เจ้าขาแอบเหลือบมองบอดี้การ์ดทั้งสอง เขาก็มีสีหน้าพิพักพิพ่วนเช่นกัน ดูออกว่าพยายามกลั้นขำกันสุดฤทธิ์ ยกเว้นธนภพคนเดียวที่มีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยน
“ ก็พี่ไตรไม่ได้กลับมานอนห้องนั้นตั้งนานแล้ว ก่อนจะมาก็ไม่บอก จะได้ให้คนไปทำความสะอาดทุกกระเบียดนิ้ว ยังไงผมก็ต้องขอโทษพี่ไตรด้วยนะครับ เดี๋ยวจะสั่งแม่บ้าน เข้าไปดูแลให้ทันทีเลยนะครับ ”
“ แล้วทำไมถึงรับเลขาใหม่ คนเก่าไปไหน ”
“ จะลาคลอดครับ ”
“ อะไรนะ รินาท้องเหรอ ” ไตรถามอย่างแปลกใจ อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
“ ครับ ”
“ กับใคร ”
“ ก็กับแฟนเขาสิครับ ”
ไตรจ้องมองญาติผู้น้องอย่างแปลกใจ ทว่าอีกฝ่ายรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“ เห็นคุณแม่บอกว่าคุณปู่จะมา แล้วทำไมกลายเป็น พี่ไตรแทน เกิดอะไรขึ้น มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ ”
“ มี คุณปู่สั่งให้ฉันมาทำงาน ”
“ งานอะไร ”
“ มารักษาการตำแหน่งท่านประธานบริษัทแทนแม่ ของแกไง ” อีกฝ่ายเบิกตากว้าง
“ อะไรนะ คุณแม่ก็แค่ถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง ทำไมต้องให้พี่ไตรมาแทน ผมเองก็อยู่ทั้งคน ทำไมไม่เป็นผม ”
“ อันนี้แกก็ต้องไปถามคุณปู่เองนะภพ ถ้าไม่พอใจอะไรก็ร้องเรียนหรือแย้งท่านดูได้ ฉันก็แค่ทำตามคำสั่ง ”
“ คงไม่หรอกครับ ผมมันหลานชัง ไม่ใช่หลานรักเหมือนคนอื่น ” ธนภพว่าด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่ก็ดึงสติให้กลับมาได้ในที่สุด
“ เอ่อ... ผมแค่รู้สึกว่าคุณปู่น่าจะแจ้งกันบ้างน่ะครับ เปลี่ยนแปลงปุบปับเกินไป ”
“ คุณปู่คงจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร โดยที่ไม่ต้องมีใครไปสอน ลืมไปแล้วเหรอว่าท่านเป็นคนก่อตั้งบริษัทที่เริ่มจากศูนย์จนมาถึงทุกวันนี้ ”
“ ครับ ผมจำได้ดีไม่มีวันลืม ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว นะครับ พี่ไตรจะได้พักผ่อน ”
“ เชิญ ”
แต่แล้วธนภพก็นึกขึ้นมาได้ถึงอีกเรื่อง
“ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณแม่ยังไม่มาทำงาน ผมขอให้เจ้าขามาทำงานกับผมไปก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะโยกย้ายเลขาส่วนตัวของผมที่เป็นงานมากกว่าให้ไปดูแลพี่ไตรนะครับ ” อีกฝ่ายเลิกคิ้ว
“ ทำไมต้องทำแบบนั้น ”
“ ก็น้องเจ้าขาพึ่งมาเริ่มงานสัปดาห์แรก ยังไม่รู้อะไรเลย เกรงว่าจะทำให้พี่ไตร... ”
“ พี่จะเอาคนนี้ ” ไตรพูดขัดขึ้นทั้งที่ธนภพยังพูดไม่จบ
“ อะไรนะครับ ”
“ พี่จะเอาผู้หญิงคนนี้เป็นเลขา ไม่เอาคนอื่น ” คราวนี้เป็นเจ้าขาที่หน้าถอดสีบ้าง เพราะเธอลองใคร่ครวญดูแล้ว หากได้ทำงานร่วมกับคนอย่างไตร เขาต้องหาทางเอาคืนเธอเรื่องที่บังอาจไปบีบไข่เขาเป็นแน่
แล้วคนโรคจิตหื่นกามอย่างเขาเสียด้วย เธอไม่ไหว จะเสี่ยงหรอก !
