บทที่ 24 เสื้อผ้าในแบรนด์โรงงานพ่อหลิว

1258 คำ
บทที่ 24 เสื้อผ้าในแบรนด์โรงงานพ่อหลิว ที่โรงงานหลิว.. พนักงานหลายสิบคนต่างพากันมองและก้มหัวทำความเคารพ เมื่อเจ้าของโรงงานเดินเข้ามาบริเวณโถงขนาดใหญ่ของโรงงาน “สวัสดีครับ / ค่ะ คุณหลิว” “สวัสดีๆ ทุกคน” พ่อหลิวก็ทักทาย แล้วก้มหน้าให้ลูกน้องหลายคน “สวัสดีครับ / ค่ะ คุณนายหลิว คุณหนูหลิว” พนักงานทักทายแม่หลิว แล้วก้มหัวให้แม่หลิวและอ้ายเหรินและเหม่ยเหมย “สวัสดีค่ะทุกคน” แม่หลิวก็ทักทายลูกน้องด้วยท่าทีเป็นกันเอง.. “พ่อกับแม่จะขึ้นไปทำงาน ถ้ามีอะไรก็ถามพนักงานนะอ้ายเหริน เหม่ยเหม่ย” พ่อหลิวหันมาบอกลูกสาวทั้งสอง เมื่อเดินมาถึงบันไดจะขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องทำงานของพ่อหลิว “ได้ค่ะ” สองพี่น้องขานรับพร้อมกัน แล้วเป็นเหม่ยเหมยเองที่จูงมือพี่สาวพาเดินชมแผนกต่างๆ ในโรงงาน… และช่วงเวลาที่เดินชมแผนกนั้นและแผนกนี้ ก็มีพนักงานหลายคนเข้ามาทักทาย “คุณหนูหลิว สวัสดีค่ะ” พนักงานคนหนึ่งทักทาย “สวัสดีค่ะ ทำงานกันตามสบายนะ” เหม่ยเหมยบอกพร้อมก้มหัวทักทายพนักงานทุกคน ซึ่งเหม่ยเหมยมาที่นี่บ่อยครั้ง จึงทำให้ทุกคนคุ้นเคยและเป็นกันเองกับเหม่ยเหมยมากกว่าอ้ายเหริน “ให้ฉันช่วยอะไรไหมคะ” พนักงานถามอย่างอ่อนน้อม “ฉันจะไปแผนกเครื่องจักรนะ” อ้ายเหรินเป็นคนบอก “งั้นเชิญเลยค่ะ เดี๋ยวฉันพาไป” พนักงานเชิญแล้วกำลังจะเดินนำหน้า แต่.. “ไม่ต้อง เดี๋ยวพวกฉันไปเอง” ซึ่งเป็นอ้ายเหรินอีกนั่นแหละที่บอกพนักงาน “ค่ะ” พนักงานหยุดเดิน แล้วก้มหน้าหลบสายตาอ้ายเหริน แล้วหลีกทางให้.. จากนั้นทั้งสองก็เดินมาถึงแผนกเครื่องจักร ที่มีไว้สำหรับทอผ้าและตัดผ้า “มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ” หัวหน้างานแผนกเครื่องจักรรีบเดินเข้ามาหาสองพี่น้องและถามขึ้น “ฉันอยากจะรู้ ว่ามีเครื่องจักรอันไหนว่างไหมตอนนี้” อ้ายเหรินมองเครื่องจักรที่มีส่วนคล้ายเครื่องจักรในยุคที่เธอจากมา ถึงจะมีขนาดเล็กก็ตาม แต่เธอคิดว่าคงใช้งานที่เธอต้องการได้แน่นอน “มีค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานคนนั้นรีบเดินนำทั้งสองไปที่ด้านในสุดของห้องนี้.. เมื่อมาถึงอ้ายเหรินเดินสำรวจเครื่องจักรด้วยความสนใจ “พี่รองทำเป็นหรือคะ” ท่าทางคล่องแคล่วของพี่สาว ทำให้เหม่ยเหมยสงสัยจึงถาม ‘นี่พี่รองมีความรู้เรื่องเครื่องจักรพวกนี้ด้วยหรือ’ เหม่ยเหมยถามตัวเองในใจ “เปล่า พี่แค่อยากดู” อ้ายเหรินพูดปัดไป เพราะไม่อยากเล่าแผนการต่างๆ เพราะเธออยากมั่นใจก่อนว่าจะทำได้ไหม ถึงจะเล่าให้ทุกคนฟัง “ใครเป็นคนคุมเครื่องจักรเครื่องนี้คะ” อ้ายเหรินถามพนักงานคนที่พาเธอมา “หัวหน้าเต๋อค่ะ” พนักงานคนนั้นตอบ “ตามหัวหน้าเต๋อมาพบฉันได้ไหม” อ้ายเหรินถาม “สักครู่นะคะ” พนักงานตอบรับแล้วรีบไปตามหัวหน้าเต๋อ.. และไม่ถึงยี่สิบนาที ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายอ้ายเหรินและเหม่ยเหมย “สวัสดีครับคุณหนูหลิว” “หัวหน้าเต๋อใช่ไหมคะ ฉันอ้ายเหรินค่ะ” อ้ายเหรินถาม พร้อมก้มหัวทักทายชายวัยกลางคน “ครับ ผมรู้แล้วครับ ว่าคุณเป็นคุณหนูอ้ายเหริน” หัวหน้าเต๋อรีบก้มหัวทักทายตอบอีกครั้ง และรู้สึกแปลกใจที่ลูกสาวคนรองของเจ้านายมีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน “หัวหน้าเต๋อช่วยสอนวิธีใช้เครื่องจักรนี้ให้ฉันหน่อยค่ะ” อ้ายเหรินยิ้มให้หัวหน้าเต๋อ “ได้ครับ” หัวหน้าเต๋อบอก พร้อมเปิดเครื่องจักร “หัวหน้าเต๋อรู้ไหมคะ ว่าเครื่องจักรนี้ตั้งค่าการใช้งานอะไรได้บ้าง คือฉันต้องการที่จะใช้ทอผ้าเป็นลวดลายดอกไม้ผสมลายมังกรน่ะค่ะ” อ้ายเหรินถามและมองหัวหน้าเต๋อเปิดเครื่องจักร “จักรเครื่องนี้ใช้ทอผ้าได้ แล้วยังทำลวดลายต่างๆ บนพื้นผ้าได้ครับ เพราะเป็นเครื่องจักรรุ่นใหม่ที่คุณหลิวซื้อมาครับ” หัวหน้าเต๋ออธิบาย ซึ่งอ้ายเหรินก็พยักหน้ารับรู้แล้วจดใส่สมุด.. ด้านเหม่ยเหมยที่ยืนอยู่กับพี่สาวนั้น เธอเหลือบตาไปเห็นแม่หลิวที่กำลังเดินมาหา “คุณแม่” เหม่ยเหมยจึงยิ้มกว้าง แล้วเดินไปหาแม่หลิว “เป็นยังไงบ้าง” แม่หลิวถามลูกสาวคนเล็ก แล้วหันไปยิ้มเมื่อเห็นอ้ายเหรินที่กำลังวุ่นอยู่กับการจดบันทึกอะไรสักอย่าง “พี่รองเก่งมากค่ะคุณแม่” เหม่ยเหมยรีบตบก้นม้าพี่สาวด้วยความภูมิใจ และอยากให้แม่หลิวรู้ว่าพี่สาวทำอะไรบ้าง เธอจึงเล่าตั้งแต่พี่สาวเข้ามาและเดินไปไหนบ้าง “…” ด้านแม่หลิวไม่พูด นางยิ้มภูมิใจมากที่ลูกสาวคนรองเก่งขึ้น “คุณแม่” อ้ายเหรินที่ยืนคุยกับหัวหน้าเต๋อ เมื่อเห็นแม่ที่ยืนอยู่กับน้องสาวจึงรีบเดินมาหา.. “คุณนายหลิว สวัสดีครับ” ซึ่งหัวหน้าเต๋อก็เดินตามอ้ายเหรินมาทักทายแม่หลิวเช่นกัน “ตามสบายเถอะหัวหน้าเต๋อ” แม่หลิวก้มหัวทักทายหัวหน้าเต๋อ “ครับ งั้นผมไปทำงานต่อนะครับ” หัวหน้าเต๋อบอกพร้อมก้มหัวให้แม่หลิว แล้วเดินออกไป.. เมื่อหัวหน้าเต๋อไปแล้ว แม่หลิวก็หันมาถามลูกสาวคนรอง “เป็นยังไงบ้างอ้ายเหริน” “หนูกำลังเรียนรู้การตัดและการทอผ้าด้วยเครื่องจักรค่ะ” อ้ายเหรินยิ้มให้แม่หลิว และวันนี้เธอมาแล้วได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับเครื่องจักรยุคนี้ ซึ่งมันแตกต่างจากเครื่องจักรยุคที่เธอจากมามาก “อื้อ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามคนงานที่นี่ได้นะอ้ายเหริน” แม่หลิวบอกลูกสาว “ค่ะ คุณแม่คะ” อ้ายเหรินพยักหน้ารับรู้ แล้วถามแม่หลิว “ว่ายังไงลูก” แม่หลิวถาม สายตาอบอุ่นก็มองลูกสาวคนรอง “หนูขอพนักงานแผนกตัดเย็บสักสามคน แล้วก็พนักงานเครื่องจักรตัดเย็บอีกสองคนได้ไหมคะ” อ้ายเหรินถามแม่เสียงออดอ้อน.. ‘สิ่งแรกที่เธอวางไว้หลังจากเมื่อวันก่อนไปเดินสำรวจสถานที่ที่ห้างสรรพสินค้ามา เธอเห็นว่ามีหลายร้านที่ขายเสื้อผ้าหลายยี่ห้อ เธอจึงคิดว่าจะผลิตเสื้อผ้าพวกนี้ไปฝากขายให้ได้ทุนสักก้อน จากนั้นร้านเสื้อที่เธอใฝ่ฝันก็ไม่ยาก และเธอคิดไว้ว่าจะใช้ชื่อโรงงาน ‘พ่อหลิว’ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่จะส่งขายตามร้านต่างๆ’ อ้ายเหรินคิดในใจแล้วยิ้มพิมพ์ใจคนเดียว “พี่รองจะเริ่มผลิตเสื้อผ้าขายแล้วเหรอคะ” หลิวเหม่ยเหมยถาม “ใช่ พี่ว่าจะทำเสื้อผ้าในนามโรงงานของเรา แล้วเอาไปฝากขายที่ร้านค้านะ” อ้ายเหรินยิ้ม เมื่อนึกถึงเสื้อผ้าที่เธอจะทำขายอย่างจริงจังแล้ว “ได้สิ ทำตามที่ลูกต้องการได้เลย พ่อและแม่สนับสนุน” เสียงของพ่อหลิวดังขึ้น ทำให้ทุกคนให้ไปมอง “ขอบคุณคุณพ่อมากค่ะ” อ้ายเหรินยิ้มดีใจ เดินจูงมือแม่เข้าไปหาพ่อหลิว แล้วมองเครื่องจักร พลางนึกถึงพนักงานที่เธอของพ่อแม่หลิวยืนทำงาน และมีเธอสั่งลูกน้องให้อย่างนั้นอย่างนี้…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม