Saniara Cafe
“เอาดาร์กช็อกโกแลตสองชิ้นแล้วก็ซีสเค้กสองชิ้นค่ะ”
“อย่างละสองนะคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ทั้งหมด 610 บาทค่ะ”
“นี่ค่ะ” แบงก์พันถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงาน พนักงานรับไปก่อนจะส่งเงินทอนกลับมา
“รอสักครู่นะคะ”
“ค่ะ” ในระหว่างที่กำลังรอพนักงานนำขนมใส่ถุงให้ หญิงสาวจึงเดินดูภายในร้านไปพลาง ๆ
ครืน ครืน
“ว่าไงคะแม่”
(อยู่ไหนลูก)
“กำลังซื้อเค้กพอดีแม่เอาอะไรไหม”
(ไม่เอาลูก)
“สักพักก็ถึงแล้วค่ะ ไม่เอาอะไรแน่นะ”
(กลับมาเลย แม่ทำอาหารไว้หมดแล้ว)
“ค่ะ”
กริ๊ง กริ๊ง
‘สวัสดีค่ะ’
เสียงพนักงานทักทายคนเปิดประตูเข้ามาในร้านแต่หญิงสาวไม่ได้สนใจ เธอเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมก่อนที่เสียงพนักงานเรียกเธอจะดังขึ้น
“ขนมกับเครื่องดื่มได้แล้วค่ะ” เท้าเล็กก้าวไปหยุดที่เคาน์เตอร์เพื่อรับขนมและเครื่องดื่มของตัวเอง
“ขอบคุณค่ะ” จากนั้นก็เดินออกจากร้านไป
ตึก ตึก
“กุญแจรถอยู่ไหนอีกเนี่ย” เสียงหวานบ่นกับตัวเอง เธอจำได้ว่าเอากุญแจรถใส่ไว้ในกระเป๋า แต่ทำไมถึงหาไม่เจอล่ะ หรือว่าลืมไว้ในร้านเหรอ เป็นไปไม่ได้ เพราะตอนจ่ายเงินเธอก็หยิบเอาแค่เงินออกมาเท่านั้น พอค้นดูดี ๆ ถึงเจอ
“น่าทึ่งหัวแรง ๆ สักที”
หญิงสาวพาตัวเองขึ้นมาอยู่บนรถเพื่อกลับบ้าน วันนี้เธอไปทำธุระให้พ่อตัวเองมาทั้งวัน และกำลังจะกลับบ้าน ในขณะที่เธอกำลังถอยรถออกจากจุดจอดอยู่นั้น..
โครม!
“กรี๊ด ไอ้บ้าเอ๊ย!” ขับรถประสาอะไรวะ ไม่เห็นหรือไงว่ามีรถกำลังถอยออก หญิงสาวลงจากรถไปด้วยความหัวเสียขั้นสุด รถเธอเพิ่งซื้อมายังไม่ถึงเดือน ไม่มีตาหรือไงถึงขับมาชน!
“นี่เธอถอยรถยังไงวะไม่มีตามมองหรือไง” ทันทีที่หญิงสาวก้าวลงจากรถ น้ำเสียงหงุดหงิดของเจ้าของรถอีกคันก็ต่อว่าเธอทันที
“เดี๋ยวนะ นายหรือเปล่าที่ไม่มีตามอง” เธอถอยออกมาจนครึ่งคันแล้ว เขานั่นแหละที่มาจากไหนไม่รู้ขับมาชนรถเธอ ถ้าจะหาคนผิดก็ต้องเป็นเขาไม่ใช่เธอ
“ฉันขับทางตรง” อีกฝ่ายยังคงเถียงข้าง ๆ คู ๆ ไม่ยอมเช่นกัน ถึงแม้ลึก ๆ จะรู้ว่าตัวเองผิดก็ตาม
“แต่นี่มันคือลานจอดรถร้านและฉันถอยออกไปได้ครึ่งคันแล้วส่วนนายขับรถมาไม่ดูเอง” เธอเองก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน ถ้าจะมากล่าวหาว่าเธอผิดก็ไปคุยกันที่โรงพัก ขอคลิปกล้องวงจรจากทางร้านไปคุยกันเลย ในสถานที่แบบนี้มันควรขับเร็วหรือไง ดูเขาเองก็ไม่น่าใช่คนโง่นะ
“นี่ยัยบ้าเอ้ย!” ชายหนุ่มในสภาพเสื้อผ้าหลุดรุ่ยยืนเถียงกับหญิงสาวเจ้าของรถคันที่เขาชน ทั้งสองต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
“นายนั่นแหละไอ้บ้า” ถึงเธอจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบตัวเองหรอกนะ คิดว่าเป็นผู้ชายแล้วจะกลัวงั้นเหรอ คิดผิดแล้วย่ะ
ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเช็ครถตัวเองอยู่ หญิงสาวจึงคว้าเอามือถือมาถ่ายรูปรถแล้วส่งไปให้พ่อดู ส่งไปไม่ถึงนาทีผู้เป็นพ่อก็โทรกลับมาทันที
(เกิดอะไรขึ้น)
“มีคนขับรถมาชนค่ะ”
(พ่อส่งลูกน้องไปแล้ว)
“ขอบคุณค่ะ”
(ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหมฟิลลิ)
“ไม่ค่ะ”
(ให้คนของพ่อพาไปโรงพยาบาลเช็คดูเผื่อเป็นอะไร)
“ฟิลไม่เป็นไรค่ะมีแค่รถที่เป็น”
(คนของพ่ออยู่แถวนั้นพอดีไม่ถึงสิบนาทีรอก่อน) จากนั้นเธอก็วางสายจากผู้เป็นพ่อไป
ฟิลลิ หญิงสาววัย 28 ปี ส่วนสูง 172 เซนติเมตร ลูกสาวเพียงคนเดียวของนายพลตำรวจใหญ่ พ่อของเธอเป็นตำรวจที่ใครต่อใครต่างก็เกรงกลัว แค่เอ่ยชื่อมาไม่มีใครไม่รู้จัก ส่วนเรื่องสถานะตอนนี้เธอโสดสนิท ไม่มีแฟน แต่ก็ยังมีคนที่คุย ๆ กันอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีสถานะให้กันเท่านั้น อาจเป็นเพราะเธอยังไม่พร้อมมีแฟนในตอนนี้ เธอกำลังสนุกกับการใช้ชีวิตคนเดียวมากกว่าคู่ เธอจึงไม่ไขว่คว้าที่จะหาแฟน
วันนี้เธอตั้งใจจะมาซื้อเค้กไปฝากแม่ตัวเอง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่อง ตอนนี้ก็คงต้องรอให้คนของพ่อมาหาเท่านั้น ระหว่างที่รอเธอก็คอยเช็คดูรถของตัวเองว่ามีตรงไหนที่เป็นรอยบ้าง กระทั่งเสียงใครบางคนแทรกเข้ามา
“มีอะไรกัน”