เสียงรถมอเตอร์ไซด์แบบผู้หญิงจอดหน้าบ้านแต่เช้า ต้นไม้ ถอนหายใจน้อยๆก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้าน เสียงหวานทักทายพ่อของเค้าที่หน้าบ้านอย่างคุ้นเคย ต้นไม้โผล่หน้าออกไปยิ้มส่งยิ้มน้อยๆไป
"มาแต่เช้าเลยนิด" หญิงสาวชื่อนิด คนนี้เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนประถมในหมู่บ้านและยังเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเค้าอีกด้วย
"นิด แวะมาหาต้น ก็เลยซื้อขนมครก กับปาท่องโก๋มาฝาก"
ต้นไม้รับมาแล้วบอกขอบใจ เสียงแม่เดินออกมาดูแล้วรับไห้ว
"ครูนิด กินกาแฟกันก่อนสิ"
ผู้เป็นแม่ชวน ต้นไม้หันหลังกลับไปมองหน้าแม่ แล้วทำหน้างอนใส่ แม่จะชวนทำม้ายยย สีหน้าลูกชายบอกแบบนั้น ต้นไม้เดินเข้าบ้าน คุณครูสาวเดินตามมาติดๆ
"รอแปปนะนิด น้ำยังไม่เดือดเลย"
เสียงชายหนุ่มบอก ก่อนจะวางถุงขนมครกกับปาท่องโก๋ ลงบนโต้ะ แล้วเดินไปหยิบจานใบเล็กมาจัดของใส่ คุณครูเห็นจึงรีบลุกไปช่วยทันที
"นิดทำเอง ต้นไปนั่งเถอะ" เสียงเธอบอกเค้า ต้นไม้คิดในใจ นี่บ้านใครวะเนี่ย
กาแฟหอมกรุ่นวางบนโต๊ะไม้เงาวับกลางบ้าน เสียงทีวีดังเป็นระยะ ต้นไม้หยิบปาท่องโก๋ใส่ปากแล้วจิบกาแฟตาม
"อร่อยใช่ไหมต้น ถ้าต้นชอบ นิดซื้อมาทานด้วยทุกวันเลยนะ"
เธอบอกกับเค้าออกมา
"ไม่เป็นไรเลยนิด เราไม่ค่อยกินตอนเช้าเท่าไหร่ "
ต้นไม้ปฎิเสธอย่างเกรงใจ คุณครูสาวหน้าจืดลงนิดหน่อย ต้นไม้มองนาฬิกา
" นิดไปโรงเรียนกี่โมงหรอ "
เค้าถามออกมา คุณครูมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วยิ้มน้อยๆ
"เจ็ดโมงครึ่งแล้ว นิดไปละนะ" เธอบอกลาเค้า แล้วลาพ่อแม่เค้าอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไป
"เล่นตัวเสียจริงลูกชายบ้านนี้ จะให้เค้าตามอีกกี่ปีหนอ"
เสียงแม่ลอยเข้าหู ต้นไม้ยิ้มกว้าง
"นิดเป็นเพื่อน อีกห้าปีสิบปีนิดก็เป็นเพื่อน"
ลูกชายตอบแม่ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน
คุณกรุณามองดูคนงานกำลังคัดกุหลาบก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข อาการเจ็บหน้าอกแปลบๆกลับมาอีกแล้ว แม่บ้านคนสนิทสังเกตเห็นอาการจึงเข้ามาประคองนายหญิงให้เข้าไปนั่งพัก
"นายหญิงเจ็บหน้าอกอีกแล้วหรอคะ"
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย คุณกรุณาพยักหน้าน้อยๆ
"ไม่เป็นไรหรอก กินยาไปแล้วเดี๋ยวก็ดี" นางบอกคนสนิทพร้อมปลอบใจตัวเองไปด้วย
" คุณป้าคะ สบายดีหรือเปล่าคะ พวกเราสามคนสบายดีค่ะ "
เสียงสดใสของผ้าแพร ทำให้คนป่วยสดชื่นขึ้นมาก แล้วแม่ตัวดีก็เล่าเรื่องความเก่งกาจของตัวเอง ที่ขายโน่น ขายนี่ได้ดีทุกสัปดาห์ แถมท้ายยังอวดน้องชายของตัวเองอีกด้วย
"ราเมศเป็นตำรวจแล้วนะคะ ส่วนรามิล กำลังจะเรียนจบแล้ว แพรเลี้ยงน้องเก่งใช่ไหมคะ"
คนเล่ายังย้อนถาม เพื่อขอคำชม คุณกรุณา หัวเราะออกมาน้อยๆ
"เก่งมาก แม่ผ้าแพร เก่งที่สุด" คุณกรุณาตอบกลับไป
คราแรกที่เห็นผ้าแพร เด็กหญิงตัวเล็กที่เพื่อนสนิทของนางรับมาอุปการะ นางเองก็นึกถึงลูกผู้รากมากดีมีสกุล เพราะหน้าตาดี ผิวพรรณดี แถมยังน้ำใจดีเหลือเกิน ความเจียมเนื้อเจียมตัว มีมาให้เห็นตั้งแต่เล็กยังไง โตมาก็ยังเป็นอย่างนั้น
ขณะที่เมตตาตายไปแล้ว นางเองก็ยังได้ส่งเสียเด็กๆทั้งสามอยู่บ้างเป็นประจำทุกเดือน แม้จะไม่ถึงขั้นมากมาย
แต่ก็มากพอให้ทั้งสามไปมีเงินไปโรงเรียน ด้วยตัวนางเองป่วยมาแต่ยังสาว ดีที่มีสวนกุหลาบแห่งนี้เป็นอาชีพของพ่อแม่ที่พอได้ทำกินหาเงินเอาไว้เลี้ยงตัวเอง แม้ใครจะบ่นว่า ว่าทำไมไม่ขายที่ไป แล้วนำเงินมาใช้จ่ายตัวคนเดียวบั้นปลายชีวิต แต่ลูกน้องกว่าสิบครอบครัวที่อาศัยกันมาจะเป็นยังไง นางกรุณาได้แต่คิดคนเดียวในใจ
ต้นไม้ลงมือทำงานที่ศูนย์เกษตรอย่างตั้งใจ น้ำหมักชีวภาพที่หมักไว้จะได้ที่แล้ว เค้าจัดการล้างขวดเตรียมเอาไว้อย่างสะอาด เพื่อจะนำมาแบ่งบรรจุน้ำหมักเพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านแถวนี้ มือที่ล้างขวดน้ำอยู่ชะงักนิดหน่อยเมื่อมีมืออีกมือ มาจับมือเค้าเอาไว้
"พักดูดนม เอ้ย ดูดน้ำสักนิดเถอะพี่ต้น ฟ้าใสเอามาส่งถึงที่แล้ว"
หญิงสาวตรงหน้าสวมเสื้อกล้ามตัวเล็ก กับกางเกงขาสั้นตัวสั้นมาก มาหาถึงที่ ก่อนจะส่งถุงน้ำในมือให้อย่างเอาใจ