“หยุดทำไมล่ะ จูบให้ฉันตายไปเลยสิ”
“อย่ามาท้าฉันนะ พิมรัก”
พิมรักสะบัดหน้าหนี เกลียดตัวเองที่เกลียดมาริออสไม่ลงอย่างที่ปากตะโกนออกไป ใครจะรู้บ้างเล่าว่าหล่อนรู้สึกอย่างไรกับจุมพิตเมื่อครู่นี้ เจ็บปวด ใช่ หล่อนเจ็บปวด เจ็บระบมไปทั้งเรียวปาก แต่...แต่ในความเจ็บระบมนั้นกลับมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นมา ความรู้สึกที่หล่อนเองก็ยังตกใจเลยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
“ฉันจะกลับร้าน”
“ก็บอกแล้วไงว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายอีกแล้ว”
มาริออสแค่นยิ้ม ยืดตัวอยู่หลังพวงมาลัยรถ “แต่ฉันมี และเธอก็ต้องฟังจนจบด้วย”
“งั้นก็รีบๆ พูดมาสิ ฉันจะได้ออกไปจากสถานการณ์น่าอาเจียนแบบนี้เสียที”
“ทีกับไอ้หน้าจืดนั่น นั่งคุยกับมันอยู่ได้ตั้งหลายชั่วโมง”
“ก็คุณอนุชิตเป็นคนสุภาพ น่ารัก ไม่เหมือนคนบางคนแถวนี้นี่”
“ชอบมันนักก็นอนกับมันไปเลยสิ หรือว่าต้องให้ฉันนัดสถานที่ให้”
พิมรักเชิดหน้าอย่างอวดดี ทั้งๆ ที่ภายในอกน้อยใจเหลือเกิน “ถ้าฉันกับคุณอนุชิตจะนอนด้วยกัน เราสามารถจัดการสถานที่กันเองได้ นายไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งหรอก”
“ดี...จะจำเอาไว้!”
คนตัวโตกระแทกคำพูดออกมา พร้อมกับตะบึงรถออกจากริมถนนด้วยความเร็วสูง ขับซอกแซก ปาดหน้ารถคันอื่นไปมา จนพิมรักต้องรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดด้วยความหวาดกลัว
“ถ้าอยากตายนัก ก็จอดให้ฉันลงก่อน”
“หุบปาก”
“แต่นายไม่มีสิทธิ์พาฉันมานั่งรถหวาดเสียวแบบนี้นะ”
คนตัวโตหันมามองตาขุ่นขวาง
นี่มาริออสโกรธเคืองอะไรหล่อนนักหนานะ พิมรักไม่เข้าใจกิริยากระฟัดกระเฟียดของชายหนุ่มข้างตัวสักนิด
“อย่าลืมสิ ฉันเคยเป็นนักแข่งรถ”
“แต่ที่นี่ไม่ใช่สนามแข่งนะ”
“ถ้าฉันอยากจะแข่ง ตรงไหนๆ ก็คือสนาม”
“ไอ้คนบ้าอำนาจ”
เสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมดังกระหึ่มออกมาจากลำคอสีแทน “ถึงร้านดอกไม้โกโรโกโสของเธอเมื่อไหร่ เธอจะรู้ว่าฉันยังบ้าได้มากกว่านี้”
“ว้ายยย!...”
พิมรักกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เมื่อรถสปอร์ตหรูที่มีซาตานร้ายเป็นคนควบคุมวิ่งมุดเข้าเลนส์กลางของถนน ปาดหน้ารถพ่วงสิบแปดล้อไปได้อย่างหวุดหวิด
นี่หล่อนคงไม่ตายวันนี้ใช่ไหม...
