บทที่ 1 หนีตาย

1666 คำ
“ช่วยขับรถช้า ๆ กว่านี้หน่อยได้ไหม ขับรถเร็วฉันเวียนหัว” ฉันตะโกนพูดบอกกับลูกน้องของคุณป๋าทั้งสามคนที่อยู่ภายในรถคันเดียวกัน มือข้างหนึ่งก็ลูบท้องป่อง ๆ ไปพลาง ตอนนี้ฉันทั้งกังวลทั้งเครียดจนแทบจะอาเจียนอยู่แล้ว คุณป๋า เป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี เขาคือชายคนรักที่พ่วงตำแหน่งพ่อของลูกฉันเอง ตอนนี้เรายังไม่แต่งงานกัน แต่ก็มีแพลนจะแต่งเร็ว ๆ นี้ “ไม่ได้ครับ นายกำชับให้พวกผมพาคุณน้ำผึ้งกลับให้ถึงเพนท์เฮาส์อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด” “ขับรถเร็วขนาดนี้คิดว่ามันจะปลอดภัยหรือไง” ฉันพูดกับพวกเขาอย่างหงุดหงิด เพราะบ่นให้ตายยังไงพวกเขาก็เชื่อฟังคำสั่งของคุณป๋ามากกว่าคำสั่งของฉันอยู่ดี คุณป๋าก็เหมือนกัน เขาไม่เคยฟังอะไรฉันเลย ฉันทั้งขอร้องทั้งอ้อนวอนให้เขากลับเพนท์เฮาส์ด้วยกัน แต่เขาก็เลือกที่จะตามไล่ล่าคนที่ทำให้รถเสียหลักไหลถลาลงข้างทางที่ป่ารกทึบ รถเกิดปัญหา โทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ ทำให้ต้องติดอยู่ในป่าเมื่อคืน โชคดีที่เจแปนพาลูกน้องออกตามหาจนเจอตั้งแต่เช้ามืด คุณป๋าเลยให้ฉันล่วงหน้ากลับเพนท์เฮาส์ไปก่อน ฉันถึงได้นั่งเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ในรถที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็ว เอี๊ยดดดดด! อยู่ ๆ รถก็เกิดเบรกกะทันหัน ก่อนจะมีรถยนต์คันหนึ่งขับมาขวางทางถนนเบื้องหน้า ในยามที่จะขับรถถอยหลังก็มีรถยนต์อีกคันมาดักขวางทางข้างหลังเอาไว้ ฉันเริ่มใจคอไม่ดีในตอนที่เห็นลูกน้องของคุณป๋าเตรียมอาวุธครบมือ “คุณน้ำผึ้งหลบครับ” ชายฉกรรจ์ที่นั่งอยู่ข้างฉันตะโกนบอกแล้วจับตัวฉันให้หมอบลงต่ำ ก่อนเสียงปืนจะดังกระหึ่มในเสี้ยววินาทีต่อมา ปัง! ปัง! ปัง! เสียงมันดังแสบแก้วหูมาก ฉันทำได้แค่ส่งเสียงร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ มือข้างหนึ่งก็ลูบปลอบขวัญลูกรักในท้อง มันคงเป็นสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่ในยามคับขันหรือมีอันตรายฉันกลับห่วงความปลอดภัยของลูกน้อยมากที่สุด “โทรบอกนายว่าเกิดเรื่องกับพวกเรา พวกมันมากันหลายคนเราสามคนดูแลความปลอดภัยให้คุณน้ำผึ้งไม่ไหว” “นายไม่รับสายเลย โทรหาไอ้เจแปนก็ไม่ติด” ฉันได้ยินเสียงลูกน้องของคุณป๋าคุยกันอู้อี้อยู่ข้างหู ก่อนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง เพล้ง! เหมือนรถที่ฉันนั่งอยู่จะถูกคนร้ายทุบกระจกจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปดูเล็กน้อย “ออกมา” ปัง! ปัง! เสียงของคนข้างนอกพูดก่อนที่ลูกน้องคนหนึ่งของคุณป๋าจะปลิดชีพเขาด้วยอาวุธปืนกระบอกสั้น ฉันทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวที่เห็นคนถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา “ยิงเขาทำไม” “ถ้าเราไม่ยิงมัน