พิมรักทำหน้าไม่ถูก รู้สึกอึดอัดจนแทบจะบ้า “แพทขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ผมไปเป็นเพื่อนครับ”
“แพทไปห้องน้ำค่ะ ต้องการความเป็นส่วนตัว” หญิงสาวหันไปย้ำด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองเล็กๆ
“ครับ งั้นผมรอที่นี่นะครับ”
พิมรักไม่ตอบ แต่คว้ากระเป๋าสะพายและเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลยแม้แต่นิดเดียว
“เป็นยังไงบ้าง ถูกใจไหมน้องแพท”
มัลลิกาที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะด้านนอกของร้านกาแฟรีบตรงปรี่เข้ามาหาเมื่อเห็นพิมรักก้าวออกมา
“ไม่ชอบค่ะพี่หนิง”
“อ้าว ทำไมล่ะ” มัลลิกาทำหน้าเหลือเชื่อ “นี่พิมพ์นิยมของสาวไทยเลยนะ หล่อ ตี๋ หุ่นดี”
“สงสัยแพทจะอยู่เมืองนอกมานานมั้งคะ เลยไม่ชอบผู้ชายผิวขาว”
“แล้วน้องแพทชอบแบบไหนล่ะ ครั้งหน้าพี่จะได้หาให้ถูกใจ”
พิมรักจะปฏิเสธ แต่มัลลิกาชิงพูดดักคอเสียก่อน “บอกมาเถอะค่ะ พี่อยากรู้สเปกชายในฝันของน้องแพท”
พิมรักนิ่งเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราวกับคนตกอยู่ในห้วงฝัน
“ผิวสีแทนค่ะ หน้าตาดุๆ ดิบๆ ไว้หนวดเล็กน้อย ตาหวานๆ นะคะ แล้วก็ปากสวยๆ หุ่นก็ต้องสูง ล่ำสัน มีกล้ามเนื้อทั้งตัว...” และพิมรักก็คงยังไม่หยุดพร่ำเพ้อ หากมัลลิกาไม่ขัดขึ้นเสียก่อน
“หล่อขนาดนั้นพี่จะไปหาได้จากที่ไหนกันล่ะ นั่นมันหนุ่มกรีกชัดๆ นะน้องแพท”
คำว่า ‘หนุ่มกรีก’ ทำให้พิมรักได้สติ
“เอ่อ แพทก็พูดไปแบบนั้นแหละค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เรากลับกันเถอะนะคะ”
“ได้ยังไงล่ะน้องแพท แล้วหนุ่มหล่อตี๋คนนั้นล่ะ”
พิมรักหันกลับไปมองในร้าน ก่อนจะถอนใจออกมาแผ่วเบา
“แพทไม่อยากเจอหน้าเขาแล้วค่ะ แพทไม่ชอบเขา”
“แต่น้องแพทก็ไม่ควรเสียมารยาทเดินหนีออกมาแบบนี้นะคะ”
“แพทบอกเขาว่ามาห้องน้ำ”
“นั่นไง ถ้าบอกว่ามาห้องน้ำ น้องแพทก็ต้องกลับไป”
“แต่แพท...” พิมรักอึดอัดใจ
มัลลิกายกมือขึ้นแตะบ่าญาติสาวอย่างให้กำลังใจ “เข้าไปคุยต่อสักพัก เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับ แค่นี้เอง”
พิมรักถอนใจยาวเหยียด “แต่แพทไม่ชอบให้เขามองแพทแบบจะกลืนกินอย่างนั้นนี่คะพี่หนิง พอถูกมองแบบนั้นแล้ว แพทรู้สึกไม่ดีเลย”
ไม่เหมือนกับเวลาที่หล่อนถูกมาริออสมอง ความรู้สึกมันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ก็เขาชอบน้องแพทนี่ เอาน่า เข้าไปเถอะ รอจนเขาดื่มกาแฟหมดแล้วค่อยขอตัวกลับ”
“ก็ได้ค่ะ แพทจะกลับเข้าไป”
“ดีมากคนเก่ง งั้นพี่รออยู่ตรงนี้นะ”
“พี่หนิงกลับไปก่อนเถอะค่ะ พี่มีนัดคุยกับลูกค้าตอนบ่ายโมงไม่ใช่หรือคะ”
“นั่นสิ ตายจริงพี่ลืมไปเลยนะเนี่ย ดีนะที่น้องแพทเตือนพี่” มัลลิกาอุทานอย่างตกใจ ก่อนที่สีหน้าลำบากใจจะตามมา
“แล้วถ้าพี่ไป น้องแพทจะกลับยังไงล่ะ รถก็ไม่ได้เอามาด้วย”
พิมรักระบายยิ้ม พลางบอกเสียงนุ่ม “แพทกลับแท็กซี่ได้ค่ะ ขึ้นออกบ่อย ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“แต่ว่า...”
“แพทกลับเองได้จริงๆ ค่ะพี่หนิง เอาเป็นว่าแพทจะไลน์ไปบอกทันทีที่ถึงร้านนะคะ”
ได้ยินแบบนี้มัลลิกาก็สบายใจขึ้นมาบ้าง “ก็ได้จ้ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ แล้วอย่าลืมไลน์บอกพี่ล่ะ”
“ค่ะพี่หนิง ขับรถดีๆ นะคะ”
“ขอบใจจ้ะ”
มัลลิกาพยักหน้ารับก่อนจะรีบเดินออกไปจากร้านกาแฟ พิมรักมองตามไปจนลับตา ก่อนจะถอนใจออกมาเมื่อหันกลับมามองเข้าไปในตัวร้านที่อนุชิตนั่งรออยู่
“ฉันหวังว่ากาแฟในแก้วของคุณจะหมดโดยเร็วนะคะ คุณอนุชิต”
แม้จะลำบากใจและอึดอัดใจแค่ไหน แต่พิมรักก็จำต้องเดินคอตกกลับเข้าไปภายในร้านอย่างไม่มีทางเลือก
พิมรักจ้ำอ้าวออกมาจากร้านกาแฟด้วยความรีบร้อน และเมื่อออกมาได้ก็ต้องเป่าปากถอนใจออกมาอย่างโล่งอก
ให้ตายเถอะ หล่อนไม่เคยพบเจอผู้ชายคนไหนตื๊อบรรลัยได้เท่ากับอนุชิตมาก่อนเลย กาแฟสามถ้วยนั่งดื่มเสียเกือบสามชั่วโมง หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสีย พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลา
“บ่ายสามโมงกว่าแล้วเหรอนี่”
สีหน้าของพิมรักเต็มไปด้วยความวิตกกังวล รีบก้าวออกไปที่ริมถนนเพื่อรอรถแท็กซี่ขับผ่านมา ไม่น่าเชื่อว่าคนอารมณ์ร้อนเช่นหล่อนจะทนนั่งฟังอนุชิตพูดน้ำไหลไฟดับได้นานขนาดนี้ คงเป็นเพราะไม่อยากทำให้มัลลิกาเดือดร้อนนั่นแหละ หล่อนถึงยอมทน
“ไม่เอาอีกแล้วนัดบอด บ้าชะมัด”
หญิงสาวโบกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านมาพอดีให้จอด กำลังจะก้มลงบอกจุดหมายกับคนขับแท็กซี่ แต่แขนเล็กกลับถูกกระชากเอาไว้เต็มแรงเสียก่อน จนร่างของหล่อนเสียหลักเซถลาไปด้านหลัง ชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่แข็งราวกับแผ่นหิน
“ว้ายยย!...”
หล่อนรีบตั้งสติและเอียงหน้าไปมอง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นฝีมือของใคร
“นี่นาย...”
ประกายตาบางอย่างในดวงตาสีน้ำเงินเข้มทำให้หล่อนต้องหุบปาก กลืนคำพูดที่เตรียมจะด่าทอ พร้อมกับความหวาดกลัวที่แล่นพล่านอยู่ข้างในอก
“ไม่ยักรู้นะว่าเธอชอบดื่มกาแฟ”
น้ำเสียงของมาริออสขุ่นเขียวและเต็มไปด้วยโทสะ แรงกดหนักหน่วงจากนิ้วเรียวบนแขนของหล่อนทำให้เจ็บร้าวระบม
“นี่ปล่อยฉันนะ”
“อย่ามาทำเป็นปากดี เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”
พิมรักเชิดหน้าใส่ พลางดิ้นรนสุดแรง แต่ก็ไม่หลุด
“ใครจะพูดกับนาย ไสหัวไปให้พ้น”