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ร่างเล็กของพิมรักแทบจะถูกโยนเข้าไปในร้านดอกไม้ในทันทีเมื่อประตูร้านเปิดออก
“ไอ้คนป่าเถื่อน”
คนตัวโตก้าวตามเข้ามาติดๆ พร้อมกับปิดประตูกระจกและล็อกมันอย่างแน่นหนา
“นายล็อกประตูทำไม” หล่อนถามเสียงสั่น หัวใจสะท้านอย่างรุนแรง
“กลัวว่าฉันจะฆ่าเธอหรือไง”
พ่อเจ้าประคุณย่างสามขุมเข้ามาหา ใบหน้าหล่อจัดเรียบเฉย แต่ที่แก้มข้างซ้ายยังมีรอยนิ้วมือของหล่อนชัดเจนอยู่ ความรู้สึกผิดห้อมล้อมรอบตัว แต่ก็จำต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้
“ฉันกลัวว่าฉันจะเผลอฆ่านายต่างหากล่ะ”
มาริออสหัวเราะ แต่เสียงหัวเราะนั่นทำไมน่าหวาดหวั่นนักนะ พิมรักก้าวถอยหลังหนีไปเรื่อยๆ จนบั้นท้ายอวบชนเข้ากับโต๊ะทำงานของตัวเอง และนั่นก็ทำให้รู้ว่าหมดทางหนีเสียแล้ว
“ถ้ากล้าก็ทำสิ พิมรัก” เขาเข้ามาหยุดตรงหน้า ตอนนี้ระยะห่างของสองร่างแทบไม่มีช่องว่างเหลืออยู่เลย
“ออกไปให้พ้นนะ” มือเล็กยกขึ้นผลักไส แต่ร่างกำยำใหญ่โตหนาหนักราวกับหิน เพราะไม่ว่าจะออกแรงผลักสักเท่าไร เขาก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย แถมยังทำหน้าเหี้ยมใส่อีกต่างหาก
“อย่าไล่ เพราะฉันจะยังไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะพูดธุระเสร็จ”
“งั้น...ก็รีบๆ พูดมาเสียสิ ฉันสะอิดสะเอียนเวลาที่อยู่ใกล้ๆ นายจะแย่อยู่แล้ว”
หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ พยายามทำเป็นไม่รับรู้ถึงแรงดึงดูดที่มีต่อกันอย่างสุดความสามารถ แต่กระนั้นร่างสาวก็ยังคงร้อนฉ่า ยอดอกชูชันอยู่ใต้บราเซียร์สีหวานอย่างน่าอับอาย
นี่หล่อน...หล่อนกำลังเป็นบ้าอะไรไป ทำไมร่างกายถึงได้รู้สึกร้อนแบบนี้ แค่อยู่ใกล้กับมาริออสเท่านั้นเอง
“เธอได้ติดต่อกับพ่อตัวเองบ้างหรือเปล่าล่ะ”
คนฟังเชิดหน้า กัดริมฝีปากแน่นจนเจ็บร้าว “มันเรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง”
“ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรกับเธอหรอกนะ แต่มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับฉันน่ะสิ”
คิ้วโก่งสวยเลิกสูง และจ้องหน้าคู่สนทนาเขม็ง “นายพูดอะไรของนาย ฉันไม่เข้าใจ”
มาริออสหัวเราะชอบใจ โน้มใบหน้าหล่อจัดเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนพิมรักต้องรีบเอียงหน้าหนีด้วยความประหม่า
“อย่า...อย่าเข้ามาใกล้ฉันแบบนี้นะ เอาหน้าออกไป”
“ทำไมล่ะ หรือกลัวจะอดใจไม่ไหว แล้วปล้ำฉัน”
“ไอ้คนบ้า ฉันไม่ได้พิศวาสนายเลย จำเอาไว้ด้วย”
ศีรษะทุยสวยของมาริออสผงกเล็กน้อย ก่อนจะยืดตัวตรง และขยับออกห่างไปสองก้าว
พิมรักลอบถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะถ้ามาริออสไม่ถอยห่างออกไป หล่อนอาจจะเป็นฝ่ายกระชากเขาเข้ามาจูบเสียเองก็เป็นได้
บ้าจริง ทำไมในหัวถึงได้คิดแต่เรื่องพรรค์นี้นะ
“ก็ดี แล้วอย่ามาตกหลุมรักฉันก็แล้วกัน”
“ฝันไปเถอะ ถ้าผู้ชายทั้งโลกเหลือแค่นายคนเดียว ฉันยอมใช้มะเขือยาว หรือแตงกวาช่วยตัวเองดีกว่า”
“พิมรัก!”
หญิงสาวกัดฟันแน่น และบังคับตัวเองให้เชิดหน้าเอาไว้ “รู้แล้วใช่ไหม ว่าฉันน่ะ ไม่ได้สนใจนายเลย”
มาริออสหงุดหงิดจนเนื้อตัวแทบระเบิด เขาขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน ก่อนจะเปล่งเสียงห้วนจัดออกมา
“เกลียดฉันให้มาก เกลียดฉันให้มากที่สุดยิ่งดีพิมรัก”
“แน่นอนฉันเกลียดนายมากอยู่แล้ว”
ดวงตาคมกล้าจ้องหน้าหล่อนเขม็ง ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะคลี่ยิ้มเลือดเย็น