“ แต่ฉันเกรงว่า... ”
“ บริษัทของเรารับคนที่มีความสามารถ พร้อมลุย มีความกล้าหาญ ถ้าขี้ขลาดตาขาวจนไม่มีปัญญาจะทำมัน ก็ลาออกไปซะ ภพ จัดการเงินเดือนล่วงหน้าสามเดือนให้เด็กของแกด้วย เพราะเขากลัวที่จะต้องมาทำงานกับ ท่านประธานบริษัทอย่างฉัน ” อีกฝ่ายเชิดหน้าทันทีตามนิสัยที่ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก ไม่ยอมให้ใครมาสบประสาท
“ ฉันไม่เคยขี้ขลาดตาขาว และไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าสามเดือนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉัน นางสาวเจ้าขา จะมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขานุการของท่านประธานบริษัท ในวันจันทร์ตามปกติ ” อีกฝ่ายยกยิ้มที่มุมปาก
“ ดี กล้าแบบนี้ให้ตลอดนะ ”
เขาว่าพร้อมส่งสายตาบางอย่างอันเป็นประกาย แรงกล้าจนเธอร้อนวูบเมื่อได้สบสายตาคู่นั้น มันเป็นสายตาแห่งการประกาศศึก ผสมผสานไปกับความเจ้าเล่ห์แสนกลอะไรบางอย่าง ก่อนที่ธนภพจะพาเธอออกมาจากที่นั่นทันที
เช้าวันจันทร์
เจ้าขาก้าวเท้าเข้าบริษัทด้วยความหวาดหวั่นพอควร แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกสบายใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยคุ้มครองเธอจากท่านประธานผู้ร้ายกาจได้บ้าง เพราะเธอไปทำสังฆทานและถวายเพลพระแล้วในวันอาทิตย์ และหลวงพ่อท่านก็ให้สายสิญจน์พร้อมพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ มาให้ คุณป้าท่านให้คนเอาไปใส่กรอบไว้
เจ้าขาไม่ได้เล่าถึงปัญหาให้คุณป้าฟังเพราะกลัวท่านจะไม่สบายใจ เธอต้องแข็งแกร่ง เธอจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เขาก็แค่มารักษาการเพียงสิบสี่วัน เดี๋ยวคุณแม่ของธนภพ ก็กลับมา
ไม่แน่นะ วันนี้เขาอาจจะยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลก็เป็นได้
ดี เป็นหนัก ๆ มาไม่ได้เลยยิ่งดี เจ้าขาแอบแช่งเขาอยู่ในใจ ทั้งที่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าหากเขาเป็นอะไรไปมากถึงขั้นหมดสมรรถภาพทางเพศหรืออะไรพรรค์นั้น เธอคงโดนฟ้องร้องไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลัก แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่ายกันล่ะ ลำพังสมบัติคุณป้าก็แค่พออยู่พอกินกันอย่างสบาย ใช่จะมีเงินถุงเงินถังมีสมบัติเป็นสิบล้านร้อยล้านเสียที่ไหน
แต่สวรรค์ก็ไม่ได้เข้าข้างคนดีเสมอ เพราะทันทีที่ เจ้าขาถึงห้องทำงาน เสียงโทรศัพท์สำนักงานบนโต๊ะก็ดังขึ้นทันที เธอเห็นหมายเลขที่แสดงบนหน้าจอเครื่องก็รีบรับสาย เพราะมันคือหมายเลขห้องท่านประธาน
“ สวัสดีค่ะ ”
“ เข้ามาในห้องผมด่วน ”
แล้วก็วางสายไปเลย หัวใจดวงน้อยเต้นตึ้กตั้ก
เขามาแล้ว อีตาท่านประธานไตรมาแล้ว !
เธอตวัดข้อมือขึ้นดูนาฬิกาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มาทำงานสาย พึ่งจะเจ็ดโมงสี่สิบ เวลาเข้างานแปดโมงเลทได้ ไม่เกินแปดโมงครึ่ง เธอไม่ได้มาสาย ไม่มีความผิดแต่อย่างใด
มองไปที่โต๊ะข้าง ๆ ศรินาคงยังมาไม่ถึง หญิงสาว สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจก่อนจะเดินไปยังประตูบานใหญ่ที่เปลี่ยนป้ายชื่อผู้บริหารเรียบร้อยแล้ว
ไตร มาเตียเรซ อัครมหาทรัพย์
ประธานบริษัท
ชื่อกลางของเขายืนยันในสิ่งที่เธอคิดจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นได้ว่าคงไม่ใช่เชื้อสายไทยร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่แค่มารักษาการแทนแค่นี้ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนป้ายชื่อเลยนี่นา