4.1 บอร์ดี้การ์ด

2058 คำ
ตอนที่ 4 : บอร์ดี้การ์ด สองสัปดาห์ต่อมา ฉันเดินออกจากห้องเรียนพร้อมกับเสียงถอนหายใจที่ดังตามมาเป็นขบวนเพราะวันนี้คุณครูดันใจดี มีสอบเก็บคะแนนแบบเซอร์ไพรส์จนนักเรียนทุกคนต่างตกใจหน้าซีดกับถ้วนหน้า ส่วนสาเหตุที่ทำให้ฉันถอนหายใจไม่ใช่เพราะสอบเก็บคะแนนมันยากอะไรหรอก แต่เป็นเรื่องน่าปวดหัวที่ฉันเจอตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ชวนให้เครียดและหดหู่ ก็พี่คิมน่ะสิ พอได้โอกาสทีไรก็จะตามติดฉันไม่ยอมห่างจนชาวบ้านชาวช่องเขาเข้าใจผิดกันไปใหญ่โต หาว่าพี่คิมกำลังตามจีบฉันอยู่! แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ฉันเครียดได้เท่ากับการที่พี่คิมยอมรับหน้าด้านๆ ต่อหน้าคนอื่นว่าใช่! ส่วนเหตุผลนั้นก็อ้างว่ามันเป็นวิธีที่จะกันฉันให้ออกห่างจากผู้ชายคนอื่น ทำตัวเหมือนไม้กันหมาโดยไม่สนใจความเห็นชอบจากฉันเลยสักนิดเดียว โว้ย!! ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม! กลุ้มจนเบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงไปสองกิโลฯ แล้วเนี่ย กว่าจะรู้ตัวอีกครั้ง ฉันก็กลับถึงหอพักด้วยสีหน้าอิดโรย “เอ่อ...อันเป็นอะไรหรือเปล่า ^^;;” โดนัท เพื่อนที่ร่างเล็กพอๆ กับฉันถามขณะที่หล่อนกำลังรวบเก็บปากกาเข้ากล่องดินสอ อ้อ! ลืมบอกไป โดนัทถือว่าเป็นรูมเมด ห้องพักเดียวกับฉันน่ะ “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” ปากบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่สีหน้าไม่สบอารมณ์ของฉันก็ยังฉายชัดอยู่ดี “งะ...งั้นเหรอ ^^;;;;” โดนัทรีบจัดการหวีผมสีดำขลับของตนเอง มัดมันเป็นเปียสองข้างพร้อมกับกวาดเอากองสมุดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหนังสือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย “ฉันไปก่อนนะอัณ พอดีวันนี้มีนัดกับทางคลับถักนิตติ้งน่ะ” “ที่อริสราห้อง 1 เป็นหัวหน้าคลับน่ะเหรอ” ฉันเลิกคิ้วถามอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปยังมุมห้องเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา “อื้ม! เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทของโมที่อยู่ในคลับเธอด้วยนี่นา” “อ๋อ ฉันพอจะคุ้นหน้าอยู่บ้างแหละ” ฉันตอบพลางคิดถึงโมกับทิวที่ชอบจู๋จี๋กันในห้องซ้อมเป็นประจำ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาทั้งสองคนเสียงานนะ แถมยังแสดงออกมาได้ดีอีกต่างหาก ดีจนฉันอยากพวกเขาควรจะรับบทเป็นพระเอก-นางเอกเรื่องราพันเซลแทนฉันกับพี่คิม แต่ถ้าฉันดื้อด้านไม่ยอมขึ้นแสดง พี่กุ้งก็มีสิทธิ์ขาดในการรายงานชื่อฉันไปว่าไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมคลับ และมันก็จะส่งผลต่อเกรดของฉันน่ะสิ “ฉันไปแล้วนะ บาย” “อืม บาย” ฉันโบกมือลาโดนัทที่เรียนอยู่ห้อง 4 ต่างกับฉันที่เรียนอยู่ห้อง 3 พอได้คิดเรื่องคลับนักแสดงก็ทำให้ฉันลืมเรื่องที่น่าปวดหัวเรื่องแรก เดินไปหยิบวิกผมสีทองยาวที่ฟาดอยู่ข้างเคียงซึ่งต้องใช้มันเป็นประจำเวลาซ้อมการแสดงขึ้นมามอง “เฮ้อ อีกไม่นานก็จะถึงวันขึ้นแสดงแล้วนี่นา” “กรี๊ดดด!! นั่นอัณนี่นา” “นางฟ้าอัณน่ะเหรอ!” “นางฟ้าอะไร อัณคือราชินีต่างหาก ทั้งเท่ทั้งสวย เลอค่าสุดในสามโลก!” “นางฟ้ามันสูงกว่าราชินีนะยะ!” “แต่ราชินีเลิศกว่าย่ะ!” พวกสาวแท้สาวเทียมที่ยืนโต้เถียงกันไปมาชวนให้รู้สึกเวียนหัว พอเดินผ่านห้อง ม.4/4 พวกสาวๆ ในห้องนั้นก็ร้องกรี๊ดกร๊าดกันขึ้นมาอีก จนฉันต้องหันไปมองด้วยสายตาเป็นคำถามว่า ‘จริงๆ แล้วพวกเธอเกลียดฉันมากกว่าชอบใช่มั้ย? กรี๊ดจนแก้วหูฉันจะแตกอยู่แล้ว’ แต่ดูเหมือนแววตาหาเรื่องกับสีหน้าเนือยๆ ของฉันจะถูกใจพวกหล่อนมากกว่าเดิม “กรี๊ดดด!!! อัณสบตาฉันด้วย!!” เสียงกรี๊ด 800 เดซิเบลยังคงทำลายประสาทหูของฉันต่อไป ‘Cause I don’t care e-e-e-e-e I don’t….’ เสียงเรียกเข้าทำให้ฉันละความสนใจจากความวุ่นวายรอบตัว พอเห็นชื่อของปลายสายก็กดรับ ‘อัณ! เธอปลอดภัยดีใช่ไหม!’ “หือ? อะไรน่ะพี่เอ็น ทำไมถึงทำเสียงแบบนั้น” ฉันถามอย่างงงๆ น้ำเสียงกังวลของเขาทำให้ฉันลุกขึ้นเดินออกจากห้องเรียนโดยไม่แคร์สายตาของคุณครูที่เขม่นมองตามมาเลยแม้แต่น้อย ‘เฮ้อ! แสดงว่าเธอปลอดภัยดีสินะ...’ ฉันทิ้งตัวนั่งลงตรงระเบียง “อธิบายมาเดี๋ยวนี้” ‘คือ...พี่เพิ่งจะได้รับข่าวมาเมื่อกี้นี้เองว่า พวกแก๊งเล็กแก๊งน้อยมันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว และเป้าหมายของพวกมันก็คือน้องสาวสุดที่รักของพี่!’ “พี่อย่าพูดเป็นเล่นหน่อยเลยน่า” ฉันกล่าวเสียงเรียบ ทั้งที่ความจริงพอได้ฟังแบบนี้แล้วก็ค่อนข้างเครียดอยู่เหมือนกัน แสดงว่าคำพูดของคอนโทรลที่เคยบอก มันเป็นเรื่องจริงสินะ ฉันกำลังถูกหมายหัวอยู่! ‘อัณ ฟังนะ! พี่ไม่ได้ล้อเล่น ไม่ได้การล่ะ พี่จะส่งคนไปดูแลเธอเป็นพิเศษ ไม่สิ หรือเธอจะลาออกกลับมาอยู่ที่บ้าน...’ “เรื่องนั้นพี่ก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่จำเป็น ฉันดูแลตัวเองได้” จะให้ลาออกจากโรงเรียนกลับไปอยู่บ้าน? นี่พี่เอ็นเห็นอนาคตของฉันเป็นเรื่องล้อเล่นเหรอ! ‘ไม่รู้ล่ะ! พี่ต้องรับผิดชอบที่ดึงเธอมาพัวพันกับเรื่องนี้ เอาไว้พี่จะจัดการเอง’ โห! เพิ่งจะรู้หรือไงว่าดึงฉันมาลำบากด้วย แบบว่า...รู้ตัวช้าไปหน่อยไหมพี่ “แต่...” ‘ไม่ต้องห่วงนะอัณ! เชื่อใจพี่ได้เลย!’ ตู๊ดๆๆๆ ตู๊ดๆๆๆ ดีมาก พี่ชายของฉันตัดสายไปโดยไม่คิดจะฟังเสียงทักท้วงของฉันแม้แต่น้อย “อัณชริกา! รู้หรือเปล่าว่าการคุยโทรศัพท์ในห้องมันเป็นเรื่องผิดระเบียบ!” เสียงตระหวาดของคุณครูมหาประลัยทำให้ฉันเก็บโทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงแบบเซ็งๆ จริงๆ เซ็งพี่เอ็นน่ะ ไม่ได้เซ็งคุณครูเลย “มันเป็นเรื่องด่วนค่ะ” ฉันตอบเรียบๆ “ต๊าย! นี่เธอกล้ายอกย้อนฉันเหรอ!!” “เปล่าค่ะ หนูไม่ได้ย้อนค่ะ เพียงแต่ชี้แจงให้ฟังเฉยๆ ว่าหนูรับโทรศัพท์เพราะมีเรื่องด่วนเกี่ยวกับครอบครัว หรือคุณครูเห็นสมควรว่าหนูควรถูกทำโทษโดยไม่มีโอกาสได้อธิบาย?” “OoO” ทุกคนในห้องต่างก็มองฉันกับคุณครูที่ยืนตะโกนคุยกับฉันจากหน้าห้องสลับกันไปมาราวกับกำลังดูละครสด ซึ่งทุกคนก็ทำหน้าที่เป็นผู้ชมที่ดีโดยการ...ทำตัวให้เหมือนกับลมที่ไร้ชีวิตจิตใจมากที่สุด นี่แหละ คือวิถีของห้อง 3 “กรี๊ด! เถียงคำไม่ตกฟาด ไม่ไหวแล้ว! อัณชริกา ฉันขอสั่งให้เธอออกไปยืนนอกห้องจนกว่าจะหมดคาบเรียนเดี๋ยวนี้เลย!” “ยืนก็ยืนสิ ไม่เห็นต้องตะโกนเสียงดังเลยนี่นา” “ห๊ะ!” คุณครูปากแดงถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อฉันยอมรับการลงโทษง่ายๆ โดยไม่รู้เลยว่าฉันเองก็อยากหาเรื่องโดดเรียนวิชานี้มาตั้งแต่แรก ทำไงได้ ก็ฉันเกลียดวิชานี้นี่นา “หือ” ทุกคนในห้องถึงกับอึ้งไปตามๆ กันเพราะไม่คิดว่าเรื่องจะจบง่ายๆ แบบนี้ หึ คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าพวกเธอเองก็อยากให้มีเรื่องเพราะไม่อยากเรียนวิชานี้เหมือนกัน! แต่เสียใจด้วย งานนี้ฉันขอหนีเอาตัวรอดคนเดียวแบบสวยๆ ไปก่อนก็แล้วกัน วันนี้อากาศค่อนข้างดีถึงแม้ว่าจะเป็นต้นฤดูฝนที่อากาศจะชอบอบอ้าวอยู่บ่อยๆ แต่วันนี้มีลมพัดโชยชวนให้เย็นสบาย ช่วยฟื้นฟูใจที่เหนื่อยล้าได้ดีทีเดียว ฉันนั่งๆ นอนๆ ตลอดทั้งวันจนถึงเวลาเลิกเรียน ตอนแรกตั้งใจว่าถ้าเลิกเรียนเมื่อไหร่จะโทรฯ หาพี่อินเพื่อฟังอธิบายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากห้องเรียน เสียงของเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งก็เรียกขึ้นมา “อัณ ช่วยไปส่งเอกสารพวกนี้ให้ครูสมใจที่ชั้นสามหน่อยได้ไหม” กิ๊บถามฉันด้วยท่าทีหวั่นเกรงนิดๆ และนั่นก็ทำให้ฉันขมวดคิ้วเพราะคาดไม่ถึงว่าจะถูกวานด้วยเรื่องอะไรแบบนี้ “ก็...ยังไงอัณก็ต้องไปที่ห้องคลับนักแสดงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ถือว่าช่วยฉันหน่อยเถอะนะ” กิ๊บไม่ได้พูดแค่อย่างเดียว แต่ยังกระทบมือขอร้องอ้อนวอนทุกฤทธิ์ “นี่เธอกำลังใช้ฉันงั้นเหรอ” “ปะ...เปล่านะ” กิ๊บทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ “ฉันแค่ขอให้เธอช่วยเฉยๆ เพราะคิดว่ายังไงก็เป็นทางผ่าน แต่ถ้าอัณไม่สะดวกก็...” “ฉันเอาไปให้ก็ได้” อืม...ในที่สุดฉันก็แพ้ความใจอ่อนของตัวเองอยู่ดี เบื่อที่สุด! ฉันเลือกที่จะทิ้งกระเป๋าหนังสือไว้ในห้องเรียนและรับเอกสารจากกิ๊บ ไม่ลืมที่จะถือถุงใส่วิกไปให้คนในคลับจัดการต่อความยาวและความแข็งแรงเพิ่ม แบบว่า...