“ขอบคุณพี่อิงค์ค่ะ แต่พี่อิงค์สวยและใจดีสมกับเป็นไอดอลของเมย์เลยค่ะ” เมริสาเอ่ยออกมาพลางยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่รุ่นพี่สาวเข้ามาทักเธอและเพื่อนก่อน โดยไม่ถือว่าตัวเองนั้นโด่งดังขนาดไหน
“ขอบใจนะน้องเมย์ พี่ขอให้น้องสองคนตั้งใจทำงานนะคะ อย่าทำให้อเดลโมเดลลิ่งของเราต้องขายหน้าล่ะ” นางแบบสาวยิ้มให้รุ่นน้องทั้งสองแล้วจึงเดินไปยังห้องแต่งตัวส่วนตัวของเธอ เพราะมีชื่อเสียงจึงได้รับสิทธิพิเศษ
อลินานึกชื่นชมนางแบบสาวรุ่นพี่ของเธอ เพราะน้อยคนนักที่จะเป็นมิตรกับพวกเธอสองคนที่เป็นนางแบบใหม่ แต่กลับได้เลือกให้มาเดินแบบในงานการกุศลในวันนี้ แม้จะเป็นงานที่ไม่ได้เงินแต่ก็เป็นงานที่เหมือนเปิดตัวพวกเธอให้เป็นที่รู้จักในวงการ
น้ำหวานปรายตาไปมองนางแบบใหม่ทั้งสองด้วยแววตาหมั่นไส้ ตอนที่เธอเพิ่งจะเข้าวงการไม่เคยเลยสักครั้งที่จะได้รับเลือกให้มาเดินแบบในงานประมูลเพชรแบบนี้ ยิ่งกับอิงวราที่เพิ่งจะโด่งดังทีหลังเธอกลับได้รับเลือกให้เดินในชุดฟินาเล่ ซึ่งเป็นชุดเด่นของงานในค่ำคืนนี้ และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
นางแบบและนายแบบเริ่มทำหน้าที่ของตน แสงที่ส่องสว่างไปแค่บนเวทีทำให้ผู้ที่กำลังเดินอยู่ดูโดดเด่น เครื่องเพชรวันนี้มีราว ๆ ยี่สิบรายการ นั่นก็เท่ากับว่ามีนายแบบและนางแบบเข้าร่วมเดินแบบยี่สิบคน เมริสาเดินก่อนอลินาและอลินาก็ได้เดินถัดจากน้ำหวาน ช่วงซ้อมทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่นผิดกับการเดินจริง
ช่วงที่กำลังจะเดินสวนทางกันน้ำหวานก็ได้เดินเฉี่ยวกับอลินาที่กำลังเดินขึ้นมาบนเวทีพอดี ร่างระหงเซเพียงเล็กน้อยแต่ทว่ากลับมายืนได้อย่างมั่นคง พวกนางแบบนายแบบและช่างแต่งหน้าที่แอบมองอยู่ด้านหลังเวทีถึงกับใจหายใจคว่ำ เพราะมองดูด้วยสายตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายกลั่นแกล้งนางแบบสาวน้องใหม่ด้วยการเดินชนไหล่จนเธอเซ ดีที่นางแบบสาวน้องใหม่มีสติและทรงตัวได้ดีจนได้รับคำชมจากรุ่นพี่ด้านหลังเวที
“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะน้ำหวาน อย่าคิดว่าพวกเรามองไม่เห็นสิว่าเธอทำอะไรกับน้องใหม่น่ะ” คนที่เพิ่งทำผิดไม่ใส่ใจกับคำพูดติเตือนของเพื่อนนางแบบ เธอเดินเชิดหน้ากลับไปยังห้องแต่งตัวของเธอ
“ฉันล่ะไม่ชอบทำงานร่วมกับคนแบบนั้นเลย เห็นใครดูเด่นกว่าเป็นไม่ได้”
นางแบบสาวที่มีชื่อเสียงเช่นกันเอ่ยออกมาอย่างเอือมระอาคนที่เพิ่งจะเดินจากไป น้ำหวานเรียกสายตาขุ่นเคืองจากทั้งเพื่อนนายแบบและนางแบบด้วยกัน แม้แต่พวกพี่ๆ ทีมงานก็รู้สึกไม่ชอบนิสัยและการกระทำของนางแบบสาวเช่นกัน