มันก็ยิงเรา คุณน้ำผึ้งหลบอยู่ตรงนี้นะครับ” หลังจากที่คนของคุณป๋าพูดบอกกับฉันจบ พวกเขาทั้งสามก็เปิดประตูรถออกพร้อมกับเสียงปืนที่ดังกระหน่ำรัว ๆ จนฉันหวาดกลัวไปหมด ฉันเงยหน้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเห็นว่าลูกน้องของคุณป๋าถูกอีกฝ่ายยิงตายทีละคน ๆ ฝั่งตรงข้ามเองก็ถูกคนของคนป๋ายิงตายไปหลายคนเหมือนกัน ตอนนี้ฉันเหลืออยู่ตัวคนเดียวแล้ว ฉันไม่รอดแน่ ๆ “ลงมา!” เสียงตะโกนของใครบางคนจากด้านนอกทำให้ฉันหวาดกลัวจนตัวสั่นไปหมด ก่อนจะมีคนมาดึงกระชากฉันลงไปจากรถ “ปล่อยฉันนะ ปล่อย...อ๊ะส์” “หุบปาก!” เสียงร้องของฉันถูกกลืนลงไปในลำคอทันทีที่โดนตบที่ซีกแก้มอย่างแรง ตอนนี้พวกมันเหลือกันอยู่แค่สามคน คนหนึ่งตบหน้าฉันอีกสองคนก็จับตรึงแขนของฉันทั้งสองข้างไว้อย่างแน่นหนา แม้จะรู้สึกเจ็บจนหน้าชาแต่ฉันก็ยังใจดีสู้เสือ “พะ...พวกแกต้องการอะไร ต้องการเงินใช่ไหม ในรถมีเงินสดอยู่ พวกแกอยากได้อะไรก็เอาไปเลย...อั๊ก!!” ครั้งนี้ฉันโดนพวกมันชกที่ท้องหนัก ๆ ไปหนึ่งที มันทั้งเจ็บและจุกมาก ฉันได้แต่กังวลว่าตัวเล็กที่อยู่ในนั้นเขาจะเป็นยังไงบ้าง ในยามที่ก้มลงต่ำ ฉันเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหว่างขาไม่ขาดสาย หัวใจดวงนี้มันรับรู้ได้ทันทีว่าตัวเล็กต้องเจ็บมากแน่ ๆ น้ำตาใส ๆ มันไหลอาบสองแก้มเพราะนึกสงสารลูกน้อยเหลือเกิน “สารเลว!” ฉันตะโกนด่าทอคนทั้งสามที่ทำให้ลูกน้อยของฉันเจ็บพร้อมรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีเหวี่ยงสองแขนให้หลุดพ้นจากพันธนาการที่แน่นหนาจนสำเร็จ ฉันออกแรงผลักชายฉกรรจ์ที่ตบหน้าของฉันให้ออกห่างจากตัว ก่อนจะวิ่งไปเก็บอาวุธปืนจากคนที่ถูกยิงตายอยู่เกลื่อนถนนก่อนหน้านี้ ฉันใช้มันไม่เป็นหรอก แต่ฉันถือมันไว้เพื่อข่มขู่ชายท**นทั้งสามคน ทั้งที่กลัวจนตัวสั่นแต่ฉันก็จะสู้เพื่อปกป้องลูก “อย่าเข้ามานะ ฉันบอกว่าอย่าเข้ามาไง ไม่อย่างนั้นฉันยิงจริง ๆ ด้วย” “ใจเย็นสิคนสวยวางปืนลงก่อน” พวกเขาทำทีเกลี้ยกล่อม แต่ฉันไม่เชื่อใจคนสารเลวอย่างพวกมันหรอก ถ้าฉันใช้ปืนเป็นฉันยิงพวกมันหัวกระจุยไปนานแล้ว โทษฐานที่ทำให้ลูกของฉันเจ็บ ฉันก้าวขาถอยหลังทีละก้าวโดยที่สองมือสั่นเทายังประคับประคองปืนเพื่อข่มขู่พวกมันอยู่ หมับ! อ๊ะส์... อยู่ ๆ ก็มีมือของคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงฉุดรั้งข้อเท้าของฉันจนเสียหลักล้มลงไปกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนใช้จังหวะนั้นวิ่งกรูเข้ามาหาฉัน ฉันจึงข่มตาหลับแล้วเหนี่ยวไกปืนออกไปมั่ว ๆ หากกระสุนปืนก็ลั่นออกมาหลายนัด ทำให้คนที่กรูเข้ามาถูกฉันกระหน่ำยิงจนตายคาที่ ฉันส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น เพราะทั้งเจ็บท้องทั้งตกใจกลัวเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดก็ไหลออกมาจากหว่างขาอย่างต่อเนื่อง ยังเหลือพวกมันอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ตาย มันได้รับบาดเจ็บจากการโดนลูกหลงเท่านั้น ฉันจึงรีบพยุงเรี่ยวแรงอันน้อยนิดลุกขึ้นวิ่งทั้งที่ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ฉันเร่งฝีเท้าวิ่งไปยังรถยนต์ของพวกมันที่จอดขวางอยู่เบื้องหน้า โชคดีที่มีกุญแจรถเสียบคาไว้อยู่ ฉันจึงฉวยโอกาสขับรถคันนั้นเพื่อหนีเอาตัวรอด พวกมันที่เหลืออยู่คนหนึ่งก็วิ่งไล่ยิงล้อรถยนต์จนยางแตก ส่งผลให้รถที่ฉันขับอยู่วิ่งต่อไปไม่ได้ แต่กว่ารถจะจอดสนิทฉันก็อยู่ไกลจากชายคนนั้นมากพอสมควร ฉันจึงตัดสินใจลงจากรถเพื่อวิ่งไปที่ถนนใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก “ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย!” ฉันวิ่งไปร้องขอความช่วยเหลือไปเหลียวหลังมองคนที่วิ่งตามฉันไป “ฮือ ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย” อีกไม่กี่สิบเก้าก็จะถึงถนนใหญ่แล้ว หวังว่าจะเจอรถที่ผ่านไปผ่านมาและได้รับความช่วยเหลือ ฉันเหลียวหลังมองคนที่วิ่งตามมาอย่างหวาดระแวง เขาวิ่งเร็วจนฉันตกใจ อีกหน่อยเขาคงตามมาถึงตัวฉันแน่ ๆ “ช่วยด้วย...” ฉันหันไปตะโกนขอความช่วยเหลืออีกครั้งด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ก่อนจะมีเสียงแตรรถดังเรียกสติฉันที่วิ่งหมดเรี่ยวแรงอยู่กลางถนน ทันทีที่ฉันหันหน้าไปมองต้นทางของเสียง รถคันนั้นก็พุ่งทะยานเข้าใส่ตัวฉันด้วยความเร็วและแรงมาก ส่งผลให้ร่างกายของฉันลอยกระแทกเข้ากับกระโปรงหน้ารถและตกลงมากระแทกกับพื้นถนนลาดยางอย่างแรง เอี๊ยดดดดดด รถคันนั้นรีบเหยียบเบรกทันทีที่รู้ว่าขับรถชนคน ฉันก็ได้แต่หวังว่าเขาจะใจดีลงมาช่วยเหลือฉัน “ไอ้เหี้ยแม่งขับรถชนคน ตายหรือเปล่าว่ะนั่น” “คนท้องด้วยไม่น่ารอดหรอก เรารีบหนีกันเถอะ” ตอนนี้ร่างกายของฉันเป็นอัมพาตไปแล้ว ฉันขยับตัวไม่ได้เลย ได้ยินเสียงของคนคุยกันและตอนนี้พวกเขาก็ขับรถหนีไปแล้วด้วย กลิ่นคาวเลือดที่โชยคละคลุ้งมันบีบหัวใจของฉันให้เจ็บปวดทรมานเหมือนจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น แม้แต่จะเปล่งเสียงพูดเบา ๆ ออกมาฉันยังทำไม่ได้เลย ทำได้เพียงแค่ปล่อยหยดน้ำใส ๆ ไหลออกข้างตาทั้งสองข้าง ฉันอยากจะยกมือขึ้นไปลูบปลอบลูกน้อยในท้องแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลย แม่ขอโทษที่ปกป้องหนูจากอันตรายไม่ได้ แม่ขอโทษที่ปล่อยให้หนูเจ็บ หนูอย่าเป็นอะไรนะ อีกหน่อยคนที่วิ่งไล่ตามฉันเขาก็ต้องมาฆ่าฉันซ้ำ ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนรอความตายเท่านั้น ทุกอย่างรอบตัวมันพร่ามัวและค่อย ๆ มืดสนิทลงทุกที ๆ จนในที่สุดดวงตาทั้งสองข้างที่เปื้อนด้วยคราบน้ำตาก็ปิดลงจนสนิท . . . . . ตอนแรกมาแล้ว เอาใจช่วยหนูน้ำผึ้งด้วยนะค๊าบ คอมเมนต์พูดคุยกันน๊า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม