาวจับข้อมือเขาไว้เหมือนจะยื้อให้อยู่ต่อ “ไม่ใช่พวกเราค่ะ แต่เป็นเราสองคน”  เธอใช้สายตาบอกว่าต้องการคุยกับชาคริตเท่านั้น ซึ่งโจ๊กก็ไม่แสดงอาการขัดข้องและยินดีอย่างยิ่งที่จะรับชมหนังภาคต่อเพียงลำพัง ชาคริตอึ้งไปครู่หนึ่ง “โอเคครับ” “อากาศก็ออกจะเย็น ทำไมเหงื่อที่มือพี่คริตออกเยอะจังเลย” แอนนากระเซ้าอย่างอารมณ์ดี “เมื่อกี้นี้แอนนาเห็นอะไรบ้าง”  ชาคริตยิงคำถามทันที ที่ลากหญิงสาวออกมาพ้นจากพื้นที่เสี่ยง “ก็... ไม่ได้เห็นอย่างเดียวนะคะ แต่แอนนายังบันทึกเหตุการณ์ไว้ด้วย”  เธอชูมือถือขึ้นมาอวด “พี่คริตอยากดูไหมคะ” ชาคริตส่ายหน้า “พี่ไม่อยากดู แต่อยากขอร้องให้แอนนาลบภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ให้หมด” “ทำไมแอนนาต้องลบคะ” เธอถาม ปรายตามองเขาอย่างท้าทาย “แอนนาจะเก็บไว้เพื่ออะไร” เขาถามกลับ พยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่ “เพื่อใช้ต่อรองค่ะ” / “ต่อรอง ? ” “พี่คริตต้องเป็นแฟนกับแอนนาแลกกับการทำลายหลักฐานพวกนั้น” คำตอบที่ได้ยินทำให้ชาคริตมีสีหน้าผะอิืดผะอม รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกที่สาวรุ่นน้องพยายามแบล็คเมล แต่ก็จำใจต้องตอบตกลง เพราะหากแอนนานำหลักฐานพวกนั้นไปเผยแพร่ ไม่ใช่เพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะซวย อำพล กานดา และโจ๊ก ทุกคนจะติดร่างแหไปด้วย “ก็ได้” ชายหนุ่มตอบรับเสียงเบา เขาทำราวกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปาก “เย้! ดีใจจัง”  แอนนากรี๊ดกร๊าดเสียงแหลมบาดแก้วหู เธอกระโดดกอดคอชาคริต โน้มใบหน้าหล่อคมสมชายลงมาเพื่อจูบแก้มแรงๆ ทีหนึ่งโดยไม่สนใจว่าลิปสติกสีแดงแปร๊ดที่บรรจงทาไว้จะฝากรอยตราบนผิวหน้าของชายหนุ่ม  “เดี๋ยวสิ แอนนา”  เขาเรียกเธอ ฉุดแขนไว้ ก่อนหญิงสาวจะผละจากไป “อะไรคะ หรือว่า... พี่คริตอยากให้แอนนาทำหน้าที่แฟน” เธอมองที่เป้ากางเกงซึ่งยังไม่ยุบตัวลง ก่อนจะหัวเราะคิกคักชอบใจ “แอนนายังไม่ลบไฟล์ในมือถือ และพี่ต้องการกำหนดขอบเขตและเวลาของข้อแลกเปลี่ยน” “แหม” หญิงสาวทำเสียงกระเง้ากระงอด  “เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย” ชาคริตเสนอ “แอนนาไม่โอเค เว้นวรรคห่างเหินกันขนาดนั้นเขาไม่เรียกว่าแฟนหรอกค่ะ”  “คนที่จะเสียเปรียบคือแอนนานะ ไม่ใช่พี่” เขาแย้ง ให้โอกาสเธอคิดไตร่ตรอง  “แล้วเรื่องส่วนตัวที่พี่คริตหมายถึง มีอะไรบ้างล่ะ” “การเคารพสิทธิส่วนบุคคลตามกฏหมาย” น้ำเสียงเย็นชาของชายหนุ่มทำให้แอนนารู้สึกผิดหวังและเสียหน้า เธอไม่เคยถูกผู้ชายผลักไส แต่จะพูดแก้ตัวหรือโต้ตอบอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งที่ได้ทำไปทั้งหมดล้วนถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของชาคริต “เรื่องกำหนดเวลา” “หนึ่งไฟล์ สำหรับหนึ่งปี โอเคไหมคะ”  ชาคริตส่ายหน้า เพราะเขาเห็น thumpnail บนหน้าจอมือถือของแอนนามีนับสิบ  “หนึ่งวัน”/ “ไม่่ค่ะ หนึ่งสัปดาห์”  “ตกลง หนึ่งไฟล์ต่อหนึ่งสัปดาห์” ชายหนุ่มรีบตอบรับ  แอนนากัดริมฝีปากตัวเองด้วยความรู้สึกเสียดายที่ปากไวเกินไป ทว่าก็ยอมทำตามคำทักท้วงของชาคริตแต่โดยดี เธอกดลบ พร้อมกับนับจำนวน  “หนึ่ง สอง สาม... สิบสองไฟล์”  หญิงสาวเค่นยิ้ม ขณะที่ชาคริตยกมือขึ้นสางผมแล้วแหงนหน้าขึ้นถอนหายใจอย่างโล่งอก การกระทำแบบนั้นเท่ากับเขาได้ลดเกราะป้องกันตัวลง “บรรยากาศเป็นใจแบบนี้ เรามาเริ่มเล่นบทแฟนกันเลยดีไหมคะพี่คริต” “พี่ไม่...”  คำว่า ‘มีอารมณ์’ ถูกกลืนลงท้อง เพราะเป้ากางเกงที่พองฟูของชายหนุ่มได้ตกอยู่ใต้เงื้อมมือของแอนนา... “ไม่มีความจำเป็นที่พี่คริตต้องทนทรมานนี่คะ ในเมื่อแอนนาเต็มใจ”  อารมณ์ปรารถนาราคะที่พยายามข่มกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์ถูกปลุกเร้าด้วยชั้นเชิงร่านร้อนของสาวพริตตี้คนสวย ชาคริตยืนตัวแข็งเหมือนหิน เขากลืนน้ำลายลงคอเมื่อนิ้วเรียวของแอนนาพริ้วไหวโอ้โลมเครื่องเพศพวงพีอย่างชำนาญ ก่อนที่ปลายนิ้วเธอจะกรีดไล้วาดวนตามรูปร่างลำเอ็นยวงยาวที่ตื่นตัวตอบรับสัมผัสยั่วยวน “แอนนาพอเถอะ...” เสียงทัดทานอ่อนลง และเบาจนแทบไม่ได้ยิน  หญิงสาวกอบกุมท่อนเอ็นแกร่งไว้ไม่ยอมปล่อย มองสบนัยน์ตาที่พร่ามัวด้วยความต้องการของชาคริต ก่อนจะปลดปมในใจให้ชายหนุ่ม “พี่คริตกลัวอะไรคะ นักศึกษาคนอื่นๆ ก็ฉวยโอกาสนี้หาความสุขใส่ตัวกัน ขนาดน้องรหัสพี่คริตยังโทรเรียกแฟนให้มาหาถึงค่าย” แอนนาใส่สีตีไข่คู่แข่ง คำบอกเล่าที่ได้ยินได้ฟังทำให้ชาคริตเจ็บจี๊ดที่หัวใจและคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นาๆ สุดท้ายความผิดหวังก็พาความคิดวกกลับมาที่คนตรงหน้า ซึ่งรูปร่างหน้าตาของแอนนามีส่วนคล้ายทัดดาวอยู่มาก “แถวนี้เป็นตึกร้าง กลางค่ำกลางคืนไม่มีใครกล้ามาเดินเพ่นผ่านหรอกค่ะ”  เธอพูดให้ชาคริตหายกังวลและฉุดดึงชายหนุ่มเข้าไปยังตัวอาคารที่เคยเป็นโรงอาหารเก่าซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงปูนสูงระดับหัวไหล่และเคาเตอร์สำหรับเตรียมอาหารที่ก่อด้วยปูนและปูทับด้วยกระเบื้องสูงระดับหน้าขา แอนนาผลักหน้าอกของชายหนุ่มเบาๆ ร่างสูงโปร่งทรุดนั่งบนเคาน์เตอร์ที่มีคราบฝุ่นหนา แต่ไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน เธอแกะกระดุมเสื้อแบบผ่าหน้าออกสามเม็ด ถลกชายขึ้นเพื่อถอดชุดนอนแบบยาวคลุมต้นขาออกทางศรีษะแล้วโยนไว้ไปพาดบนกำแพง 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม