ตอนที่ 10 : มารผจญ
ไม่กี่วันต่อมา...
ชาวินท์นั่งสูบบุหรี่บริเวณหลังตึกเรียนอย่างเช่นทุกวัน ใบหน้าคมคายเรียบนิ่ง ต่อให้ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาเรียนแต่ชาวินท์ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน
"คืนนั้นเด็ดไหมวะ"
ชาวินท์ปรายตามองเพื่อนสนิทที่พึ่งเดินเข้ามาอย่างไม่สบอารมณ์
"ไม่รู้"
"หมายความว่าไง มึงกับพี่ป๊อปปี้แทบจะมีอะไรกันในผับอยู่แล้ว ตอบพวกกูว่าไม่รู้เนี่ยนะ" ต้นกล้าแสดงสีหน้าแปลกใจ
"มีมารผจญจนไม่รู้ว่าเด็ดหรือเปล่า"
"มารผจญตนไหนถึงทำให้ความตัณหาของมึงหมดลงไปได้"
"มารผจญที่มาในรูปแบบของคนรู้จัก"
"อันดา?"
"เออดิวะ"
เมื่อชาวินท์นึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นยังคงหงุดหงิดไม่หาย เขาพลาดเองที่ไปยืนพิงรถของเธอ แต่มันน่าหงุดหงิดที่เป็นรถของเธอ ถ้าเป็นรถของคนอื่นเขาคงไม่หงุดหงิดแบบนี้ คนอย่างเขาไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่แล้ว
แต่คำพูดยัยนั่นทำให้เขาหงุดหงิด เหอะ...ปล่อยให้รูตันซะดีกว่า ไม่เอามาแก้คัน คำพูดของเธอแต่ละคำอยากจะบีบคอเธอให้ตายตรงนั้น
สายตาคมกริบมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะยอมเล่าให้ฟัง
"กูก็แค่จูบกันนัวปลุกเร้าก่อนทำจริง แต่กูดันพลาดไปจูบใกล้รถอันดา เรียกว่าพิงรถยัยนั่นเลยก็ว่าได้ ยัยนั่นมาเห็นก็ตามที่พวกมึงเคยรับรู้ว่าฝีปากเป็นไง"
"สกิลปากอันดาก็ไม่ต่างจากมึงนะ" เรนหัวเราะเยาะเพื่อนเพราะรู้ดีว่าทั้งสองคนปากร้ายแค่ไหน
"แต่มึงโง่ไปพิงรถอันดาเอง ไม่ถูกกันแต่เสือกไปทำที่รถของอันดา ไม่แปลกที่เธอจะด่ามึง แล้วมึงสองคนดันเสือกใช้รถรุ่นเดียวกันยี่ห้อเดียวกันแถมสีเดียวกันด้วย"
"กูเล่าให้พวกมึงฟัง ไม่ได้หมายความว่าจะมาซ้ำเติมกู"
"รวยขนาดมึงไม่เปลี่ยนรถคันใหม่วะ พ่อมึงมีรถหลายคัน"
"ใครเปลี่ยนก่อนก็แพ้ดิวะ กูไม่มีทางเปลี่ยน คนที่ควรเปลี่ยนคือยัยอันดา"
เรนและต้นกล้ามองหน้ากันและส่ายหัว ปัญญาเรื่องรถไม่ได้พึ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เห็นทั้งสองคนกัดกันมานักต่อนัก และเคยเกิดการท้าว่าถ้าใครเปลี่ยนรถก่อนแสดงว่ายอมรับความพ่ายแพ้ ยอมอ่อนข้อให้ ทั้งสองคนไม่มีใครยอมเปลี่ยนรถทั้งที่ฐานะของทั้งคู่เป็นระดับมหาเศรษฐี
"กูไปร้านทำรายงาน และคงกลับบ้านเลย คืนนั้นกลับบ้านดึกแม่บ่นหูชา อีกอย่างแม่กูอยากเห็นใบเกรด ทวงเช้าทวงเย็น"
"ไปร้านทำรายงานแต่ไม่มีรูปเล่มรายงานไปเข้าเล่ม มึงกะจะทำแบบนี้ยันปีสุดท้ายเลยว่างั้น" ต้นกล้าแซวเพื่อน
"พูดมากชิบ ฝากเรียนแทนกูด้วย ไปละ" ชาวินท์โยนบุหรี่ในมือทิ้ง พร้อมกับยกมือลาเพื่อน
"มันฝากมึงเรียนนะ ไม่ได้ฝากกู" เรนไหวไหล่และหัวเราะออกมา
"แม่งฝากกูเรียนมาตั้งแต่ปีหนึ่ง"
"แต่กูว่าไอ้วินท์มันคงไม่ได้แค่ไปร้านทำรายงานอย่างเดียวแล้วล่ะ พรุ่งนี้เราคงได้รู้ว่าเด็ดไม่เด็ดจากปากมันแน่นอน เดินมาโน้นแล้ว" เรนส่งสายตาให้ต้นกล้าได้มองตาม รุ่นพี่สาวเดินนวยนาดมาหาชาวินท์ ดูทรงแล้วคงค้างคาไม่ต่างกัน
"จะออกไปข้างนอกเหรอ ป๊อปปี้ขอติดรถไปด้วยได้ไหม"
ชาวินท์ยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์ แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอกำลังจะสื่อถึงอะไร
"ถ้าเธอต้องการไปรอฉันที่โรงแรมxx ฉันต้องไปทำธุระก่อน ถ้ารอได้...เธอจะสมหวังปรารถนาตามที่เธอต้องการ"
หญิงสาวตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำพูดของรุ่นน้องหนุ่ม กลางหว่างขาเริ่มสั่นระริก
"ไปที่โรงแรมแล้วบอกว่าชื่อชาวินท์ แล้วเธอก็ไปรอฉัน หวังว่าตัวเธอจะหอมเมื่อฉันเข้าไป"
"แล้วป๊อปปี้จะรอ...มาเร็วๆนะ คราวนี้จะไม่มีตัวปัญหามาขัดจังหวะเราอีกแล้ว"
ชาวินท์พยักหน้าเล็กน้อยและเป็นฝ่ายเดินออกไปขึ้นรถตัวเองก่อน สุดท้ายผู้หญิงก็ต้องมาง้อและถวายร่างกายให้เขาอยู่ดี แค่อยู่เฉยๆผู้หญิงก็เดินมาหา
มือหนาเปิดลิ้นชักขนาดเล็กในรถ เห็นซองถุงยางสีดำเงาวับหลายซอง และยังมีกล่องที่ยังไม่ได้แกะอีกหลายกล่อง
"ของในสต็อกยังพร้อมใช้งานเสมอ"
——————
ชาวินท์มาที่ร้านประจำของตัวเอง เป็นร้านทำรายงาน ปริ้นเอกสาร นักศึกษาที่เรียนแถวนี้รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ช่วงที่ชาวินท์มาร้านค่อนข้างเงียบเพราะเป็นช่วงเวลาเรียน มีเพียงไม่กี่คนในร้านที่นั่งรอรับงาน บางคนมาทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ บางคนมานั่งรอเพื่อน
"ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ" น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นท่ามกลางนักศึกษาคนอื่นที่อยู่บริเวณนั้น สายตาคมมองไปยังเจ้าของร้าน และเดินเข้าไปด้านในร้านที่เป็นมุมลับสายตาคน ทำท่าทีจะเข้าห้องน้ำแต่ความจริงกลับเดินไปอีกทาง
มือหนาหยิบเงินในกระเป๋าแบรนด์หรูออกมา แบงก์สีเทาถูกนับให้ครบสิบใบ
เจ้าของร้านรู้งานตั้งแต่ชาวินท์ส่งสายตาให้ ไปหยิบเอกสารที่สั่งไว้มาให้ลูกค้าคนสนิทและกระเป๋าหนักคนนี้
ซองสีน้ำตาลถูกยื่นมาให้ชาวินท์
"เกรดปีสามเทอมหนึ่งพร้อมลายเซ็นและตราประทับของมหาวิทยาลัย เช็คดูก่อน"
ชาวินท์ตรวจเอกสารในมือและยกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ แบงก์เทาจำนวนสิบใบถูกยื่นไปให้เจ้าของร้าน
"หวังว่าจะคุ้มกับค่าเหนื่อย"
"ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ" เจ้าของร้านยิ้มและเก็บเงินเข้ากระเป๋า
"ถ้ามีอะไรให้ทำอีกขอแค่บอก รายงานส่งอาจารย์คนไหนบอกได้หมด ยินดีรับใช้ลูกค้าใจป๋าคนนี้เสมอ"
"หึ" ชาวินท์หัวเราะในลำคอเบาๆ ไม่ใช่แค่ใบเกรดแต่รายงานทุกเล่ม เอกสารทุกอย่าง เขาสั่งทำทั้งหมด
ไม่จำเป็นต้องมีสมอง แค่มีเงินทุกอย่างก็สบาย คนเก่งไม่จำเป็นต้องสอบได้ที่หนึ่ง
"ทิป เกรดปีสามเทอมสองเจอกัน"
"ก็ทำให้ทุกปี คงเจอยันปีสี่ แต่ปีสี่จะต้องขอเพิ่มหน่อยนะ เอกสารจบมันเยอะ"
"ไม่เกี่ยงราคา"
คิ้วหนายักขึ้นเล็กน้อยและเดินถือซองเอกสารที่หน้าซองเขียนว่ารูปเล่มรายงานเดินออกจากร้านประจำด้วยท่าทีอารมณ์ดี ใบหน้าคมคายเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความเจ้าเล่ห์
เจ้าของร้านเดินออกไปทำงานหน้าที่ของตัวเองตามเดิม แต่...
หญิงสาวร่างอรชรที่นั่งรองานถึงกับอมยิ้ม ดวงตากลมโตชำเลืองมองเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนแยกกันออกไปแล้วทำให้อันดาลุกออกมาจากมุมเสา ทำไมเสียงนั้นเธอจะจำไม่ได้ว่าคือใคร
อันดานั่งรองานเข้าเล่มอยู่ในร้านก่อนแล้ว และจังหวะที่ชาวินท์เดินเข้ามาเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่เธอจำเสียงหมอนั่นได้แม่น และได้ยินทุกคำที่ชาวินท์พูดกับเจ้าของร้าน
"นี่นะเหรอภาวะผู้นำ หึ...ต่างกับอาชาร์ลอย่างสิ้นเชิง อาชาร์ลอาลินทั้งเก่งและมีความสามารถ ไหงตัวนี้ออกมาผิดแผกไป"