ฉันขี้เกียจทำเองน่ะ “โม...” อืม... เสียงนี้คุ้นๆ อยู่นะ ฉันขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทั้งๆ ที่ขายังคงเดินตรงไปหาบันไดที่มีเสียงพูดคุยกันอยู่ “ตกลงว่า...พวกเธอเป็นแฟนกันจริงๆ สินะ” “ใช่แล้วล่ะครับ” ส่วนนั่น ถ้าจำไม่ผิด มันเสียงของนายทิวทรรศน์ ผู้คุมกฎของนักเรียนชายปีหนึ่งและหนึ่งในสมาชิกคลับนักแสดง ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือโม แฟนของเขา ที่สำคัญ คู่กรณีของคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือคนที่ทำให้ฉันต้องกรอกตามองบนใส่อย่างเบื่อหน่าย นายคิตตี้มาทำอะไรที่ชั้นนี้ไม่ทราบ!! อย่าบอกว่าพวกเขากำลังแย่งผู้หญิงกัน แต่โมน่ะตกลงเป็นแฟนกับทิวไปสักพักแล้ว แสดงว่าหมอนั่นคงอกหักสินะ แต่ฉันจะไปยุ่งอะไรกับเรื่องของชาวบ้านเขาล่ะเนี่ย -_-^ “นี่! พวกนายขวางทางฉันอยู่” ฉันเจตนาเดินเข้าไปหาพวกเขาเพราะการที่สามคนยืดเบียดกันตรงบันไดมันทำให้คนอื่นใช้งานมันไม่ได้ แต่ชายหนุ่มทั้งสองคนยังคงจ้องตากันเหมือนปลากัด ตั้งใจเมินฉันเหมือนกับฉันไม่มีตัวตน จังหวะนั้นฉันจึงถือโอกาสหันไปสบตาโมแวบหนึ่ง ซึ่งหล่อนก็ส่งสายตามามองฉันประมาณว่า ‘ได้โปรดช่วยฉันที’ ถึงแม้ว่าปกติฉันจะเป็นพวกขี้ใจอ่อนก็เถอะ แต่เสียใจด้วย ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นอย่าหวัง! แล้วทำไม...พวกนี้ยังขวางทางฉันอยู่อีกล่ะฟะ! ผลัก! ฉันตัดสินใจเลือกผลัก ‘หมอนั่น’ ออกไปจากทางที่ฉันต้องการจะเดิน ซึ่งการกระทำของฉันกลับทำให้บรรยากาศมาคุที่กำลังดำเนินอยู่พังทลายลงอย่างรวดเร็ว ทุกสายตาหันขวับมามองฉันเป็นตาเดียว แต่ต่อให้คนจะจ้องฉันจนหัวแทบจะถูกเจาะเป็นรู ฉันก็ไม่สนใจหรอก ในเมื่อทางโล่งแล้ว ฉันก็เดินแทรกระหว่างกลางหนุ่มฮ็อตทั้งสองขึ้นบันไดไปแบบชิลๆ “นี่เธอ...” เสียงของโฮมรั้งฉันไว้จากด้านหลัง แต่ฉันก็เลือกที่จะเดินผ่านไปเหมือนมันไม่ใช่ชื่อของตนเอง ฉันเดินออกมาจากห้องของครูสมใจด้วยความรู้สึกหวิวๆ อย่างบอกไม่ถูก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วคนอื่นต่างหากที่มักจะรู้สึกหวิวๆ เวลาเจอหน้าฉัน นี่ฉันคงจะเริ่มบ้าแล้วสินะ ภายในอาคารบัดนี้เงียบสงบเพราะนักเรียนส่วนใหญ่คงทยอยกลับหอกันหมด แต่ภาระหน้าที่ของฉันยังไม่เสร็จสิ้นเมื่อต้องไปที่ชมรมนักแสดงต่อ แอ๊ด... “ไงครับน้องอัณ” น้ำเสียงสดใสที่เกิดจากการเสแสร้งของพี่คิมทักขึ้นทันทีเมื่อฉันมาถึง ซึ่งฉันก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วหันไปกวาดตามองหารุ่นพี่คนอื่นๆ ในชมรมแทน แต่กลับ...ไม่มีใครคนอื่นอยู่เลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม