บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา มีทั้งคนที่เธอคุ้นเคยอย่างเพื่อนร่วมห้องและเพื่อน ๆ ห้องอื่น แต่บางคนเธอก็ไม่เคยเห็นคงเป็นคนจากที่อื่นที่มาพร้อมกับคนในโรงเรียน
หลังจากที่เธอได้เจอกับคู่โซลเมทของตนเองมันก็น่าตกใจมากพออยู่แล้ว แต่เจ้าหล่อนดันมากับคู่เต้นรำในวันนี้ของเธออย่างเบรินทำให้เธอยิ่งรู้สึกหนักใจขึ้นไปอีกเท่าตัว และตอนนี้เหมือนกับเจ้าหล่อนจะทิ้งให้ซันยืนอยู่เคียงข้างเธอและเจ้าตัวก็อาสาจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้ บรรยากาศรอบ ๆ ของเราจึงเต็มไปด้วยความอึดอัดเพราะเธอไม่กล้าปริปากพูดกับซันเลย ด้วยท่าทีที่ดูหยิ่งทะนงของเจ้าหล่อนเอง
“กำลังเดตกับเบรินอยู่อย่างงั้นเหรอ?” แต่อยู่ ๆ เจ้าหล่อนก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เธอเองก็คาดเดาไม่ได้ ทั้งยังไม่หันหน้ามาสบมองกันตรง ๆ จนฮันส์ต้องลองฟังคำถามดี ๆ ว่าเจ้าหล่อนพูดกับเธอหรือเปล่า
“ฉะ ฉันเหรอ?” เจ้าหล่อนเปรยสายตามาสบกันนิ่ง ๆ และนั่นมันทำให้ฮันส์ถึงกับต้องกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคออย่างประหม่า “เอ่อ...ก็ไม่...”
“มาแล้ว ๆ น้ำส้มเหมือนเดิมนะซัน” บุคคลที่อยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่ปรากฏขึ้นมาให้ฮันส์ต้องรีบหุบปากลงให้ไวที่สุด ซึ่งเบรินก็ดูมีท่าทีร่าเริงและอัธยาศัยดี ไม่แน่ใจว่าไปคบกับเจ้าคนที่ดูหยิ่งทะนงคนนั้นได้อย่างไรกันแน่
“ส่วนนี่ของฮันส์” ฮันส์เอื้อมมือไปรับมันมาถือไว้ก่อนจะจิบเบา ๆ เพราะเธอไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเจ้าแก้วสีหม่นใบนี้มีสิ่งใดอยู่ข้างใน
“หืม?” เธอเลิกคิ้วเบา ๆ กับเจ้าแอลกอฮอล์แก้วนี้ที่มีรสชาติแต่เพียงอ่อน ๆ ไม่ได้รุนแรงมากนัก ก่อนจะยื่นไปถามว่า เบรินนำเจ้าสิ่งนี้มาจากที่ไหน เหมือนว่าทางโรงเรียนจะห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะว่ามีคนมากหน้าหลายตาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ “ไปเอาแก้วนี้มาจากไหนน่ะ?”
“บิลล์บอกว่าฝากมาให้น่ะ มีอะไรหรือเปล่า?” ฮันส์เข้าใจชัดแจ่มแจ้งแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะอย่างไรเสียเธอก็ดื่มมันเป็นประจำกับครอบครัวอยู่แล้ว
เนื่องจากที่บ้านของเธอนั้นเป็นตระกูลค่อนข้างร่ำรวยและเก่าแก่ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนอย่างเธอจะเคยได้ดื่มเจ้าของมึนเมาพวกนี้ และอีกอย่างหนึ่งคุณพ่อของเธอก็เป็นคนสอนให้ดื่มด้วยตัวของเขาเองด้วยซ้ำไป ทั้งยังสอนว่าให้ดื่มเอาไว้เพื่อเข้าสังคม จะได้ไม่โดนมอมเมาหรือมีอันตรายได้
“อ้ะ! งานเต้นรำใกล้จะเริ่มแล้ว” เบรินดูมีท่าทีตื่นเต้นเมื่อดีเจลดระดับเพลงที่กำลังสนุกสนานให้เป็นเพลงที่มีบรรยากาศผ่อนคลายสบายอารมณ์
ผู้คนที่มากันเป็นคู่เริ่มออกไปเต้นเคียงข้างกันราวกับโลกทั้งใบมีเพียงเราสอง ส่วนตอนนี้ฮันส์กำลังหนักอกหนักใจว่าควรจะทำเช่นไรต่อไปดีกับคนข้างกายและคู่โซลเมทของเธอที่ดูมีสีหน้าเบื่อหน่ายและทำหน้าเหมือนอยากจะออกไปให้ไวเสียเต็มแก่
“ระ เราไปเต้นกันบ้างไหมฮันส์?” เบรินทำเสียงอ้อมแอ้มและก้มหน้าหลุบตาลงต่ำเขินอายกับประโยคของตนเองเสียจนคนที่กำลังสับสนนั้นปฏิเสธออกไปแทบจะไม่ไหว
เธอจึงตอบรับเจ้าหล่อนไปทั้งยังไม่วายหันหน้าไปสบมองผู้หญิงด้านข้างของเบรินที่ยังคงวางสีหน้าท่าทางที่เรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งสิ้น
“เดี๋ยวเรามานะซัน” เบรินเอ่ยบอกเพื่อนสาวของเธอด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอย่างมีความสุขจนฮันส์เกิดรู้สึกผิดขึ้นมาเสีย
ดื้อ ๆ
“อืม” เจ้าหล่อนตอบรับแต่เพียงเท่านั้นก่อนที่เราทั้งสองจะจับจูงพากันเดินไปที่ลานกว้างและเริ่มออกท้วงท่าเต้นเคียงคู่กันอย่างสง่างาม
ซันได้เพียงแต่ยืนมองสองร่างที่เป็นเพื่อนรักของเธอกับใครอีกคนที่เป็นคู่โซลเมทของเธอกำลังเต้นรำกันอยู่ แสงไฟที่ตกกระทบลงมาที่ตัวของคนทั้งสองมันทำให้เธอไม่อาจจะละสายตาออกไปจากคนทั้งสองได้เลย
ไม่อยากจะยอมรับตัวเองเลยด้วยซ้ำที่ได้พบเจอกับเขาครั้งแรกแล้วเธอเกิดใจสั่น ตัวของเขาส่องสว่างตลอดเวลาราวกับว่าเจ้าตัวนั้นคือพระอาทิตย์ที่ส่องแสงอยู่ก็ไม่ปาน รอยแผลเป็นที่บ่งบอกถึงว่าเป็นตัวเขามันดูไม่ได้จะเกินจริงไปเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะว่าเพื่อนของเธอก็ดูมีท่าทีชอบพอเขาอยู่แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปได้กันเล่า...
“สวัสดี...” เสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนดังขึ้นมาทำให้เธอต้องละใบหน้าออกจากคนทั้งสอง ตรงหน้าของเธอเป็นชายหนุ่มอัลฟ่าตัวสูงใหญ่หน้าตาดูดีกำลังยื่นแก้วบางอย่างให้กับเธออยู่ “ทำไมผมไม่เคยเห็นเธอเลย...คนสวย ๆ แบบนี้ผมว่าไม่น่าจะคลาดสายตาผมไปได้นะ” เขาส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับเธอทั้งยังส่งกลิ่นออกมาเพื่อหวังอะไรบางอย่างที่เธอนั้นก็รู้ดี
“...” แต่เธอไม่ได้ตอบรับอะไรและเพียงแค่มองชายหนุ่มตรงหน้าของเธอด้วยท่าทีเรียบเฉย ชั่วแวบหนึ่งที่เธอแอบเห็นเขาทำหน้าเสียเล็กน้อยเพราะเธอไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเหมือนกับที่ตัวเขานั้นคาดหวัง
“อยากเต้นรำด้วยกันไหม พอดีผมคิดว่าเธอ...”
“ไอบิลล์...มาทำอะไรของมึง!” อยู่ ๆ คนที่อยู่ในความคิดของเธอตลอดเวลาอย่างฮันส์ก็เข้ามาหาและพูดคุยกับชายหนุ่มตรงหน้าเธอ ท่าทีพูดคุยกันทำให้เธอพอเดาได้ว่าพวกเขาคงสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง
“อ้าว...มึงไม่เต้นต่อแล้วเหรอ?”
“กูถามว่ามึงมาทำอะไรตรงนี้?”
“เห้ย ๆ ทำไมต้องทำหน้าเครียดใส่กูขนาดนั้นด้วยวะ?” คนถูกพูดถึงทำสีหน้าให้ผ่อนคลายลงทันทีที่ถูกเอ่ยทัก เจ้าตัวสะบัดศีรษะเล็กน้อยก่อนจะมาสนใจตรงหน้าต่อ พอดีกับที่เบรินเดินกลับมาพอดีด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“ป่าว...กูก็แค่ถามว่ามึงมาทำอะไร?”
“ก็กูเห็นคนไม่คุ้นหน้ามายืนคนเดียว กูกลัวเขาจะเหงาเลยมาชวนเต้นรำ”
“ละ แล้วเขาไปไหม?” อยู่ ๆ สายตาของคนทั้งสองก็หันกลับมาสบเธอเป็นตาเดียวจนคนที่ถูกกล่าวถึงนั้นทำตัวแทบจะไม่ถูก แล้วก็มีสายตาร่วมด้วยจากเบรินจนท่าทีหยิ่งทะนงของเธอในคราแรกนั้นแทบจะกลายเป็นเลิกลั่กจนเสียทรง
“เอ่อ...”
“เขาไม่ไปกับมึงหรอก มึงไปชวนคนอื่นเถอะ” อยู่ดี ๆ ฮันส์ก็แทรกขึ้นมาเมื่อบรรยากาศมันดูเริ่มจะมาคุ เจ้าตัวดูร้อนรนแปลก ๆ แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะถามอะไร
“เห้ย ๆ เขายังไม่ได้ตอบเลย มึงเป็นอะไรของมึงเนี้ย”
“เอ่อ...” และนั่นก็ทำให้ฮันส์เลิกลั่กอีกครั้ง เจ้าตัวเหมือนจะหันหน้าไปหาตัวช่วย แต่เบรินก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนเสียแล้วเนื่องจากที่เจ้าตัวเองก็เป็นที่รักของเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ เฉกเช่นเดียวกัน
“ว่าไง...ถ้ามึงไม่ยังไงกูจะพาเขาไป...”
“ไม่ได้! คืนนี้ซันมากับกู และซันจะออกไปกับใครไม่ได้ทั้งนั้น!”