“นิสัยไม่ดีจริงๆ คงอิจฉาที่น้องใหม่ดูเด่นกว่า ดูนั่นสิคะ...ท่วงท่าการเดินของเธอน่ะเหมือนเป็นนางแบบมืออาชีพเลย พี่พุดซ้อน ไปเจอเพชรมาจากไหนคะเนี่ย”
ผู้จัดการนางแบบจากโมเดลลิ่งอื่นเอ่ยออกมาพลางมองไปที่นางแบบสาวที่กำลังเดินแบบอยู่บนเวที
“เจ๊ลูซี่แกไปเจอน้องมาน่ะค่ะ ส่วนพุดซ้อนมีหน้าที่ดูแลเธอต่อ”
พุดซ้อนตอบคำถามของเพื่อนร่วมอาชีพยิ้มๆ ก่อนที่จะมองไปยังร่างระหงที่กำลังก้าวเดินในท่วงท่าที่งดงามตามที่เรียนมาอยู่บนเวที
แสงแฟลชถูกกระหน่ำมาจนอลินารู้สึกแสบตา เธอส่งยิ้มให้กล้องและผู้ที่มาร่วมงานประมูลในวันนี้ มือเรียวไล้สร้อยเพชรบนคอก่อนที่จะโพสต์ท่าให้ช่างภาพได้ถ่ายภาพ เสียงของพิธีกรประกาศดังขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มาเข้าร่วมประมูลในวันนี้ได้เริ่มประมูลสร้อยเพชรที่อยู่บนคอของนางแบบสาว
“สร้อยคอเพชร 16 กะรัตเส้นนี้ทางเราขอเริ่มเปิดประมูลด้วยมูลค่า ห้าแสนบาทค่ะ”
“ห้าแสนห้าหมื่น”
“หกแสน”
“หนึ่งล้าน”
เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังเรียกสายตาของพวกนักประมูลในคืนนี้ให้หันไปมองเป็นตาเดียวกัน พอดูแล้วก็เหมือนจะไม่ใช่นักธุรกิจที่เป็นที่รู้จักกัน หรืออาจจะเป็นเศรษฐีที่มาจากต่างจังหวัด
สร้อยเพชรเส้นนี้ราคาจริงเพียงห้าแสนบาทเท่านั้น นี่เพิ่มขึ้นมาถึงเท่าตัวทำให้นักประมูลคนอื่นไม่กล้าสู้ต่อ เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะประมูลเก็บเอาไว้ และงานนี้ยังเหลือเพชรที่เป็นไฮไลท์ของงานอีก ทุกคนจึงตัดสินใจปล่อยสร้อยเพชรน้ำงามที่อยู่บนคอนางแบบคนสวยไป
เสียงเคาะและเสียงประกาศของพิธีกรทำให้ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำยิ้มออกมา เขาคือบอดี้การ์ดลับๆ ของอลินาที่เอเดนจ้างมาดูแลเธอ และสร้อยเพชรในวันนี้เขาก็ได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้มาประมูลสิ่งที่ภรรยาสาวของเจ้านายสวมใส่ ตอนที่สองบอดี้การ์ดหนุ่มนำเงินไปจ่ายและรับของมา ทีมงานก็แอบสอบถามข้อมูลของผู้ประมูล แต่คำตอบที่ได้รับจากชายหนุ่มรูปร่างสูงในชุดสูทสีดำก็คือ เจ้านายของเขาที่อยู่ต่างประเทศให้มาประมูล
การประมูลเครื่องเพชรในวันนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับอลินานั้นถูกบอดี้การ์ดลับๆ ของเธอรายงานไปถึงมาเฟียหนุ่ม นางแบบที่คิดกลั่นแกล้งภรรยาของมาเฟีย จะได้พบจุดจบอย่างไร สองบอดี้การ์ดหนุ่มก็พอจะเดาได้ เพราะเจ้านายหนุ่มของเขากำลังจะบินมาประเทศไทยภายในอาทิตย์หน้านี้แล้ว