บทที่ 26 หาซื้อชุดไม่ทันช่วยตัดให้พี่ได้ไหม

1541 คำ
บทที่ 26 หาซื้อชุดไม่ทันช่วยตัดให้พี่ได้ไหม สองวันต่อมา เวลาเก้าโมงเช้าที่โต๊ะอาหาร.. “ทำไมพี่เรายังไม่ลงมากินข้าวอีกละเหม่ยเหมย นี่ใกล้เวลาจะไปโรงงานแล้วนะ” พ่อหลิวถามพร้อมคีบอาหารให้ลูกสาวคนเล็ก “คือ…” เหม่ยเหมยทำเสียงอึกอัก เพราะไม่รู้เธอ จึงหันไปมองแม่ “วันนี้ลูกไม่ไปโรงงานด้วยนะคุณ” แม่หลิวบอกสามี เพราะรู้ว่า ลูกคนรองมีนัดกับลูกค้าที่จะมาเอาชุดและลองชุด “อ้ายเหรินไม่สบายหรือ” พ่อหลิวทำหน้าตื่นๆ เพราะหลายวันมานี้ลูกคนรองทำงานหนักทุกวัน ทำงานที่โรงงานหนักๆ ยังไม่พอ ยังมาทำอาหารและยังออกแบบเย็บผ้าดึกๆ ดื่นๆ ที่บ้านอีก “ไม่หรอก ลูกสบายดี แต่วันนี้คุณนายฉางจะมาลองชุดน่ะ” แม่หลิวบอก “อ้าว แล้วงานที่โรงงานล่ะ ใครดูแล” พ่อหลิวถาม เพราะรู้ว่างานของลูกสาวที่โรงงานยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี “ลูกมอบหมายให้คนงานทำแทนแล้วค่ะ คุณอย่าคิดมากเลย เดี๋ยวนี้อ้ายเหรินรอบคอบจะตาย ไม่ปล่อยงานค้างไว้หรอก” แม่หลิวบอกสามี “ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าลูกไม่เข้าโรงงาน ผมจะเข้าไปดูงานแทนลูกเอง ก็ได้” พ่อหลิวบอกภรรยา “อื้อ ไปดูให้ลูกหน่อยก็ดีเหมือนกันนะคุณ” แม่หลิวพยักหน้าสนับสนุนสามี แล้วหันไปบอกลูกคนเล็กให้รีบกิน ซึ่งเหม่ยเหมยก็ทำตามแม่ลิวบอก.. และไม่นาน พ่อหลิวแม่หลิวและเหม่ยเหมยก็กินข้าวเช้าอิ่ม แล้ววันนี้พ่อหลิวก็เป็นคนไปส่งเหม่ยเหมยที่มหาวิทยาลัยเช่นเคย โดยที่แม่หลิวไม่ได้ตามพ่อหลิวไปโรงงานด้วย ส่วนจี้หยวนได้ออกไปปฏิบัติงานตั้งแต่ตีห้า เพราะทางหน่วยงานได้โทรศัพท์มารายงานให้จี้หยวนเข้าค่ายด่วน… ช่วงเวลาที่แม่หลิวกำลังช่วยเหลียนเก็บโต๊ะอาหารอยู่นั้น แม่หลิวก็ต้องหันหลังไปมอง “คุณแม่ค่ะ” อ้ายเหรินเดินเข้าไปในห้องอาหารแล้วเรียกแม่หลิว “อ้ายเหรินตื่นแล้วหรือ” แม่หลิวถาม พร้อมเดินไปประคองพา ลูกคนรองมานั่งที่เก้าอี้ “ค่ะ นี่คุณพ่อกับน้องเล็กไปแล้วหรือคะ” อ้ายเหรินพยักหน้า แล้วยิ้มเมื่อถามหาพ่อและน้องสาว “เพิ่งไปเมื่อกี้นี้เอง อ้ายเหรินหิวไหม เดี๋ยวแม่จะอุ่นกับข้าวให้ใหม่” แม่หลิวถามเพราะเป็นห่วงลูกสาว.. “คุณนายนั่งเถอะ เดี๋ยวฉันไปทำให้เองค่ะ” ด้านเหลียนขันอาสา ทั้งที่กำลังเก็บถ้วยชามบนโต๊ะ “ขอบใจนะเหลียน” เป็นอ้ายเหรินเองที่เอ่ยบอกเด็กรับใช้ และเมื่อเด็กรับใช้เดินไปที่ครัวแล้ว แม่หลิวก็หันมาถามลูกสาวว่า “เมื่อคืนนอนดึกหรือเปล่าลูก ทำไมดูหน้าตาอิดโรยจัง” “เมื่อคืนหนูเร่งงานลูกค้าให้เสร็จนะคะ นี่ก็เหลือแค่แก้เล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะแก้ตรงจุดไหนบ้าง ต้องรอให้เจ้าของชุดมาลองใส่ก่อนค่ะ” อ้ายเหรินยกมือปิดปากเวลาหาว “นี่อ้ายเหรินนัดคุณนายฉางกี่โมงละ” แม่หลิวถามพร้อมเทน้ำต้มสุกใส่แก้วให้ลูกสาว “สิบโมงเช้าค่ะ” อ้ายเหรินยิ้มหวานให้แม่ เวลาจิบน้ำต้มสุกที่ แม่หลิวยื่นให้ แม่หลิวพยักหน้า พร้อมเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างผนัง ก็ต้องอุทานเสียงดัง “สิบโมงเช้าหรือ ตายแล้ว อีกยี่สิบนาทีก็สิบโมงเช้าแล้วนะลูก” “อะไรนะ หนูนึกว่าเก้าโมงเช้าเสียอีก นี่หนูตื่นสายหรือนี่ แม่คะ หนูขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ” อ้ายเหรินร้องเสียงตกใจพร้อมรีบลุกขึ้น “งั้นรีบไปเลยลูก” แม่หลิวก็ตื่นเต้น เวลาเห็นลูกสาวกุลีกุจอเดินออกจากห้องอาหาร และช่วงเวลาที่เดินออกจากห้องอาหารนั้น ก็เป็นเวลาที่เหลียนเดินถือถาดอาหารเข้ามาพอดี “คุณอ้ายเหริน ข้าวเช้าค่ะ” เหลียงรีบหลีกทางให้อ้ายเหริน “เหลียนเอาไปเก็บเถอะ ถ้าฉันหิว ฉันจะหากินเอง” อ้ายเหรินบอกเหลียนทั้งที่วิ่งขึ้นบันได.. ความสดใสและตัวตนที่แท้จริงของอ้ายเหริน ทำให้แม่หลิวยิ้ม แล้วหันมาบอกเหลียนว่า “เอาไปเก็บก่อนไปเหลียน” “ค่ะ” ด้านเหลียนก็ทำตามแม่หลิว ถือถาดอาหารเข้าไปในครัว… ในห้องนอน.. อ้ายเหรินใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จและช่วงเวลาที่ยืนมองตัวเองในกระจกตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง อ้ายเหรินก็ต้องหันไปมองประตู ก๊อกก!!.. เสียงเคาะประตูดัง พร้อมเสียงของสาวใช้ที่อยู่นอกห้อง “คุณอ้ายเหรินคะ” เหลียนเรียกเสียงเบา เมื่อเคาะประตูห้องอีกครั้ง “มีอะไรหรือเหลียน” อ้ายเหรินเดินไปเปิดประตู เธอถามเมื่อเห็นเหลียน “คุณนายให้ฉันมาตามคุณลงไปข้างล่างค่ะ” เหลียนบอก “คุณป้าฉางมาแล้วหรือ” อ้ายเหรินรู้ทันที “ค่ะ นั่งรอคุณอ้ายเหรินอยู่ที่ห้องรับแขกค่ะ” เหลียนบอก “ไปบอกคุณแม่นะ เดี๋ยวฉันลงไป” อ้ายเหรินบอกเหลียน “ค่ะ” เหลียนขานรับ อ้ายเหรินปิดประตูห้อง เมื่อเห็นเหลียนเดินลงไปข้างล่างแล้ว ซึ่งเธอได้เข้าไปเอาชุดของคุณนายฉางที่อยู่ในตึงสามชั้นที่อยู่ในมิติ… ในห้องรับแขก.. เสียงของแม่หลิวและคุณนายฉางคุยกันถึงขนมและน้ำชาว่ารสชาติดีอย่างนั้นอย่างนี้ ดังจนอ้ายเหรินที่เดินเข้ามาเธอได้ยินทุกคำ ที่แม่ชอบ โอ้อวดเธอให้คุณนายฉางฟัง แต่ความจริงแล้วแม่หลิวไม่ได้พูดโอ้อวดเธอเพียงแค่กับคุณนายฉาง แต่แม่หลิวจะพูดโอ้อวดกับทุกคน ‘คุณแม่ก็พูดเกินไป’ อ้ายเหรินพูดคนเดียวในใจ แล้วเดินเข้าไปในห้องรับแขก “หนู…” อ้ายเหรินกำลังจะเอ่ยขอโทษคุณนายฉาง ก็ต้องสะดุดและหุบยิ้ม เมื่อเห็นคนที่ไม่พึงประสงค์อยากจะเจอ นั่งยิ้มหน้าบานมองเธออยู่ อาการชะงักเห็นได้ชัดเจนของลูกสาว ทำให้แม่หลิวรีบลุกขึ้น แล้วเดินไปหาลูกสาว “อ้ายเหรินมาแล้วหรือลูก” “ค่ะคุณแม่” เธอยิ้มให้แม่หลิว ทั้งที่เหลือบตามองเขาคนนั้น แล้วเดินเข้าไปทักทายคุณนายฉาง “คุณป้าฉาง สวัสดีค่ะ ฉันขอโทษค่ะที่ทำให้รอ” อ้ายเหรินก้มหัวทักทายคุณนายฉาง สายตานิ่งๆ ก็เหลือบมอง เฉินหลงเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ป้าดื่มชากินขนมฝีมืออ้ายเหรินจนเพลิน ไม่ได้รู้สึกสักนิดว่ามานั่งรออ้ายเหริน จริงไหมเฉินหลง” คุณนายฉางยิ้มอ่อนโยน แล้วหันไปพูดกับลูกชาย ด้านเฉินหลงยิ้มเมื่อแม่โยนคำพูดมาให้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมุมสดใสของหญิงสาวที่เขาไม่เคยเห็น ไม่เหมือนอ้ายเหรินคนเดิม เขาจึงบอกจากใจว่า “ชาและขนมที่อ้ายเหรินทำอร่อยดีนะ” “ค่ะ” อ้ายเหรินวางตัวดี จึงก้มหัวน้อมรับคำชมจากชายหนุ่มอีกครั้ง ท่าทางอึดอัดของอ้ายเหริน และเฉินหลงที่เหมือนคนเป็นใบ้ไม่กล้าพูดอะไร ทำให้คุณนายฉางพูดขึ้นว่า “อ้ายเหรินคงไม่ว่านะ ถ้าพี่เขาอยากให้อ้ายเหรินตัดชุดให้น่ะ เพราะพี่เขาหาซื้อชุดใส่ไปงานเลี้ยงที่ค่ายยังไม่ได้เลย” คำถามของคุณนายฉางทำให้อ้ายเหรินมองเฉินหลงอย่างเต็มตา เธอคิดสักพักแล้วหันไปบอกคุณนายฉางว่า “คงต้องรอหลายวันนะคะ เพราะฉันมีลูกค้ามากพอสมควร” “จะให้พี่มาวัดตัววันไหน นัดวันเลย พี่พร้อมมาหาอ้ายเหรินนะ” เฉินหลงยิ้มเวลาพูดกับหญิงสาว “งั้นวัดตัววันนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันขอทำงานให้คุณป้าฉางก่อนนะคะ” อ้ายเหรินบอก ใช่ว่าอยากทำให้เขา แต่เป็นเพราะเกรงใจคุณนายฉางต่างหาก และเงินเท่านั้นที่อยู่ในหัวของเธอ “ได้ๆ พี่รอได้” เฉินหลงรีบบอก ซึ่งเขาผิดจากเฉินหลงคนเดิมมาก เขาไม่มีทีท่าแข็งกระด้างและใจร้ายเหมือนเมื่อก่อน.. เมื่อความเงียบไม่มีใครพูด คุณนายฉางจึงเอ่ยขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศ “นี่ชุดของป้าใช่ไหมอ้ายเหริน” ด้านอ้ายเหรินละสายตาจากใบหน้าของเฉินหลง หันมาคุยกับคุณนายฉางว่า “ค่ะ คุณป้าฉางจะลองใส่ไหมคะ” “ลองซิ” คุณนายฉางพยักหน้า แล้วเดินไปยืนข้างอ้ายเหรินยื่นมือไปสัมผัสชุดนั้น “งั้นไปที่ห้องโน้นกันเถอะค่ะ” อ้ายเหรินยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินนำคุณนายฉางไปยังห้องทำงาน…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม