ยามเช้าหนิงอ้ายมาปลุกพระชายาตามปกติแต่วันนี้รอบด้านไร้วี่แววนางกำนัลของรุ่ยอ๋อง พวกนางต่างเดินสวนทางออกไปด้วยท่าทีเขินอาย
“ไม่ต้องไปแล้วเชื่อข้า เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมน้ำ เจ้าไปพักก่อนเถอะ วันนี้กว่าทั้งสองพระองค์จะออกมารับอาหารก็คงเป็นช่วงเย็นย่ำโน่นแหละ” บ่าวคนหนึ่งเอ่ยพร้อมหัวเราะคิกคัก สาวใช้นางนั้นเดินบิดไปมาตัวแทบขาด การกระทำแปลกชอบกลทำให้หนิงอ้ายยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะได้คำตอบยามเมื่อยืนอยู่หน้าประตูหอนอนของรุ่ยอ๋อง
“อื้อออ เสียวเพคะ อ๊า!”
“ข้าก็เหมือนกัน”
เสียงสนทนาของสองคนด้านในระคนกับเสียงเนื้อกระทบกันดังพั่บๆ ทำให้บ่าวสาวยั้งมือไว้ได้ทันก่อนที่ตนจะพลั้งเผลอผลักประตูเข้าไป หนิงอ้ายหน้าแดงจัดราวลูกท้อสุกก่อนวิ่งกลับห้องไปทันที
“อ่า อ่า อ๊า!” อกนุ่มกระเพื่อมไปมาตามแรงสอดใส่ที่ด้านหลัง ร่างกายขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยจูบแดงเป็นจ้ำ มือหยาบที่ยึดสะโพกกลมเปลี่ยนมานวดเฟ้นอกอวบเล่น สองมือของพระชายาจับเสาเตียงไว้แน่นราวกับมันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้ายไม่ให้ร่างกายล้มลง ในขณะที่สิ่งนั้นตะบี้ตะบันเข้ามายังภายในเปียกแฉะไม่หยุดหย่อน ทุกครั้งที่ท่อนลำใหญ่เบียดเข้าออก น้ำหวานซึ่งปนเปกันของทั้งสองก็ไหลทะลักอาบเรียวขายาวดั่งลำเทียนจนเปรอะเปื้อนไปหมด ความเสียวซ่านวิ่งวุ่นทั่วร่างบอบบางจนสมองน้อยๆ พร่าเบลอไปนานแล้ว
“มะ หม่อมฉันจะเสร็จแล้วเพคะ อื้อออ” คนงามร้องบอก
“พร้อมกันนะ อืมมม” ยิ่งนางใกล้ถึงปลายทางสิ่งนั้นก็ยิ่งรัดแน่นจนเขาแทบขาดใจ แก่นกายใหญ่ผลุบเข้าผลุบออกไม่กี่ครั้งก็ระเบิดธารรักสีขุ่นจนล้นปรี่
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันเหนียวตัวไปหมดแล้วเพคะ” ชายาสาวเอ่ยบอก สองขาของนางชาหนึบไปหมด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพราะใคร
“ข้าจะพาไปอาบน้ำ” ร่างสูงค่อยๆ ถอนความเป็นชายออกจากร่องรักด้วยความเสียดาย เขาอุ้มนางไปยังอ่างน้ำด้านในหออรุณรุ่ง ที่นี่มีอ่างน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำอุ่นสบายเตรียมไว้พร้อมสรรพ บ่าวด้านนอกนับว่ารู้งานไม่เบาที่เตรียมไว้ให้โดยที่เขายังไม่ทันสั่ง
เขาวางร่างเล็กที่กึ่งหลับกึ่งตื่นไว้บนตักก่อนบรรจงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดคราบคาวที่กระจายตัวอยู่ทุกบริเวณ
“อื้อออ” กระต่ายน้อยบนอกส่งเสียงหวานออกมาอีกหนเมื่อมือสากลากผ่านจุดอ่อนไหว
“เจ็บมากหรือไม่ วันนี้ข้าไม่รังแกเจ้าแล้ว” ถามตอนนี้มันคงช้าไปหน่อยกระมัง เพราะจุดกลางกายของเหม่ยหลิงถูกเขากระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งคืน
“อืม” นางรับคำก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง อ๋องหนุ่มจำต้องข่มความต้องการที่ยังขจัดไม่หมด จากนั้นจึงอุ้มร่างคนตัวเล็กไปบนเตียงกว้าง ร่างบางบนอกหนั่นแน่นหลับใหลจากความเหน็ดเหนื่อยทั้งวันคืน มือสากดึงนางเข้ามากอดไว้ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันก่อนจะหลับตามไปด้วยอีกคน พวกเขาจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่า ‘ร่วมรัก’ กันไปกี่ครั้ง แต่มันก็มากพอที่จะทำให้อี้เหม่ยหลิงหลับเป็นตายไปได้หนึ่งวันเต็ม
ค่ายทหารชายแดน
ชายหนุ่มนั่งอยู่ภายในกระโจมมองการรบที่รุดหน้าไปมาก เขาต้องรีบเดินทางออกมาทันทีไม่ทันได้รอพระชายาตื่นขึ้นมาเสียก่อน แบบนี้อีกไม่นานหากศัตรูไม่ยอมรามือไปเขาจะล้างบางพวกนั้นจริงๆ แล้ว เพียงแต่ดินแดนกันดารที่เพาะปลูกอะไรไม่ได้ อย่าว่าแต่เลี้ยงสัตว์เลยหญ้าสักต้นยังยากจะโผล่พ้นหินหนามาได้ แผ่นดินแบบนี้ไม่มีความจำเป็นกับแคว้นหมิงเลยสักนิดทำให้ไม่มีเหตุผลต้องพิชิต
“ท่านอ๋อง กระหม่อมนำรายงานเรื่องอาวุธที่เก็บได้มาแจ้งพ่ะย่ะค่ะ” เฉาจางจิงเข้ามาพร้อมกระบี่สีเงินในมือ สิ่งนี้เก็บได้จากผู้บุกรุกที่ตำหนักเฟิงซานครั้งก่อน
ไห่เทาสงสัยมาตั้งแต่ต้นหากคนพวกนั้นมาเพื่อจัดการอี้เหม่ยหลิงกับพระสนมแล้วเหตุใดไม่ฆ่าตั้งแต่แรกจะจับตัวไว้ทำไม ศัตรูฉลาดพอที่จะใช้การต่อรองด้วยตัวประกันกับตน เรื่องนี้อาจมีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง
“ทั้งโลหะและวิธีการตีเป็นทักษะของแคว้นหมิง คาดว่ามาจากโรงเหล็กในเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
“หาตัวให้เจอว่าใครเป็นคนมอบอาวุธเหล่านี้ให้ศัตรู” อ๋องหนุ่มออกคำสั่ง
“พ่ะย่ะค่ะ”
หอนอนตำหนักอรุณรุ่ง
พระชายาได้สติในหนึ่งวันให้หลัง นางได้รับคำสั่งจากรุ่ยอ๋องให้เสวยอาหารทันทีที่ตื่นมา หาไม่แล้วจะตัดหัวพ่อครัวทั้งหมด อี้เหม่ยหลิงจึงจัดการข้าวต้มชามใหญ่จนหมดเกลี้ยง... อยากถามท่านอ๋องเหลือเกินว่าผักโรยนี่นับด้วยไหม ดีหน่อยที่เจ้าตัวไม่อยู่ให้ถาม
ร่างกายทุกส่วนของนางชาไปหมดจนลุกออกจากเตียงลำบากเหลือเกิน กว่าจะดีขึ้นก็ต้องพักไปอีกครึ่งวัน เมื่อก่อนโดนลงโทษให้วิ่งรอบจวนยังไม่เพลียเท่าเมื่อคืนเลย
เช้านี้บ่าวรับใช้ที่คอยตระเตรียมเสื้อผ้าให้รุ่ยอ๋องจับกลุ่มคุยกันว่านายเหนือหัวออกมาจากห้องอาบน้ำด้วยสภาพใด ว่ากันว่ามีทั้งรอยแมวข่วนและรอยจูบแดงเป็นจ้ำทั่วบริเวณ ผิวขาวของบุรุษสูงศักดิ์ทำให้รอยรักเหล่านั้นเด่นชัดสะดุดตาจนพวกสาวๆ อายม้วนไม่เป็นท่า
ไม่อยากจะคิดเลยว่าพวกเขามีช่วงเวลาหอมหวานกันรุนแรงเพียงใดเพราะสภาพห้องก็เละเทะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อให้เจ้านายทั้งสองไม่อธิบายก็คงไม่ใช่การตื่นมารื้อห้องเล่นกันแน่ๆ
ทางด้านบ่าวทั้งหลายก็เข้ามาเปลี่ยนผ้าปูที่เปื้อนเลือดสีสดหย่อมหนึ่งไปเก็บใส่หีบเพราะถือว่าการเข้าหอสำเร็จลุล่วงอย่างรู้งาน ถ้าไม่ติดว่าพวกนางทำงานที่ตำหนักเฟิงซานมานาน เหม่ยหลิงคงคิดว่าทั้งหมดเป็นคนของพระสนมเหอเสียอีก
“พระสนมเหอเล่า พระนางกลับไปแล้วจริงๆ งั้นรึ” ร่างบางเอ่ยถามบ่าวรับใช้
“พระนางเสด็จกลับไปแล้วจริงๆ เพคะพระชายา และยังแจ้งว่าหากทรงตื่นบรรทมให้มอบสาส์นฉบับนี้ให้ด้วยเพคะ” กระดาษสีขาวสะอาดฉบับหนึ่งพับแนบดอกไม้แห้งพร้อมทั้งผูกเชือกสีสวยอย่างประณีตถูกส่งให้อี้เหม่ยหลิง นางรีบรับมาและเปิดออกอ่าน บนกระดาษมีตัวหนังสือเรียงตัวเป็นระเบียบอยู่เพียงสามสี่แถว
‘หลิงเอ๋อร์ที่น่ารักของข้า หากเจ้าได้เปิดอ่านจดหมายน้อยฉบับนี้ข้าคงจากมาแล้ว เชื่อว่าของขวัญที่มอบให้ไว้คงได้รับเป็นที่เรียบร้อย หากลูกชายข้ายังนิ่งเป็นหินอยู่อีก เจ้าจงนำกระบี่พกที่อี้ฮูหยินมอบให้จัดการเขาเถิด... เร็วๆ นี้คงได้พบกัน’
“พะ พระชายาเพคะ” หนิงอ้ายเรียกเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเจ้านาย
“ข้าไม่เป็นไร” คนบนเตียงโบกมือหยอยๆ ก่อนเลื่อนมานวดขมับที่ปวดตึง เหอเจียอีเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก นางคงถูกจับตาดูตั้งแต่ออกมาจากจวนแม่ทัพแล้ว มีอะไรที่พระนางไม่รู้บ้าง เรื่องนี้เหม่ยหลิงผิดเองที่ประมาทไม่คิดว่าพระสนมเหอจะใช้ไม้นี้
“ทรงพักอีกสักหน่อยเถิด ยิ่งเป็นแบบนี้หม่อมฉันก็ยิ่งเป็นห่วงนะเพคะ” หนิงอ้ายยังคงโทษตนเองที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องเมื่อคืนก่อน ไม่น่าเห็นอะไรก็หยิบเข้ามาเลยจริงๆ
“เรื่องนี้ข้าไม่โทษเจ้าหรอก” นางกับรุ่ยอ๋องเป็นสามีภรรยากันเรื่องบนเตียงวันใดวันหนึ่งก็ต้องเกิด ช่วงก่อนหน้ารอดมือเขามาได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว
มือเล็กรีบยกขึ้นมากุมใบหน้าสวยหวานที่กำลังร้อนฉ่า นางจำได้ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างชนิดที่สามารถเล่าเรียงเป็นฉากๆ ได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง
‘ไห่เทา ทำข้าแรงกว่านี้อีกสิ อ๊า!’
‘เสียวจังเลย อื้มมม’
‘หลิงเอ๋อร์จะเสร็จแล้วเพคะ...’ คำพูดน่าอายพวกนั้นออกมาจากปากนางได้ยังไงให้ตายเถอะ!!! ดีที่รุ่ยอ๋องกลับไปชายแดนตั้งแต่เมื่อวาน ขอให้เขาไม่กลับมาอีกนานๆ เลย นางทำใจมองหน้าเขาไม่ได้จริงๆ