ตอนที่ 5 เพื่อนใหม่
“เธอ เด็กปีหนึ่งรึเปล่า” ในระหว่างที่ผิงผิงกำลังยืนอยู่ตรงลานกว้างรอให้รุ่นพี่เรียกรวมก็มีผู้หญิงอีกคนมาสะกิดหลังเธอก่อนจะเอ่ยถาม นั่นทำให้หญิงสาวหันหน้าไปมองก่อนจะนึกชื่นชมผู้หญิงคนตรงหน้าที่ดูน่ารักสุด ๆ
“ใช่ เราปีหนึ่งคณะการตลาด”
“ดีจังคณะเดียวกันเลย งั้นเป็นเพื่อนกันไหมเราชื่อลูกตาล” พออีกคนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มมันก็ทำให้หญิงสาวดีใจที่ได้เจอเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันแล้ว
“ได้สิ เราผิงผิงนะ” ผิงผิงเองก็รู้สึกดีใจไม่ต่างกัน เธอมาเรียนที่นี่ไม่ได้มีเพื่อนมาเรียนด้วย ปกติที่ผ่านมาหญิงสาวก็ไม่ได้สนใจใครมากมายมีแต่สนใจพี่ชายข้างบ้าน จึงไม่ได้มีเพื่อนสนิทอะไรมากมายนัก พอมีคนมาทักก่อนมันก็ทำให้หญิงสาวดีใจมากจริง ๆ
“ชื่อน่ารักจังเธอก็น่ารักด้วย”
“ลูกตาลก็เหมือนกัน เหมือนตุ๊กตาเลยน่ารักสุด ๆ”
“เอ่อ สรุปก็ชมกันเองไปมา” คำพูดของลูกตาลทำให้ผิงผิงหัวเราะออกมาทันที
“ลูกตาลรู้จักคนอื่นหรือยัง?”
“มีอีกคนหนึ่งคุยกันในแชต เดี๋ยวถ้าเจอเราจะแนะนำให้รู้จักนะ”
“ได้จ้ะ” เธอเองก็อยากมีเพื่อนเยอะเหมือนกันรู้จักคนหลายคนมันก็ไม่ได้แย่อะไรเลยสักนิด ไม่นานสักเท่าไรนักก็มีผู้หญิงอีกคนเดินตรงมาหาลูกตาล นั่นจึงทำให้ลูกตาลแนะนำให้อีกคนรู้จัก
“พลอยนี่ผิงผิง ผิงผิงนี่พลอย” ผิงผิงพยักหน้าทักทายพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้อีกคน
“หวัดดีนะผิงผิง”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ” สามสาวพูดคุยกันไปมาอยู่พักใหญ่จนกระทั่งเสียงรุ่นพี่ในคณะเรียกให้รวม ทำให้หญิงสาวทั้งสามคนรีบเดินไปยังจุดรวมทันที นั่นจึงทำให้พวกเธอรู้ว่าคณะของเธอในปีนี้มีเพื่อนร่วมชั้นเกือบสามสิบคนเลย
“สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน พี่ชื่อกันต์เป็นรุ่นพี่ของพวกเรา ยินดีต้อนรับน้อง ๆ การตลาดทุกคนนะครับ ใครที่มาแล้วเข้าแถวให้เรียบร้อย พวกพี่จะแนะนำตัวและจะพาเราไปหอประชุม…….”พวกรุ่นพี่พูดแนะนำตัวรวมถึงแจงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเข้าร่วมปฏิบัติ ผิงผิงเองก็ตั้งใจฟังอย่างดี นับว่าการที่มีรุ่นพี่ยืนล้อมเป็นวงกลมอยู่มันทำให้เธอตื่นเต้นไม่น้อย
“มองอะไรวะไอ้กร?” เสียงต้นกล้ารุ่นพี่ปีสามที่ยืนดูรุ่นน้องปี 1 รวมกันกับพวกปี 2 พอเห็นว่าเพื่อนกำลังจ้องมองอะไรอยู่เขาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย ธีกรหันหน้าไปมองเพื่อนด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ก่อนจะทำหน้าเหมือนไม่ได้มองอะไรใคร เขาไม่อยากให้เพื่อนแซวที่เขาจ้องมองรุ่นน้องปีหนึ่ง
“อ้าวเงียบ มีความลับว่ะ” ธีกรส่ายหน้าไปมาด้วยความเบื่อหน่าย
หลังจากที่รุ่นพี่พูดคุยอะไรเสร็จสรรพ พวกเธอก็ต้องไปยังหอประชุม ในวันนี้ยังไม่มีเรียนอะไรหรอกก็แค่ประชุมเปิดเรื่องอะไรทำนองนี้ ซึ่งหอประชุมมีนักศึกษาปีหนึ่งทุกคณะ ในระหว่างที่คณะของผิงผิงเดินเข้าไปนั่งตามที่รุ่นพี่บอกสายตาของเธอก็หันไปเห็นใครอีกคนที่พารุ่นน้องในคณะมาในห้องประชุมแห่งนี้เหมือนกัน จากที่คิดว่าคงไม่เจอกันง่าย ๆ มาในตอนนี้หญิงสาวคิดผิด ดูเหมือนว่ามังกรจะเป็นคนเด่นคนดังในมหาวิทยาลัยแห่งนี้เหมือนกัน พอชายหนุ่มเดินเข้ามาก็ทำให้มีสาว ๆ หลายคนพูดถึง เธอยอมรับว่าผู้ชายคนนี้หล่อ ก็เพราะแบบนี้ไงเธอถึงหลงรักเขาหน้าตาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอชอบพอผู้ชายคนนี้
“มังกร” เสียงหวานของใครอีกคนเอ่ยเรียกชายหนุ่มนั่นจึงทำให้มังกรหันหน้าไปมองก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มให้กับคนตัวเล็ก ซึ่งรอยยิ้มของอีกฝ่ายมันทำให้สายตาของผิงผิงที่จ้องมองอยู่รู้สึกเจ็บหน่วงในหัวใจขึ้นมาไม่น้อย ปกติแล้วพี่ชายข้างบ้านวัน ๆ ที่เอาแต่บึ้งตึงใส่เธอแต่กับผู้หญิงอีกคนเขากลับยิ้มแย้มมีความสุข
“ผิงมองอะไรอยู่” เป็นลูกตาลที่เอ่ยขึ้น นั่นจึงทำให้หญิงสาวได้สติก่อนที่เธอจะหันหน้ามามองเพื่อนพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“มองเรื่อยเปื่อยน่ะไม่มีอะไรหรอก” เธอตอบพร้อมกับยิ้มให้อีกคน
คนตัวเล็กพยายามไม่มองอีกฝ่ายเพราะไม่อยากรู้สึกเสียใจอีกแล้ว เขาจะพูดคุยจะยิ้มให้กับใครก็แล้วแต่เถอะ เธอจะไม่เสียใจไม่รักผู้ชายคนนี้อีก เพราะเธอรู้แล้วว่าในใจของเขาไม่มีพื้นที่ให้กับเธอเลย
ผ่านไปหลายชั่วโมง
กิจกรรมในช่วงเช้าจบลงผิงผิงกับเพื่อนใหม่จึงมาทานข้าวที่โรงอาหารของคณะ ช่วงบ่ายพวกเธอไม่มีกิจกรรมอะไรจึงตกลงว่าจะไปคาเฟ่ต่อ นับว่าการได้เจอเพื่อนใหม่มันก็ทำให้หญิงสาวลืมใครอีกคนไปได้พักใหญ่เลย อย่างที่มารดาของเธอบอกชีวิตเธอยังอีกยาวไกล ทำไมต้องฝังใจกับผู้ชายคนเดียวด้วย ถึงแม้มันจะไม่ง่ายแต่เธอจะพยายามลืมผู้ชายคนนั้นไปจากหัวใจ
“ฉันถ่ายรูปให้นะ” ลูกตาลเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ถ่ายรูปให้กับผิงผิง ทั้งสามสลับเปลี่ยนกันถ่ายรูป การที่ได้รู้จักกับเพื่อนทั้งสองมันทำให้ผิงผิงรู้สึกเข้ากับเพื่อนได้ง่าย ถือว่าเบื้องต้นไม่ได้แย่อะไรเลยส่วนในอนาคตไม่มีใครรู้หรอก เธอเองก็อยากมีเพื่อนแท้ เพื่อนที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเพราะงั้นอะไรที่เธอไม่ชอบเธอก็ไม่คิดทำกับใคร ก่อนที่จะได้ใจใครเธอก็ต้องให้ใจคนนั้นก่อน
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนผิงผิงก็กลับมายังห้องพักของตนเอง หญิงสาวทำความสะอาดห้องเก็บของที่ยังไม่ได้เก็บหมด พวกเสื้อผ้าและของใช้ทั่วไปที่เธอหอบเอามาจากบ้าน ดีที่ห้องแห่งนี้มีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเตียง แอร์คอนดิชันเนอร์ ตู้เสื้อผ้า รวมถึงชั้นวางของ บางสิ่งบางอย่างเธอซื้อเพิ่มเติมได้แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักเพราะที่มีอยู่มันก็เพียงพอแล้ว
“ลืมซื้อของกินมาตุนเอาไว้เลย” คนตัวเล็กพึมพำกับตนเองก่อนที่เธอจะคว้ากระเป๋าสตางค์พร้อมกับเดินออกไปจากห้องเพื่อที่จะไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับหอพักที่เธออยู่
คนตัวเล็กเลือกซื้อเครื่องดื่มนมและอาหารสำเร็จรูปเอาไว้ทำกินง่าย ๆ เวลาไม่มีอะไรกิน ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังเลือกซื้อของอยู่นั้น เธอก็รู้สึกถึงสายตาของใครบางคนนั้นจึงทำให้คนตัวเล็กหันไปมอง การเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าที่มองอยู่มันก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูมีท่าทีรุ่มร่ามอะไรกับเธอแต่การที่ถูกมองแบบนี้มันก็ทำให้คนตัวเล็กทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
“เอ่อ น้องครับ?”
“คะ?” หญิงสาวที่กำลังรีบเดินหนีเสียงของอีกคนก็ดังเรียกเสียก่อนนั่นจึงทำให้เธอหันไปมองพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
“จำพี่ไม่ได้เหรอ พี่เป็นรุ่นพี่น้องไง” ธีกรเอ่ยบอก นั่นจึงทำให้หญิงสาวพยายามเพ่งมองใบหน้าของอีกฝ่าย ก่อนที่เธอจะคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาน่าจะเป็นรุ่นพี่ในคณะของเธอ
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะคะคือผิงจำหน้าคนไม่ค่อยเก่งค่ะ” ถ้าเป็นคนที่ผ่านหน้าแค่แป๊บเดียวหญิงสาวจำไม่ได้แน่นอน แต่เขาน่าจะเป็นรุ่นพี่ของเธอจริง ๆ นั่นจึงทำให้หญิงสาวเอ่ยขอโทษออกไป
“ไม่เป็นไรพี่เข้าใจ เราไม่ได้รู้จักกันอีกก็แค่เจอกันครั้งเดียวเองอีกอย่างตอนเจอกันเราก็ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ พี่ชื่อธีกรนะ เรียกว่ากรก็ได้” ชายหนุ่มแนะนำตัว หญิงสาวตรงหน้าจึงพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มไปให้
“หนูชื่อผิงผิงนะคะ”
“ผิงผิงชื่อน่ารักจัง”
“คะ?” จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยชมนั่นทำให้หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ธีกรเห็นท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าเขาก็อมยิ้มออกมาให้กับเธอ ดวงตาที่กลมโตเบิกกว้างแบบนั้นยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู
“ออกมาซื้อเสบียงหรอ”
“ค่ะ เอาไว้ตอนกลางคืนเวลาไม่มีอะไรกินค่ะแล้วนี่พี่พักอยู่แถวนี้เหรอ”
“เปล่าหรอกพี่เพิ่งเตะบอลเสร็จน่ะหิวน้ำก็เลยเข้ามาซื้อพอดีเจอน้องจำได้ว่าเป็นรุ่นน้องที่คณะก็เลยทักทาย”
“อ๋อ” ผิงผิงพยักหน้ารับรู้ พอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วหญิงสาวจึงเอ่ยปากขอตัวลา อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรกับรุ่นพี่คนตรงหน้านี้
ธีกรอมยิ้มออกมา เขารู้สึกถูกใจผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มดวงตากลมโตช่างน่ารักเสียจริง ตอนที่เพื่อนถามเมื่อตอนเช้าว่าเขามองอะไรคำตอบก็คือผู้หญิงคนนี้นั่นแหละ เพียงได้เห็นครั้งแรกเธอก็อยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลาแล้ว การที่บังเอิญได้เจอเธอที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย มันเหมือนกับพรหมลิขิตยังไงก็ไม่รู้ แล้วเขาก็หวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้สนิทสนมกับรุ่นน้องคนนี้และได้ทำความรู้จักเธอมากขึ้น